JJNY : คาร์ม็อบ“โมกหลวงริมน้ำ-ทะลุแก๊ง”ถึง“ภูมิใจไทย”│ทะลุแก๊ซบุกพท.│ห่วงเอลนินโญ่ทำผลผลิตลด│ถล่มสะพานเคิร์ชในไครเมียซ้ำ

คาร์ม็อบ “โมกหลวงริมน้ำ-ทะลุแก๊ง” ถึง “ภูมิใจไทย” สาดกระป๋องกาว-ถาดกาวไล่หนู
https://www.dailynews.co.th/news/2620608/
 
มวลชนปั่น จักรยาน-ขี่จยย.ถึง “ภูมิใจไทย” สาดกระป๋องกาว-ถาดกาวไล่หนู-จุดไฟมวนจ๊อย กัญชา จำลองโยนเข้าภายในพรรค ด้านทะลุแก๊ส ขู่ ถ้ามีอนุทิน นั่ง “รมว.สาธารณสุข” พร้อมเจอที่ดินแดง
 
 
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 13 ส.ค.กลุ่มนักกิจกรรมทางการเมือง ‘โมกหลวงริมน้ำ’ ได้ตั้งขบวนคาร์ม็อบ ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ รถยนต์ และรถโมบายล์ ก่อนเคลื่อนตัวจากบริเวณด้านหน้าสวนจตุจักรมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย

ล่าสุดเวลา 15.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มวลชนได้เคลื่อนขบวนมาถึงที่ทำการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพบว่ามีการปิดประตูด้านหน้าพรรค และติดตั้งแผงเหล็กล้อมป้ายพรรค จากนั้นมวลชนได้จอดรถจักรยาน และนำป้ายข้อความจำนวนหนึ่ง ระบุใจความ “10 สิงหา พาพ่อแม้วกลับบ้าน เพ้อเจ้อ ที่พูดมาแต่ละเรื่อง ทำไม่ได้สักเรื่อง ตอแ-ล” , “เอาอดีตที่เคยศรัทธามาคืนให้แล้วนะ เพื่อไทย คุณทำเพื่อรับใช้ใคร ค.-.ย.” , “ปิดสวิตซ์ สามปอ ปิดสวิตซ์ ส.ว. ค-ย อีตอแ-ล เหลี่ยมทั้งโคตร เพ้อเจ้อ” , “เขาเลือกให้มากอดกัน ไม่ใช่มากัดกัน เพื่อไทยทำเพื่อใคร” เป็นต้น มาวางไว้หน้ารถจักรยาน

โดยนายโสภณ หรือ เก็ท สุรฤทธิ์ธำรง หนึ่งในแกนนำกลุ่มฯ ปราศรัยโจมตีการรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายใต้การบริหารของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ทำให้ประชาชนเสียชีวิตไปจำนวนมาก รวมถึงสร้างความลำบากต่อบุคลากรการแพทย์ และยังปราศรัยโจมตีนโยบายปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ทำให้ประชาชนเสพติดและนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ก่อนจะทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงขอให้สื่อมวลชนและมวลชนใส่หน้ากากอนามัย เพื่อที่จะเริ่มทำกิจกรรม ‘มวนจ๊อยกัญชา’ 

โดยเป็นการนำขี้แมวแห้งมาใส่ไว้ในกระดาษขนาดใหญ่ ก่อนมวนเป็นลักษณะคล้ายบุหรี่แล้วทำการจุดไฟพร้อมโยนเข้าไปยังภายในบริเวณพรรคภูมิใจไทย ทำให้เกิดควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นมาจำนวนมาก พร้อมทั้งยังโยนกระดาษที่มีรูปภาพของนายอนุทิน รูปภาพของบรรดาพรรคการเมืองที่เข้ามาจับมือจัดตั้งรัฐบาลครั้งล่าสุด เข้าไปยังภายในที่ทำการพรรค นอกจากนี้ นายโสภณและกลุ่มแนวร่วม ได้พากันนำสีกระป๋อง TOA สีขาวผสมเข้ากับกาว และตามด้วยผสมสีต่างๆจนได้เป็นสีเหลืองมัสตาร์ด 1 กระป๋อง จากนั้นได้นำไปสาดเข้าใส่ป้ายพรรคภูมิใจไทย พร้อมกับนำถาดกาวดักหนูจำนวนกว่า 10 ชิ้น ปาใส่ป้ายพรรคภูมิใจไทยเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นการแสดงออกถึงการไม่ยอมรับที่พรรคเพื่อไทยสลายขั้วจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้เสียงเลือกตั้งมาเป็นพรรคลำดับที่สาม

ส่วนนายแก็บ ตัวแทนกลุ่มทะลุแก๊ส  ได้มีการประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ว่า ฝากถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เนื่องจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ทำลายความเป็นมนุษย์ หมอจำคำนี้ที่พูดในสภาได้หรือไม่ ว่าจะไม่สนับสนุนร่วมจับมือกับพรรคนั่งร้านเผด็จการ ท้ายนี้ขอฝากถึงพรรคเพื่อไทยด้วยว่าถ้าหากยังจะร่วมมือกับพรรคภูมิใจไทยหรือมีนายอนุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เราจะได้เจอกันอีกที่ดินแดงอย่างแน่นอน

ขณะที่ พ.ต.อ.อนันต์ วรศาสตร์ ผกก.สน.บางเขน ได้มีการประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงระหว่างที่มวลชนทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องว่า ขอให้ผู้ชุมนุมทำกิจกรรมที่ไม่เสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีในภายหลัง ซึ่งกิจกรรมที่ทำอยู่ในขณะนี้กระทบกระเทือนต่อสิทธิผู้อื่น และถ้าหากทำอะไรที่จะเสี่ยงผิดกฎหมายขอให้งดการกระทำดังกล่าวทันที

ด้าน พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 กล่าวว่า ภายหลังร่วมสังเกตการณ์การทำกิจกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมว่า สำหรับข้อกฎหมายเบื้องต้น จะเกี่ยวกับเรื่อง พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง อีกทั้งหลังจากนี้เราจะต้องทำรายงานการสืบสวน และจะมีการประสานไปยังพรรคภูมิใจไทย เพื่อให้เจ้าทุกข์ได้ร้องทุกข์ในกรณีที่มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทำให้เสียทรัพย์ และบุกรุกต่อสถานที่ ถือว่าเป็นความผิดส่วนตัว ทั้งนี้ ตนจะมอบหมายให้พนักงานสอบสวนเก็บรวบรวมพยานหลักฐานการกระทำในวันนี้ของทุกบุคคล เพื่อใช้พิจารณาในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังเสร็จสิ้นการทำกิจกรรมที่ทำการพรรคภูมิใจไทย มวลชนได้ตั้งขบวนและเคลื่อนตัวเตรียมไปทำกิจกรรมยังบริเวณหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยตามนัดหมาย


 
ทะลุแก๊ซบุก พท. เจอสกัดวุ่น! ม็อบปาทิ้งแก้ว ‘ทักษิณ’ แตกกระจาย ฉีกเสื้อเพื่อไทยหน้าบันไดพรรค
https://www.matichon.co.th/politics/news_4127593

ทะลุแก๊ซบุก พท. เจอสกัดวุ่น! ม็อบปาทิ้งแก้ว ‘ทักษิณ’ แตกกระจาย ฉีกเสื้อเพื่อไทยหน้าบันไดพรรค
 
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 13 สิงหาคม ที่บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ นัดหมายจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ เพื่อเดินทางไปแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่ พรรคภูมิใจไทย และสิ้นสุดที่ พรรคเพื่อไทย อาคาร OAI Tower ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ

บรรยากาศทั่วไป มีผู้ทยอยเข้าร่วมโดยนำรถยนต์ จักรยานยนต์ รวมถึงจักรยานเข้าร่วมสมทบ บางส่วนแต่งกายด้วยเสื้อยืดสีแดง
 
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศหลังจบกิจกรรมที่พรรคภูมิใจไทย โดยเมื่อเวลาประมาณ 15.50 น.ได้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย อาคาร OAI Tower เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ขณะที่บรรยากาศหน้าพรรคเพื่อไทยเมื่อเวลา 16.17 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.มักกะสัน เฝ้าดูแลความปลอดภัยก่อนคาร์ม็อบจะเดินทางมาถึง
 
ต่อมา เมื่อเวลา 16.46 น. คาร์ม็อบถึงพรรคเพื่อไทยซึ่งมีการกั้นรั้วเหล็ก พร้อมปิดประตูทั้ง 2 ฝั่ง
 
ผู้ชุมนุมนำเสื้อสกรีนชื่อพรรคและสติ๊กเกอร์พรรคเพื่อไทยวางกองบนบันไดหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย
สตรีรายหนึ่งตะโกนว่า “สติ๊กเกอร์ เพื่อไทย หัวใจคือประชาชน แต่ตอนนี้ เพื่อไทย หัวใจคือใคร ถึงเอาเผด็จการมารวมขั้วกับเรา
จากนั้นมีการนำแก้วกาแฟที่มีภาพ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาจนแตกกระจาย
 
เวลา 16.58 น. กลุ่มผู้ชุมนุมกรีดและฉีกเสื้อยืดที่มีชื่อพรรคเพื่อไทย โปรยกระดาษมีข้อความต่างๆ หน้าที่ทำการพรรค
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.08 น. ผู้ชุมนุมรายหนึ่งทราบเบื้องต้นว่าเป็นสมาชิกกลุ่มทะลุแก๊ซ พยายามบุกเข้าไปภายในที่ทำการพรรคเพื่อไทย ก่อนถูกเจ้าหน้าที่สกัด เกิดความชุลมุนเล็กน้อย




เอกชนห่วงเอลนินโญ่ทำผลผลิตลด
innnews.co.th/news/economy/news_597562/

ภาคเอกชนห่วงปรากฏการณ์เอลนินโญ่ทำผลผลิตลด กระทบการผลิต ราคาอาหารขึ้นตามต้นทุนความต้องการเพิ่ม หลังท่องเที่ยวฟื้น
 
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า แนวโน้มราคาสินค้าอาหารมีโอกาสสูงขึ้น อาทิ สินค้าผักและผลไม้ ไข่ไก่ เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนกว่าในปีที่ผ่านมา 
 
เพราะปรากฏการณ์เอลนินโญ่ที่จะมีผลกระทบทำให้เกิดปัญหาภัยแล้ง ปริมาณผลผลิตมีไม่มาก ประกอบกับความต้องการเพิ่มขึ้นจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว จึงต้องมีการติดตามสถานการณ์ความต้องการอย่างใกล้ชิดหากผลผลิตภายในประเทศได้รับความเสียหาย อาจส่งผลกระทบต่อการบริโภคได้
  
นอกจากนี้ อาหารสำเร็จรูปราคาสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิต ทั้งในส่วนของราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ค่ากระแสไฟฟ้าและอัตราดอกเบี้ย ทำให้อุตสาหกรรมอาหารของไทยอยู่ภายใต้แรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้ออ่อนตัวลง ภาคครัวเรือนต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อรักษาระดับการบริโภคของตนเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่