ศาลอาญากรุงเทพใต้ ยกคำร้องขอเพิกถอนประกัน ‘ตะวัน-บุ้ง’ ชี้ เป็นการแสดงออกทางการเมือง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4123072
 
 
ศาลอาญากรุงเทพใต้ ยกคำร้องขอเพิกถอนประกัน ‘ตะวัน-บุ้ง’ ประท้วงที่พรรคเพื่อไทย ชี้ เป็นการเเสดงออกทางการเมือง หากพรรคเป็นผู้เสียหายใช้สิทธิดำเนินคดีได้
 
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ขอเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน จำเลยที่ 1 และ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง จำเลยที่ 3 (คดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นฟ้องความผิด ป.อ.มาตรา 112 และความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมก่อความวุ่นวายฯ) จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ส.ค.2566 จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันทำกิจกรรมทางการเมือง ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถนนเพชรบุรี แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง

ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 และที่ 3 ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดต่อสถาบันฯ โดยศาลวางเงื่อนไขในการปล่อยชั่วคราว ห้ามจำเลยทั้งสองกระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกันตามที่ถูกกล่าวหาเท่านั้น แต่ตามคำร้องของผู้ร้องได้ความแต่เพียงว่า จำเลย ที่ 1 และที่ 3 กับพวก ไปชุมนุมที่ทำการพรรคเพื่อไทย ทำการโปรยกระดาษข้อความ  ปารองเท้า ขวางทางเข้าออกตึกไทยซัมมิท อาคารที่ทำการพรรคเพื่อไทย
 
ซึ่งการกระทำดังกล่าวของจำเลยที่ 1 และที่ 3 มิใช่การกระทำที่ลักษณะทำนองเดียวกับที่ถูกกล่าวหาในคำฟ้อง แต่เป็นการแสดงออก ถึงความไม่พอใจทางการเมือง ในการรวมพรรคเพื่อจัดตั้งรัฐบาล หากการกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 3 ดังกล่าว ก่อให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้นแก่พรรคเพื่อไทย ก็สามารถใช้สิทธิดำเนินคดีเพื่อคุ้มครองสิทธิของตนเองได้
 
ฉะนั้นข้อเท็จจริงตามคำร้องยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 ผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวตามที่ศาลกำหนด จึงให้ยกคำร้อง
 

---

‘ชัยธวัช’ โต้ ‘ไผ่ ลิกค์’ ก้าวไกลไม่เคยขอ พปชร.โหวตนายกฯ ห่วงตั้ง รบ.แบบไม่เห็นหัว ปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4123373

‘ชัยธวัช’ โต้ ‘ไผ่ ลิกค์’ ยัน ‘ก้าวไกล’ ไม่เคยขอ ‘พปชร.’ โหวตนายกฯ
 
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีที่ นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคจะโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย (พท.) โดยพาดพิงว่าพรรค ก.ก.ก็เคยมาขอคะแนนจากพรรค พปชร.ให้โหวตให้แคนดิเดตนายกฯพรรค ก.ก.เช่นกันนั้น
 
นายชัยธวัชกล่าวว่า ยืนยันว่าพรรค ก.ก.ไม่เคยมีการเจรจาขอให้พรรค พปชร.สนับสนุน หรือโหวตให้ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น และไม่เคยคิดจะร่วมสังฆกรรม ซึ่งเป็นกลไกสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร จุดยืนนี้ของพรรคชัดเจนตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ มาในยุคพรรค ก.ก.ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังเลือกตั้งพรรค ก.ก.ก็ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรค พปชร.และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ไม่เคยกลับคำ หรือเปลี่ยนจุดยืน

“ผมขอตั้งคำถามกลับไปยังผู้เผยแพร่ข่าวเท็จนี้ว่าต้องการอะไร สร้างความชอบธรรมให้กับพรรคใด ในการจะนำพรรคพลังประชารัฐมาร่วมรัฐบาลหรือไม่ วันนี้ผมกังวลว่าการจัดตั้งรัฐบาลกำลังทำโดยไม่เห็นหัวประชาชน เกรงใจผู้มีอำนาจ เกรงใจทุกคน ยกเว้นประชาชน” นายชัยธวัชกล่าว

---

 
ข่าวร้ายแม่บ้าน! ข้าวสารถุงเตรียมขึ้นราคา 10% ในเดือนหน้า
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/361447

ข่าวร้ายแม่บ้าน ผู้ประกอบการข้าวถุง เเจ้งยกเลิกโปรโมชัน ส่งผลราคาข้าวสารถุงขยับขึ้นทันที 10% และแจ้งปรับราคาขึ้นอีก 5-10 บาทต่อถุง 15 กิโลฯ ในเดือนหน้า

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการข้าวถุง ได้แจ้งยกเลิกราคาโปรโมชั่นข้าวถุงตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแรงกดดันจากที่อินเดียงดส่งออกข้าว บวกับภัยแล้ง ดันราคาข้าวในตลาดโลกเพิ่มขึ้น และส่งผลมายังราคาข้าวเปลือกในประเทศ ขยับขึ้นตามด้วย โดยหลังการยกเลิกราคาโปรโมชันฯ ทำให้ราคาขายปลีกข้าวถุงสูงขึ้นเฉลี่ย 10% รวมทั้งแจ้งปรับขึ้นราคาจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงล็อตใหม่ เนื่องจากข้าวเปลือกราคาพุ่งสูงขึ้นมาก

โดยข้าวสารหอมมะลิจะปรับขึ้น 10 บาทต่อถุง 5 กิโลกรัม ส่วนข้าวสารเจ้า จะปรับขึ้น 5 บาทต่อถุง มีผลตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป และมีแนวโน้มปรับขึ้นอีก ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ภัยแล้งว่า จะกระทบต่อผลผลิตข้าวไทยมากน้อยเพียงใด ประกอบกับขณะนี้ อยู่ในภาวะสุญญากาศทางการเมือง ยังไม่มีรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างเซ็ตเกียร์ว่าง จึงยังไม่ได้รับรายงานว่า ผลผลิตข้าวของไทยมีปริมาณเท่าใด การส่งออกข้าวเป็นอย่างไร โดยเฉพาะทิศทางนโยบายการบริหารจัดการผลผลิตข้าวในประเทศ และการส่งออกของรัฐบาลชุดใหม่จะเป็นอย่างไร

และกังวลว่าราคาข้าวที่เพิ่มสูงขึ้น อาจกระทบไปยังสินค้าชนิดอื่นๆ ที่ใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิต เช่น เส้นหมี่ขาวอบแห้ง และเส้นก๋วยเตี๋ยวอบแห้ง ต้องขยับราคาขึ้นตามด้วย

นายสมชาย ยังพูดถึงบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนว่า ซบเซามาตั้งแต่หลังเลือกตั้ง และลากยาวมาถึงปัจจุบัน ยิ่งช่วงนี้ยังมีความไม่แน่นอนทางการเมือง ทำให้ประชาชนไม่กล้าใช้เงิน

ขณะที่นางสาวภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ Advisor, CRM เซ็นทรัลพัฒนา เปิดเผยถึงการจับจ่ายในศูนย์การค้า ปรับตัวดีขึ้น เพราะได้กลุ่มนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาไทยมากขึ้น โดยเฉพาะสาขาที่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพฯ พัทยา สมุย เชียงใหม่ ที่ยอดขายดีขึ้น และเข้าใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด ส่วนกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ที่บางรายการปรับขึ้นราคา ก็มีการทำโปรโมชัน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายต่อหัวมากขึ้น