2๖๖๖๖ ขณิกสมาธิ ต้องดูติดต่อกัน จึงเป็นวิปัสสนา เพราะดูสิ่งที่กำลังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ๖๖๖๖2

.

จากหนังสือประกายส่องใจ
โดย…พระคันธสาราภิวงศ์
ใครว่าขณิกสมาธิเกิดเพียงชั่วขณะไม่ตั้งมั่น
https://tananglaenang.wordpress.com/2014/07/24/105/




               สมาธิในวิปัสสนานี้มีกำลังเทียบเท่า อุปจารสมาธิ
 
                คือ สมาธิใกล้จะแนบแน่นของสมถภาวนา จึงสามารถข่มนิวรณ์ทั้ง ๕ ได้ 
 
            แต่สมาธิดังกล่าวเรียกว่า ขณิกสมาธิ หรือ สมาธิชั่วขณะ
 
           เพราะหมายถึง มีอารมณ์กรรมฐานที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา  ในแต่ละปัจจุบันขณะ
 
           กล่าวคือรูปนามที่ผู้ปฏิบัติกำหนดรู้อยู่เป็นสภาวะใหม่ อยู่เสมอ 
 
ดังข้อความในคัมภีร์อรรถกถา (วิสุทธิ. ๒.๓๐๔, ปฏิสํ. อ. ๑.๒๗๕) ว่า
 
         นิจฺจนวาว หุตฺวา สงฺขารา อุปฏฺฐหนฺติ.
         สังขารทั้งหลายเป็นของใหม่อยู่เสมอย่อมปรากฏ
 
.
 
          ดังนั้น แม้ขณิกสมาธิจะมีกำลังเทียบเท่าอุปจารสมาธิ 
          เพราะสามารถข่มนิวรณ์ได้เหมือนอุปจารสมาธิ 
 
           ก็มีชื่อเฉพาะว่า “ขณิกสมาธิ” ด้วยเหตุที่กล่าวมานี้ หาใช่เพราะเป็นสมาธิที่เกิดเพียงชั่วขณะไม่ แต่เป็นสมาธิที่มีอารมณ์เพียงชั่วขณะดังที่กล่าวมาแล้ว
.
.
       วิปัสสนาภาวนาที่ประกอบด้วยขณิกสมาธิ
 
        ย่อมสามารถละกิเลสได้ชั่วขณะ เรียกว่า ตทังคปหาน
 
                      คือการละได้ชั่วขณะในเวลาที่กำหนดรู้อยู่
 
                       และสมาธิที่เกิดขึ้นในขณะนั้นได้ทำหน้าที่ข่มกิเลสเป็น วิกขัมภนปหาน คือ
                       การละด้วยการข่มไว้ การละกิเลสทั้งสองอย่างนั้น
                       เหมือนการตัดกิ่งก้านและลำต้นของต้นไม้ทำให้ต้นไม้อ่อนกำลังไม่มั่นคง
 
                       ส่วนขณะที่เกิดมรรคปัญญาที่ละกิเลสโดยเด็ดขาดซึ่งเรียกว่า สมุจเฉทปหาน เหมือนการตัดรากเหง้าของต้นไม้
 
                 ดังนั้น ผู้ปฏิบัติธรรมจึงต้องเจริญวิปัสสนาภาวนาอยู่เสมอเพื่อสั่งสมอุปนิสัยปัจจัยอันจะทำให้เกิดมรรคปัญญาในโอกาสต่อไป
 
 
 
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
จากหนังสือประกายส่องใจ
โดย…พระคันธสาราภิวงศ์
 
ใครว่าขณิกสมาธิเกิดเพียงชั่วขณะไม่ตั้งมั่น
https://tananglaenang.wordpress.com/2014/07/24/105/

.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่