ไมค์ ปัดเป็นผู้ลี้ภัย ซึ้งงานสังคมสงเคราะห์โดนใจประเทศใหม่ มอบสถานะผู้พำนักถาวรให้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4847695
ไมค์ ภาณุพงศ์ ปัดเป็น ‘ผู้ลี้ภัย’ ใน ตปท. ขอบคุณ รบ.ประเทศใหม่มอบสถานะผู้พำนักถาวร ตอนนี้มีความสุขดี ทำงานได้ค่าตอบแทนสูงกว่าอยู่ไทย หวังได้เป็นพลเมืองร่วมพัฒนาประเทศ
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม นาย
ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ นักกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งปัจจุบันย้ายออกจากประเทศไทยไปอยู่ต่างประเทศด้วยเหตุผลถึงความไม่ปลอดภัย ถูกจำกัดเสรีภาพ และความไม่ยุติธรรม ล่าสุดได้อัพเดตชีวิตผ่านแฟนเพจ
ภาณุพงศ์ จาดนอก พร้อมยืนยันสถานะว่า ไม่ได้อยู่ต่างประเทศด้วยสถานะผู้ลี้ภัย
นาย
ภาณุพงศ์เผยว่า
หลายคนสอบถามและแสดงความห่วงใยเกี่ยวกับการปรับตัวของผมในประเทศใหม่ ผมต้องขอขอบคุณทุกคนที่ส่งความห่วงใยมาให้ และขอใช้โอกาสนี้ในการอัพเดตชีวิตในตอนนี้ครับ
ก่อนอื่นผมต้องบอกทุกคนก่อนว่า ผมไม่ได้มาในสถานะผู้ลี้ภัย ผมได้ย้ายมาประเทศใหม่โดยการยื่น Profile ผลงานที่ผมได้ทำมาตั้งแต่ปี 2557 ภายใต้ชื่อกลุ่ม YoungLeaders Thailand เพื่อให้รัฐบาลที่นี่พิจารณา ผมต้องขอขอบคุณรัฐบาลเป็นอย่างสูงที่ให้การรับรองและมอบสถานะ ผู้พำนัก
ถาวร (Permanent Residency) แก่ผม ผมรู้สึกเป็นเกียรติและซาบซึ้งใจที่ผลงานและความทุ่มเทในด้านเด็ก เยาวชน สิ่งแวดล้อม และสังคมสงเคราะห์ที่ผมได้ทำมาเกือบ 10 ปีในประเทศไทยได้รับการยอมรับจากรัฐบาลประเทศใหม่นี้ครับ
ส่วนการใช้ชีวิตในประเทศใหม่ ผมมีความสุขและปรับตัวได้ดีมาก ผมมีงานทำและได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่าประเทศไทยหลายเท่า มีเงินเหลือสำหรับใช้จ่ายเพียงพอในการดำรงชีวิตที่นี่ และสามารถส่งกลับไปดูแลแม่และครอบครัวได้อีกด้วย (เพราะผมเป็นเสาหลักของบ้าน) อีกทั้งประเทศนี้ยังมีระบบสาธารณสุขที่รักษาฟรีและการคมนาคมที่สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพ ผมหวังว่าในอนาคต หากมีโอกาส ผมจะสามารถเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศนี้ต่อไปครับ
https://www.facebook.com/panupong.jadnok/posts/8466387796789666?ref=embed_post
เตรียมตัวกินไข่แพง ผลจากน้ำท่วม ปลายต.ค. ขึ้นแน่แผงละ 5 บ. เบอร์เล็กสุด พุ่งแผงละ 105
https://www.matichon.co.th/region/news_4848573
เตรียมตัวกินไข่แพง ผลจากน้ำท่วม-เปิดเทอมปลาย ต.ค.ขึ้นแน่แผงละ 5 บ.
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในระยะ 1 เดือนที่ผ่านมาในมุมของไข่ไก่ วัตถุดิบด้านอาหารที่สำคัญของสังคม เพราะทุกบ้านคนไทยต้องบริโภคไข่ไก่
ซึ่งล่าสุดพบว่าราคาไข่ไก่ขยับขึ้นจากเมื่อช่วงต้นเดือนขึ้นมา เฉลี่ยแผงละ 5 บาท โดยไข่ไก่ขนาดใหญ่สุดหรือเบอร์ 0 ขยับจากราคาเดิมแผงละ 145 บาท เป็น 150 บาทต่อแผง ขนาดรองลงมาในเบอร์ 1 จากราคาเดิมแผงละ 135 บาท ก็ขยับขึ้นเป็นแผงละ 140 บาท เบอร์ 2 จาก 125 บาท ขึ้นเป็น 130 บาท เบอร์ 3 จาก 115 บาท ขึ้นเป็น 120 บาท เบอร์ 4 จากแผงละ 105 บาท ขึ้นเป็น 110 บาท และเบอร์เล็กสุดจากแผงละ 100 บาท ขึ้นไปที่ 105 บาทต่อแผง
โดย นาย
ธนากร จากทัพเนตร พ่อค้าไข่ไก่เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ราคาไข่ไก่เริ่มนิ่ง แต่ก็มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นไปอีกในช่วงปลายเดือนนี้ เพราะจากสถานการณ์น้ำท่วมทำให้ฟาร์มไก่ไข่บางส่วนได้รับผลกระทบ ประกอบกับเป็นช่วงเปิดเทอม ซึ่งจะมีความต้องการใช้ไข่ไก่มากขึ้นจากโรงอาหารของโรงเรียน ซึ่งน่าจะทำให้ไข่ไก่ปรับราคาขึ้นประมาณแผงละ 5 บาท
ด้าน นาง
ศศิรัตน์ สถิตย์ศุภวาร แม่ค้าอาหารตามสั่งเปิดเผยว่า ช่วงนี้แม้ราคาไข่ไก่จะปรับขึ้น หรือช่วงสิ้นเดือนจะขึ้นอีก ร้านอาหารตามสั่งเองก็ไม่สามารถปรับราคาขายหน้าร้านขึ้นได้ เพราะจะกระทบกับลูกค้า ถึงแม้ว่าจะต้องแบกรับภาระต้นทุนทั้งราคาแก๊สหุงต้ม เครื่องปรุง น้ำมันพืช เนื้อสัตว์ รวมทั้งไข่ไก่ที่แพงขึ้น ก็จำเป็นต้องทนทำได้แต่ภาวนาให้ราคาปรับลงเร็วๆ เท่านั้น เพราะแม่ค้ารายย่อยอย่างร้านตามสั่งไม่มีอำนาจต่อรองราคาใดๆ.
คนงาน2หมื่นคน ชลบุรี ส่อตกงาน 16บริษัทผู้รับเหมา แบกไม่ไหว กระทบถึงครอบครัว 6หมื่นชีวิต
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_9460833
คนงาน2หมื่นคน ชลบุรี ส่อตกงาน 16บริษัทผู้รับเหมา แบกไม่ไหว กระทบถึงครอบครัว 6หมื่นชีวิต ค้างจ่ายค่าแรง 6 เดือน
วันที่ 15 ต.ค.2567 ที่ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง จ.ชลบุรี สหพันธ์ผู้รับเหมาโรงกลั่น TOP โครงการพลังงานสะอาด
CFP (Clean Fuel Project) โรงกลั่นน้ำมันใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่เกิดจากการรวมตัวของบริษัทผู้รับเหมาช่วงไทย 16 บริษัทที่มี นาย
ฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท SCC จำกัด พร้อมด้วยนาย
ยุทธนา กาญจนารมย์ ฝ่ายประสานงานองค์กร CAZ นาย
วีระพล โอชารส กรรมการผู้จัดการ CKC นาย
ชนินทร์ เสตะปุระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IETL และนาย
ณัฐวุฒิ รัฐชัยสิทธิ์, กรรมการและรองผู้จัดการทั่วไป TREL เป็นแกนนำ ได้ร่วมกันแถลงถึงผลกระทบที่เกิดจากการที่บริษัทผู้รับเหมาหลัก จ่ายเงินล่าช้าต่อเนื่อง จนส่งผลโดยตรงต่อการดำเนินงานของผู้รับเหมารายย่อย โดยมีตัวแทนจาก 16 บริษัทผู้รับเหมาช่วง และสื่อมวลชนเข้าร่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวทีแถลงได้พูดถึงปัญหาของการไม่ได้รับเงินค่างวดงานติดต่อกันนานกว่า 6 เดือนว่า ไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้รับเหมาหลายรายประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินจนกระทบต่อความสามารถในการดำเนินงานตามกำหนดเวลา รวมถึงคุณภาพของโครงการโดยรวมเท่านั้น
แต่ยังต้องเจอปัญหาเรื่องการจัดสรรงบประมาณ เพื่อจ้างงานและจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทผู้รับเหมาช่วงยังต้องเผชิญความเสี่ยงที่จะไม่สามารถดำเนินงานตามสัญญาได้ หากปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที เนื่องจากขณะนี้เริ่มมีผลกระทบกับบริษัทผู้รับเหมาช่วง อาทิ
1. บริษัทผู้รับเหมาช่วงบางรายต้องติดค้างค่าแรงคนงานจนเกิดการประท้วง
2. บริษัทผู้รับเหมาช่วงที่มีสายป่านยาวเริ่มเกิดปัญหาสภาพคล่องและอาจต้องเลิกจ้างคนงานทั้งหมดในไม่ช้า
3. คนงานในไซด์งานอาจไม่ได้รับเงินค่าจ้างและเงินชดเชยมากถึง 20,000 คน ซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงคนในครอบครัวกว่า 60,000 คน
4. หากบริษัทผู้รับเหมาช่วงไม่มีทางออก จนถึงขึ้นเลิกจ้างคนงานโครงการพลังงานสะอาด ก็จะไม่สามารถก่อสร้างได้แล้วเสร็จตามกำหนด
ทั้งนี้ ส่วนเหตุที่บริษัทผู้รับเหมาช่วง ไม่ได้ค่างวดงานแล้วแต่ยังต้องทำงานต่อ เนื่องจากสัญญาที่ระบุว่าบริษัทผู้รับเหมาช่วงไม่สามารถหยุดงานได้ในทุกกรณี อีกทั้งการไม่จ่ายค่าจ้าง ไม่ถือเป็นความผิดให้หยุดงานหรือเลิกสัญญา ซึ่งหากเกิดการฟ้องร้องจะต้องเดินทางไปขึ้นศาลที่ประเทศสิงคโปร์ ภายใต้การใช้กฎหมายของประเทศอังกฤษ
เวทีแถลง ได้ระบุว่า การรวมตัวแถลงข่าวในครั้งนี้ก็เพื่อ
1. เรียกร้องให้เจ้าของโครงการประกาศความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร ในกรณีที่บริษัทรับเหมาช่วง ไม่สามารถดูแลคนงานต่อไปได้ เนื่องจากไม่ได้ผู้รับค่าจ้างกว่า 6 เดือน
2. บริษัทรับเหมาช่วง จะเรียกร้องเงินค่าจ้างได้จากใคร
3. บริษัทรับเหมาช่วง ไม่ต้องการให้ผู้รับเหมาจากต่างประเทศเอาเปรียบบริษัทผู้รับเหมาในประเทศไทย และหากภายหลังการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการแล้ว บริษัทเจ้าของโครงการยังไม่มีแนวทางที่จะดำเนินการอย่างใดก็พร้อมที่จะระดมผู้บริหารทั้ง 16 บริษัทและพนักงาน เดินเท้าจากบริเวณโค้งโรงเรียนบุญจิตวิทยา ไปยังด้านหน้าโรงกลั่นฯ เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้บริหารในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 18 ตุลาคม
รวมทั้งยังมีเป้าหมายที่จะเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ นาย
สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนาย
ธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อให้ช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการและแรงงานที่ทำงานในพื้นที่ และสุดท้ายหากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขเป้าหมายต่อไปกระทรวงพลังงาน-อุตสาหกรรม
ทั้งนี้ มีรายงานว่า สำหรับโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project) มีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 4,825 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 158,404 ล้านบาท ซึ่งมีระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี (เริ่มดำเนินการปี 2562 คาดว่าแล้วเสร็จ 2566
สถานที่ก่อสร้าง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี) โดยมีผู้รับเหมาช่วง 16 บริษัทที่ได้รับความเดือดร้อนและลงชื่อขอความช่วยเหลือประกอบด้วย 1.CAZ 2.CKC 3.CMG 4.FSC 5.IETL 6.ITE 7.LHL 8.RCS 9.RMC 10.SCC 11.SBD 12.STECON 13.SWOT 14.TJEL 15.TREL และ 16.VAP
JJNY : ไมค์ปัดเป็นผู้ลี้ภัย│เตรียมตัวกินไข่แพง ขึ้นแน่แผงละ 5 บ.│คนงาน2หมื่นคน ชลบุรี ส่อตกงาน│ฮิซบอลเลาะห์ขู่ส่งจรวด
https://www.matichon.co.th/politics/news_4847695
ไมค์ ภาณุพงศ์ ปัดเป็น ‘ผู้ลี้ภัย’ ใน ตปท. ขอบคุณ รบ.ประเทศใหม่มอบสถานะผู้พำนักถาวร ตอนนี้มีความสุขดี ทำงานได้ค่าตอบแทนสูงกว่าอยู่ไทย หวังได้เป็นพลเมืองร่วมพัฒนาประเทศ
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ นักกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งปัจจุบันย้ายออกจากประเทศไทยไปอยู่ต่างประเทศด้วยเหตุผลถึงความไม่ปลอดภัย ถูกจำกัดเสรีภาพ และความไม่ยุติธรรม ล่าสุดได้อัพเดตชีวิตผ่านแฟนเพจ ภาณุพงศ์ จาดนอก พร้อมยืนยันสถานะว่า ไม่ได้อยู่ต่างประเทศด้วยสถานะผู้ลี้ภัย
นายภาณุพงศ์เผยว่า
หลายคนสอบถามและแสดงความห่วงใยเกี่ยวกับการปรับตัวของผมในประเทศใหม่ ผมต้องขอขอบคุณทุกคนที่ส่งความห่วงใยมาให้ และขอใช้โอกาสนี้ในการอัพเดตชีวิตในตอนนี้ครับ
ก่อนอื่นผมต้องบอกทุกคนก่อนว่า ผมไม่ได้มาในสถานะผู้ลี้ภัย ผมได้ย้ายมาประเทศใหม่โดยการยื่น Profile ผลงานที่ผมได้ทำมาตั้งแต่ปี 2557 ภายใต้ชื่อกลุ่ม YoungLeaders Thailand เพื่อให้รัฐบาลที่นี่พิจารณา ผมต้องขอขอบคุณรัฐบาลเป็นอย่างสูงที่ให้การรับรองและมอบสถานะ ผู้พำนัก
ถาวร (Permanent Residency) แก่ผม ผมรู้สึกเป็นเกียรติและซาบซึ้งใจที่ผลงานและความทุ่มเทในด้านเด็ก เยาวชน สิ่งแวดล้อม และสังคมสงเคราะห์ที่ผมได้ทำมาเกือบ 10 ปีในประเทศไทยได้รับการยอมรับจากรัฐบาลประเทศใหม่นี้ครับ
ส่วนการใช้ชีวิตในประเทศใหม่ ผมมีความสุขและปรับตัวได้ดีมาก ผมมีงานทำและได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่าประเทศไทยหลายเท่า มีเงินเหลือสำหรับใช้จ่ายเพียงพอในการดำรงชีวิตที่นี่ และสามารถส่งกลับไปดูแลแม่และครอบครัวได้อีกด้วย (เพราะผมเป็นเสาหลักของบ้าน) อีกทั้งประเทศนี้ยังมีระบบสาธารณสุขที่รักษาฟรีและการคมนาคมที่สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพ ผมหวังว่าในอนาคต หากมีโอกาส ผมจะสามารถเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศนี้ต่อไปครับ
https://www.facebook.com/panupong.jadnok/posts/8466387796789666?ref=embed_post
เตรียมตัวกินไข่แพง ผลจากน้ำท่วม ปลายต.ค. ขึ้นแน่แผงละ 5 บ. เบอร์เล็กสุด พุ่งแผงละ 105
https://www.matichon.co.th/region/news_4848573
เตรียมตัวกินไข่แพง ผลจากน้ำท่วม-เปิดเทอมปลาย ต.ค.ขึ้นแน่แผงละ 5 บ.
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในระยะ 1 เดือนที่ผ่านมาในมุมของไข่ไก่ วัตถุดิบด้านอาหารที่สำคัญของสังคม เพราะทุกบ้านคนไทยต้องบริโภคไข่ไก่
ซึ่งล่าสุดพบว่าราคาไข่ไก่ขยับขึ้นจากเมื่อช่วงต้นเดือนขึ้นมา เฉลี่ยแผงละ 5 บาท โดยไข่ไก่ขนาดใหญ่สุดหรือเบอร์ 0 ขยับจากราคาเดิมแผงละ 145 บาท เป็น 150 บาทต่อแผง ขนาดรองลงมาในเบอร์ 1 จากราคาเดิมแผงละ 135 บาท ก็ขยับขึ้นเป็นแผงละ 140 บาท เบอร์ 2 จาก 125 บาท ขึ้นเป็น 130 บาท เบอร์ 3 จาก 115 บาท ขึ้นเป็น 120 บาท เบอร์ 4 จากแผงละ 105 บาท ขึ้นเป็น 110 บาท และเบอร์เล็กสุดจากแผงละ 100 บาท ขึ้นไปที่ 105 บาทต่อแผง
โดย นายธนากร จากทัพเนตร พ่อค้าไข่ไก่เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ราคาไข่ไก่เริ่มนิ่ง แต่ก็มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นไปอีกในช่วงปลายเดือนนี้ เพราะจากสถานการณ์น้ำท่วมทำให้ฟาร์มไก่ไข่บางส่วนได้รับผลกระทบ ประกอบกับเป็นช่วงเปิดเทอม ซึ่งจะมีความต้องการใช้ไข่ไก่มากขึ้นจากโรงอาหารของโรงเรียน ซึ่งน่าจะทำให้ไข่ไก่ปรับราคาขึ้นประมาณแผงละ 5 บาท
ด้าน นางศศิรัตน์ สถิตย์ศุภวาร แม่ค้าอาหารตามสั่งเปิดเผยว่า ช่วงนี้แม้ราคาไข่ไก่จะปรับขึ้น หรือช่วงสิ้นเดือนจะขึ้นอีก ร้านอาหารตามสั่งเองก็ไม่สามารถปรับราคาขายหน้าร้านขึ้นได้ เพราะจะกระทบกับลูกค้า ถึงแม้ว่าจะต้องแบกรับภาระต้นทุนทั้งราคาแก๊สหุงต้ม เครื่องปรุง น้ำมันพืช เนื้อสัตว์ รวมทั้งไข่ไก่ที่แพงขึ้น ก็จำเป็นต้องทนทำได้แต่ภาวนาให้ราคาปรับลงเร็วๆ เท่านั้น เพราะแม่ค้ารายย่อยอย่างร้านตามสั่งไม่มีอำนาจต่อรองราคาใดๆ.
คนงาน2หมื่นคน ชลบุรี ส่อตกงาน 16บริษัทผู้รับเหมา แบกไม่ไหว กระทบถึงครอบครัว 6หมื่นชีวิต
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_9460833
คนงาน2หมื่นคน ชลบุรี ส่อตกงาน 16บริษัทผู้รับเหมา แบกไม่ไหว กระทบถึงครอบครัว 6หมื่นชีวิต ค้างจ่ายค่าแรง 6 เดือน
วันที่ 15 ต.ค.2567 ที่ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง จ.ชลบุรี สหพันธ์ผู้รับเหมาโรงกลั่น TOP โครงการพลังงานสะอาด
CFP (Clean Fuel Project) โรงกลั่นน้ำมันใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่เกิดจากการรวมตัวของบริษัทผู้รับเหมาช่วงไทย 16 บริษัทที่มี นายฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท SCC จำกัด พร้อมด้วยนายยุทธนา กาญจนารมย์ ฝ่ายประสานงานองค์กร CAZ นายวีระพล โอชารส กรรมการผู้จัดการ CKC นายชนินทร์ เสตะปุระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IETL และนายณัฐวุฒิ รัฐชัยสิทธิ์, กรรมการและรองผู้จัดการทั่วไป TREL เป็นแกนนำ ได้ร่วมกันแถลงถึงผลกระทบที่เกิดจากการที่บริษัทผู้รับเหมาหลัก จ่ายเงินล่าช้าต่อเนื่อง จนส่งผลโดยตรงต่อการดำเนินงานของผู้รับเหมารายย่อย โดยมีตัวแทนจาก 16 บริษัทผู้รับเหมาช่วง และสื่อมวลชนเข้าร่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวทีแถลงได้พูดถึงปัญหาของการไม่ได้รับเงินค่างวดงานติดต่อกันนานกว่า 6 เดือนว่า ไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้รับเหมาหลายรายประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินจนกระทบต่อความสามารถในการดำเนินงานตามกำหนดเวลา รวมถึงคุณภาพของโครงการโดยรวมเท่านั้น
แต่ยังต้องเจอปัญหาเรื่องการจัดสรรงบประมาณ เพื่อจ้างงานและจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทผู้รับเหมาช่วงยังต้องเผชิญความเสี่ยงที่จะไม่สามารถดำเนินงานตามสัญญาได้ หากปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที เนื่องจากขณะนี้เริ่มมีผลกระทบกับบริษัทผู้รับเหมาช่วง อาทิ
1. บริษัทผู้รับเหมาช่วงบางรายต้องติดค้างค่าแรงคนงานจนเกิดการประท้วง
2. บริษัทผู้รับเหมาช่วงที่มีสายป่านยาวเริ่มเกิดปัญหาสภาพคล่องและอาจต้องเลิกจ้างคนงานทั้งหมดในไม่ช้า
3. คนงานในไซด์งานอาจไม่ได้รับเงินค่าจ้างและเงินชดเชยมากถึง 20,000 คน ซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงคนในครอบครัวกว่า 60,000 คน
4. หากบริษัทผู้รับเหมาช่วงไม่มีทางออก จนถึงขึ้นเลิกจ้างคนงานโครงการพลังงานสะอาด ก็จะไม่สามารถก่อสร้างได้แล้วเสร็จตามกำหนด
ทั้งนี้ ส่วนเหตุที่บริษัทผู้รับเหมาช่วง ไม่ได้ค่างวดงานแล้วแต่ยังต้องทำงานต่อ เนื่องจากสัญญาที่ระบุว่าบริษัทผู้รับเหมาช่วงไม่สามารถหยุดงานได้ในทุกกรณี อีกทั้งการไม่จ่ายค่าจ้าง ไม่ถือเป็นความผิดให้หยุดงานหรือเลิกสัญญา ซึ่งหากเกิดการฟ้องร้องจะต้องเดินทางไปขึ้นศาลที่ประเทศสิงคโปร์ ภายใต้การใช้กฎหมายของประเทศอังกฤษ
เวทีแถลง ได้ระบุว่า การรวมตัวแถลงข่าวในครั้งนี้ก็เพื่อ
1. เรียกร้องให้เจ้าของโครงการประกาศความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร ในกรณีที่บริษัทรับเหมาช่วง ไม่สามารถดูแลคนงานต่อไปได้ เนื่องจากไม่ได้ผู้รับค่าจ้างกว่า 6 เดือน
2. บริษัทรับเหมาช่วง จะเรียกร้องเงินค่าจ้างได้จากใคร
3. บริษัทรับเหมาช่วง ไม่ต้องการให้ผู้รับเหมาจากต่างประเทศเอาเปรียบบริษัทผู้รับเหมาในประเทศไทย และหากภายหลังการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการแล้ว บริษัทเจ้าของโครงการยังไม่มีแนวทางที่จะดำเนินการอย่างใดก็พร้อมที่จะระดมผู้บริหารทั้ง 16 บริษัทและพนักงาน เดินเท้าจากบริเวณโค้งโรงเรียนบุญจิตวิทยา ไปยังด้านหน้าโรงกลั่นฯ เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้บริหารในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 18 ตุลาคม
รวมทั้งยังมีเป้าหมายที่จะเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อให้ช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการและแรงงานที่ทำงานในพื้นที่ และสุดท้ายหากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขเป้าหมายต่อไปกระทรวงพลังงาน-อุตสาหกรรม
ทั้งนี้ มีรายงานว่า สำหรับโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project) มีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 4,825 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 158,404 ล้านบาท ซึ่งมีระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี (เริ่มดำเนินการปี 2562 คาดว่าแล้วเสร็จ 2566
สถานที่ก่อสร้าง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี) โดยมีผู้รับเหมาช่วง 16 บริษัทที่ได้รับความเดือดร้อนและลงชื่อขอความช่วยเหลือประกอบด้วย 1.CAZ 2.CKC 3.CMG 4.FSC 5.IETL 6.ITE 7.LHL 8.RCS 9.RMC 10.SCC 11.SBD 12.STECON 13.SWOT 14.TJEL 15.TREL และ 16.VAP