การหลุดพ้นหรือนิพพานเป็นอย่างไร? อาการเป็นอย่างไร? หลุดพ้นแล้วรู้สึกอย่างไร?
หลายคนสงสัยคำถามเหล่านี้ ผมเป็นคนหนึ่งที่สงสัยเช่นกัน หาคำตอบที่เป็นไปได้หลายทาง
ทดลองคำตอบต่างๆ ที่น่าจะเป็นการหลุดพ้น เอาประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง
*** เนื้อหาไม่ได้เรียงลำดับตามเวลา แต่เรียงตามความลึกของสภาพธรรมเพื่อให้เข้าใจง่าย ***
✻ 1. หลุดพ้น = ความสงบร่มเย็น ✻
ชาติหนึ่งเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิต (สวรรค์ชั้นที่ 4) ช่างเป็นสถานที่ที่เงียบสงบดีเหลือเกิน
ความรู้สึกคล้ายคนไปอยู่ตามป่าคนเดียว จิตใจสงบจากบรรยากาศ ร่มเย็น เบาสบาย
คล้ายฤๅษีเข้าป่าไหม ไม่เชิงเสียทีเดียว คล้ายชาวบ้านที่อาศัยแบบชนบทเรียบง่ายมากกว่า
ว่าแต่มีแค่นี้เองเหรอ? ไม่ต่างจากมนุษย์เท่าไรเลยนะ
✻ 2. หลุดพ้น = ความสุขสุดยอด เมืองขาวเมืองแก้ว ✻
ชาติหนึ่งเกิดบนสวรรค์ชั้นนิมมานรดี (สวรรค์ชั้นที่ 5) อย่างกับโลกในนิยายแน่ะ
อาศัยในปราสาทขาวโพลนหลังใหญ่ สวยบริสุทธิ์อลังการ ที่เขาว่านิพพานเมืองแก้วคือแบบนี้เองเหรอ
ชีวิตสบายมาก อยากได้อะไรเสกได้หมด สุขบวกสบายกว่ามนุษย์มากเลย
ยกตัวอย่าง มนุษย์ดูหนังนานทุกข์จากการปวดตา แต่สวรรค์ชั้นนี้เสกปุ๊บเหมือนดูหนังจบปั๊บในทันที
อยากปุ๊บ เสกปั๊บ สุขทันที ไม่ต้องรอ ไม่ต้องพยายาม แต่อยู่ไปนานๆ เริ่มเบื่อสุขที่ได้มาง่ายเกินไป
✻ 3. หลุดพ้น = ไม่มีจิตใจ ✻
ชาติหนึ่งเกิดเป็นอสัญญีสัตตาพรหม ไม่มีจิตใจ ไม่มีความคิด ไม่มีความรู้สึก
เป็นเหมือนรูปปั้นนิ่งตลอดชาติ ไม่มีแม้กระทั่งความรู้สึกเฉยหรือเบื่อรูปปั้น เพราะไม่มีจิตใจเลย
เรียกว่าก้อนหินเลยยังได้ ระลึกชาติมาตรงนี้เมื่อไรรู้สึก "อะไรเนี่ย" ทุกที มันดูงี่เง่ามาก
✻ 4. หลุดพ้น = จิตว่างไม่รับรู้อะไรเลย ✻
ชาติหนึ่งเกิดเป็นพรหมชั้นเนวสัญญานาสัญญายตนะ (อรูปพรหมชั้นสูงสุด)
โลกทั้งใบมีจิตเราอย่างเดียว ไม่มีสิ่งอื่น ไม่สิ ไม่มีโลกด้วยซ้ำ มีแค่จิตเราอย่างเดียวเลย
รู้ว่าจิตเรามีอยู่ แต่ไม่รับรู้สิ่งอื่น รับรู้ไม่ได้ด้วยเพราะไม่มีอะไรให้บัญญัติเพื่อรับรู้สิ่งต่างๆ
เป็นความโดดเดี่ยวในโลก ไม่สิ แม้แต่ความโดดเดี่ยวก็บัญญัติไม่ได้ ไม่มีโลกด้วย
มีเพียงจิตเราอย่างเดียวจริงๆ สำหรับมนุษย์มองว่าสติในภพภูมินี้คือแทบไม่มีสติเลย มีสติเหมือนไม่มีแต่ก็มี
อ่านเพิ่มเติมที่กระทู้ "เนวสัญญานาสัญญายตนะ อย่างละเอียด (แถมสัญญาเวทยิตนิโรธ)"
https://ppantip.com/topic/41921782
✻ 5. หลุดพ้น = สุขปนกลาง ฉันคือผู้วิเศษ ✻
ชาติหนึ่งเกิดเป็นมนุษย์ เข้าสมาธิจนพบความสุขปนกับอุเบกขา (เฉยๆ กลางๆ)
สุขปนกลางแบบนี้สุดยอดเลย นี่ฉันบรรลุอรหันต์แล้วเหรอเนี่ย ใช่ ฉันคือผู้วิเศษ
เดินออกไปนอกบ้าน คิดในใจ พวกนายเคารพฉันซะ ฉันเป็นอรหันต์นะ อย่าทำบาปกับฉันนะ
เคลิ้มแบบนี้หลายวัน จนวันหนึ่งหายไปเอง อ่าว สุขกับอุเบกขาธรรมดาเองนี่ (วิปัสสนูปกิเลส)
✻ 6. หลุดพ้น = ไม่มีตัวตน ✻
ชาตินี้เกิดเป็นมนุษย์ เคยคิดว่าการบรรลุธรรมต้องเข้าฌานเก่งๆ พยายามเข้าฌานจนเหนื่อย
ออกจากฌาน ใจปล่อยวาง เกิดเอ๊ะขึ้นมา ตั้งแต่เกิดจนถึงวันนี้มีเพียงขันธ์ห้าเกิดดับไม่ใช่เหรอ
ไม่มีตัวเราในทุกที่และทุกเวลา ไม่มีเลย ความเอ๊ะนั้นสลัดคืนความยึดมั่นขันธ์ห้าอย่างหมดสิ้น
ทุกอย่างสิ้นสุดตรงนั้นเลย ไม่มีอะไรให้หาต่อ ไม่ใช่เป้าหมายสำเร็จแล้ว แต่เป้าหมายหายไปต่างหาก
ต่างจากตอนวิปัสสนูปกิเลส ไม่ใช่แค่รู้สึกอย่างเดียว แต่ธรรมทุกอย่างสอดคล้องอย่างเป็นธรรมดามาก
ประสบการณ์ทดลอง "หลุดพ้น" แต่ละแบบ เล่าให้ฟัง
หลายคนสงสัยคำถามเหล่านี้ ผมเป็นคนหนึ่งที่สงสัยเช่นกัน หาคำตอบที่เป็นไปได้หลายทาง
ทดลองคำตอบต่างๆ ที่น่าจะเป็นการหลุดพ้น เอาประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง
*** เนื้อหาไม่ได้เรียงลำดับตามเวลา แต่เรียงตามความลึกของสภาพธรรมเพื่อให้เข้าใจง่าย ***
✻ 1. หลุดพ้น = ความสงบร่มเย็น ✻
ชาติหนึ่งเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิต (สวรรค์ชั้นที่ 4) ช่างเป็นสถานที่ที่เงียบสงบดีเหลือเกิน
ความรู้สึกคล้ายคนไปอยู่ตามป่าคนเดียว จิตใจสงบจากบรรยากาศ ร่มเย็น เบาสบาย
คล้ายฤๅษีเข้าป่าไหม ไม่เชิงเสียทีเดียว คล้ายชาวบ้านที่อาศัยแบบชนบทเรียบง่ายมากกว่า
ว่าแต่มีแค่นี้เองเหรอ? ไม่ต่างจากมนุษย์เท่าไรเลยนะ
✻ 2. หลุดพ้น = ความสุขสุดยอด เมืองขาวเมืองแก้ว ✻
ชาติหนึ่งเกิดบนสวรรค์ชั้นนิมมานรดี (สวรรค์ชั้นที่ 5) อย่างกับโลกในนิยายแน่ะ
อาศัยในปราสาทขาวโพลนหลังใหญ่ สวยบริสุทธิ์อลังการ ที่เขาว่านิพพานเมืองแก้วคือแบบนี้เองเหรอ
ชีวิตสบายมาก อยากได้อะไรเสกได้หมด สุขบวกสบายกว่ามนุษย์มากเลย
ยกตัวอย่าง มนุษย์ดูหนังนานทุกข์จากการปวดตา แต่สวรรค์ชั้นนี้เสกปุ๊บเหมือนดูหนังจบปั๊บในทันที
อยากปุ๊บ เสกปั๊บ สุขทันที ไม่ต้องรอ ไม่ต้องพยายาม แต่อยู่ไปนานๆ เริ่มเบื่อสุขที่ได้มาง่ายเกินไป
✻ 3. หลุดพ้น = ไม่มีจิตใจ ✻
ชาติหนึ่งเกิดเป็นอสัญญีสัตตาพรหม ไม่มีจิตใจ ไม่มีความคิด ไม่มีความรู้สึก
เป็นเหมือนรูปปั้นนิ่งตลอดชาติ ไม่มีแม้กระทั่งความรู้สึกเฉยหรือเบื่อรูปปั้น เพราะไม่มีจิตใจเลย
เรียกว่าก้อนหินเลยยังได้ ระลึกชาติมาตรงนี้เมื่อไรรู้สึก "อะไรเนี่ย" ทุกที มันดูงี่เง่ามาก
✻ 4. หลุดพ้น = จิตว่างไม่รับรู้อะไรเลย ✻
ชาติหนึ่งเกิดเป็นพรหมชั้นเนวสัญญานาสัญญายตนะ (อรูปพรหมชั้นสูงสุด)
โลกทั้งใบมีจิตเราอย่างเดียว ไม่มีสิ่งอื่น ไม่สิ ไม่มีโลกด้วยซ้ำ มีแค่จิตเราอย่างเดียวเลย
รู้ว่าจิตเรามีอยู่ แต่ไม่รับรู้สิ่งอื่น รับรู้ไม่ได้ด้วยเพราะไม่มีอะไรให้บัญญัติเพื่อรับรู้สิ่งต่างๆ
เป็นความโดดเดี่ยวในโลก ไม่สิ แม้แต่ความโดดเดี่ยวก็บัญญัติไม่ได้ ไม่มีโลกด้วย
มีเพียงจิตเราอย่างเดียวจริงๆ สำหรับมนุษย์มองว่าสติในภพภูมินี้คือแทบไม่มีสติเลย มีสติเหมือนไม่มีแต่ก็มี
อ่านเพิ่มเติมที่กระทู้ "เนวสัญญานาสัญญายตนะ อย่างละเอียด (แถมสัญญาเวทยิตนิโรธ)"
https://ppantip.com/topic/41921782
✻ 5. หลุดพ้น = สุขปนกลาง ฉันคือผู้วิเศษ ✻
ชาติหนึ่งเกิดเป็นมนุษย์ เข้าสมาธิจนพบความสุขปนกับอุเบกขา (เฉยๆ กลางๆ)
สุขปนกลางแบบนี้สุดยอดเลย นี่ฉันบรรลุอรหันต์แล้วเหรอเนี่ย ใช่ ฉันคือผู้วิเศษ
เดินออกไปนอกบ้าน คิดในใจ พวกนายเคารพฉันซะ ฉันเป็นอรหันต์นะ อย่าทำบาปกับฉันนะ
เคลิ้มแบบนี้หลายวัน จนวันหนึ่งหายไปเอง อ่าว สุขกับอุเบกขาธรรมดาเองนี่ (วิปัสสนูปกิเลส)
✻ 6. หลุดพ้น = ไม่มีตัวตน ✻
ชาตินี้เกิดเป็นมนุษย์ เคยคิดว่าการบรรลุธรรมต้องเข้าฌานเก่งๆ พยายามเข้าฌานจนเหนื่อย
ออกจากฌาน ใจปล่อยวาง เกิดเอ๊ะขึ้นมา ตั้งแต่เกิดจนถึงวันนี้มีเพียงขันธ์ห้าเกิดดับไม่ใช่เหรอ
ไม่มีตัวเราในทุกที่และทุกเวลา ไม่มีเลย ความเอ๊ะนั้นสลัดคืนความยึดมั่นขันธ์ห้าอย่างหมดสิ้น
ทุกอย่างสิ้นสุดตรงนั้นเลย ไม่มีอะไรให้หาต่อ ไม่ใช่เป้าหมายสำเร็จแล้ว แต่เป้าหมายหายไปต่างหาก
ต่างจากตอนวิปัสสนูปกิเลส ไม่ใช่แค่รู้สึกอย่างเดียว แต่ธรรมทุกอย่างสอดคล้องอย่างเป็นธรรมดามาก