เนวสัญญานาสัญญายตนะ อย่างละเอียด (แถมสัญญาเวทยิตนิโรธ)

ผู้เขียนเห็นว่าเนื้อหาเกี่ยวกับเนวสัญญานาสัญญายตนะในตำรามีน้อยมาก อธิบายไม่ละเอียดพอ
จึงรวบรวมจากประสบการณ์การเข้าฌานของตัวเอง นำมาเรียบเรียงให้เป็นคำที่เข้าใจง่ายที่สุด
โดยคนที่ไม่เคยเข้าฌานแม้แต่ขั้นแรกสุดสามารถอ่านเข้าใจตามได้

*** ในกระทู้นี้ขอละเรื่องอัตตา-อนัตตาก่อน เจาะจงที่ลักษณะของฌานอย่างเดียว
ขอใช้คำที่สื่อความเพื่ออ่านเข้าใจตามง่ายที่สุด อาจคลาดเคลื่อนจากหลักอัตตา-อนัตตาไปบ้าง ***

✻ 1. เนวสัญญานาสัญญายตนะเบื้องต้น ✻
เนวสัญญานาสัญญายตนะ เป็นอรูปฌานขั้นที่ 4
เป็นฌานขั้นสูงสุดหากไม่นับสัญญาเวทยิตนิโรธ

เนวสัญญานาสัญญายตนะ แปลตรงตัวว่า มีสัญญาก็ไม่เชิง ไม่มีสัญญาก็ไม่เชิง
แต่คำอธิบายนี้ไม่ได้ช่วยให้เข้าใจแต่อย่างใด ลองขยายความว่าเป็นอย่างไร

✻ 2. ไม่มีสัญญาหมายถึงอะไร? ✻
สัญญาส่วนใหญ่ไม่มีแล้ว ไม่รู้ว่าตัวเองชื่ออะไร ไม่รู่ว่าภาษาพูดอย่างไร
ไม่รู้ว่ามนุษย์เป็นอย่างไร ไม่รู้ว่าโลกเป็นอย่างไร ไม่รู้ว่าฌานขั้นก่อนหน้าเป็นอย่างไร
เรียกว่าไม่เหลืออะไรที่มนุษย์ปกติรู้เลย ยิ่งกว่าคนความจำเสื่อมเสียอีก
คนความจำเสื่อมยังรู้ว่าตัวเองเป็นมนุษย์ ลืมตามองเห็นโลกได้อยู่

✻ 3. มีสัญญาหมายถึงอะไร? ✻
แม้สัญญาส่วนใหญ่หายไป แต่ยังเหลือสัญญาอยู่เล็กน้อย
ยังรู้ว่ากำลังอยู่ในฌานขั้นนี้ แม้ไม่รู้ว่าฌานขั้นนี้เรียกว่าอะไร

✻ 4. เปรียบเทียบกับ . . . ✻
มีปรัชญาแนวคิดหนึ่งคล้ายกับเนวสัญญานาสัญญายตนะ
ถ้าโลกนี้ไม่มีอยู่จริง ถ้าโลกนี้เป็นเพียงสิ่งที่คิดขึ้นมาเอง เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามีอะไรเป็นของจริงบ้าง?
มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ยืนยันได้ว่ามีจริง นั่นคือตัวฉัน เพราะรับรู้สิ่งต่างๆ ได้จึงรู้ว่าตัวฉันที่เป็นผู้รับรู้มีจริง
นอกจากนั้นอาจมีจริงหรือไม่จริงก็ได้ โลกทั้งใบที่เห็นอาจเป็นสิ่งที่คิดขึ้นเอง

เนวสัญญานาสัญญายตนะมีลักษณะคล้ายกัน แม้ทำตัวเหมือนไม่มีจิตผู้รับรู้ตั้งแต่เข้าอากิญจัญญายตนะ
แต่ที่จริงยังมีจิตผู้รับรู้อยู่ จึงเกิดสัญญาที่บันทึกเหตุการณ์ของจิตนั้น นั่นคือสัญญาที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด
แต่สัญญาอื่นที่ไม่เกี่ยวกับจิตนั้นไม่มี เปรียบเหมือนเนวสัญญานาสัญญายตนะตื่นแล้วว่าโลกนี้ไม่มีจริง
เมื่อโลกไม่มีจริงจึงไม่มีสัญญาใดๆ เกี่ยวกับโลก เหลือเพียงจิตและสัญญาเกี่ยวกับจิตอยู่ลอยๆ

ตรงกับประโยคว่า "I think, therefore I am." ของ René Descartes นักปรัชญาชาวฝรั่งเศส
ตีความหมายว่า เพราะฉันคิด ฉันจึงมีอยู่ แต่สิ่งอื่นนอกจากนั้นมีจริงหรือไม่ ยืนยันไม่ได้

✻ 5. ฉันมีอยู่ แต่อธิบายไม่ได้ ✻
เนวสัญญานาสัญญายตนะ ทำตัวเหมือนไม่มีจิต แต่สังเกตดีๆ ยังมีจิตอยู่
เพราะฉันมีอยู่ ฉันจึงรู้ว่าสิ่งรอบตัวไม่มี จุดนี้เป็นการยืนยันด้วยตัวเองว่าฉัน (จิต) มีอยู่ในเนวสัญญานาสัญญายตนะ
แต่เนื่องจากไม่มีรูป ไม่มีเสียง ไม่มีความรู้สึก ไม่มีความคิด ไม่มีภาษา ฯลฯ จึงไม่สามารถอธิบายอะไรได้เลย
นั่นรวมถึงตัวฉันเองด้วย ฉันเป็นอะไร ฉันเป็นอย่างไร อธิบายไม่ได้ เพราะไม่รู้จะเอาอะไรมาอธิบาย รู้เพียงแค่ฉันมีอยู่

✻ 6. รู้ได้อย่างไรว่า เนวสัญญานาสัญญายตนะเป็นอย่างไร? ✻
เนวสัญญานาสัญญายตนะมีสัญญา
เมื่อออกจากฌานจึงย้อนนึกได้ว่าเนวสัญญานาสัญญายตนะมีลักษณะอย่างไร ดังที่กล่าวมาข้างต้น
มีสัญญาเกี่ยวกับจิตบันทึกไว้ ย้อนนึกถึงสัญญาเกี่ยวกับจิตได้ แต่หาสัญญาเกี่ยวกับสิ่งอื่นไม่เจอ
สามารถใช้จุดนี้เป็นเกณฑ์จำแนกระหว่างเนวสัญญานาสัญญายตนะออกจากอากิญจัญญายตนะ (อรูปฌานขั้นที่ 3)

อากิญจัญญายตนะมีสัญญาเกี่ยวกับสิ่งอื่นด้วย เมื่อออกจากฌานแล้วนึกย้อนถึงขณะเข้าอากิญจัญญายตนะ
ขณะนั้นจิตรู้ว่าตัวเองชื่ออะไร มนุษย์เป็นอย่างไร ภาษาเป็นอย่างไร นี่เป็นจุดแตกต่างกันอย่างชัดเจน

✻ 7. สรุปว่าเนวสัญญานาสัญญายตนะมีสัญญาหรือไม่? ✻
เนื่องจากชื่อ มีสัญญาก็ไม่เชิง ไม่มีสัญญาก็ไม่เชิง ชวนให้สับสนว่าตกลงไม่ใช่ทั้งมีและไม่มีใช่ไหม
ตอบได้เลยว่า เนวสัญญานาสัญญายตนะมีสัญญาแน่นอน ถ้าไม่มีสัญญาจะนึกย้อนตอนออกจากฌานไม่ได้
เพียงแต่สัญญาหายไปเยอะจนแทบไม่เหลืออะไรเลยเมื่อเทียบกับตอนอยู่นอกฌาน
จึงตั้งชื่อว่า มีสัญญาก็ไม่เชิง ไม่มีสัญญาก็ไม่เชิง เพื่อให้แยกว่าไม่ใช่สัญญาแบบที่คนธรรมดาเข้าใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่