สวัสดีค่ะ
คนที่ขายของออนไลน์ มีใครเจอปัญหาแบบนี้เหมือนเราบ้างมั้ยคะ?
- ช่วงที่ขายของได้แบบพีค ๆ ออเดอร์เข้าเยอะจนเราทำไม่ทัน
- ต้องนั่งเขียนใบปะหน้าเอง
- ต้องเช็คสินค้าซ้ำไปซ้ำมาหลาย ๆ รอบ เพราะกลัวข้อมูลผิดพลาด
- เลือกใช้ขนส่งไม่ถูก ไม่รู้ราคาค่าส่งเพราะว่าโปรมีเปลี่ยนตลอด
ยอมรับสมัยก่อนที่เราขายของแรก ๆ เราส่งของกับขนส่งเจ้าไหนก็ได้ค่ะ แต่พอเรามีออเดอร์เยอะมากขึ้น รู้สึกว่างานมันเริ่มล้นมือ บางทีทำไม่ทันเสียลูกค้าไปบ้างก็มีค่ะ ยิ่งถ้าเจอขนส่งที่ส่งของให้ลูกค้าช้าหรือของเสียหาย แทนที่เราจะได้กำไรหลายเป็นได้คำด่าจากลูกค้ามาแทนเฉยเลย
เราเลยรู้สึกว่า "ไม่ไหวแล้ว!" ก็เลยเริ่มศึกษาหาข้อมูลพวกระบบที่จะช่วยจัดการเรื่องพวกนี้ค่ะ พอศึกษาจริงจังก็ค้นพบว่ามีหลายแพลตฟอร์มให้เราเลือกใช้เยอะมาก ๆ เลยค่ะ แต่พอมานั่งเปรียบเทียบจริงจังก็ไปถูกใจกับระบบของ SHIPPOP Business ค่ะ จริง ๆ สมัยก่อนเราเคยลองใช้ระบบของ SHIPPOP นะคะ ระบบใช้งานง่ายค่ะ ไม่ซับซ้อนเลย แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีระบบ SHIPPOP business อยู่ด้วย เราก็เลยนั่งลองทำการเปรียบเทียบดูค่ะว่ามันมีความแตกต่างกันยังไง
ขอเสริมเกี่ยวกับระบบ SHIPPOP นิดนึง
เขาเป็นแพลตฟอร์มที่รวมหลายขนส่งไว้ในระบบเดียวค่ะ เราสามารถดูราคาค่าส่งของแต่ละเจ้าได้เลย เทียบราคาง่ายมาก แล้วก็มีระบบที่ช่วยแนะนำขนส่งให้กับด้วยนะคะ เราลองเทียบราคาค่าส่งในเว็บกับค่าส่งจากขนส่ง พบว่าส่งผ่าน SHIPPOP นั้นคุ้มมากกว่าจริง ๆ ค่ะ ช่วยเราประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะมาก ๆ
ข้อมูลที่เราลองเปรียบเทียบการใช้งาน SHIPPOP vs SHIPPOP Business
สำหรับตัวเราเองชอบแบบ Business มากเลยค่ะ เพราะว่ามีเครดิต ทำให้เราสามารถนำเงินไปหมุนกับธุรกิจในส่วนอื่น ๆ ได้ก่อนแล้วค่อยนำเงินมาจ่ายอีกทีตามวันเวลาที่บริษัทเรียกเก็บ รู้สึกว่าทำให้เราสามารถบริหารการเงินได้คล่องมากขึ้นค่ะ บวกกับค่าส่งที่ถูก แล้วก็มีทีมแอดมินคอยซัพพอร์ตด้วยค่ะ เวลาพัสดุเรามีปัญหาเราสามารถพิมพ์แจ้งผ่านระบบได้เลย หรือจะแจ้งแอดมินให้เขาดำเนินการให้เลย อันนี้ดีมากเลยค่ะ หมดเรื่องปวดหัวให้เราได้เยอะเลย แอดมินพูดจาน่ารักบริการเราดีมาก ๆ
ถ้าในการขนส่งถ้าขนส่งเจ้าไหนเกิดมีปัญหาขึ้นมา ก็สามารถเปลี่ยนขนส่งได้เลยในทันทีค่ะ ทำให้การขนส่งมีความต่อเนื่อง ไม่หยุดชะงัก ถือเป็นการแก้ไขปัญหาได้ดีทีเดียวค่ะ ทำให้เจ้าของธุรกิจไม่เสียโอกาสทางการขาย ลูกค้าก็ได้รับของภายในเวลาที่กำหนด Happy กันทั้ง 2 ฝ่ายเลย
SHIPPOP Business สมัครง่ายมากกกก พอเราส่งเอกสารให้ครบ รอแค่แปปเดียวก็เปิดระบบใช้งานได้เลยค่ะ สำหรับใครที่เจอปัญหาเหมือน ๆ กับเรา หรือสนใจอยากลองใช้ SHIPPOP ก็สามารถเข้าไปลองระบบกันได้ที่
ทดลองใช้ SHIPPOP
แต่ถ้าใครที่ส่งของเยอะๆ เราแนะนำว่าใช้บัญแบบ SHIPPOP Business จะคุ้มมากกว่าค่ะ ลองสมัครกันได้ที่
ทดลองใช้ Shippop Business
[SR] SHIPPOP Business ระบบขนส่งที่ใช้ง่ายและคุ้มที่สุด
คนที่ขายของออนไลน์ มีใครเจอปัญหาแบบนี้เหมือนเราบ้างมั้ยคะ?
- ช่วงที่ขายของได้แบบพีค ๆ ออเดอร์เข้าเยอะจนเราทำไม่ทัน
- ต้องนั่งเขียนใบปะหน้าเอง
- ต้องเช็คสินค้าซ้ำไปซ้ำมาหลาย ๆ รอบ เพราะกลัวข้อมูลผิดพลาด
- เลือกใช้ขนส่งไม่ถูก ไม่รู้ราคาค่าส่งเพราะว่าโปรมีเปลี่ยนตลอด
ยอมรับสมัยก่อนที่เราขายของแรก ๆ เราส่งของกับขนส่งเจ้าไหนก็ได้ค่ะ แต่พอเรามีออเดอร์เยอะมากขึ้น รู้สึกว่างานมันเริ่มล้นมือ บางทีทำไม่ทันเสียลูกค้าไปบ้างก็มีค่ะ ยิ่งถ้าเจอขนส่งที่ส่งของให้ลูกค้าช้าหรือของเสียหาย แทนที่เราจะได้กำไรหลายเป็นได้คำด่าจากลูกค้ามาแทนเฉยเลย
เราเลยรู้สึกว่า "ไม่ไหวแล้ว!" ก็เลยเริ่มศึกษาหาข้อมูลพวกระบบที่จะช่วยจัดการเรื่องพวกนี้ค่ะ พอศึกษาจริงจังก็ค้นพบว่ามีหลายแพลตฟอร์มให้เราเลือกใช้เยอะมาก ๆ เลยค่ะ แต่พอมานั่งเปรียบเทียบจริงจังก็ไปถูกใจกับระบบของ SHIPPOP Business ค่ะ จริง ๆ สมัยก่อนเราเคยลองใช้ระบบของ SHIPPOP นะคะ ระบบใช้งานง่ายค่ะ ไม่ซับซ้อนเลย แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีระบบ SHIPPOP business อยู่ด้วย เราก็เลยนั่งลองทำการเปรียบเทียบดูค่ะว่ามันมีความแตกต่างกันยังไง
ขอเสริมเกี่ยวกับระบบ SHIPPOP นิดนึง
เขาเป็นแพลตฟอร์มที่รวมหลายขนส่งไว้ในระบบเดียวค่ะ เราสามารถดูราคาค่าส่งของแต่ละเจ้าได้เลย เทียบราคาง่ายมาก แล้วก็มีระบบที่ช่วยแนะนำขนส่งให้กับด้วยนะคะ เราลองเทียบราคาค่าส่งในเว็บกับค่าส่งจากขนส่ง พบว่าส่งผ่าน SHIPPOP นั้นคุ้มมากกว่าจริง ๆ ค่ะ ช่วยเราประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะมาก ๆ
ข้อมูลที่เราลองเปรียบเทียบการใช้งาน SHIPPOP vs SHIPPOP Business
สำหรับตัวเราเองชอบแบบ Business มากเลยค่ะ เพราะว่ามีเครดิต ทำให้เราสามารถนำเงินไปหมุนกับธุรกิจในส่วนอื่น ๆ ได้ก่อนแล้วค่อยนำเงินมาจ่ายอีกทีตามวันเวลาที่บริษัทเรียกเก็บ รู้สึกว่าทำให้เราสามารถบริหารการเงินได้คล่องมากขึ้นค่ะ บวกกับค่าส่งที่ถูก แล้วก็มีทีมแอดมินคอยซัพพอร์ตด้วยค่ะ เวลาพัสดุเรามีปัญหาเราสามารถพิมพ์แจ้งผ่านระบบได้เลย หรือจะแจ้งแอดมินให้เขาดำเนินการให้เลย อันนี้ดีมากเลยค่ะ หมดเรื่องปวดหัวให้เราได้เยอะเลย แอดมินพูดจาน่ารักบริการเราดีมาก ๆ
ถ้าในการขนส่งถ้าขนส่งเจ้าไหนเกิดมีปัญหาขึ้นมา ก็สามารถเปลี่ยนขนส่งได้เลยในทันทีค่ะ ทำให้การขนส่งมีความต่อเนื่อง ไม่หยุดชะงัก ถือเป็นการแก้ไขปัญหาได้ดีทีเดียวค่ะ ทำให้เจ้าของธุรกิจไม่เสียโอกาสทางการขาย ลูกค้าก็ได้รับของภายในเวลาที่กำหนด Happy กันทั้ง 2 ฝ่ายเลย
SHIPPOP Business สมัครง่ายมากกกก พอเราส่งเอกสารให้ครบ รอแค่แปปเดียวก็เปิดระบบใช้งานได้เลยค่ะ สำหรับใครที่เจอปัญหาเหมือน ๆ กับเรา หรือสนใจอยากลองใช้ SHIPPOP ก็สามารถเข้าไปลองระบบกันได้ที่ ทดลองใช้ SHIPPOP
แต่ถ้าใครที่ส่งของเยอะๆ เราแนะนำว่าใช้บัญแบบ SHIPPOP Business จะคุ้มมากกว่าค่ะ ลองสมัครกันได้ที่ ทดลองใช้ Shippop Business
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้