คือเรื่องมีอยู่ว่า  ผมได้ซื้อที่ดินจาก สนง.บังคับคดี  และได้ทำถูกต้องตามระเบียบข้อกฎหมายทุกอย่าง  เมื่อ วันที่ 26 สิงหาคม 2566  และจ่ายเงินที่ สนง.บังคับคดีเรียบร้อยแล้ว  และได้ทำการโอนกรรมสิทธิ์ ในวันที 3 พฤศจิกายน 2566 แต่อยู่ ๆ วันที่ 22 ธันวาคม 2566 ได้มีหนังสือ จากศาลให้ไปไต่สวนคำร้อง เพราะ โจทก์ ได้ยื่นคำร้อง ขอเพิกถอนการขายทอดตลาด   เพราะ ลูกหนี้ในฐานะ จำเลย ได้ จ่ายเงินปิดบัญชี เป็นที่เรียบรอยแล้ว ในวันที่ 15 สิงหาคม 2566 อยากทราบว่า ทำอย่างนี้ได้หรือครับ ในเมื่อ ลูกหนี้มาชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ทำไป ธนาคารในฐานะ โจทก์ ไม่ทำเรื่องขอ ระงับการขาย ปล่อยให้ สนง.บังคับคดี ขายทอดตลาด และเวลาผ่านไป  4 เดือน ธนคารไปทำอะไรอยู่ ปล่อยให้เรื่อง ผ่านไปได้อย่างไร และอย่างนี้ ผมในฐานะผู้.ื่อมีความผิดอะไร กลับกลายเป็นเราเป็นผู้เสียหาย และยังจะมาขอเพิกถอนการขายเราอีก โดยในหนังสือ คำร้อง อ้างว่า การบังคับคดีโดยผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง และเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติ ของกฎหมาย 
      ผมตั้งขอสังเกตุว่า ในเมื่อลูกหนี้มาจ่ายหนี้ หมดแล้ว ธนาคารต้อง ทำเรื่อง เพื่อขอ ระงับการขาย เพื่อไม่ให้มีการขายทอดตลาด  แต่ธนาคาร ไม่ได้ปฎิบัติ นั้นถือว่าเป็นความผิดของธนาคาร เอง ไม่ช่าย เป็นความผิด ของผู้ซื้อ หรือ ของ สนง.บังคับคดี หรือ จำเลย แต่ ธนาคารปัดความรับผิดชอบ ไม่ยอมรับผิด จึงดื้นรั้น หาข้ออ้าง  และยัง มายื่นคำร้องขอเพิกถอนการขายอีก ในมุมมองผมว่า มันไม่ยุติธรรม สำหรับผม  เจ้าของที่เก่า ที่เป็นลูกหนี้ เค้าก็ไม่ยอมเช่นกัน เพราะเค้า ไปจ่ายหนี้หมดแล้ว  เค้าก็ว่าเค้าไม่ผิด เค้าเลยไม่ยอมออกจากพื้นที่ เราก็เข้าไปทำอะไรไม่ได้เลย เรื่องผ่าน ไป 7 เดือนแล้ว ยังทำอะไรไม่ได้ ธนาคาร ก็ไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ ไม่ยอมรับความผิดตัวเอง เพราะกลัวความผิด เพราะเป็นหน่วยงานรัฐ 
     รบกวนผู้รู้ ช่วยแนะนำหน่อยว่าเราต้องทำอย่างไร