“ยุทธพร” เตือน “เพื่อไทย” อย่าดูแคลนพลังมวลชน
https://www.innnews.co.th/news/news_597954/
“ตอบโจทย์ถูก แต่ตั้งโจทย์ผิด” หักดิบความรู้สึกคน! “ยุทธพร” เตือน “เพื่อไทย” อย่าดูแคลนพลังมวลชน หลังสะพัดเตรียมจับมือ พปชร.-รทสช.
รศ.ดร.
ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีกระแสข่าวว่าเพื่อไทยเตรียมจะจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และพลังประชารัฐ ว่า เราเข้าใจดีถึงเหตุผลที่เพื่อไทย ต้องนำทั้ง 2 พรรคลุงมาร่วม
โดยหวังให้ได้เสียง สส. และ สว.พอให้เลือกนายกฯผ่าน และตั้งรัฐบาลสำเร็จ แต่ในทางความรู้สึกของประชาชน เพื่อไทย ไม่ได้มีแต่เรื่องดีๆ ที่รออยู่ เพราะอย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้ เพื่อไทย ก็พูดเอง ว่าไม่เอาพรรค 2 ลุง แล้วอยู่ดีๆ จะมาเอาแบบยกแพ็กคู่เลย มวลชน ย่อมไม่สบายใจ เพราะเขาอาจจะเลือกเพื่อไทย เพราะเคยต่อสู้ร่วมกันมา และเป็นการต่อสู้กับฝ่าย 2 ลุง ที่กำลังเป็นข่าวอยู่นี่เอง
ถึงเพื่อไทยจะบอกว่า เป็นการกลืนเลือด แต่มันจะถูกมองว่าเป็นการกลืนน้ำลาย วันนี้ พรรคเพื่อไทย กำลังตอบโจทย์ถูก แต่ตั้งโจทย์ผิด เรื่องการตั้งรัฐบาล ที่ทำอยู่ มันตอบโจทย์ในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งการไปขอขมาก้าวไกล ไปจนถึงหากจะมีการเอาพรรคลุงมาร่วม ถ้าโจทย์ ถือการตั้งรัฐบาล มันไม่ผิดเลย แต่ในความเป็นจริง โจทย์ของเพื่อไทย คือ การต้องฟื้นความมั่นใจให้พรรค นี่คือสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป แต่กลับถูกละเลย
ส่วนรวมไทยสร้างชาติ ถ้าไปร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ แต่ก็อาจโดนวิจารณ์เรื่องสืบทอดอำนาจ อาจจะลามไปถึงพลเอกประยุทธ์ ว่าวางมือไม่จริง สำหรับ พลังประชารัฐการปรับโครงสร้างในพรรค มันชัดเจนแล้วว่า เขาจะไปเป็นรัฐบาล ผลเสียคือ การร่วมรัฐบาลครั้งนี้ มีความไม่แน่นอนว่าตกลงแล้ว เขาจะได้ตำแหน่งตามที่ต้องการไหม
“
เพื่อไทย เสียมากกว่าได้ แต่กับ พลังประชารัฐ และ รวมไทยสร้างชาติ เขาได้มากกว่า สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงคือเรื่องของมวลชน ให้ดูผลการเลือกตั้ง ว่าเขาต้องการอะไร แต่สิ่งที่เขาจะได้จริงๆ มันเริ่มห่างไกลจากสิ่งที่ประชาชนเลือกแล้ว คนมีความรู้สึก อย่าไปท้าทาย อย่าไปฝืนหักดิบ แต่ควรค่อยเป็น ค่อยไป ถ้ายังดึงดัน ไม่สนใจประชาชน ตรงนี้ จะไปจุดชนวนมวลชน พรรคแกนนำตั้งรัฐบาลต้องระวัง”
พท.โวทำทันทีหลังบริหาร ปท. ลดราคาน้ำมัน ไฟฟ้า-ก๊าซ พักหนี้เกษตรกรนาน 3 ปี ทั้งต้น และดอก
https://www.matichon.co.th/election66/news_4126841
พท.โวทำทันทีหลังบริหาร ปท. ลดราคาน้ำมัน ไฟฟ้า-ก๊าซ พักหนี้เกษตรกรนาน 3 ปี ทั้งต้น และดอก
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ประกาศนโยบายที่จะทำทันทีหลังจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จว่า พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล มุ่งมั่นที่จะเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ แก้วิกฤตปัญหาให้พี่น้องประชาชน ปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องแก้ไข
พรรคเพื่อไทยมีแนวทางในการปรับลดราคาพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้าและก๊าช เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้ประชาชน ทั้งนี้ ภาระหนี้สิ้นเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรและกลุ่มผู้ประกอบการ SME เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงจะต้องมีหนทางในการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พรรคเพื่อไทยมีแนวทางในการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ทั้งต้น ทั้งดอก
เพื่อลดภาระและเปิดโอกาสใหม่ให้พี่น้องเกษตรกรในการทำมาหากิน พลิกฟื้นภาคการเกษตรของไทย ด้วยหลัก ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ รวมทั้งการผลักดันการพักชำระหนี้ SME ที่ประสบภัยโควิด 1 ปี คู่ขนานไปกับการปรับโครงสร้างหนี้แบบเฉพาะเจาะจง พร้อมต่อยอดด้วยชุดนโยบายของพรรคต่อไป
ชาวเน็ตเสียงแตก รองโฆษกเพื่อไทย ไม่สบายใจกิจกรรมปากระป๋องใส่ภาพนักการเมือง
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4126982
ชาวเน็ตเสียงแตก รองโฆษกเพื่อไทย ไม่สบายใจกิจกรรมปากระป๋องใส่ภาพนักการเมือง
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม นาย
ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูป บนเฟซบุ๊ก
ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ – หนุ่ม รวมทั้งบนทวิตเตอร์ แสดงความไม่สบายใจเกี่ยวกับกิจกรรมเกม “
ปากระป๋องใส่ภาพบุคคลทางการเมือง” ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่จ.สุรินทร์ ดยนาย
ชนินทร์ ได้เรียกร้องขอให้มีการใช้วิจารณญาณและระมัดระวังในการจัดกิจกรรมต่างๆมากขึ้น และควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ยุยงให้เกิดความเกลียดชัง หรือปลูกฝังแนวคิดทางการเมืองแก่ผู้ที่ยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ
โดยระบุว่า
เมื่อวานผมได้รับทราบถึงการจัดกิจกรรม ที่ปรากฏภาพ นักเรียนชั้นประถมศึกษา เข้าร่วมงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จังหวัด #สุรินทร์ และมีการเล่นกิจกรรมเกม “ปากระป๋องใส่ภาพบุคคลทางการเมือง” และเกิดความไม่สบายใจอย่างยิ่ง จึงอยากสื่อสารกับทุกท่านในสังคม โดยเฉพาะผู้มีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้
ผมขอเรียกร้องและย้ำเตือนแก่โรงเรียน หน่วยงานรัฐ ตลอดจนผู้ใหญ่ในสังคมทุกท่าน ให้ใช้วิจารณญาณและความระมัดระวังในการจัดกิจกรรมต่างๆให้มากขึ้น การทำกิจกรรมในลักษณะนี้อาจทำได้ตามสิทธิเสรีภาพ แต่เมื่อพึงตระหนักได้ว่ากิจกรรมดังกล่าวจะมีเด็กและเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเข้าร่วม ควรหลีกเลี่ยงรูปแบบกิจกรรมที่ยุยงให้เกิดความเกลียดชัง หรือการปลูกฝังแนวคิดทางการเมืองแก่ผู้ที่ยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ
ถึงแม้สถานศึกษาจะเป็นสถานที่ปลอดภัยในการแสดงออก สามารถเปิดให้มีอิสระทางความคิด กิจกรรมที่เกิดในโรงเรียนควรเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ มีประโยชน์ทางวิชาการหรือสันทนาการ และควรคำนึงถึงผลกระทบทางสังคมด้วย หากกิจกรรมนี้ริเริ่มโดยกลุ่มนักเรียน ควรมีครูอาจารย์ช่วยให้ความรู้และความเข้าใจถึงความเหมาะสมของรูปแบบกิจกรรมด้วย
“สังคมไทยขับเคลื่อนด้วยพวกเราทุกคนนะครับ ผมขอเรียกร้องถึงทุกภาคส่วนในสังคม รวมถึงพรรคการเมืองและผู้สนับสนุนพรรคการเมืองทุกท่าน ให้ใช้ความระมัดระวังในการดำเนินกิจกรรมการเมืองทุกรูปแบบ โดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชน ไม่ควรยุยงให้เกิดพฤติกรรมที่สร้างความขัดแย้งในสังคม สร้างแบบอย่างของการแสดงออกต่อความเกลียดชังด้วยความรุนแรง หรือปลูกฝังแนวคิดทางการเมืองเชิงลบแก่ผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เพราะอาจส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศความแตกแยกในสังคม”
https://www.facebook.com/ChaninRungtanakiat/posts/pfbid029qiwXBE6455h8Eimi18KjBCskAzEaPU5VQ9hSNKdGNJaH36sPtT2iSKWA9J3mimGl
JJNY : “ยุทธพร”เตือน“เพื่อไทย”|พท.โวทำทันที |รองโฆษกพท.ไม่สบายใจ กิจกรรมปากระป๋อง|รัสเซียกร้าวตอบโต้ โจมตีสะพานไครเมีย
https://www.innnews.co.th/news/news_597954/
“ตอบโจทย์ถูก แต่ตั้งโจทย์ผิด” หักดิบความรู้สึกคน! “ยุทธพร” เตือน “เพื่อไทย” อย่าดูแคลนพลังมวลชน หลังสะพัดเตรียมจับมือ พปชร.-รทสช.
รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีกระแสข่าวว่าเพื่อไทยเตรียมจะจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และพลังประชารัฐ ว่า เราเข้าใจดีถึงเหตุผลที่เพื่อไทย ต้องนำทั้ง 2 พรรคลุงมาร่วม
โดยหวังให้ได้เสียง สส. และ สว.พอให้เลือกนายกฯผ่าน และตั้งรัฐบาลสำเร็จ แต่ในทางความรู้สึกของประชาชน เพื่อไทย ไม่ได้มีแต่เรื่องดีๆ ที่รออยู่ เพราะอย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้ เพื่อไทย ก็พูดเอง ว่าไม่เอาพรรค 2 ลุง แล้วอยู่ดีๆ จะมาเอาแบบยกแพ็กคู่เลย มวลชน ย่อมไม่สบายใจ เพราะเขาอาจจะเลือกเพื่อไทย เพราะเคยต่อสู้ร่วมกันมา และเป็นการต่อสู้กับฝ่าย 2 ลุง ที่กำลังเป็นข่าวอยู่นี่เอง
ถึงเพื่อไทยจะบอกว่า เป็นการกลืนเลือด แต่มันจะถูกมองว่าเป็นการกลืนน้ำลาย วันนี้ พรรคเพื่อไทย กำลังตอบโจทย์ถูก แต่ตั้งโจทย์ผิด เรื่องการตั้งรัฐบาล ที่ทำอยู่ มันตอบโจทย์ในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งการไปขอขมาก้าวไกล ไปจนถึงหากจะมีการเอาพรรคลุงมาร่วม ถ้าโจทย์ ถือการตั้งรัฐบาล มันไม่ผิดเลย แต่ในความเป็นจริง โจทย์ของเพื่อไทย คือ การต้องฟื้นความมั่นใจให้พรรค นี่คือสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป แต่กลับถูกละเลย
ส่วนรวมไทยสร้างชาติ ถ้าไปร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ แต่ก็อาจโดนวิจารณ์เรื่องสืบทอดอำนาจ อาจจะลามไปถึงพลเอกประยุทธ์ ว่าวางมือไม่จริง สำหรับ พลังประชารัฐการปรับโครงสร้างในพรรค มันชัดเจนแล้วว่า เขาจะไปเป็นรัฐบาล ผลเสียคือ การร่วมรัฐบาลครั้งนี้ มีความไม่แน่นอนว่าตกลงแล้ว เขาจะได้ตำแหน่งตามที่ต้องการไหม
“เพื่อไทย เสียมากกว่าได้ แต่กับ พลังประชารัฐ และ รวมไทยสร้างชาติ เขาได้มากกว่า สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงคือเรื่องของมวลชน ให้ดูผลการเลือกตั้ง ว่าเขาต้องการอะไร แต่สิ่งที่เขาจะได้จริงๆ มันเริ่มห่างไกลจากสิ่งที่ประชาชนเลือกแล้ว คนมีความรู้สึก อย่าไปท้าทาย อย่าไปฝืนหักดิบ แต่ควรค่อยเป็น ค่อยไป ถ้ายังดึงดัน ไม่สนใจประชาชน ตรงนี้ จะไปจุดชนวนมวลชน พรรคแกนนำตั้งรัฐบาลต้องระวัง”
พท.โวทำทันทีหลังบริหาร ปท. ลดราคาน้ำมัน ไฟฟ้า-ก๊าซ พักหนี้เกษตรกรนาน 3 ปี ทั้งต้น และดอก
https://www.matichon.co.th/election66/news_4126841
พท.โวทำทันทีหลังบริหาร ปท. ลดราคาน้ำมัน ไฟฟ้า-ก๊าซ พักหนี้เกษตรกรนาน 3 ปี ทั้งต้น และดอก
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ประกาศนโยบายที่จะทำทันทีหลังจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จว่า พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล มุ่งมั่นที่จะเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ แก้วิกฤตปัญหาให้พี่น้องประชาชน ปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องแก้ไข
พรรคเพื่อไทยมีแนวทางในการปรับลดราคาพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้าและก๊าช เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้ประชาชน ทั้งนี้ ภาระหนี้สิ้นเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรและกลุ่มผู้ประกอบการ SME เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงจะต้องมีหนทางในการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พรรคเพื่อไทยมีแนวทางในการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ทั้งต้น ทั้งดอก
เพื่อลดภาระและเปิดโอกาสใหม่ให้พี่น้องเกษตรกรในการทำมาหากิน พลิกฟื้นภาคการเกษตรของไทย ด้วยหลัก ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ รวมทั้งการผลักดันการพักชำระหนี้ SME ที่ประสบภัยโควิด 1 ปี คู่ขนานไปกับการปรับโครงสร้างหนี้แบบเฉพาะเจาะจง พร้อมต่อยอดด้วยชุดนโยบายของพรรคต่อไป
ชาวเน็ตเสียงแตก รองโฆษกเพื่อไทย ไม่สบายใจกิจกรรมปากระป๋องใส่ภาพนักการเมือง
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4126982
ชาวเน็ตเสียงแตก รองโฆษกเพื่อไทย ไม่สบายใจกิจกรรมปากระป๋องใส่ภาพนักการเมือง
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูป บนเฟซบุ๊ก ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ – หนุ่ม รวมทั้งบนทวิตเตอร์ แสดงความไม่สบายใจเกี่ยวกับกิจกรรมเกม “ปากระป๋องใส่ภาพบุคคลทางการเมือง” ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่จ.สุรินทร์ ดยนายชนินทร์ ได้เรียกร้องขอให้มีการใช้วิจารณญาณและระมัดระวังในการจัดกิจกรรมต่างๆมากขึ้น และควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ยุยงให้เกิดความเกลียดชัง หรือปลูกฝังแนวคิดทางการเมืองแก่ผู้ที่ยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ
โดยระบุว่า
เมื่อวานผมได้รับทราบถึงการจัดกิจกรรม ที่ปรากฏภาพ นักเรียนชั้นประถมศึกษา เข้าร่วมงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จังหวัด #สุรินทร์ และมีการเล่นกิจกรรมเกม “ปากระป๋องใส่ภาพบุคคลทางการเมือง” และเกิดความไม่สบายใจอย่างยิ่ง จึงอยากสื่อสารกับทุกท่านในสังคม โดยเฉพาะผู้มีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้
ผมขอเรียกร้องและย้ำเตือนแก่โรงเรียน หน่วยงานรัฐ ตลอดจนผู้ใหญ่ในสังคมทุกท่าน ให้ใช้วิจารณญาณและความระมัดระวังในการจัดกิจกรรมต่างๆให้มากขึ้น การทำกิจกรรมในลักษณะนี้อาจทำได้ตามสิทธิเสรีภาพ แต่เมื่อพึงตระหนักได้ว่ากิจกรรมดังกล่าวจะมีเด็กและเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเข้าร่วม ควรหลีกเลี่ยงรูปแบบกิจกรรมที่ยุยงให้เกิดความเกลียดชัง หรือการปลูกฝังแนวคิดทางการเมืองแก่ผู้ที่ยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ
ถึงแม้สถานศึกษาจะเป็นสถานที่ปลอดภัยในการแสดงออก สามารถเปิดให้มีอิสระทางความคิด กิจกรรมที่เกิดในโรงเรียนควรเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ มีประโยชน์ทางวิชาการหรือสันทนาการ และควรคำนึงถึงผลกระทบทางสังคมด้วย หากกิจกรรมนี้ริเริ่มโดยกลุ่มนักเรียน ควรมีครูอาจารย์ช่วยให้ความรู้และความเข้าใจถึงความเหมาะสมของรูปแบบกิจกรรมด้วย
“สังคมไทยขับเคลื่อนด้วยพวกเราทุกคนนะครับ ผมขอเรียกร้องถึงทุกภาคส่วนในสังคม รวมถึงพรรคการเมืองและผู้สนับสนุนพรรคการเมืองทุกท่าน ให้ใช้ความระมัดระวังในการดำเนินกิจกรรมการเมืองทุกรูปแบบ โดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชน ไม่ควรยุยงให้เกิดพฤติกรรมที่สร้างความขัดแย้งในสังคม สร้างแบบอย่างของการแสดงออกต่อความเกลียดชังด้วยความรุนแรง หรือปลูกฝังแนวคิดทางการเมืองเชิงลบแก่ผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เพราะอาจส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศความแตกแยกในสังคม”
https://www.facebook.com/ChaninRungtanakiat/posts/pfbid029qiwXBE6455h8Eimi18KjBCskAzEaPU5VQ9hSNKdGNJaH36sPtT2iSKWA9J3mimGl