รพ.อุ้มผาง วิกฤติหนัก ครึ่งปีงบติดลบ 40 ล้านบาท ต่างด้าวไม่มีเงินหาหมอให้ช่วยรักษา
https://www.thairath.co.th/scoop/theissue/2715794
รพ.อุ้มผาง จ.ตาก วิกฤติหนัก งบติดลบ 40 ล้านบาท หลังเมียนมาเผชิญสงครามภายใน ทำให้คนไข้ทะลักมารักษาที่โรงพยาบาล ทั้งอาการบาดเจ็บจากกับระเบิด และโรคระบาดที่เสี่ยงแพร่กระจายเข้ามาสู่ไทย หากไม่มีการรักษา หมอย้ำกระทรวงสาธารณสุขควรให้การช่วยเหลือระบบการแพทย์ริมชายแดน ไม่ใช่ปล่อยทิ้งอย่างที่เป็นอยู่
นพ.
วรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุ้มผาง จ.ตาก เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า หลังจากที่มีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับชนกลุ่มน้อยริมชายแดน ทำให้ระบบการแพทย์ของประเทศเพื่อนบ้านถูกตัดขาด จากเดิมที่ประสิทธิภาพการรักษาก็ต่างจากไทยค่อนข้างมาก เลยทำให้มีคนไข้ชาวเมียนมาเข้ามารักษาในโรงพยาบาลมากขึ้น และส่งผลต่องบประมาณในการดูแลคนเหล่านี้ เพราะคนไข้หลายคนไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา แต่ด้วยมนุษยธรรม หมอไม่สามารถปฏิเสธการรักษาได้ ประกอบกับโรคส่วนใหญ่เป็นโรคติดต่อ หากไม่รักษาจะมีการแพร่ระบาดมายังคนไทย
ชาวเมียนมาที่เข้ามารักษาหลายคนเป็นโรคติดต่อที่สามารถแพร่กระจายและทำให้เสียชีวิตได้ เช่น มาลาเรีย ที่มียุงเป็นพาหะ ถ้าไม่รักษาจะกลายเป็นรังของโรค แพร่กระจายจนไม่สามารถควบคุมได้ หรืออหิวาตกโรค มีอาการท้องร่วง ถ่ายอุจจาระได้แค่ 3 ครั้งก็เสียชีวิต หากไม่รักษาคนไข้จะถ่ายไปทั่วในป่า ทำให้เกิดการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง
“
หมอริมชายแดน เป็นเหมือนทหารด่านหน้าคอยสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ เพื่อไม่ให้แพร่เข้าไปยังพื้นที่ชั้นในของประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มคนเมียนมาที่ตอนนี้หนีสงครามเข้ามาอยู่ในศูนย์อพยพ แม้ในศูนย์มีกลุ่มเอ็นจีโอคอยดูแล แต่บางโรคต้องใช้การรักษาซับซ้อน ก็ต้องส่งคนไข้มายังโรงพยาบาล คนไข้กลุ่มนี้บางครั้งโรงพยาบาลจะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีประสิทธิภาพมากกว่า โดยโรงพยาบาลจะต้องสำรองจ่ายค่ารักษาไปก่อน แม้คนไข้รายนั้นไม่มีเงินค่ารักษา”
โรงพยาบาลอุ้มผาง มีชาวเมียนมามาพบแพทย์เฉลี่ยตอนนี้ 21 เปอร์เซ็นต์ โดยคนไข้ 5 คน มี 1 คนเป็นชาวต่างด้าว ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้โรงพยาบาลทั้งหมดใน จ.ตาก โรงพยาบาลอุ้มผาง มีคนไข้มาหาหมอมากที่สุด โดยไม่มีสัญชาติไทยประมาณ 47 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเกือบครึ่งของคนไข้
ทั้งหมด เนื่องจากพื้นที่เขตแดนไม่มีแม่น้ำเมยกั้น สามารถเดินไปมาถึงกัน ประกอบกับชนกลุ่มน้อยที่ตั้งหมู่บ้านในเขตแดนไทยมานาน แต่ไม่มีสัญชาติอยู่มาก
จากข้อมูลค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลอุ้มผาง ปี 2566 ที่ผ่านไป 9 เดือน ต้องสำรองจ่ายงบประมาณให้กับคนไข้ต่างด้าวที่ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาแล้ว 40 ล้านบาท เงินส่วนนี้โรงพยาบาลต้องไปหาเงินมาอุดหนุนจากการบริจาคที่มีมากน้อยแตกต่างกันในแต่ละปี แต่มีการควบคุณคุณภาพการรักษาไม่ให้คนไข้สัญชาติไทยได้รับผลกระทบ
การโจมตีของทหารเมียนมากับชนกลุ่มน้อย ทำให้มีคนไข้ที่อพยพเข้ามารักษาในพื้นที่มากขึ้น จากเดิมมีการฝังกับระเบิดในพื้นที่ ทำให้มีคนไข้ที่เหยียบกับระเบิดเข้ามารักษาจำนวนมาก แต่ตอนนี้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น ทำให้ทหารเมียนมากดดันกลุ่มแพทย์เอ็นจีโอที่เข้าไปรักษาชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ ทำให้คนไข้ต้องอพยพมารักษาในโรงพยาบาลจำนวนมาก
ค่าใช้จ่ายคนไข้ต่างด้าวที่เข้ามารักษามีตั้งแต่หลักร้อย-หลักแสนบาท แนวทางการแก้ไขกรณีที่งบการเงินติดลบ จะมีโครงการขอรับบริจาคยาที่เหลือใช้ เพื่อนำมาใช้รักษาคนต่างด้าวในพื้นที่ ตอนนี้เครื่องมือแพทย์ในโรงพยาบาลค่อนข้างเพียงพอ แต่งบประมาณที่ต้องใช้ในการรักษาคนต่างด้าวยังขาดแคลนทุนทรัพย์
หลายคนมีคำถามว่าทำไมต้องรักษาให้คนไข้ต่างด้าวที่ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา หมอเจอคำถามนี้อยู่ตลอด แต่สิ่งสำคัญคือมนุษยธรรม ไม่มีแพทย์คนไหนอยากปล่อยให้คนไข้ตาย เพราะเขาไม่มีสัญชาติไทย หรือบัตรประชาชน อีกอย่างคนไข้ริมชายแดนเมื่อเป็นโรคที่สามารถระบาดสู่คนอื่นได้ ถ้าไม่รักษา สุดท้ายจะแพร่ระบาดมายังคนไทย บางโรคถ้าปล่อยให้มีการแพร่ระบาดหนักแล้วมารักษาเมื่อสาย ค่าใช้จ่ายการรักษาจะแพง เช่น บางโรคต้องใช้การรักษาเริ่มต้นถึงแสนบาท แต่ถ้ารักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะมีค่าใช้จ่ายไม่กี่ร้อยบาท
สิ่งที่ผมอยากขอร้องท่านผู้ใหญ่ในกระทรวงสาธารณสุขคือ การสนับสนุนระบบสาธารณสุขชายแดน บางงานมีการทำอยู่แล้ว แต่ไม่มีงบประมาณมาช่วย ที่ผ่านมาเคยมีการสนับสนุนแล้วก็หยุดไป แต่ถ้ามีงบประมาณมาช่วยในการส่งเสริมป้องกันบ้างก็จะดี เช่น สนับสนุนวัคซีน โดยที่โรงพยาบาลไม่ต้องไปหาเอง เพราะที่ผ่านมาโรงพยาบาลต้องไปขอรับบริจาควัคซีนจากสภากาชาดไทย เช่น วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก เพราะวัคซีนมีราคาแพง ทางหน่วยงานไม่มีงบเพียงพอในการจัดซื้อ
สำหรับผู้ที่อยากบริจาคทุนทรัพย์สิ่งของให้กับโรงพยาบาล สามารถติดต่อ หรือส่งไปรษณีย์มายังโรงพยาบาลได้โดยตรง อย่างน้อยก็ถือเป็นการทำบุญกับเพื่อนมนุษย์ แม้เขาไม่มีสัญชาติไทย แต่การมอบสิ่งเหล่านี้ให้ถือเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการในสภาวะที่ประเทศของเขาเผชิญกับการสู้รบ.
ดวงฤทธิ์ สงสัยถ้า ‘ก้าวไกล’ ไม่โหวตแคนดิเดตพท. แล้วไงต่อ ส่ง ‘ภท.’ เป็นนายกฯ หรือ?
https://www.matichon.co.th/election-slide/news_4119888
ดวงฤทธิ์ สงสัยถ้า ‘ก้าวไกล’ ไม่โหวตแคนดิเดต พท. แล้วไงต่อ ส่ง ‘ภท.’ เป็นนายกฯ หรือ?
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม นาย
ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิก นักออกแบบ และสมาชิกกลุ่มแคร์ ได้ทวีตข้อความระบุว่า
“
ถ้าก้าวไกลไม่ยกมือให้แคนดิเดตเพื่อไทย แล้วมันจะเป็นยังไงต่อหรือครับ ส่งต่อให้อนุทินเป็นนายกฯหรือ สบายใจเขาล่ะ”
https://twitter.com/DuangritBunnag/status/1689076903498653696
ก้าวไกล ลุยยื่นชุดกม.เปลี่ยนประเทศ 9 ร่าง ดักคอนายกฯ อย่าอ้างเกี่ยวกม.การเงิน มาขวาง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4120131
ก้าวไกล ลุยยื่นชุดกม.เปลี่ยนประเทศ 9 ร่าง ดักคอนายกฯ อย่าอ้างเกี่ยวกม.การเงิน มาขวาง
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่รัฐสภา นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. พร้อมด้วย ส.ส. พรรค ก.ก. เข้ายื่นชุดกฎหมายเปลี่ยนประเทศจำนวน 3 ชุด 9 ร่าง ต่อนาย
วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ผ่านนาย
มุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร
นาย
พริษฐ์ กล่าวว่า ในวันนี้ที่จะยื่นเสนอกฎหมายมี 3 ชุด ประกอบด้วย
ชุดที่ 1.การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น หรือการปลดล็อกท้องถิ่น ซึ่งมีทั้งหมด 4 ร่าง ได้แก่
1. ร่างพ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้องค์กรปกคริงส่วนท้องถิ่น
2. ร่าง พ.ร.บขนส่งทางบก
3. ร่าง พ.ร.บ.ถนน
4. ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์
ชุดที่ 2 การป้องกันการทุจริต มี 2 ร่าง ได้แก่
1. ร่าง พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารสาธารณะ ที่จะต้องทำให้รัฐเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส
2. ร่าง พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการขออนุญาต เพื่อให้ประชาชนมีความสะดวกมากขึ้น และป้องกันการทุจริตหรือการติดสินบนที่อาจจะเกิดขึ้น
ชุดที่ 3 ประกอบไปด้วย 3 ร่าง ได้แก่
1. การแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม
2. ร่าง พ.ร.บ.รับรองอัตลักษณ์ทางเพศ
3. ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิกลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์
นาย
พริษฐ์ กล่าวอีกว่า จากกฎหมายที่พรรค ก.ก.ได้ยื่นไปแล้ว จังหวะเวลาในการยื่นร่างเหล่านี้ แม้จะเป็นรัฐบาลรักษาการณ์จะมีอำนาจตามกฎหมายในการตีความ ว่าจะรับรองกฎหมายด้านกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงินหรือไม่ ก็หวังว่านายกรักษาการณ์ จะไม่ใช้อำนาจดังกล่าวไปผูกมัดหรือขัดขวางเจตจำนงของรัฐบาลใหม่ หากนายกรักษาการณ์มีความกังวล ว่าสภาจะผ่านกฎหมายที่ผูดมัดรัฐบาลใหม่หรือไม่ ก็อยากชี้แจงว่า ไม่ว่ารัฐบาลใหม่จะหน้าตาเป็นอย่างไร แต่รัฐบาลใหม่ก็ต้องประกอบไปด้วยพรรคการเมืองที่มีตัวแทนเป็นส.ส. ในสภาอยู่แล้ว หากกฎหมายนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภา พรรคการเมืองแต่ละพรรคที่มีส.ส.อยู่ก็สามารถใช้ดุลยพินิจได้ ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว และหากพรรค ก.ก. ได้มีโอกาสเข้าไปบริหารประเทศ ดังนั้นแม้ 7 ร่างที่ยื่นไปแล้ว แต่มี 2 ร่าง เกี่ยวกับการยกเลิกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ซึ่งเกี่ยวกับการเงิน ต้องให้นายกฯ เซ็นรับรอง ก่อนที่จะเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภา จึงหวังว่านายกฯ รักษาการ จะไม่ใช้อำนาจขัดขวางร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้
JJNY : รพ.อุ้มผางวิกฤติหนัก ครึ่งปีงบติดลบ 40 ล.│ดวงฤทธิ์ สงสัย│ก้าวไกลลุยยื่นชุดกม.เปลี่ยนประเทศ│“ไบเดน”จะเยือนเวียดนาม
https://www.thairath.co.th/scoop/theissue/2715794
รพ.อุ้มผาง จ.ตาก วิกฤติหนัก งบติดลบ 40 ล้านบาท หลังเมียนมาเผชิญสงครามภายใน ทำให้คนไข้ทะลักมารักษาที่โรงพยาบาล ทั้งอาการบาดเจ็บจากกับระเบิด และโรคระบาดที่เสี่ยงแพร่กระจายเข้ามาสู่ไทย หากไม่มีการรักษา หมอย้ำกระทรวงสาธารณสุขควรให้การช่วยเหลือระบบการแพทย์ริมชายแดน ไม่ใช่ปล่อยทิ้งอย่างที่เป็นอยู่
นพ.วรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุ้มผาง จ.ตาก เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า หลังจากที่มีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับชนกลุ่มน้อยริมชายแดน ทำให้ระบบการแพทย์ของประเทศเพื่อนบ้านถูกตัดขาด จากเดิมที่ประสิทธิภาพการรักษาก็ต่างจากไทยค่อนข้างมาก เลยทำให้มีคนไข้ชาวเมียนมาเข้ามารักษาในโรงพยาบาลมากขึ้น และส่งผลต่องบประมาณในการดูแลคนเหล่านี้ เพราะคนไข้หลายคนไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา แต่ด้วยมนุษยธรรม หมอไม่สามารถปฏิเสธการรักษาได้ ประกอบกับโรคส่วนใหญ่เป็นโรคติดต่อ หากไม่รักษาจะมีการแพร่ระบาดมายังคนไทย
ชาวเมียนมาที่เข้ามารักษาหลายคนเป็นโรคติดต่อที่สามารถแพร่กระจายและทำให้เสียชีวิตได้ เช่น มาลาเรีย ที่มียุงเป็นพาหะ ถ้าไม่รักษาจะกลายเป็นรังของโรค แพร่กระจายจนไม่สามารถควบคุมได้ หรืออหิวาตกโรค มีอาการท้องร่วง ถ่ายอุจจาระได้แค่ 3 ครั้งก็เสียชีวิต หากไม่รักษาคนไข้จะถ่ายไปทั่วในป่า ทำให้เกิดการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง
“หมอริมชายแดน เป็นเหมือนทหารด่านหน้าคอยสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ เพื่อไม่ให้แพร่เข้าไปยังพื้นที่ชั้นในของประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มคนเมียนมาที่ตอนนี้หนีสงครามเข้ามาอยู่ในศูนย์อพยพ แม้ในศูนย์มีกลุ่มเอ็นจีโอคอยดูแล แต่บางโรคต้องใช้การรักษาซับซ้อน ก็ต้องส่งคนไข้มายังโรงพยาบาล คนไข้กลุ่มนี้บางครั้งโรงพยาบาลจะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีประสิทธิภาพมากกว่า โดยโรงพยาบาลจะต้องสำรองจ่ายค่ารักษาไปก่อน แม้คนไข้รายนั้นไม่มีเงินค่ารักษา”
โรงพยาบาลอุ้มผาง มีชาวเมียนมามาพบแพทย์เฉลี่ยตอนนี้ 21 เปอร์เซ็นต์ โดยคนไข้ 5 คน มี 1 คนเป็นชาวต่างด้าว ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้โรงพยาบาลทั้งหมดใน จ.ตาก โรงพยาบาลอุ้มผาง มีคนไข้มาหาหมอมากที่สุด โดยไม่มีสัญชาติไทยประมาณ 47 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเกือบครึ่งของคนไข้
ทั้งหมด เนื่องจากพื้นที่เขตแดนไม่มีแม่น้ำเมยกั้น สามารถเดินไปมาถึงกัน ประกอบกับชนกลุ่มน้อยที่ตั้งหมู่บ้านในเขตแดนไทยมานาน แต่ไม่มีสัญชาติอยู่มาก
จากข้อมูลค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลอุ้มผาง ปี 2566 ที่ผ่านไป 9 เดือน ต้องสำรองจ่ายงบประมาณให้กับคนไข้ต่างด้าวที่ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาแล้ว 40 ล้านบาท เงินส่วนนี้โรงพยาบาลต้องไปหาเงินมาอุดหนุนจากการบริจาคที่มีมากน้อยแตกต่างกันในแต่ละปี แต่มีการควบคุณคุณภาพการรักษาไม่ให้คนไข้สัญชาติไทยได้รับผลกระทบ
การโจมตีของทหารเมียนมากับชนกลุ่มน้อย ทำให้มีคนไข้ที่อพยพเข้ามารักษาในพื้นที่มากขึ้น จากเดิมมีการฝังกับระเบิดในพื้นที่ ทำให้มีคนไข้ที่เหยียบกับระเบิดเข้ามารักษาจำนวนมาก แต่ตอนนี้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น ทำให้ทหารเมียนมากดดันกลุ่มแพทย์เอ็นจีโอที่เข้าไปรักษาชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ ทำให้คนไข้ต้องอพยพมารักษาในโรงพยาบาลจำนวนมาก
ค่าใช้จ่ายคนไข้ต่างด้าวที่เข้ามารักษามีตั้งแต่หลักร้อย-หลักแสนบาท แนวทางการแก้ไขกรณีที่งบการเงินติดลบ จะมีโครงการขอรับบริจาคยาที่เหลือใช้ เพื่อนำมาใช้รักษาคนต่างด้าวในพื้นที่ ตอนนี้เครื่องมือแพทย์ในโรงพยาบาลค่อนข้างเพียงพอ แต่งบประมาณที่ต้องใช้ในการรักษาคนต่างด้าวยังขาดแคลนทุนทรัพย์
หลายคนมีคำถามว่าทำไมต้องรักษาให้คนไข้ต่างด้าวที่ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา หมอเจอคำถามนี้อยู่ตลอด แต่สิ่งสำคัญคือมนุษยธรรม ไม่มีแพทย์คนไหนอยากปล่อยให้คนไข้ตาย เพราะเขาไม่มีสัญชาติไทย หรือบัตรประชาชน อีกอย่างคนไข้ริมชายแดนเมื่อเป็นโรคที่สามารถระบาดสู่คนอื่นได้ ถ้าไม่รักษา สุดท้ายจะแพร่ระบาดมายังคนไทย บางโรคถ้าปล่อยให้มีการแพร่ระบาดหนักแล้วมารักษาเมื่อสาย ค่าใช้จ่ายการรักษาจะแพง เช่น บางโรคต้องใช้การรักษาเริ่มต้นถึงแสนบาท แต่ถ้ารักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะมีค่าใช้จ่ายไม่กี่ร้อยบาท
สิ่งที่ผมอยากขอร้องท่านผู้ใหญ่ในกระทรวงสาธารณสุขคือ การสนับสนุนระบบสาธารณสุขชายแดน บางงานมีการทำอยู่แล้ว แต่ไม่มีงบประมาณมาช่วย ที่ผ่านมาเคยมีการสนับสนุนแล้วก็หยุดไป แต่ถ้ามีงบประมาณมาช่วยในการส่งเสริมป้องกันบ้างก็จะดี เช่น สนับสนุนวัคซีน โดยที่โรงพยาบาลไม่ต้องไปหาเอง เพราะที่ผ่านมาโรงพยาบาลต้องไปขอรับบริจาควัคซีนจากสภากาชาดไทย เช่น วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก เพราะวัคซีนมีราคาแพง ทางหน่วยงานไม่มีงบเพียงพอในการจัดซื้อ
สำหรับผู้ที่อยากบริจาคทุนทรัพย์สิ่งของให้กับโรงพยาบาล สามารถติดต่อ หรือส่งไปรษณีย์มายังโรงพยาบาลได้โดยตรง อย่างน้อยก็ถือเป็นการทำบุญกับเพื่อนมนุษย์ แม้เขาไม่มีสัญชาติไทย แต่การมอบสิ่งเหล่านี้ให้ถือเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการในสภาวะที่ประเทศของเขาเผชิญกับการสู้รบ.
ดวงฤทธิ์ สงสัยถ้า ‘ก้าวไกล’ ไม่โหวตแคนดิเดตพท. แล้วไงต่อ ส่ง ‘ภท.’ เป็นนายกฯ หรือ?
https://www.matichon.co.th/election-slide/news_4119888
ดวงฤทธิ์ สงสัยถ้า ‘ก้าวไกล’ ไม่โหวตแคนดิเดต พท. แล้วไงต่อ ส่ง ‘ภท.’ เป็นนายกฯ หรือ?
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม นายดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิก นักออกแบบ และสมาชิกกลุ่มแคร์ ได้ทวีตข้อความระบุว่า
“ถ้าก้าวไกลไม่ยกมือให้แคนดิเดตเพื่อไทย แล้วมันจะเป็นยังไงต่อหรือครับ ส่งต่อให้อนุทินเป็นนายกฯหรือ สบายใจเขาล่ะ”
https://twitter.com/DuangritBunnag/status/1689076903498653696
ก้าวไกล ลุยยื่นชุดกม.เปลี่ยนประเทศ 9 ร่าง ดักคอนายกฯ อย่าอ้างเกี่ยวกม.การเงิน มาขวาง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4120131
ก้าวไกล ลุยยื่นชุดกม.เปลี่ยนประเทศ 9 ร่าง ดักคอนายกฯ อย่าอ้างเกี่ยวกม.การเงิน มาขวาง
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. พร้อมด้วย ส.ส. พรรค ก.ก. เข้ายื่นชุดกฎหมายเปลี่ยนประเทศจำนวน 3 ชุด 9 ร่าง ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ผ่านนายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ในวันนี้ที่จะยื่นเสนอกฎหมายมี 3 ชุด ประกอบด้วย
ชุดที่ 1.การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น หรือการปลดล็อกท้องถิ่น ซึ่งมีทั้งหมด 4 ร่าง ได้แก่
1. ร่างพ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้องค์กรปกคริงส่วนท้องถิ่น
2. ร่าง พ.ร.บขนส่งทางบก
3. ร่าง พ.ร.บ.ถนน
4. ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์
ชุดที่ 2 การป้องกันการทุจริต มี 2 ร่าง ได้แก่
1. ร่าง พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารสาธารณะ ที่จะต้องทำให้รัฐเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส
2. ร่าง พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการขออนุญาต เพื่อให้ประชาชนมีความสะดวกมากขึ้น และป้องกันการทุจริตหรือการติดสินบนที่อาจจะเกิดขึ้น
ชุดที่ 3 ประกอบไปด้วย 3 ร่าง ได้แก่
1. การแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม
2. ร่าง พ.ร.บ.รับรองอัตลักษณ์ทางเพศ
3. ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิกลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า จากกฎหมายที่พรรค ก.ก.ได้ยื่นไปแล้ว จังหวะเวลาในการยื่นร่างเหล่านี้ แม้จะเป็นรัฐบาลรักษาการณ์จะมีอำนาจตามกฎหมายในการตีความ ว่าจะรับรองกฎหมายด้านกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงินหรือไม่ ก็หวังว่านายกรักษาการณ์ จะไม่ใช้อำนาจดังกล่าวไปผูกมัดหรือขัดขวางเจตจำนงของรัฐบาลใหม่ หากนายกรักษาการณ์มีความกังวล ว่าสภาจะผ่านกฎหมายที่ผูดมัดรัฐบาลใหม่หรือไม่ ก็อยากชี้แจงว่า ไม่ว่ารัฐบาลใหม่จะหน้าตาเป็นอย่างไร แต่รัฐบาลใหม่ก็ต้องประกอบไปด้วยพรรคการเมืองที่มีตัวแทนเป็นส.ส. ในสภาอยู่แล้ว หากกฎหมายนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภา พรรคการเมืองแต่ละพรรคที่มีส.ส.อยู่ก็สามารถใช้ดุลยพินิจได้ ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว และหากพรรค ก.ก. ได้มีโอกาสเข้าไปบริหารประเทศ ดังนั้นแม้ 7 ร่างที่ยื่นไปแล้ว แต่มี 2 ร่าง เกี่ยวกับการยกเลิกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ซึ่งเกี่ยวกับการเงิน ต้องให้นายกฯ เซ็นรับรอง ก่อนที่จะเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภา จึงหวังว่านายกฯ รักษาการ จะไม่ใช้อำนาจขัดขวางร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้