JJNY : 5in1 ไข่ไก่พุ่งพรวด│โคราชสุดทน เจอน้ำท่วม│แก้เกมสินค้าจีนถล่มไทย│“ไอติม”ชง 2 ทางเลือก│“อ.วาสนา”วิเคราะห์วิกฤตจีน

ไข่ไก่ปรับราคาพุ่งพรวด พ่อค้าโอดยอดขายลดลง ผู้บริโภคบ่นแพง แนวโน้มปรับขึ้นอีก
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7851059
 
 
ยะลา พยุงราคาเกือบเดือน สุดอั้นไข่ไก่ปรับพุ่งพรวด ส่งผลกระทบหนัก พ่อค้าโอดครวญ ยอดขายลดลง ผู้บริโภคบ่นแพง เลือกซื้อบางตา  ตลาดเงียบเหงาเห็นได้ชัด แนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นได้อีก
 
5 ก.ย. 66 – ผู้สื่อข่าวเดินสำรวจบรรดาแผงค้าไข่ไก่ พื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา พบว่า วันนี้มีลูกค้ามาเลือกซื้อไข่ไก่อย่างบางตา และบรรยากาศเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด
 
ภายหลังตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ราคาไข่ไก่ ตามท้องตลาดเริ่มมีการปรับราคาสูงขึ้น ขณะที่ร้านค้าที่จำหน่ายไข่ไก่และไข่เป็ดในพื้นที่อำเภอเบตง ต้องปรับเปลี่ยนราคาแจ้งต่อลูกค้า หลังราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาไข่ไก่แพงขึ้นตาม
 
นายธนพล สัชฌุวดี พ่อค้าจำหน่ายไข่ไก่และไข่เป็ดมานาน บอกว่า ราคาไข่ไก่ที่ปรับขึ้นมาเดือนเศษแล้ว ทางร้านได้พยุงราคาไว้ เพราะว่าไข่ไก่ที่เข้ามาในพื้นที่อำเภอเบตง มีต้นทุนค่าขนส่งมันสูงขึ้น ทำให้เห็นใจผู้บริโภค พยายามพยุงราคาไว้ แต่มาช่วงนี้ จำเป็นต้องปรับขึ้นตามกลไกตลาด
 
พยายามที่จะพยุงราคาไว้ให้มากที่สุด แต่ในขณะนี้ราคาไข่ไก่ปรับขึ้นราคาค่อนข้างสูงอย่างต่อเนื่อง และอีกปัจจัยคือไข่ไก่ที่เข้ามาในอำเภอเบตง มีน้อยมาก ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคจากที่ไข่ไก่เข้ามา 4 วัน 1,000 แผง เหลือ 4 วัน 600 แผง โดยราคาไข่ไก่เบอร์ O แผงละ 156 บาท เบอร์ 1 ราคาแผงละ 143 บาท เบอร์ 2 แผงละ 139 บาท เบอร์ 3 แผงละ 135 บาท เบอร์ 4 แผงละ 128 บาท และเบอร์ 5 แผงละ 125 บาท
 
นายธนพล บอกอีกว่า สาเหตุมาจากทางต้นทางหรือหน้าฟาร์ม โดยทางผู้ประกอบการ อ้างว่าอากาศร้อน อาหารไก่แพง ซึ่งทำให้ต้นทุนการเลี้ยงไก่สูง จึงมีความจำเป็นต้องขอปรับขึ้นราคา โดยเฉลี่ยขณะนี้ไข่ไก่ขายปลีกในท้องตลาดมีราคาสูงถึงฟองละ 3-5 บาท ยังมีแนวโน้มปรับขึ้นราคาอีก
 
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ไข่ไก่ขาดตลาด เนื่องจากผู้บริโภคไข่ไก่เพิ่มมากขึ้นและอีกอย่างแหล่งผลิตในพื้นที่ภาคใต้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งเมื่อแหล่งผลิตไข่ไก่ ต้องแบ่งให้ร้านที่จำหน่ายไข่ไก่ในพื้นที่ภาคใต้เพื่อแบ่งกันไปให้ทั่วถึง เลยทำให้ทุกวันนี้ที่ขายอยู่ก็เพื่อเลี้ยงลูกค้าไว้
ในขณะที่ผู้ค้าอย่างตนเองก็ต้องเดือดร้อน เพราะใช้ทุนในการซื้อไข่มาขายเป็นจำนวนเงินที่เพิ่มมากขึ้น และได้กำไรน้อยลง เนื่องจากผู้บริโภคซื้อไข่ในปริมาณที่ลดลง เพราะไข่มีราคาแพง
 
ขณะที่ลูกค้าทั่วไปที่มาซื้อไข่ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าไข่แพงและซื้อไข่กลับไปเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนไข่เป็ด ก็ปรับราคาขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยไข่เป็ดเบอร์ 2 ปรับราคาแผงละ 5 บาท จากปกติแผงไข่เป็ด 195 บาท ปรับขึ้นเป็นแผงละ 200 บาท



ชาวโคราชสุดทน เจอน้ำท่วมซ้ำซาก น.ศ.เก็บของไม่ทันเสียหายยับ วอนเทศบาลเร่งแก้ไข 
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4164670

ท่วมซ้ำซาก! ชาวโคราชสุดทน เจอน้ำท่วมซ้ำซาก น.ศ.เก็บของไม่ทันเสียหายยับ วอนเทศบาลเร่งแก้ไข 
 
เมื่อวันที่ 5 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลกระทบจากร่องมรสุมเคลื่อนผ่านด้านทิศเหนือของพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ส่งผลให้ฝนตกหนักนานหลายชั่วโมง ทำให้ชุมชนในเขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา ที่ตั้งอยู่ในเส้นทางน้ำไหลลงลำตะคอง เกิดน้ำท่วมลักษณะน้ำฝนรอการระบาย มวลน้ำเอ่อล้นไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและถนนในชุมชนเทคโนวิลเลจ ชุมชน 30 กันยา และชุมชนปลายนาสามัคคี จำนวนนับ 100 หลังคาเรือน ซึ่งพื้นที่ลุ่มต่ำระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร ได้ท่วมขังตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้จนถึงเที่ยงคืน เป็นเวลาหลายชั่วโมงน้ำจึงค่อยๆลดลงสู่ภาวะปกติ
 
ซึ่งทั้ง 3 ชุมชน ตั้งอยู่ในละแวกมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) อีสาน มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) นครราชสีมา และมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล ผู้ประสบภัยส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่เช่าหอพัก บางรายไม่เคยมีประสบการณ์รับมือกับเหตุการณ์น้ำท่วม จึงไม่สามารถเก็บสิ่งของสัมภาระหนีน้ำได้ทันท่วงที ทำให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก ได้แต่ถ่ายคลิปลงไว้ในโลกโซเชียลพร้อมตัดพ้อถึงความเหนื่อยที่ต้องมาเก็บสิ่งของหนีน้ำท่วม
 
นายประดิพัทธ์ อินทร์ดอน อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มทร.อีสาน เปิดเผยว่า เป็นชาวบุรีรัมย์ได้มาศึกษาต่อระดับปริญญาตรี โดยเช่าบ้านอยู่ในชุมชนเทคโนวิลเลจ ยังไม่เคยมีประสบการณ์น้ำท่วม เมื่อน้ำฝนไหลทะลักเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว ไม่รู้จะหยิบจับสิ่งไหนก่อน ประกอบกับเป็นบ้านชั้นเดียวไม่สามารถขนย้ายได้ บางอย่างจึงต้องปล่อยให้แช่น้ำ นั่งรอนอนรอให้น้ำลดลง พร้อมถ่ายคลิปวีดีโอ ของใช้และเครื่องนอนรวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้ารวมทั้งหนังสือเรียนถูกน้ำท่วมเสียหาย ตนต้องอาศัยไปนอนห้องเพื่อนรอจนน้ำลด จึงกลับเข้ามาเก็บข้าวของในช่วงเช้า
 
นายธนนท์ ขุนสูงเนิน ในฐานะประธานชุมชนเทคโนวิลเลจ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2553 ชาวชุมชนรวม 266 หลังคาเรือน ประสบปัญหาน้ำท่วมและได้เรียกร้องให้ภาครัฐแก้ไข จนกระทั่งมีโครงการขุดลอกคลองน้ำ แต่ยังไม่ได้ดำเนินการ จึงทำให้เกิดปัญหาน้ำฝนรอการระบายไหลหลากท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 100 หลังคาเรือน
 
ด้านนายประเสริฐ บุญชัยสุข นายก ทน.นครราชสีมา กล่าวว่า ได้จัดสรรงบแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยวางท่อระบายน้ำลงลำตะคอง คาดจะแล้วเสร็จในเร็วๆนี้ สาเหตุฝนตกต่อเนื่องทำให้น้ำในคลองมีปริมาณมากขึ้น จึงไม่สามารถลอกคลองได้ต่อ ประกอบกับปัญหาหัวสูบของเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ถูกดินโคลนเข้าไปด้านในทำให้การสูบน้ำมีปัญหา ช่วงสายได้นำรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่เร่งทำความสะอาดเก็บขยะมูลฝอยในชุมชน เพื่อให้การระบายน้ำสะดวกยิ่งขึ้น



‘ขอรัฐแก้เกมสินค้าจีนถล่มไทย’ เล็งบรรจุในสมุดปกขาวกกร. ยื่นนายกฯ เศรษฐา
https://www.matichon.co.th/economy/news_4164647

กกร. ถก 7 ก.ย. ชงสมุดปกขาว ‘เศรษฐา’ รีวิวเนื้อหาเข้มข้น ส.อ.ท.จ่อเพิ่มข้อ 7 ร้องรัฐสกัดสินค้าจีนถล่มไทย ผวาครึ่งปีแรกไทยขาดดุลการค้าจีนแตะ 6 แสนล้านบาท
 
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า วันที่ 7 กันยายนนี้ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3  สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย จะประชุมประจำเดือนกันนายน เพื่อหารือประเด็นเศรษฐกิจสำคัญโดยเฉพาะข้อเสนอจากกกร. หรือสมุดปกขาว ที่เตรียมยื่นต่อ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เร็วๆนี้ เบื้องต้นกกร. จะทบทวนเนื้อหา 6 ข้อเสนอหลักที่มีอยู่แล้วให้อัพเดตมากขึ้น เพราะเนื้อหาที่มีเตรึยมไว้ระยะหนึ่งแล้วและหลายเรื่องมีการเสนอผ่านแต่ละองค์กรจนนายกรัฐมนตรีตอบรับเบื้องต้นแล้ว อาทิ หนี้ครัวเรือน
 
นายเกรียงไกร กล่าวว่า สำหรับรายละเอียด 6 ข้อเสนอสมุดปกขาวของ กกร. ที่เตรียมทบทวนรายละเอียดให้ตรงประเด็น เข้มข้น ประกอบด้วย 

1. ด้าน Competitiveness อาทิ การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน

2. ด้าน Ease of Doing Business เช่น ปฏิรูปกฎหมายที่ล้าสมัยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยเร่งปรับปรุงกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติอนุญาตภาครัฐ และที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ
 
นายเกรียงไกร กล่าวว่า 3. ด้าน Digital Transformation อาทิ ส่งเสริมการเป็น Technology hub ของประเทศไทย เพื่อให้เป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยี ซึ่งจะมีโอกาสสูงที่จะดึงเอาเม็ดเงินและทุนระดับโลกเข้าสู่ประเทศไทย 

4. ด้าน Human Development เช่น การเพิ่มผลิตภาพแรงงาน (Labor Productivity) ควรกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ มีการสนับสนุนระบบการจ่ายค่าจ้างแรงงานตามทักษะฝีมือ (Pay by Skill) ยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงานให้ได้มาตรฐานสากล และแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานไทยและต่างด้าว
 
นายเกรียงไกร กล่าวว่า  5. ด้าน SME อาทิ สนับสนุนให้มีมาตรการช่วยเหลือกลุ่ม SMEs ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และเร่งการปรับโครงสร้างหนี้ และจัดตั้งกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการ SME เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ และ 6.ด้าน Sustainability เช่น ขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ BCG และการจัดทำแผนรองรับปัญหาการขาดแคลนอาหาร (Food Security) แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน ยกระดับมาตรการทั้งก่อน ขณะ และหลังเป็นหนี้ เน้นการมีวินัยด้านเครดิต และการเสริมความรู้ด้านการเงิน (Financial Literacy)
 
นายเกรียงไกร กล่าวว่า นอกจากนี้ ส.อ.ท.จะเสนอเพิ่มเรื่องเร่งด่วนเป็นข้อ 7 คือ ขอให้เร่งแก้ไขปัญหาสินค้าจีนทะลัก เนื่องจากเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวได้ไม่ดีอย่างที่คิด กำลังซื้อภายในประเทศที่ชะลอตัว สินค้าจีนบางชนิดไม่สามารถจำหน่ายในอเมริกาและยุโรปได้ ส่งผลให้จีนหันมาเจาะตลาดในทวีปเอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมไปถึงประเทศไทย ซึ่งภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) อาเซียน-จีน และความนิยมในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ข้ามประเทศ ยิ่งช่วยส่งเสริมให้สินค้าจีนไหลเข้ามาไทยมากขึ้น
 
ปัญหาสินค้าจีนทะลักนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างรุนแรง เบื้องต้นมี 20 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้รับผลกระทบจากการที่จีนมีการส่งสินค้าเข้ามาแข่งขันด้านราคาในตลาดไทยมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อยอดขายของผู้ประกอบการไทย หากรัฐบาลยังไม่มีการออกมาตรการป้องกันอย่างเร่งด่วน อาจลามไปถึง 30 กลุ่มอุตสาหกรรมได้” นายเกรียงไกรกล่าว
 
นายเกรียงไกร กล่าวว่า จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ จะเห็นว่า ไตรมาส 2/2566 จีนมีการส่งสินค้ามาขายในไทยมีมูลค่าขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2566 อาทิ เครื่องประดับ ขยายตัว 36.01% เครื่องจักรกลฯ ขยายตัว 17.48% เครื่องใช้และเครื่องตกแต่งบ้าน ขยายตัว 16.68% แก้ว และกระจก ขยายตัว 14.68% ผลิตภัณฑ์กระดาษ ขยายตัว 14.44% จนครึ่งปีแรกไทยเสียดุลการค้าให้กับจีนถึง 600,000 ล้านบาทแล้ว
 
นายเกรียงไกร กล่าวว่า ดังนั้นภาคเอกชน จึงต้องการเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาสินค้าจีนทะลัก โดยแบ่งเป็นประเด็นหลักๆ คือ 

1. เร่งออกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อป้องกันสินค้านำเข้าที่ไม่ได้คุณภาพ 

2. สํานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ควรเข้มงวดในการตรวจจับสินค้านำเข้าที่ไม่ได้มาตรฐานฯ
 
3. จากปัญหาสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ ไม่เกิน 1 หมื่นบาท ไม่เสียภาษี ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สินค้าจีนเข้ามาในประเทศไทย ดังนั้นภาครัฐควรเข้าไปกำกับดูแลการสั่งซื้อสินค้าเหล่านี้ โดยอาจทบทวนเงื่อนไขและอัตราภาษี ในกรณีที่มีการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (อี-คอมเมิร์ซ) และ 4. ภาครัฐควรดูแลต้นทุนของผู้ประกอบการ ทั้งในส่วนของการผลิตและการขายของผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้



“ไอติม” ชง 2 ทางเลือก ยกเลิกเกณฑ์ทหาร กำจัดยอดผี แถมไม่ต้องถูกบังคับ
https://www.thairath.co.th/news/politic/2722670

“ไอติม พริษฐ์” แนะ 2 ทางเลือก ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ลดกำลังพล เพิ่มยอดความสมัครใจ กำจัดยอดผี หรือเลิกแบบการันตีไม่มีเกณฑ์ หวังรัฐบาลผลักดันจริงจังจนเข้าสู่วาระประชุมสภา
 
วันที่ 5 กันยายน 2556 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ 2 ทางเลือกในการ #ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร - เลิกแบบต้องลุ้นปีต่อปี vs. เลิกแบบการันตีไม่มีเกณฑ์ โดยระบุว่า 

การ “เกณฑ์” ทหารคือการบังคับคนที่ไม่อยากเป็นทหารเข้าไปรับราชการทหาร โดยปัจจุบัน ประเทศไทยมีกฎหมายที่เปิดช่องให้รัฐสามารถบังคับคนไปเป็นทหารได้ (พ.ร.บ.รับราชการทหาร 2497) หากจำนวนคนที่สมัครใจเป็นทหารกองประจำการในแต่ละปี (supply หรืออุปทาน) มีจำนวนที่น้อยกว่ายอดกำลังพล หรือจำนวนคนที่กองทัพต้องการให้มาทำหน้าที่ทหารกองประจำการในแต่ละปี (demand หรืออุปสงค์)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่