JJNY : นิด้าโพลชี้ “อุ๊งอิ๊ง”เหมาะกว่า│สมชัย แนะทางรอด หมออ๋อง│พิษณุโลก ข้าวกำลังยืนต้นตาย│ส.อ.ท. ขอโหวตนายกฯราบรื่น

“นิด้าโพล”ชี้ “อุ๊งอิ๊ง”เหมาะนั่งนายกฯมากกว่า”เศรษฐา”
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_600860/
 
 
“นิด้าโพล”ชี้ “อุ๊งอิ๊ง”เหมาะนั่งนายกฯมากกว่า”เศรษฐา” ไม่เห็นด้วยเพื่อไทยตั้งรัฐบาลสลายขั้ว มองเป็นคู่แข่งทางการเมืองกับก้าวไกล
 
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “เรื่องวุ่น ๆ ของพรรคเพื่อไทย” โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคม 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ
 
รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง โดยเมื่อถามประชาชนถึงการเลือกพรรคเพื่อไทยตั้งแต่มีสิทธิเลือกตั้ง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 39.62 ระบุว่า ไม่เคยเลือกพรรคเพื่อไทย (หรือพรรคไทยรักไทย หรือพรรคพลังประชาชน) รองลงมา ร้อยละ 33.13 ระบุว่า เคยเลือก รวมถึงในการเลือกตั้งเมื่อ 14 พ.ค. 2566 ร้อยละ 26.72 ระบุว่า เคยเลือก แต่ไม่ได้เลือกในการเลือกตั้งเมื่อ 14 พ.ค. 2566 และร้อยละ 0.53 ระบุว่า ยังไม่เคยไปเลือกตั้งเลย
  
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อการจัดตั้งรัฐบาลพิเศษ “สลายขั้ว” ของพรรคเพื่อไทย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 47.71 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 19.47 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 16.79 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย และร้อยละ 15.11 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย
 
ส่วนความคิดเห็นของประชาชนต่อบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 38.63 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รองลงมา ร้อยละ 36.56 ระบุว่าเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน ร้อยละ 8.47 ระบุว่าเป็น นายชัยเกษม นิติสิริและร้อยละ 16.34 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
 
ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลในขณะนี้ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 49.85 ระบุว่า เป็นคู่แข่งทางการเมืองที่สำคัญต่อกัน รองลงมา ร้อยละ 27.33 ระบุว่า เป็นแค่คนรู้จักกัน และร้อยละ 20.99 ระบุว่า เป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน



สมชัย แนะทางรอด หมออ๋อง แก้ไขปมร้อน เลี้ยงหมูกระทะ แม่บ้านสภา
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7823102

สมชัย แนะทางรอด หมออ๋อง แก้ไขปมร้อน เลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านสภา ชี้หากพบว่าผิด เป็นความผิดทั้งอาญา แพ่ง และวินัย ทั้งเจ้านายและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
 
กรณี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานประธานสภาคนที่ 1 จัดเลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านสภา 370 คน ราคาหัวละ269 บาท ที่ร้านหมูกระทะย่านบางโพ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์
 
ต่อมา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. โพสต์ข้อความถึงเรื่องดังกล่าว ระบุว่า 

งบรับรอง มีวัตถุประสงค์การใช้ชัดเจน ต้องเป็นเพื่องานราชการ ไม่สามารถใช้ตามใจชอบได้
 
ระเบียบราชการมีอยู่ เจ้าหน้าที่ที่ดูแลสมควรทักท้วง หากใช้ไปแล้วก็ยังไม่จบ สตง. สามารถเข้ามาตรวจสอบได้เพราะเป็นเงินหลวง
การแก้ไข ไม่ยากครับ เอาเงินส่วนตัวมาจ่ายคืน ไม่ถือเป็นความผิด
 
ต่อมา นายสมชัย โพสต์อีกว่า 
 
เวลาทำงานที่ต้องใช้เงินราชการ เขาทำกันแบบนี้ งบมี เจ้านายอยากใช้รายการสร้างสรรค์เพื่อรับรองสักแสนนึง ก็บอกลูกน้องที่เป็นหน้าห้องให้ดำเนินการ หน้าห้องต้องถามทางการเงินว่า ใช้เงินก้อนดังกล่าวได้หรือไม่
 
การเงินตอบได้ก็ตอบ ตอบไม่ได้ต้องถามหัวหน้า ไล่ขึ้นไปถึงรองเลขา หรือ เลขาธิการ หากไม่ได้ ต้องแจ้งให้เจ้านายทราบเป็นลายลักษณ์อักษร หากเจ้านายยังอยากทำ ก็รับผิดเอง
 
แต่หากยังไม่มีการสอบถามแต่ใช้โดยพละการไปก่อน ถ้าจ่ายเงินส่วนตัว ก็เบิกไม่ได้ (ไม่เป็นความผิด) แต่หากเป็นเงินยืมของราชการไปใช้ ก็เบิกไม่ได้ ต้องเอาเงินส่วนตัวมาคืนเงินยืม (ไม่มีความผิด)
 
หากส่งหลักฐานเบิกแล้ว เบิกได้ รอ สตง. เข้ามาตรวจเป็นเรื่องเป็นราวครับ หากพบว่าผิด ถือเป็นความผิดทั้งอาญา แพ่ง และวินัย ต่อทั้งเจ้านายและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดครับ
 
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/845743473784939

https://www.facebook.com/somchaivision/posts/846136887078931
 


ชาวนาพิษณุโลกเดือดร้อนหนัก เจอภัยแล้ง ข้าวกำลังยืนต้นตายหลายหมื่นไร่
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7822937

ชาวนาพิษณุโลกเดือดร้อนหนัก เจอภัยแล้ง ข้าวกำลังยืนต้นตายหลายหมื่นไร่
 
วันที่ 19 ส.ค.66 น.ส.พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ สส.เขต 4 จ.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่ดูสถานการณ์ ต้นข้าวยืนต้นตายที่หมู่ 5 ต.วัดตายม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เหตุฝนทิ้งช่วงภัยแล้งส่งผลกระทบเกษตรกรปลูกข้าวเกือบ 100 ราย ได้รับความเดือดร้อน ทางชาวนาจึงได้ประสานกับ สส. เพื่อให้ช่วยเหลือ โดยมอบหนังสือผ่านไปถึงทางรัฐบาลอย่างเร่งด่วน
 
โดยพื้นที่เกษตรกรรม ต.วัดตายม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก จำนวน 27,671 ไร่ มีประชากร 1,742 ครัวเรือน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ผลผลิตทางการเกษตร ทำรายได้หลักให้แก่เกษตรกร คือ ผลผลิตข้าว เกษตรในพื้นที่ตำบลวัดตายม จะดำนาข้าวในช่วงเดือนมิถุนายนเป็นต้นมา โดยอาศัยแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร เช่น บึง หนองน้ำ คลองประโยชน์ และน้ำจากฤดูฝน เป็นหลัก
 
แต่เนื่องจากปัจจุบัน ปรากฏการณ์ เอลนีโญ ทำให้ฝนตกน้อย และฝนไม่ตกตามฤดูกาล เกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ขาดน้ำ เหี่ยวเฉา และแห้งตายจำนวนมาก ปัญหาดังกล่าวจึงหารือร่วมกับผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่นและตัวแทนเกษตรกร หาแนวทางในการแก้ไขปัญหา จึงขอความอนุเคราะห์จาก สส.เขต 4 พรรคเพื่อไทย ติดต่อขอฝนหลวง เพื่อบรรเทาภัยแล้ง และขอสร้างประตูน้ำที่หมู่ 6 เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม  จ.พิษณุโลก ซึ่งกั้นลำน้ำคลองชมพู เป็นตำบลสุดท้ายก่อนเข้า จ.พิจิตร เนื่องจากประตูน้ำเดิมสภาพทรุดโทรม ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้
 
นายบุญลือ โพศรีวงศ์ อดีตนายกเทศมนตรีเนินกุ่ม เป็นตัวแทนชาวบ้าน เปิดเผยว่า พื้นที่เกษตรกรรมใน 5 ตำบล คือ ต.วัดตายม ต.เนินกุ่ม ต.ท่าหมื่นราม ต.พันชาลี ต.หนองพระ และในพื้นที่ อ.เนินมะปราง พบว่า แปลงข้าวนาปีกำลังเสียหาย 150,000 ไร่เศษ ซึ่งไม่อยู่ในเขตชลประทาน ทำให้เกษตรกร 8,900 ครัวเรือนกำลังได้รับความ เดือดร้อน ไม่มีผลผลิตข้าวนาปี บางรายไถปลูกไป 2 ครั้งแล้วก็ยังไม่รอด ข้าวแห้ง เหี่ยวกำลังจะตาย นอกจากนี้ มันสำปะหลัง ข้าวโพด อ้อยก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ปี นี้ถือว่า เป็นปีแรก ที่ได้รับผลกระทบปรากฏการณ์เอลนีโญ ในช่วงเดียวกันของปีก่อน น้ำท่วมหัวคันนาไปแล้ว สาเหตุหลักๆคลองชมพู แห้งขอด ไม่มีน้ำหลากจาก อุทยาน ทุ่งแสลงหลวง
 
หลังจากนั้น น.ส.พิมพ์พิชชา ยังเดินทางไปที่ หมู่ 6 ต.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม เพื่อติดตามแก้ปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากลำน้ำคลองชมพูไม่มีน้ำ มีแต่วัชพืชเต็มไปหมด ซึ่งขึ้นเกาะประตูน้ำเนินกุ่มที่เก่าชำรุดทรุดโทรม ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ โดย น.ส.พิมพ์พิชชา ได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ชลประทาน ระบุว่า กรมชลประทานรับทราบปัญหาแล้ว ประตูน้ำเนินกุ่มอยู่ระหว่างกำลังออกแบบประตูน้ำใหม่ คาดว่าอีก 3 ปี บรรจุแผน เพื่อขอรับสนับสนุนงบประมาณต่อไป
ในส่วนพื้นที่ อ.เนินมะปราง เป็นแหล่งปลูกมะม่วง อินทผลัม ข้าว มันสำปะหลัง ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อ อ.บางกระทุ่ม ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งเช่นกัน ต้นข้าวหลายหมื่นไร่กำลังจะเสียหายอย่างหนัก
 
โดย น.ส.ชลธิชา ช่างประดิษฐ์ ประธานอำเภอเนินมะปราง ในฐานะตัวแทนเกษตรกร กลุ่มปลูกข้าว กลุ่มมะม่วงเพื่อการส่งออก กลุ่มข้าวโพด และพืชอื่นๆได้ขอการสนับสนุนจากศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนล่างไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ไม่สามารถดำเนินการทำฝนเทียมได้ เนื่องจากไม่มีงบประมาณ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่