How to ขอวิธีการอยู่ร่วมกับคนแก่หน่อยค่ะ ซึ่งตอนนี้เราตั้งครรภ์อยู่และมีภาวะโรคซึมเศร้าเข้ามาด้วย ซึ่งปกติก่อนตั้งครรภ์ก็รับษาอยู่ แต่ขอเทาความก่อนเราเคยมีประวัติแท้งลูกมาก่อนเพราะช่วงนั้นทำงานด้วยเครียดด้วยบวกกับป่วย แฟนจึงแนะนำให้กลับมาอยู่บ้าน พอเรากลับมาอยู่ต่างจังหวัด ก็ไม่มีใครอยู่บ้านมีแค่ปู่กับย่าเราที่อยู่ ซึ่งปู่กับย่าเรามีลูกกันหลายคนมีพ่อเราเป็นคนสุดท้อง ที่ต้องดูแลพ่อกับแม่ แต่ตอนนี้การดูแลตกมาอยู่ที่เรา ในขณะที่เราตั้งครรภ์ร่วมกับป่วยอยู่แล้วคุณหมอก็บอกให้เรางดกิจกรรมทุกอย่างที่เสี่ยงต่อการจะแท้งลูก
ซึ่งเราก็ใช้ชีวิตปกติเลยที่มาอยู่บ้านวันแรก ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าปู่กับย่า อาศัยอยู่บ้านยังไงนะ พอเรามาอยู่บ้าน เราก็ทำกับข้าวให้กิน แต่เขาไม่กินเขาเอาอาหารที่เราทำให้ไปเทให้หมา เรื่องแบบนี้ผ่านมาร่วมเดือนเราตัดสิ้นใจ คุยกับเขาว่าจะไม่ทำแล้วนะ ถ้าทำแล้วไม่กิน เรื่องนี้ก็ผ่านไปเข้าก็ไปเล่าบอกลูกบอกหลานสุดที่รักเขาว่าเราไม่ทำอะไรให้เขากิน เราก็เป็นคนไม่ดีอกตัญญูในสายตาพวกลูกๆเขา เราก็ปล่อยไป ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นเสมอๆ แต่เรื่องภายในบ้านจะมีเกิดขึ้นเสมอๆ เช่น -- เข้าห้องน้ำถ่ายหนักถ่ายเบาไม่เคยคิดจะราดน้ำหรือกดชักโครกเลย
-- เขาค่อนข้างหูตึง พอเราพูดเสียงดังก็หาว่าเราตะคอกใส
-- เปิดวิทยุ ทั้งวันทั้งคืน เช้าเปิดตั้งแต่ ตี 4 นั่น 6 ทุ่ม (เวลาเราบอกให้เขาลดเสียงเขาก็จะบอกว่ามีปัญญาอะไร เขาเป็นคนซื้อ เป็นคนจ่ายไฟเอง ซึ่งค่าน้ำ ค่าไฟเราแบ่งกัน )
-- เปิดน้ำปะปารดดินเล่น (ซึ่งค่าน้ำเราเป็นคนจ่ายพื้นที่บริเวณรอบบ้านประมาณ 3 ไร่ ก็รดจนชุ่มช่ำ)
-- เวลาเราสั่งของอะไรก็ช่าง ทุกครั้งที่เราไม่อยู่บ้าน เขาก็จะแอบเปิดของเราก่อนเสมอ
-- เราคนอยู่ดูแล ไม่เคยดีในสายตา พอลูกๆมาเยี่ยม ยืนเงิน 500บาทให้ 2 ปีก็พูดไม่จบ
-- เราทนกับ ประพฤติกรรมมากมายแบบนี้ มากกว่านี้ก็มี ตั้งแต่ ท้อง 2 เดือนจนตอนนี้ 8 เดือนแล้ว พยายามไม่เครียดไม่คิดมาก แต่ทุกครั้งที่ไปหาหมอ ก็ต้องนอนวัดความดันทุกครั้งไป
เราหาทางออกไม่ได้จริงๆ เรากลัวเรื่องแบบนี้จะมากระทบกับลูกที่กำลังจะลืมตาดูโลก ที่สภาพแวดล้อมแบบนี้
จะไปอยู่บ้านแฟน ก็ไม่ถูกกันกับพ่อแฟน
How to ขอวิธีการอยู่ร่วมกับคนแก่หน่อยค่ะ
ซึ่งเราก็ใช้ชีวิตปกติเลยที่มาอยู่บ้านวันแรก ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าปู่กับย่า อาศัยอยู่บ้านยังไงนะ พอเรามาอยู่บ้าน เราก็ทำกับข้าวให้กิน แต่เขาไม่กินเขาเอาอาหารที่เราทำให้ไปเทให้หมา เรื่องแบบนี้ผ่านมาร่วมเดือนเราตัดสิ้นใจ คุยกับเขาว่าจะไม่ทำแล้วนะ ถ้าทำแล้วไม่กิน เรื่องนี้ก็ผ่านไปเข้าก็ไปเล่าบอกลูกบอกหลานสุดที่รักเขาว่าเราไม่ทำอะไรให้เขากิน เราก็เป็นคนไม่ดีอกตัญญูในสายตาพวกลูกๆเขา เราก็ปล่อยไป ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นเสมอๆ แต่เรื่องภายในบ้านจะมีเกิดขึ้นเสมอๆ เช่น -- เข้าห้องน้ำถ่ายหนักถ่ายเบาไม่เคยคิดจะราดน้ำหรือกดชักโครกเลย
-- เขาค่อนข้างหูตึง พอเราพูดเสียงดังก็หาว่าเราตะคอกใส
-- เปิดวิทยุ ทั้งวันทั้งคืน เช้าเปิดตั้งแต่ ตี 4 นั่น 6 ทุ่ม (เวลาเราบอกให้เขาลดเสียงเขาก็จะบอกว่ามีปัญญาอะไร เขาเป็นคนซื้อ เป็นคนจ่ายไฟเอง ซึ่งค่าน้ำ ค่าไฟเราแบ่งกัน )
-- เปิดน้ำปะปารดดินเล่น (ซึ่งค่าน้ำเราเป็นคนจ่ายพื้นที่บริเวณรอบบ้านประมาณ 3 ไร่ ก็รดจนชุ่มช่ำ)
-- เวลาเราสั่งของอะไรก็ช่าง ทุกครั้งที่เราไม่อยู่บ้าน เขาก็จะแอบเปิดของเราก่อนเสมอ
-- เราคนอยู่ดูแล ไม่เคยดีในสายตา พอลูกๆมาเยี่ยม ยืนเงิน 500บาทให้ 2 ปีก็พูดไม่จบ
-- เราทนกับ ประพฤติกรรมมากมายแบบนี้ มากกว่านี้ก็มี ตั้งแต่ ท้อง 2 เดือนจนตอนนี้ 8 เดือนแล้ว พยายามไม่เครียดไม่คิดมาก แต่ทุกครั้งที่ไปหาหมอ ก็ต้องนอนวัดความดันทุกครั้งไป
เราหาทางออกไม่ได้จริงๆ เรากลัวเรื่องแบบนี้จะมากระทบกับลูกที่กำลังจะลืมตาดูโลก ที่สภาพแวดล้อมแบบนี้
จะไปอยู่บ้านแฟน ก็ไม่ถูกกันกับพ่อแฟน