มติชนจัดเวที ‘รัฐ ลวง ลึก’ นักวิชาการ ชี้ประเทศติดหล่ม ฝากการบ้านรัฐบาลใหม่
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7829718
มติชนจัดเวที “รัฐ ลวง ลึก” ด้าน นักวิชาการ ชี้ประเทศติดหล่มมากว่าร้อยปี ห่วง “เศรษฐา” เจอปัญหาใครๆ ก็อยากนั่งรมต. ฝากการบ้านรัฐบาลใหม่
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2566 ที่โรงแรงพูลแมน คิงเพาเวอร์ ซอยรางน้ำ กรุงเทพมหานคร หนังสือพิมพ์มติชนเปิดเวที
Talks for Thailand รัฐ ลวง ลึก โดยเอาปัญหาประเทศมาตีแผ่ เล่าเรื่องลวงและลึกที่หลบเร้นสายตาประชาชน
โดยนาย
ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระด้านรัฐศาสตร์ ได้กล่าวในหัวข้อการเมืองติดหล่ม ว่า วันนี้การเมืองเราเป็นการเมืองที่สลับข้างกัน เป็นรัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ที่ผ่านมาประเทศเราติดหล่มนานกว่า 100 ปีแล้ว โดยประเทศติดอยู่ที่การจัดสรรอำนาจของคนในประเทศ
เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) ที่นาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับประเทศไทย ก็มีคนตั้งข้อสงสัยว่ามีการดีลกันหรือไม่ และเมื่อวานที่มีการโหวตนายกฯ เหมือนมีการดีลระหว่างนายทักษิณกับพล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ เพราะคนของพล.อ.
ประยุทธ์ โหวตเห็นชอบให้นาย
เศรษฐา ทั้งที่จะเป็นการดีลกันกับพล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ มากกว่า จนทำให้พล.อ.
ประวิตร ไม่มาร่วมประชุมโหวตนายกฯ ณ วันนี้การเมืองไทยใครที่จะชนะคือคนที่จะต้องมาสร้างการเมืองที่ดี และมาทำให้คนมองไปข้างหน้าแล้วมีอนาคต ซึ่งโจทย์ใหญ่ 2 ข้อนี้ไม่มีทางเปลี่ยน
นาย
ศิโรตม์ กล่าวว่า พรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นที่หนึ่งอย่างพรรคก้าวไกลนั้น ตอนนี้เขาคงมีสีหน้าที่มองว่าอนาคตการเมืองเขาจะเป็นอย่างไร รวมถึงเรื่องยุบพรรค ซึ่งการเลือกตั้งไม่สามารถนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลได้ ทุกวันนี้คนคิดว่าประเทศนี้มีดีลลับมากเกินไปแล้ว และเป็นดีลที่หาเหตุไม่เจอ เมื่อเป็นเช่นนี้ต้องกลับมาถามว่าประเทศนี้มีระบบหรือไม่ ซึ่งน่ากังวลถ้าเราไม่มีระบบ และคงเป็นอันตรายมาก
ด้าน นาย
สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวในหัวข้อ ลับ ลวง ล่อ การเมืองไทย ว่า หลายคนมองว่าการเมืองไทยไม่ก้าวหน้า ก็พวกคุณมองไปไกลเกิน เอาประเทศเราไปเทียบกับสหรัฐอเมริกา ตนว่านายกรัฐมนตรีของเมืองไทยนั้นเหมือนถูกสาป ว่าเมื่อขึ้นเป็นนายกฯ ดีๆ แล้วก็เสียผู้เสียคน หลายคนถามว่านักการเมืองมีอุดมการณ์หรือไม่ ก็คงต้องถามกลับว่าอุดมการณ์กินได้ไหม มีไปทำไม
วันนี้เมื่อนักการเมืองเปลี่ยนไปก็จะอ้างว่าสถานการณ์เปลี่ยนบ้าง ล่าสุดบอกว่าเป็นเทคนิคหาเสียง แต่คำเดียวใหญ่ๆ คือโกหก ทั้งนี้ ตนเป็นห่วงนาย
เศรษฐา ทวีสิน ในการตั้งรัฐบาล เพราะนักการเมืองอยากเป็นรัฐมนตรีมันจะมีปัญหาตรงนี้เลย
“
คนเป็นนักการเมืองต้องหยิ่งในตัว จนเขาเปรียบให้เป็นเสมือน เสือ สิงห์ กระทิง แต่วันนี้ทำไมมาเป็นลิง มากินกล้วยเสียแล้ว ผมว่านักการเมืองดีๆ มีเยอะ เพียงแต่คนดังๆ นั้นไม่ค่อยจะดี” นาย
สุขุม กล่าว
ด้าน นาง
นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก กล่าวว่า เราได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นนาย
เศรษฐา ดูแล้วเหมือนละครหลังข่าวที่ชื่อเรื่อง “
รัฐบาลกายแก้ว” ตอนแรกยังคิดว่าจะได้พระเอกที่ชื่อ “
ยืนยังเซ” แต่ก็เกือบได้แล้ว วันนี้มีคนไปว่าพรรคเขาตระบัดสัตย์ แต่เชื่อหรือไม่ว่าเขาช่วยเราปิดสวิตช์ 3 ป.แล้ว นั่นคือ “
ประชาชน ประเทศ ประชาธิปไตย”
นาย
สุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงความมั่นคงหลงทิศ ว่า วันนี้โลกกลับเข้าสู่งครามเย็นอีกยุคหนึ่ง และรัฐไทยกำลังเผชิญกับสงครามเย็นครั้งใหม่ มีผลกระทบความมั่นคงในรัฐไทยแน่ เราจะถูกบังคับให้เลือกข้าง วันนี้วิกฤตเศรษฐกิจหนักมาก อย่างไรก็ตาม การเมืองโลกในวันนี้ การชนะขาดไม่ได้หมายถึงว่าชนะแล้วได้จัดตั้งรัฐบาล แต่จะเป็นรัฐบาลผสม
ส่วนปัญหาที่ควรจัดการก่อน หลังมีรัฐบาลใหม่นั้น คงไม่มีเรื่องไหนที่ต้องทำก่อน เพราะปัญหาทุกปัญหามารอหน้าทำเนียบฯ แต่ปัญหาใหญ่คือปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาความมั่นคงทางการเมือง เพราะนั่นเป็นตัววัดเสถียรภาพของรัฐไทย
ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่าในระยะ 20 ปีข้างหน้าจะมีการทำรัฐประหารอีกหรือไม่ นาย
สุรชาติ กล่าวว่า ยังมีความหวังให้ฝ่ายขวายกเลิกรัฐประหาร ลงจากรถถังแล้วขึ้นรถหาเสียง วันนี้เชื่อว่าทหารคนรุ่นใหม่เริ่มไม่อยากอยู่กับการเมือง เพราะมองว่าเป็นภาระ ดังนั้น การทำรัฐประหารหรือไม่นั้นให้ไปถามหมอดู เพราะเราจะเห็นได้ว่าเวลาเขาจะทำรัฐประหาร เขาก็จะไปถามหมอดู
ด้าน นาย
ธงทอง จันทรางสุ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอดีตคณบดี กล่าวถึง ยุติ-ธรรม ในการเมือง ว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ความเป็นธรรมยุติแล้ว เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะตัวกฎหมาย ความเป็นธรรมไม่ใช่ของง่ายที่จะพิสูจน์ว่า เป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม ประชาชนควรมีส่วนร่วมในการจัดทำกฎหมาย หนทางหนึ่งคือให้ประชาชนเห็นชอบในการเลือกนโยบายนั้นๆ เช่น การเกณฑ์ทหารให้สมัครใจ หวังว่ารัฐบาลเริ่มต้นขึ้นแล้วก็ควรจะทำเรื่องเหล่านี้
รัฐธรรมนูญปัจจุบัน กระบวนการได้มาคือฉ้อฉล การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นโจทย์ใหญ่ ไม่ควรจะทำงานในสภาร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น ควรมีกระบวนการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม วันนี้อยากให้มี สสร. มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศ ฟังแล้วไพเราะมาก แต่จะได้อะไรต่างจาก สส. เพราะพรรคการเมืองก็โยงใยไปสู่สภาที่ว่านั้นอยู่ดี จึงควรคิดกระบวนการให้รอบคอบ อยากให้มีความชัดเจนมากขึ้นกว่านี้ ต้องเป็นเนื้อหาที่ประชาชนคาดหวังได้ว่าเป็นประโยชน์ของเขา และความเร็วความช้า กฎหมายดี แต่ 10 ปีเสร็จไม่ต้องพูดก็ได้
กระบวนการบังคับใช้กฎหมาย เรามีตัวละครอยู่ในกระบวนการนี้มาก เช่น กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ตำรวจ อัยการ ศาล ราชทัณฑ์ บังคับคดี สิ่งเหล่านี้ภาษาไพเราะคือเรายังมีพื้นที่ที่พัฒนาได้อีกมาก แต่ภาษาหยาบคายคือเรายังห่วยอยู่ เช่น ตำรวจ ทุกคนอยากวิ่งหาอำนาจส่วนกลาง แต่คิดว่าเราไม่ควรมีตำรวจประเทศอย่างเดียว ควรจะมีตำรวจที่บังคับใช้กฎหมายท้องถิ่น
“
คนมีสตางค์ได้เปรียบ คนที่มีปัญญาจ้างทนายที่มีฝีมือได้ก็ต้องเป็นคนมีสตางค์ เรื่องของประกันตัว คนมีสตางค์ได้เปรียบ และคนธรรมดาไม่รู้ว่าตัวเองจะพิทักษ์สิทธิของตัวเองได้แค่ไหน” นาย
ธงทอง กล่าว
บุคลากรในองค์กรอิสระทั้งหลายเป็นอิสระจากความยุติธรรมมาก ตนไม่คิดว่าสิ่งที่เห็นทุกวันนี้มั่นใจได้ว่าบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม หรือคนในองค์กรอิสระทั้งหลายเที่ยงธรรม และรับประกันเรื่องความปราศจากอคติได้ การเข้าสู่ตำแหน่งต่างๆ มีปัญหา เพราะเราไปยึดโยงกับวุฒิสภา และวุฒิสภาก็มีปัญหาในตัวเอง ตนต้องคิดว่าทบทวนกันใหม่
“
ส่วนการบ้านที่จะฝากรัฐบาลใหม่ ถ้าเราปฏิรูปกองทัพ ปฏิรูปการศึกษาได้ ต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ซึ่งต้องเป็นการบูรณาการข้ามกระทรวง อย่างน้อยกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงยุติธรรม ข้ามไปถึงองค์กรตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงศาล อัยการที่อยู่ใต้ฝ่ายบริหาร แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เคยอยู่บนโต๊ะเดียวกันเลย เราเคยยอมรับหรือไม่ว่ากระบวนการยุติธรรมยังมีพื้นที่ต้องพัฒนาอีกมาก” นาย
ธงทอง กล่าว
สัมภาษณ์พิเศษ “ใบตองแห้ง”- เชื่อหลังตั้งครม.“เพื่อไทย”ตั้งใจที่จะวางแผนอยู่ในอำนาจยาว
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4143593
“ใบตองแห้ง” อธึกกิต แสวงสุข คอลัมน์นิสต์การเมือง ชี้ “
เพื่อไทย” มีความยืดหยุ่นในการบริหารงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่การอ้างการจัดตั้งรัฐบาลเป็นการต่อสู้ 2 แนวทาง อาจจะทำให้ “
เพื่อไทย”เสียความนิยมจากประชาชนไป เชื่อหลังตั้งครม. รัฐบาล“
เพื่อไทย” จะเดินหน้าฝ่าวิกฤตเพื่อที่จะอยู่ในอำนาจต่อไป ติดตามชมรายละเอียดทั้งหมดจากคลิปด้านล่างนี้
เช็กเลย 20 อุตฯไทยจุก! โดนสินค้าจีนถล่มยอดนำเข้าพุ่งกระฉูด ชง ‘เศรษฐา’ แก้ปัญหา
https://www.matichon.co.th/economy/news_4143426
เช็กเลย 20 อุตฯไทยจุก! โดนสินค้าจีนถล่ม ยอดนำเข้าพุ่งกระฉูด ชง ‘เศรษฐา’ แก้ปัญหา
ความคืบหน้ากรณีสินค้าจีนกำลังตีตลาดไทยอย่างหนัก โดย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) พบว่ามีถึง 20 อุตสาหกรรม จาก 45 อุตสาหกรรมทั่วประเทศ ที่ได้รับกระทบมากจนถึงขั้นรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ที่ธุรกิจมีความเปราะบาง สาเหตุหลักมาจากการที่ตลาดโลกที่ซื้อสินค้าจีนมีออเดอร์ชะลอตัว และเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร ขณะที่การผลิตสินค้าเท่าเดิม เมื่อซัพพลายล้นจึงหาตลาดรองรับ ส่วนหนึ่งจึงกระจายเข้ามาในประเทศไทยมากผิดปกติ ซึ่งสินค้ามีราคาถูกกว่าไทย ทำให้ผู้ผลิตไทยได้รับผลกระทบเต็มๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม จนเมื่อเร็วๆ นี้ มีการประชุมร่วมทั้ง 45 อุตสาหกรรมถึงความเดือดร้อนดังกล่าว
ล่าสุดวันที่ 23 สิงหาคม นาย
เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ให้ข้อมูลว่า กว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้ง 20 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการที่สินค้าจีนเข้ามาตีตลาด อาทิ อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมอะลูมิเนียม อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมเม็ดพลาสติก อุตสาหกรรมเซรามิก ได้เดินหน้ารวบรวมข้อมูล ตัวเลขรายอุตสาหกรรม ปริมาณนำเข้า ขณะนี้ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว พบว่าตัวเลขนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ โดยส.อ.ท.จะนำเสนอข้อมูลดังกล่าวต่อรัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมโดยด่วน
ข้อมูลรายอุตสาหกรรมเป็นดังนี้
- อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากสินค้าจีนตีตลาด อัตรานำเข้าสินค้าจากจีนขยายตัวมากกว่า 10%ประกอบด้วย
1.เครื่องจักรกลโลหะการ 2.เครื่องจักรกลการเกษตร 3.ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ 4.เฟอร์นิเจอร์ 5.เครื่องมือแพทย์ 6.เคมี 7.แก้วและกระจก 8.อาหารและเครื่องดื่ม(เนื้อสัตว์) 9.อัญมณีและเครื่องประดับ 10.เยื่อและกระดาษ 11.การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ 12.ยานยนต์ 13.ชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ 14.ไม้อัด ไม้บาง 15.เซรามิก 16.หัตกรรมสร้างสรรค์ 17.หล่อโหละ 18.เหล็ก
- อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากสินค้าจีนตีตลาด อัตรานำเข้าสินค้าจากจีนขยายตัว 5-10%
ประกอบด้วย 1.พลาสติก 2.ปิโตรเคมี
(รายละเอียดอยู่ในข่าวครับ)
JJNY : 5in1 ‘รัฐ ลวง ลึก’│สัมภาษณ์พิเศษ“ใบตองแห้ง”│20 อุตฯจุก! โดนสินค้าจีนถล่ม│ปชช.ขอนายกฯป้ายแดง│รัสเซียผวาโดรนชนตึก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7829718
มติชนจัดเวที “รัฐ ลวง ลึก” ด้าน นักวิชาการ ชี้ประเทศติดหล่มมากว่าร้อยปี ห่วง “เศรษฐา” เจอปัญหาใครๆ ก็อยากนั่งรมต. ฝากการบ้านรัฐบาลใหม่
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2566 ที่โรงแรงพูลแมน คิงเพาเวอร์ ซอยรางน้ำ กรุงเทพมหานคร หนังสือพิมพ์มติชนเปิดเวที Talks for Thailand รัฐ ลวง ลึก โดยเอาปัญหาประเทศมาตีแผ่ เล่าเรื่องลวงและลึกที่หลบเร้นสายตาประชาชน
โดยนายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระด้านรัฐศาสตร์ ได้กล่าวในหัวข้อการเมืองติดหล่ม ว่า วันนี้การเมืองเราเป็นการเมืองที่สลับข้างกัน เป็นรัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ที่ผ่านมาประเทศเราติดหล่มนานกว่า 100 ปีแล้ว โดยประเทศติดอยู่ที่การจัดสรรอำนาจของคนในประเทศ
เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับประเทศไทย ก็มีคนตั้งข้อสงสัยว่ามีการดีลกันหรือไม่ และเมื่อวานที่มีการโหวตนายกฯ เหมือนมีการดีลระหว่างนายทักษิณกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ เพราะคนของพล.อ.ประยุทธ์ โหวตเห็นชอบให้นายเศรษฐา ทั้งที่จะเป็นการดีลกันกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มากกว่า จนทำให้พล.อ.ประวิตร ไม่มาร่วมประชุมโหวตนายกฯ ณ วันนี้การเมืองไทยใครที่จะชนะคือคนที่จะต้องมาสร้างการเมืองที่ดี และมาทำให้คนมองไปข้างหน้าแล้วมีอนาคต ซึ่งโจทย์ใหญ่ 2 ข้อนี้ไม่มีทางเปลี่ยน
นายศิโรตม์ กล่าวว่า พรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นที่หนึ่งอย่างพรรคก้าวไกลนั้น ตอนนี้เขาคงมีสีหน้าที่มองว่าอนาคตการเมืองเขาจะเป็นอย่างไร รวมถึงเรื่องยุบพรรค ซึ่งการเลือกตั้งไม่สามารถนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลได้ ทุกวันนี้คนคิดว่าประเทศนี้มีดีลลับมากเกินไปแล้ว และเป็นดีลที่หาเหตุไม่เจอ เมื่อเป็นเช่นนี้ต้องกลับมาถามว่าประเทศนี้มีระบบหรือไม่ ซึ่งน่ากังวลถ้าเราไม่มีระบบ และคงเป็นอันตรายมาก
ด้าน นายสุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวในหัวข้อ ลับ ลวง ล่อ การเมืองไทย ว่า หลายคนมองว่าการเมืองไทยไม่ก้าวหน้า ก็พวกคุณมองไปไกลเกิน เอาประเทศเราไปเทียบกับสหรัฐอเมริกา ตนว่านายกรัฐมนตรีของเมืองไทยนั้นเหมือนถูกสาป ว่าเมื่อขึ้นเป็นนายกฯ ดีๆ แล้วก็เสียผู้เสียคน หลายคนถามว่านักการเมืองมีอุดมการณ์หรือไม่ ก็คงต้องถามกลับว่าอุดมการณ์กินได้ไหม มีไปทำไม
วันนี้เมื่อนักการเมืองเปลี่ยนไปก็จะอ้างว่าสถานการณ์เปลี่ยนบ้าง ล่าสุดบอกว่าเป็นเทคนิคหาเสียง แต่คำเดียวใหญ่ๆ คือโกหก ทั้งนี้ ตนเป็นห่วงนายเศรษฐา ทวีสิน ในการตั้งรัฐบาล เพราะนักการเมืองอยากเป็นรัฐมนตรีมันจะมีปัญหาตรงนี้เลย
“คนเป็นนักการเมืองต้องหยิ่งในตัว จนเขาเปรียบให้เป็นเสมือน เสือ สิงห์ กระทิง แต่วันนี้ทำไมมาเป็นลิง มากินกล้วยเสียแล้ว ผมว่านักการเมืองดีๆ มีเยอะ เพียงแต่คนดังๆ นั้นไม่ค่อยจะดี” นายสุขุม กล่าว
ด้าน นางนันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก กล่าวว่า เราได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นนายเศรษฐา ดูแล้วเหมือนละครหลังข่าวที่ชื่อเรื่อง “รัฐบาลกายแก้ว” ตอนแรกยังคิดว่าจะได้พระเอกที่ชื่อ “ยืนยังเซ” แต่ก็เกือบได้แล้ว วันนี้มีคนไปว่าพรรคเขาตระบัดสัตย์ แต่เชื่อหรือไม่ว่าเขาช่วยเราปิดสวิตช์ 3 ป.แล้ว นั่นคือ “ประชาชน ประเทศ ประชาธิปไตย”
นายสุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงความมั่นคงหลงทิศ ว่า วันนี้โลกกลับเข้าสู่งครามเย็นอีกยุคหนึ่ง และรัฐไทยกำลังเผชิญกับสงครามเย็นครั้งใหม่ มีผลกระทบความมั่นคงในรัฐไทยแน่ เราจะถูกบังคับให้เลือกข้าง วันนี้วิกฤตเศรษฐกิจหนักมาก อย่างไรก็ตาม การเมืองโลกในวันนี้ การชนะขาดไม่ได้หมายถึงว่าชนะแล้วได้จัดตั้งรัฐบาล แต่จะเป็นรัฐบาลผสม
ส่วนปัญหาที่ควรจัดการก่อน หลังมีรัฐบาลใหม่นั้น คงไม่มีเรื่องไหนที่ต้องทำก่อน เพราะปัญหาทุกปัญหามารอหน้าทำเนียบฯ แต่ปัญหาใหญ่คือปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาความมั่นคงทางการเมือง เพราะนั่นเป็นตัววัดเสถียรภาพของรัฐไทย
ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่าในระยะ 20 ปีข้างหน้าจะมีการทำรัฐประหารอีกหรือไม่ นายสุรชาติ กล่าวว่า ยังมีความหวังให้ฝ่ายขวายกเลิกรัฐประหาร ลงจากรถถังแล้วขึ้นรถหาเสียง วันนี้เชื่อว่าทหารคนรุ่นใหม่เริ่มไม่อยากอยู่กับการเมือง เพราะมองว่าเป็นภาระ ดังนั้น การทำรัฐประหารหรือไม่นั้นให้ไปถามหมอดู เพราะเราจะเห็นได้ว่าเวลาเขาจะทำรัฐประหาร เขาก็จะไปถามหมอดู
ด้าน นายธงทอง จันทรางสุ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอดีตคณบดี กล่าวถึง ยุติ-ธรรม ในการเมือง ว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ความเป็นธรรมยุติแล้ว เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะตัวกฎหมาย ความเป็นธรรมไม่ใช่ของง่ายที่จะพิสูจน์ว่า เป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม ประชาชนควรมีส่วนร่วมในการจัดทำกฎหมาย หนทางหนึ่งคือให้ประชาชนเห็นชอบในการเลือกนโยบายนั้นๆ เช่น การเกณฑ์ทหารให้สมัครใจ หวังว่ารัฐบาลเริ่มต้นขึ้นแล้วก็ควรจะทำเรื่องเหล่านี้
รัฐธรรมนูญปัจจุบัน กระบวนการได้มาคือฉ้อฉล การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นโจทย์ใหญ่ ไม่ควรจะทำงานในสภาร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น ควรมีกระบวนการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม วันนี้อยากให้มี สสร. มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศ ฟังแล้วไพเราะมาก แต่จะได้อะไรต่างจาก สส. เพราะพรรคการเมืองก็โยงใยไปสู่สภาที่ว่านั้นอยู่ดี จึงควรคิดกระบวนการให้รอบคอบ อยากให้มีความชัดเจนมากขึ้นกว่านี้ ต้องเป็นเนื้อหาที่ประชาชนคาดหวังได้ว่าเป็นประโยชน์ของเขา และความเร็วความช้า กฎหมายดี แต่ 10 ปีเสร็จไม่ต้องพูดก็ได้
กระบวนการบังคับใช้กฎหมาย เรามีตัวละครอยู่ในกระบวนการนี้มาก เช่น กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ตำรวจ อัยการ ศาล ราชทัณฑ์ บังคับคดี สิ่งเหล่านี้ภาษาไพเราะคือเรายังมีพื้นที่ที่พัฒนาได้อีกมาก แต่ภาษาหยาบคายคือเรายังห่วยอยู่ เช่น ตำรวจ ทุกคนอยากวิ่งหาอำนาจส่วนกลาง แต่คิดว่าเราไม่ควรมีตำรวจประเทศอย่างเดียว ควรจะมีตำรวจที่บังคับใช้กฎหมายท้องถิ่น
“คนมีสตางค์ได้เปรียบ คนที่มีปัญญาจ้างทนายที่มีฝีมือได้ก็ต้องเป็นคนมีสตางค์ เรื่องของประกันตัว คนมีสตางค์ได้เปรียบ และคนธรรมดาไม่รู้ว่าตัวเองจะพิทักษ์สิทธิของตัวเองได้แค่ไหน” นายธงทอง กล่าว
บุคลากรในองค์กรอิสระทั้งหลายเป็นอิสระจากความยุติธรรมมาก ตนไม่คิดว่าสิ่งที่เห็นทุกวันนี้มั่นใจได้ว่าบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม หรือคนในองค์กรอิสระทั้งหลายเที่ยงธรรม และรับประกันเรื่องความปราศจากอคติได้ การเข้าสู่ตำแหน่งต่างๆ มีปัญหา เพราะเราไปยึดโยงกับวุฒิสภา และวุฒิสภาก็มีปัญหาในตัวเอง ตนต้องคิดว่าทบทวนกันใหม่
“ส่วนการบ้านที่จะฝากรัฐบาลใหม่ ถ้าเราปฏิรูปกองทัพ ปฏิรูปการศึกษาได้ ต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ซึ่งต้องเป็นการบูรณาการข้ามกระทรวง อย่างน้อยกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงยุติธรรม ข้ามไปถึงองค์กรตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงศาล อัยการที่อยู่ใต้ฝ่ายบริหาร แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เคยอยู่บนโต๊ะเดียวกันเลย เราเคยยอมรับหรือไม่ว่ากระบวนการยุติธรรมยังมีพื้นที่ต้องพัฒนาอีกมาก” นายธงทอง กล่าว
สัมภาษณ์พิเศษ “ใบตองแห้ง”- เชื่อหลังตั้งครม.“เพื่อไทย”ตั้งใจที่จะวางแผนอยู่ในอำนาจยาว
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4143593
“ใบตองแห้ง” อธึกกิต แสวงสุข คอลัมน์นิสต์การเมือง ชี้ “เพื่อไทย” มีความยืดหยุ่นในการบริหารงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่การอ้างการจัดตั้งรัฐบาลเป็นการต่อสู้ 2 แนวทาง อาจจะทำให้ “เพื่อไทย”เสียความนิยมจากประชาชนไป เชื่อหลังตั้งครม. รัฐบาล“เพื่อไทย” จะเดินหน้าฝ่าวิกฤตเพื่อที่จะอยู่ในอำนาจต่อไป ติดตามชมรายละเอียดทั้งหมดจากคลิปด้านล่างนี้
เช็กเลย 20 อุตฯไทยจุก! โดนสินค้าจีนถล่มยอดนำเข้าพุ่งกระฉูด ชง ‘เศรษฐา’ แก้ปัญหา
https://www.matichon.co.th/economy/news_4143426
เช็กเลย 20 อุตฯไทยจุก! โดนสินค้าจีนถล่ม ยอดนำเข้าพุ่งกระฉูด ชง ‘เศรษฐา’ แก้ปัญหา
ความคืบหน้ากรณีสินค้าจีนกำลังตีตลาดไทยอย่างหนัก โดย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) พบว่ามีถึง 20 อุตสาหกรรม จาก 45 อุตสาหกรรมทั่วประเทศ ที่ได้รับกระทบมากจนถึงขั้นรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ที่ธุรกิจมีความเปราะบาง สาเหตุหลักมาจากการที่ตลาดโลกที่ซื้อสินค้าจีนมีออเดอร์ชะลอตัว และเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร ขณะที่การผลิตสินค้าเท่าเดิม เมื่อซัพพลายล้นจึงหาตลาดรองรับ ส่วนหนึ่งจึงกระจายเข้ามาในประเทศไทยมากผิดปกติ ซึ่งสินค้ามีราคาถูกกว่าไทย ทำให้ผู้ผลิตไทยได้รับผลกระทบเต็มๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม จนเมื่อเร็วๆ นี้ มีการประชุมร่วมทั้ง 45 อุตสาหกรรมถึงความเดือดร้อนดังกล่าว
ล่าสุดวันที่ 23 สิงหาคม นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ให้ข้อมูลว่า กว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้ง 20 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการที่สินค้าจีนเข้ามาตีตลาด อาทิ อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมอะลูมิเนียม อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมเม็ดพลาสติก อุตสาหกรรมเซรามิก ได้เดินหน้ารวบรวมข้อมูล ตัวเลขรายอุตสาหกรรม ปริมาณนำเข้า ขณะนี้ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว พบว่าตัวเลขนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ โดยส.อ.ท.จะนำเสนอข้อมูลดังกล่าวต่อรัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมโดยด่วน
ข้อมูลรายอุตสาหกรรมเป็นดังนี้
- อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากสินค้าจีนตีตลาด อัตรานำเข้าสินค้าจากจีนขยายตัวมากกว่า 10%ประกอบด้วย
1.เครื่องจักรกลโลหะการ 2.เครื่องจักรกลการเกษตร 3.ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ 4.เฟอร์นิเจอร์ 5.เครื่องมือแพทย์ 6.เคมี 7.แก้วและกระจก 8.อาหารและเครื่องดื่ม(เนื้อสัตว์) 9.อัญมณีและเครื่องประดับ 10.เยื่อและกระดาษ 11.การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ 12.ยานยนต์ 13.ชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ 14.ไม้อัด ไม้บาง 15.เซรามิก 16.หัตกรรมสร้างสรรค์ 17.หล่อโหละ 18.เหล็ก
- อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากสินค้าจีนตีตลาด อัตรานำเข้าสินค้าจากจีนขยายตัว 5-10%
ประกอบด้วย 1.พลาสติก 2.ปิโตรเคมี
(รายละเอียดอยู่ในข่าวครับ)