18.17 น.ม็อบถึงแยกราชประสงค์ ชูป้ายฟ้องโลก 'เคารพฉันทมติปชช.' นักท่องเที่ยวถ่ายคลิปพรึบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4105298
18.17 น.ม็อบถึงแยกราชประสงค์ ชูป้ายฟ้องโลก ‘เคารพฉันทมติปชช.’ นักท่องเที่ยวถ่ายคลิปพรึบ
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม สืบเนื่องกรณีนาย
สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ประกาศชุมนุม #พร้อม2 ในวันนี้เวลา 17.00 น. โดยนัดหมายรวมตัวที่แยกอโศกมนตรี เพื่อเดินเท้าไปยังแยกราชประสงค์ แล้วแปรอักษรโดยยังไม่เปิดเผยว่าเป็นอักษรตัวใด
เวลาประมาณ 16.40 น. นาย
สมบัติ เดินทางมาถึง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยกล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ ตนขอเน้นย้ำว่า กิจกรรมในวันนี้มีเป้าหมายที่การเรัยกร้อง สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งเป็นผลิตของคสช. ที่หมดอายุไปแล้ว เมื่อมีการเลือกตั้ง แสวงหาตัวแทน คือ ส.ส. เข้าสภา แต่ ส.ว. กลับแสดงปฏิกิริยาดังที่เห็นอยู่ ตนขอเรียกร้องให้ฝ่ายการเมืองกลับมาสนใจหลักการ ขอเสนอว่าเราสามารถฝ่าวิกฤตด้วยหลักประชาธิปไตย โดยพิจารณาจาก 2 มาตรา คือ มาตรา 3 และมาตรา 5 วรรค 2
เวลา 17.00 น. ตั้งขบวนที่แยกอโศกมนตรี กลุ่ม ‘
คณะราษดรัม’ รัวกลอง ผู้ชุมนุมตั้งแถวตะโกนให้กำลังพรรคก้าวไกล และนาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
เวลาราว 17.10 น. ผู้ชุมนุมลงถนน ปิดช่องจราจรฝั่งมุ่งหน้าถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. ทองหล่อดูแลความปลอดภัย
ผู้ชุมนุมเป่าแตรกระป๋อง ซึ่งนายสมบัติระบุว่า เหมาซื้อมาจากคลองถม 30 ชิ้น
เวลา 17.13 น. เคลื่อนขบวนที่นำด้วยป้ายไวนิลสีขาว อักษรสีเขียว มีข้อความ ‘
เขตอภัยทาน’ เน้นย้ำการปราศจากอาวุธ
จากนั้น มีการปรับเปลี่ยนโดยนำป้ายไวนิลอีก 1 ชิ้นมานำขบวนแทน โดยใช้อักษรย่อ ก จ ส ก ม อ ล ต ผ ด
เวลา 17.17 น. ขบวนเลี้ยงขวาสู่ถนนสุขุมวิท
17.30 น. รถเครื่องเสียงสมทบบนถนนสุขุมวิท นายสิรภพ อัตโตหิ หรือ แรปเตอร์ นักกิจกรรมประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ขอให้ประชาชนที่สัญจรไปมาร่วมส่งเสียงถึง ส.ว.
17.40 น. ม็อบ #พร้อม2 ขบวนถึงแยกนานา ชู 3 ตะโกนเรียกร้องให้ ส.ว. ฟังเสียงประชาชน
17.53 น.ถึงแยกชิดลม เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดูแลการจราจร
18.09 น. ขบวนผ่านแยกชิดลม ยังคงมีการเป่าแตรเสียงดังกึกก้อง
18.17 น. ถึงแยกราชประสงค์ ผู้ชุมนุมชูป้ายทั้งภาษาไทยและอังกฤษให้นักท่องเที่ยวบนรถทัวร์ และสองฝั่งถนนอ่าน จากนั้นเลี้ยวขวาสู่ถนนราชดำริ
ระหว่างนั้น มีผู้โปรยกระดาษจากสกายวอล์กข้ามแยกราชประสงค์ เป็นภาพนาย
ทักษิณ ชินวัตร และนาย
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
อดีตเลขาสมช. มั่นใจ 8 พรรคร่วม ถ้ากอดคอสู้-ไม่เสียสัตย์ ยังไงก็รอด กับดักโหวตนายก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4104604
อดีตเลขาฯสมช. มั่นใจ 8 พรรคร่วม ถ้ากอดคอสู้-ไม่เสียสัตย์ ยังไงก็ชนะ กับดักโหวตนายกฯ
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พล.ท.
ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่า เพราะผลการเลือกตั้งที่ออกมา ประชาชนเขาไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม จึงมอบอาญาสิทธิ์เป็นพันธกิจให้ 8 พรรค 312 เสียง ที่มีพรรคก้าวไกลเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันไปเป็นรัฐบาลเพื่อบริหารราชการแผ่นดินตามเจตจำนงที่ประชาชนอยากจับต้อง (MOU 8 พรรค) คือ การปราบคอร์รัปชั่น ปฏิรูปกองทัพ ทลายทุนผูกขาด การกระจายอำนาจ สันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ เศรษฐกิจดี รัฐสวัสดิการถ้วนหน้า สังคมยุติธรรมเป็นธรรม เป็นต้น แต่มันไปติดกับดักที่การโหวตตัวนายกรัฐมนตรีอยู่
การจะหลุดรอดจากกับดัก ก็เพียงแค่กอดคอกันให้มั่นและยึดกฎลูกเสือ ”
เสียชีพอย่าเสียสัตย์” เป็นแนวต่อสู้ กาลเวลาก็จะพาพวกท่านสู่ชัยชนะ เพราะเสียงของวุฒิสมาชิกจะเข้ามาเสริม 8 พรรคให้ไปถึง 376 เสียง เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะพลังประชาชนทางตรงจะไปกระชากจิตวิญญาณให้เหล่าวุฒิสมาชิกที่เป็นนายทหาร ซึ่งสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายทหารหลัก เริ่มดวงตาเห็นธรรมหวนระลึกถึงการยึดมั่นในระบบเกียรติศักดิ์ที่สร้างให้พวกเขาได้รับการกล่าวขานในอดีตจากประชาชนว่า ”
เป็นสุภาพบุรุษแห่งถนนราชดำเนิน” และ ”
เป็นวีรบุรุษแห่งสะพานมัฆวาน”
และแล้วระบบเกียรติศักดิ์นี้เอง จะทำให้ต่อมสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดี และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางของพวกเขาเริ่มกลับคืนมา แล้วเมื่อสำนึกคืนสู่จุดปกติของวิญญูชน พวกเขาก็จะตื่นขึ้นเคารพเจตจำนงเสียงศักดิ์สิทธิ์ของประชาชนหันมาร่วมกันโหวตตัวนายกรัฐมนตรีให้กับฝ่ายปีกประชาธิปไตย 8 พรรคร่วมในที่สุด แล้วเมื่อนั้นประเทศไทยก็จะคืนสู่ความเป็นปกติ มีรัฐบาลที่มีความชอบธรรมเป็นที่ยอมรับอย่างสง่างาม ทั้งในและต่างประเทศ เร่งสร้างกระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรม พาคนไทยที่ระหกระเหินอยู่ต่างแดนกลับคืนสู่มาตุภูมิโดยถ้วนหน้าอย่างเสมอภาค อำนาจอยู่กับประชาชนปลอดภัยที่สุด
เท่าพิภพ มั่นใจ ‘สุราก้าวหน้า’ ไม่สะดุด ผู้ประกอบการหวังช่วยปลดล็อก ยกระดับสินค้าเกษตร
https://www.matichon.co.th/region/news_4104930
เท่าพิภพ มั่นใจ ‘สุราก้าวหน้า’ ไม่สะดุด ผู้ประกอบการหวังช่วยปลดล็อก ยกระดับสินค้าเกษตร
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 กรกฎาคม ที่ร้านฮ็อปเบียร์ ซึ่งเป็นโรงเบียร์ขนาดเล็ก ตั้งอยู่ริมถนนสืบศิริ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นาย
เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ผู้ผลักดันนโยบายสุราก้าวหน้า ได้เดินทางมาให้กำลังใจผู้ประกอบการและนักธุรกิจรุ่นใหม่กว่า 100 คน ที่เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อมาอบรมการผลิตคราฟต์เบียร์ กับทางร้านฮ็อปเบียร์ แม้ว่าสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลจะยังไม่ชัดเจนว่า พรรคก้าวไกลจะยังอยู่ขั้วจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่หรือไม่ แต่ผู้ประกอบการและนักธุรกิจรุ่นใหม่ต่างก็มั่นใจว่านโยบายสุราก้าวหน้าจะเดินหน้าต่อไปได้
นาย
จิรพิสิษฐ์ รุจน์เจริญ ประธานกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่โคราช (vec korat) กล่าวว่า กระแสนโยบายสุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล ได้รับความสนใจจากนักธุรกิจรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก เพราะทุกคนเชื่อว่าจะสามารถเข้ามาช่วยยกระดับราคาสินค้าทางการเกษตรได้ และที่ร้านฮ็อปเบียร์แห่งนี้ ก็มีประสบการณ์การทำคราฟต์เบียร์เป็นที่ยอมรับของคนทั่วประเทศ ดังนั้นจึงได้นำนักธุรกิจรุ่นใหม่ของโคราชเข้ามาศึกษาเรียนรู้การทำคราฟต์เบียร์ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจของตนเองได้ในอนาคต
นาย
จิรพิสิษฐ์กล่าวต่อว่า อยากให้ปลดล็อกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคกับการทำคราฟต์เบียร์ลงหลายข้อ เช่น กฎหมายทุนการจดทะเบียน ต้องขั้นต่ำ 10 ล้านบาท หรือกฎหมายเรื่องปริมาณการผลิตจำนวนมากๆ เป็นแสนลิตรต่อปี ซึ่งเป็นข้อจำกัดทำให้ผู้ประกอบการรายย่อย ไม่สามารถนำมาทดลองผลิตในปริมาณน้อยได้ ถ้าปลดล็อกกฎหมายเหล่านี้ได้ก็จะเป็นการช่วยยกระดับราคาสินค้าทางการเกษตรได้มากถึง 10 เท่าเลยทีเดียว
ด้านนาย
เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เรื่องนโยบายสุราก้าวหน้านั้น ตนมั่นใจว่าจะไม่สะดุดแน่นอน เพราะตนเองเคยยื่นร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าไปที่รัฐสภามาก่อนหน้านั้นแล้ว แม้ว่าครั้งก่อนจะไม่ผ่านมติรัฐสภา แต่ก็แสดงให้เห็นว่ากระแสเรียกร้องของประชาชนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย ดังนั้นครั้งนี้ที่พรรคก้าวไกลมีจำนวน ส.ส.มากถึง 151 เสียง รวมทั้งเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค ซึ่งมีคะแนนเสียงเกินครึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ก็น่าจะผ่านได้ไม่ยาก เพราะร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้านี้ ถือว่าเป็นร่างที่ดีที่สุดที่ตนเองทำมา
“
นโยบายสุราก้าวหน้านี้ เป็นการลดช่องว่างระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่กับรายเล็กได้เป็นอย่างมาก การปลดล็อกข้อจำกัดการผลิตสุราตาม พ.ร.บ.สุราก้าวหน้านี้ เป็นหนึ่งในกฎหมายใบอนุญาตกว่า 8,800 ใบอนุญาต ที่จำกัดศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจของไทย ถ้าสามารถแก้ปัญหานี้ได้ จะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยได้มหาศาลเลยทีเดียว ส่วนการไปแตะกลุ่มทุนใหญ่ที่ผูกขาดธุรกิจสุราในปัจจุบันอยู่นั้น ก็เป็นห่วง เพราะพรรคการเมืองหลายพรรคได้ทุนสนับสนุนจากกลุ่มทุนใหญ่อยู่ แต่พรรคก้าวไกลเป็นตัวแทนจากประชาชนอย่างแท้จริงอยู่แล้ว ดังนั้นก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ไม่มีอะไรต้องกังวล” นาย
เท่าพิภพกล่าว
นักวิเคราะห์ชี้ สูตร รบ.ใหม่ดึงขั้วเดิมร่วม สถานภาพการเมืองอ่อนแอ ผลักดันนโยบายยาก
https://www.matichon.co.th/economy/news_4103617
นักวิเคราะห์ชี้ สูตรรัฐบาลใหม่ดึงขั้วเดิมร่วม สถานภาพการเมืองอ่อนแอ ผลักดันนโยบายยาก
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุนสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวถึงสูตรการจัดตั้งรัฐบาล กรณีที่ไม่มีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เข้าเป็นพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่า การจัดตั้งรัฐบาลจะมีพรรคก้าวไกลเข้าร่วมหรือไม่มีนั้น จะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก เนื่องจากผลจากการเลือกตั้งยังไม่มีฝ่ายที่ชนะชัดเจน หรือสัดส่วนยังไม่ขาดลอย ต่อให้จะไม่มีพรรคก้าวไกล และพรรคที่จัดตั้งรัฐบาลใหม่ไปร่วมกับพรรครัฐบาลเดิม
ซึ่งมองว่ารัฐบาลดังกล่าวจะมีสถานภาพทางการเมืองที่อ่อนแอ เนื่องจากการร่วมจัดตั้งรัฐบาลมาจากหลายพรรคการเมืองผสมกัน การทำนโยบายนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้พรรคที่มีเสียงมากที่สุดอาจไม่สามารถดำเนินนโยบายของพรรคได้สำเร็จ เพราะพรรคการเมืองที่เข้าร่วมไม่เห็นด้วย เนื่องจากมีนโยบายของพรรคที่อยากผลักดันเช่นกัน
JJNY : 5in1 ชูป้ายฟ้องโลก│อดีตเลขาสมช.มั่นใจ8พรรค│เท่าพิภพมั่นใจ‘สุราก้าวหน้า’│สูตรรบ.ใหม่ดึงขั้วเดิม│รัสเซียแจกธัญพืช
https://www.matichon.co.th/politics/news_4105298
18.17 น.ม็อบถึงแยกราชประสงค์ ชูป้ายฟ้องโลก ‘เคารพฉันทมติปชช.’ นักท่องเที่ยวถ่ายคลิปพรึบ
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม สืบเนื่องกรณีนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ประกาศชุมนุม #พร้อม2 ในวันนี้เวลา 17.00 น. โดยนัดหมายรวมตัวที่แยกอโศกมนตรี เพื่อเดินเท้าไปยังแยกราชประสงค์ แล้วแปรอักษรโดยยังไม่เปิดเผยว่าเป็นอักษรตัวใด
เวลาประมาณ 16.40 น. นายสมบัติ เดินทางมาถึง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยกล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ ตนขอเน้นย้ำว่า กิจกรรมในวันนี้มีเป้าหมายที่การเรัยกร้อง สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งเป็นผลิตของคสช. ที่หมดอายุไปแล้ว เมื่อมีการเลือกตั้ง แสวงหาตัวแทน คือ ส.ส. เข้าสภา แต่ ส.ว. กลับแสดงปฏิกิริยาดังที่เห็นอยู่ ตนขอเรียกร้องให้ฝ่ายการเมืองกลับมาสนใจหลักการ ขอเสนอว่าเราสามารถฝ่าวิกฤตด้วยหลักประชาธิปไตย โดยพิจารณาจาก 2 มาตรา คือ มาตรา 3 และมาตรา 5 วรรค 2
เวลา 17.00 น. ตั้งขบวนที่แยกอโศกมนตรี กลุ่ม ‘คณะราษดรัม’ รัวกลอง ผู้ชุมนุมตั้งแถวตะโกนให้กำลังพรรคก้าวไกล และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
เวลาราว 17.10 น. ผู้ชุมนุมลงถนน ปิดช่องจราจรฝั่งมุ่งหน้าถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. ทองหล่อดูแลความปลอดภัย
ผู้ชุมนุมเป่าแตรกระป๋อง ซึ่งนายสมบัติระบุว่า เหมาซื้อมาจากคลองถม 30 ชิ้น
เวลา 17.13 น. เคลื่อนขบวนที่นำด้วยป้ายไวนิลสีขาว อักษรสีเขียว มีข้อความ ‘เขตอภัยทาน’ เน้นย้ำการปราศจากอาวุธ
จากนั้น มีการปรับเปลี่ยนโดยนำป้ายไวนิลอีก 1 ชิ้นมานำขบวนแทน โดยใช้อักษรย่อ ก จ ส ก ม อ ล ต ผ ด
เวลา 17.17 น. ขบวนเลี้ยงขวาสู่ถนนสุขุมวิท
17.30 น. รถเครื่องเสียงสมทบบนถนนสุขุมวิท นายสิรภพ อัตโตหิ หรือ แรปเตอร์ นักกิจกรรมประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ขอให้ประชาชนที่สัญจรไปมาร่วมส่งเสียงถึง ส.ว.
17.40 น. ม็อบ #พร้อม2 ขบวนถึงแยกนานา ชู 3 ตะโกนเรียกร้องให้ ส.ว. ฟังเสียงประชาชน
17.53 น.ถึงแยกชิดลม เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดูแลการจราจร
18.09 น. ขบวนผ่านแยกชิดลม ยังคงมีการเป่าแตรเสียงดังกึกก้อง
18.17 น. ถึงแยกราชประสงค์ ผู้ชุมนุมชูป้ายทั้งภาษาไทยและอังกฤษให้นักท่องเที่ยวบนรถทัวร์ และสองฝั่งถนนอ่าน จากนั้นเลี้ยวขวาสู่ถนนราชดำริ
ระหว่างนั้น มีผู้โปรยกระดาษจากสกายวอล์กข้ามแยกราชประสงค์ เป็นภาพนายทักษิณ ชินวัตร และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
อดีตเลขาสมช. มั่นใจ 8 พรรคร่วม ถ้ากอดคอสู้-ไม่เสียสัตย์ ยังไงก็รอด กับดักโหวตนายก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4104604
อดีตเลขาฯสมช. มั่นใจ 8 พรรคร่วม ถ้ากอดคอสู้-ไม่เสียสัตย์ ยังไงก็ชนะ กับดักโหวตนายกฯ
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่า เพราะผลการเลือกตั้งที่ออกมา ประชาชนเขาไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม จึงมอบอาญาสิทธิ์เป็นพันธกิจให้ 8 พรรค 312 เสียง ที่มีพรรคก้าวไกลเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันไปเป็นรัฐบาลเพื่อบริหารราชการแผ่นดินตามเจตจำนงที่ประชาชนอยากจับต้อง (MOU 8 พรรค) คือ การปราบคอร์รัปชั่น ปฏิรูปกองทัพ ทลายทุนผูกขาด การกระจายอำนาจ สันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ เศรษฐกิจดี รัฐสวัสดิการถ้วนหน้า สังคมยุติธรรมเป็นธรรม เป็นต้น แต่มันไปติดกับดักที่การโหวตตัวนายกรัฐมนตรีอยู่
การจะหลุดรอดจากกับดัก ก็เพียงแค่กอดคอกันให้มั่นและยึดกฎลูกเสือ ”เสียชีพอย่าเสียสัตย์” เป็นแนวต่อสู้ กาลเวลาก็จะพาพวกท่านสู่ชัยชนะ เพราะเสียงของวุฒิสมาชิกจะเข้ามาเสริม 8 พรรคให้ไปถึง 376 เสียง เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะพลังประชาชนทางตรงจะไปกระชากจิตวิญญาณให้เหล่าวุฒิสมาชิกที่เป็นนายทหาร ซึ่งสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายทหารหลัก เริ่มดวงตาเห็นธรรมหวนระลึกถึงการยึดมั่นในระบบเกียรติศักดิ์ที่สร้างให้พวกเขาได้รับการกล่าวขานในอดีตจากประชาชนว่า ”เป็นสุภาพบุรุษแห่งถนนราชดำเนิน” และ ”เป็นวีรบุรุษแห่งสะพานมัฆวาน”
และแล้วระบบเกียรติศักดิ์นี้เอง จะทำให้ต่อมสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดี และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางของพวกเขาเริ่มกลับคืนมา แล้วเมื่อสำนึกคืนสู่จุดปกติของวิญญูชน พวกเขาก็จะตื่นขึ้นเคารพเจตจำนงเสียงศักดิ์สิทธิ์ของประชาชนหันมาร่วมกันโหวตตัวนายกรัฐมนตรีให้กับฝ่ายปีกประชาธิปไตย 8 พรรคร่วมในที่สุด แล้วเมื่อนั้นประเทศไทยก็จะคืนสู่ความเป็นปกติ มีรัฐบาลที่มีความชอบธรรมเป็นที่ยอมรับอย่างสง่างาม ทั้งในและต่างประเทศ เร่งสร้างกระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรม พาคนไทยที่ระหกระเหินอยู่ต่างแดนกลับคืนสู่มาตุภูมิโดยถ้วนหน้าอย่างเสมอภาค อำนาจอยู่กับประชาชนปลอดภัยที่สุด
เท่าพิภพ มั่นใจ ‘สุราก้าวหน้า’ ไม่สะดุด ผู้ประกอบการหวังช่วยปลดล็อก ยกระดับสินค้าเกษตร
https://www.matichon.co.th/region/news_4104930
เท่าพิภพ มั่นใจ ‘สุราก้าวหน้า’ ไม่สะดุด ผู้ประกอบการหวังช่วยปลดล็อก ยกระดับสินค้าเกษตร
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 กรกฎาคม ที่ร้านฮ็อปเบียร์ ซึ่งเป็นโรงเบียร์ขนาดเล็ก ตั้งอยู่ริมถนนสืบศิริ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ผู้ผลักดันนโยบายสุราก้าวหน้า ได้เดินทางมาให้กำลังใจผู้ประกอบการและนักธุรกิจรุ่นใหม่กว่า 100 คน ที่เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อมาอบรมการผลิตคราฟต์เบียร์ กับทางร้านฮ็อปเบียร์ แม้ว่าสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลจะยังไม่ชัดเจนว่า พรรคก้าวไกลจะยังอยู่ขั้วจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่หรือไม่ แต่ผู้ประกอบการและนักธุรกิจรุ่นใหม่ต่างก็มั่นใจว่านโยบายสุราก้าวหน้าจะเดินหน้าต่อไปได้
นายจิรพิสิษฐ์ รุจน์เจริญ ประธานกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่โคราช (vec korat) กล่าวว่า กระแสนโยบายสุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล ได้รับความสนใจจากนักธุรกิจรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก เพราะทุกคนเชื่อว่าจะสามารถเข้ามาช่วยยกระดับราคาสินค้าทางการเกษตรได้ และที่ร้านฮ็อปเบียร์แห่งนี้ ก็มีประสบการณ์การทำคราฟต์เบียร์เป็นที่ยอมรับของคนทั่วประเทศ ดังนั้นจึงได้นำนักธุรกิจรุ่นใหม่ของโคราชเข้ามาศึกษาเรียนรู้การทำคราฟต์เบียร์ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจของตนเองได้ในอนาคต
นายจิรพิสิษฐ์กล่าวต่อว่า อยากให้ปลดล็อกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคกับการทำคราฟต์เบียร์ลงหลายข้อ เช่น กฎหมายทุนการจดทะเบียน ต้องขั้นต่ำ 10 ล้านบาท หรือกฎหมายเรื่องปริมาณการผลิตจำนวนมากๆ เป็นแสนลิตรต่อปี ซึ่งเป็นข้อจำกัดทำให้ผู้ประกอบการรายย่อย ไม่สามารถนำมาทดลองผลิตในปริมาณน้อยได้ ถ้าปลดล็อกกฎหมายเหล่านี้ได้ก็จะเป็นการช่วยยกระดับราคาสินค้าทางการเกษตรได้มากถึง 10 เท่าเลยทีเดียว
ด้านนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เรื่องนโยบายสุราก้าวหน้านั้น ตนมั่นใจว่าจะไม่สะดุดแน่นอน เพราะตนเองเคยยื่นร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าไปที่รัฐสภามาก่อนหน้านั้นแล้ว แม้ว่าครั้งก่อนจะไม่ผ่านมติรัฐสภา แต่ก็แสดงให้เห็นว่ากระแสเรียกร้องของประชาชนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย ดังนั้นครั้งนี้ที่พรรคก้าวไกลมีจำนวน ส.ส.มากถึง 151 เสียง รวมทั้งเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค ซึ่งมีคะแนนเสียงเกินครึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ก็น่าจะผ่านได้ไม่ยาก เพราะร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้านี้ ถือว่าเป็นร่างที่ดีที่สุดที่ตนเองทำมา
“นโยบายสุราก้าวหน้านี้ เป็นการลดช่องว่างระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่กับรายเล็กได้เป็นอย่างมาก การปลดล็อกข้อจำกัดการผลิตสุราตาม พ.ร.บ.สุราก้าวหน้านี้ เป็นหนึ่งในกฎหมายใบอนุญาตกว่า 8,800 ใบอนุญาต ที่จำกัดศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจของไทย ถ้าสามารถแก้ปัญหานี้ได้ จะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยได้มหาศาลเลยทีเดียว ส่วนการไปแตะกลุ่มทุนใหญ่ที่ผูกขาดธุรกิจสุราในปัจจุบันอยู่นั้น ก็เป็นห่วง เพราะพรรคการเมืองหลายพรรคได้ทุนสนับสนุนจากกลุ่มทุนใหญ่อยู่ แต่พรรคก้าวไกลเป็นตัวแทนจากประชาชนอย่างแท้จริงอยู่แล้ว ดังนั้นก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ไม่มีอะไรต้องกังวล” นายเท่าพิภพกล่าว
นักวิเคราะห์ชี้ สูตร รบ.ใหม่ดึงขั้วเดิมร่วม สถานภาพการเมืองอ่อนแอ ผลักดันนโยบายยาก
https://www.matichon.co.th/economy/news_4103617
นักวิเคราะห์ชี้ สูตรรัฐบาลใหม่ดึงขั้วเดิมร่วม สถานภาพการเมืองอ่อนแอ ผลักดันนโยบายยาก
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุนสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวถึงสูตรการจัดตั้งรัฐบาล กรณีที่ไม่มีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เข้าเป็นพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่า การจัดตั้งรัฐบาลจะมีพรรคก้าวไกลเข้าร่วมหรือไม่มีนั้น จะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก เนื่องจากผลจากการเลือกตั้งยังไม่มีฝ่ายที่ชนะชัดเจน หรือสัดส่วนยังไม่ขาดลอย ต่อให้จะไม่มีพรรคก้าวไกล และพรรคที่จัดตั้งรัฐบาลใหม่ไปร่วมกับพรรครัฐบาลเดิม
ซึ่งมองว่ารัฐบาลดังกล่าวจะมีสถานภาพทางการเมืองที่อ่อนแอ เนื่องจากการร่วมจัดตั้งรัฐบาลมาจากหลายพรรคการเมืองผสมกัน การทำนโยบายนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้พรรคที่มีเสียงมากที่สุดอาจไม่สามารถดำเนินนโยบายของพรรคได้สำเร็จ เพราะพรรคการเมืองที่เข้าร่วมไม่เห็นด้วย เนื่องจากมีนโยบายของพรรคที่อยากผลักดันเช่นกัน