จาตุรนต์ ย้ำ ‘ประธานสภา’ มีชื่อเดียว เพื่อไทย-ก้าวไกลไม่แข่งกันชง เดินหน้ารวมเสียง 376
https://www.matichon.co.th/politics/news_4005745
จาตุรนต์ ย้ำเก้าอี้ ‘ประธานสภา’ มีชื่อเดียว เพื่อไทย-ก้าวไกลไม่แข่งกันชง เดินหน้ารวมเสียงจนครบ 376 จากนี้ร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าภายหลังวานนี้ (30 พฤษภาคม) นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงข่าวภายหลังการประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล โดยวาระหนึ่งคือการตั้งคณะกรรมการประสานงาน จำนวน 7 คณะ เพื่อให้เป็นไปตามเอ็มโอยู
ขณะที่ตำแหน่ง ประธานสภา นาย
พิธายืนยันว่า เป็นการพูดคุยเฉพาะพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคก้าวไกล ยืนยันว่าจะทำให้เร็วและเหมาะสมที่สุดตามกรอบของกฎหมาย
เช่นเดียวกับ นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ยืนยันว่า ตำแหน่งประธานสภาทั้ง 2 พรรคจะพิจารณาร่วมกัน ไม่คำนึงว่าเป็นโควตาของพรรคใดพรรคหนึ่ง และจะไม่เกิดเป็นปัญหาอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันทั้ง 8 พรรค ไม่ว่าจะเป็นพรรค ก.ก. หรือพรรค พท. จะไม่เป็นประเด็นให้เกิดความขัดแย้ง ทั้งนี้ ตำแหน่งประธานสภาไม่เป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาล
ล่าสุด นาย
จาตุรนต์ ฉายแสง ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาย้ำเจตนารมณ์ 2 หัวหน้าพรรค โดยระบุว่า ขยายความจากที่สองหัวหน้าพรรคพูดไป การเลือกประธานสภา ทั้ง 313 เสียงจะเสนอชื่อเพียงชื่อเดียว จะไม่มีภาพที่ 2 พรรค (เพื่อไทย-ก้าวไกล) ต่างฝ่ายต่างเสนอชื่อเพื่อให้ไปโหวตแข่งกันในสภา และถ้าพรรคไหนไม่ได้ตามความต้องการขึ้นมาก็จะไม่เอาความคิดแตกต่างกันนี้ไปเป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาล
“
จากนี้ไปการจัดตั้งรัฐบาลน่าจะเข้าสู่โหมดการเชิญชวนให้ได้เสียงสนับสนุนจนครบ 376 เสียง ช่วยกันครับ #สนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาล #ร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน” นาย
จาตุรนต์ระบุ
โรม อัดทีวีไทยตัดสัญญาณ ตอนสัมภาษณ์พิธา ‘ล้าหลัง’ มาก ลั่นยุคเซ็นเซอร์สื่อจบไปแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_4005790
โรม อัดทีวีไทยตัดสัญญาณ ตอนสัมภาษณ์พิธา ‘ล้าหลัง’ มาก ลั่นยุคเซ็นเซอร์สื่อจบไปแล้ว จี้ กสทช.เข้าดูแล
จากกรณีสถานีโทรทัศน์ของไทยช่องหนึ่งได้สัญญาณช่วงถ่ายทอดสด ขณะที่สื่อต่างประเทศสัมภาษณ์ นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ในการแถลงผลประชุม 8 พรรคที่พรรคประชาชาติ เมื่อวานนี้
ล่าสุด วันนี้ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม นาย
รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล และว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า
“
การที่ทีวีไทยช่องหนึ่งตัดสัญญาณช่องต่างประเทศตอนกำลังสัมภาษณ์ #พิธา ทำให้ประชาชนต้องตามชมรายการย้อนหลังกันเองแบบนี้ ผมเห็นว่าเป็นการกระทำที่ล้าหลังไม่ทันยุคสมัย ที่ซึ่งหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบอย่าง กสทช. ควรมาดูแลไม่ให้เอกชนกระทำกันโดยพลการเช่นนี้ครับ
.
วันนี้ยุคของ คสช. ที่สื่อและคนไทยต้องอยู่ภายใต้ censorship และความหวาดกลัวได้จบไปแล้ว สื่อของไทยหลายเจ้าเองก็เริ่มเปิดกว้างมากขึ้นต่อการพูดถึงประเด็นแหลมคมต่างๆ ซึ่งในท้ายที่สุดประชาชนจะเป็นผู้รับฟังและตัดสินผู้พูดด้วยตัวเองอยู่แล้วครับ”
https://twitter.com/RangsimanRome/status/1663740707008569350
จับตา หอการค้าพบ พิธา บ่ายนี้ ปลดล็อก “นโยบายเศรษฐกิจ”
https://www.prachachat.net/economy/news-1307392
จับตา หอการค้าพบพิธาบ่ายนี้ ปลดล็อก “นโยบายเศรษฐกิจ” ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ นักลงทุนต่างชาติ รอฟังคำตอบ
วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 นาย
สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การประชุมหารือกับนาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในวันนี้ (31 พฤษภาคม 2566) ซึ่งจะมีหอการค้าจังหวัด หอการค้าต่างประเทศ 40 ประเทศ รวมถึงตัวแทนนักธุรกิจรุ่นใหม่ เข้าร่วมหารือด้วย
โดยประเด็นที่จะหารือเป็นเรื่องความห่วงใยของภาคเอกชน ใน 8-9 ประเด็น โดยเฉพาะเรื่องนโยบาย การปรับนโยบายฐานศูนย์ การปรับขึ้นค่าแรง ค่าไฟ ค่าพลังงาน การแก้กฎระเบียบกฎหมายที่สามารถทำได้ทันทีควรทำเลย
“
ขอให้ว่าที่พรรคที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลให้ดำเนินการตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด ตามไทม์ไลน์ประชุมสภาฯ สิงหาคม แต่เลือกนายกจะได้เมื่อไร นักธุรกิจโดยเฉพาะนักธุรกิจต่างประเทศ หอการค้าต่างประเทศ 40 ประเทศ สอบถามตลอดเวลารวมถึงทูตจากต่างประเทศก็มีความห่วงใยและกังวลว่ารัฐบาลจะจัดตั้งได้เมื่อไร และจะมีนโยบายอย่างไร เพราะตอนนี้โมเมนตัมด้านการลงทุนที่กำลังจะเข้ามา ซึ่งอาจจะหยุดชะงักหากนโยบายยังไม่ชัดเจน นโยบายที่จะประกาศกับทางสภาเป็นอย่างไร นี่เป็นสิ่งที่เราอยากจับคุยกัน ”
เบรคการรื้องบประมาณฐานศูนย์
นาย
สนั่นยังระบุอีกว่า เอกชนให้ความกังวลและสนใจในเรื่องการจัดทำงบประมาณฐานศูนย์ โดยอยากจะขอว่าอย่าเพิ่งทำได้หรือไม่ เพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดความล่าช้าว่าจะใช้งบประมาณปีหน้ามาไม่ทัน และไทยจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เพราะเรากำลังอยู่ระหว่างของการฟื้นตัว การท่องเที่ยว การบริการ เอสเอ็มอี รวมถึงเศรษฐกิจฐานราก ชุมชนต่างรอคอยความชัดเจนถ้าหากงบประมาณเกิดความล่าช้า ก็อาจจะกระทบหนักสำหรับเศรษฐกิจไทยชะลอแน่เสียดาย งบประมาณรายจ่ายสำคัญทำได้ เรื่องอะไรทำได้ทำก่อน
“
เรื่องงบประมาณฐานศูนย์เห็นด้วยแต่ต้องใช้เวลา ทำความเข้าใจ เกิดขึ้นได้จริง ”
นโยบายลดผูกขาดต้องแคร์เอกชน
ส่วนเรื่องนโยบายของพรรค การลดผูกขาด มองว่าเอกชนเองก็คงจะอยากจะเห็นเศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ไม่ต่างกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าเอกชนเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาตลอด แม้จะเกิดวิกฤตช่วงไหน แต่ผ่านมาได้เพราะเอกชนเข้มแข็ง ทุกรัฐบาลไม่ว่าจะรัฐบาลทหารหรือพลเรือนก็ทำงานร่วมเอกชนได้ดีถ้าเทียบกับประเทศอื่น ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็ให้ความสนใจ เรื่องนี้จึงมองว่าไม่น่าห่วง
“
เรื่องการปรับโครงสร้างพลังงาน ช่วงที่คุยก็คงหารือ ว่าทางพรรคฯ ต้องทำให้เห็นว่าเราเสียค่าความพร้อม ทำให้อัตราการค่าไฟปรับ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามีทางออก ถ้าทางหอฯ ชี้ทางออกให้ถ้าเขาทำได้ ทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์ ประชาชนก็ยกมือให้ ไม่เกิดความขัดแย้ง ทุกคนอยู่รวมกันได้ ไม่ผิดกฎหมาย ไม่เอาเปรียบ ระยะกลาง ยาว ดี เชื่อว่าจะเดินหน้าไปได้ ”
ชงทางออกค่าแรง 450 บ.
ส่วนกรณีการขึ้นค่าแรง 450 บาทต่อวันทันที ผมว่าหอการค้าต่างประเทศก็ถามคำถามนี้ว่าจะไหวหรือ หากปรับคงไปเวียดนาม อินโดนีเซีย ซึ่งเขาต้องการทราบความชัดเจน ซึ่งตอนนี้ทั้งพรรคเพื่อไทย ก้าวไกล มาด้วยเสียงจากประชาชน การเดินนโยบายก็ควรฟังเสียงประชาชน ซึ่งเอกชนมีหอการค้าจังหวัดดำเนินงานในแต่ละพื้นที่ จะต้องฟังเขาว่าทางออกเป็นอย่างไร มีกลไกไตรภาคีอยู่แล้ว หวังดีแต่ผลจะออกมาดีจริงหรือไม่ต้องมาลองหารือกันดู
“
วันที่หารือจะชี้ให้เห็นว่าการมีสัญญาประชาชน ประชาชนลงคะนแนเสียงให้ คงไม่ใช่ลงเพราะนโยบาย 450 บาทต่อวันอย่างเดียวเท่านั้น ฉะนั้นแต่ละส่วนที่ออกมา ทางพรรคก้าวไกล เข้าใจ หาทางออกที่ดีด้วยกัน ผมคิดว่าฐานเสียงเขาจะดีขึ้นระยะไกล ซึ่งเราไม่ได้ ไม่ได้บอกไม่ให้ปรับค่าแรง แต่ปรับในช่วงเวลาที่เหมาะสม และสถานที่หรือจังหวัดที่เหมาะสม และไม่ควรขึ้นในอัตราเดียวกัน ทุกจังหวัดฟันธงได้ ถ้ารัฐบาลสามารถทำให้ GDP ของประเทศ โต 5% ก็มีโอกาสปรับค่าแรงเกินกว่า 450 บาท ก็ได้ ต้องดูรายรับ รายจ่าย ขับเครื่อง GDP ดีกว่า ”
เร่งแก้กม.-ความโปร่งใส ลองเทอมเรสซิเด้น ชัดเจน
นอกจากนี้ ก็การหารือในประเด็นกฎระเบียบ ความโปร่งใส นโยบายระยะยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการรับฟังความชัดเจน ยุทธศาสตร์ 20 ปี เขามาเพียงแต่ว่าจะทำต่อไหม ซึ่งเราก็ต้องการสะท้อนเสียงจากทุกฝ่าย รวมไปถึงต่างชาติที่นำเม็ดเงินเข้ามาในประเทศ
JJNY : จาตุรนต์ย้ำ ‘ประธานสภา’ มีชื่อเดียว│โรมอัดทีวีไทยตัดสัญญาณ│จับตา หอการค้าพบพิธา│‘ญี่ปุ่น-โซล’ เตือนภัยวุ่น
https://www.matichon.co.th/politics/news_4005745
จาตุรนต์ ย้ำเก้าอี้ ‘ประธานสภา’ มีชื่อเดียว เพื่อไทย-ก้าวไกลไม่แข่งกันชง เดินหน้ารวมเสียงจนครบ 376 จากนี้ร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าภายหลังวานนี้ (30 พฤษภาคม) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงข่าวภายหลังการประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล โดยวาระหนึ่งคือการตั้งคณะกรรมการประสานงาน จำนวน 7 คณะ เพื่อให้เป็นไปตามเอ็มโอยู
ขณะที่ตำแหน่ง ประธานสภา นายพิธายืนยันว่า เป็นการพูดคุยเฉพาะพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคก้าวไกล ยืนยันว่าจะทำให้เร็วและเหมาะสมที่สุดตามกรอบของกฎหมาย
เช่นเดียวกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ยืนยันว่า ตำแหน่งประธานสภาทั้ง 2 พรรคจะพิจารณาร่วมกัน ไม่คำนึงว่าเป็นโควตาของพรรคใดพรรคหนึ่ง และจะไม่เกิดเป็นปัญหาอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันทั้ง 8 พรรค ไม่ว่าจะเป็นพรรค ก.ก. หรือพรรค พท. จะไม่เป็นประเด็นให้เกิดความขัดแย้ง ทั้งนี้ ตำแหน่งประธานสภาไม่เป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาล
ล่าสุด นายจาตุรนต์ ฉายแสง ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาย้ำเจตนารมณ์ 2 หัวหน้าพรรค โดยระบุว่า ขยายความจากที่สองหัวหน้าพรรคพูดไป การเลือกประธานสภา ทั้ง 313 เสียงจะเสนอชื่อเพียงชื่อเดียว จะไม่มีภาพที่ 2 พรรค (เพื่อไทย-ก้าวไกล) ต่างฝ่ายต่างเสนอชื่อเพื่อให้ไปโหวตแข่งกันในสภา และถ้าพรรคไหนไม่ได้ตามความต้องการขึ้นมาก็จะไม่เอาความคิดแตกต่างกันนี้ไปเป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาล
“จากนี้ไปการจัดตั้งรัฐบาลน่าจะเข้าสู่โหมดการเชิญชวนให้ได้เสียงสนับสนุนจนครบ 376 เสียง ช่วยกันครับ #สนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาล #ร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน” นายจาตุรนต์ระบุ
โรม อัดทีวีไทยตัดสัญญาณ ตอนสัมภาษณ์พิธา ‘ล้าหลัง’ มาก ลั่นยุคเซ็นเซอร์สื่อจบไปแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_4005790
โรม อัดทีวีไทยตัดสัญญาณ ตอนสัมภาษณ์พิธา ‘ล้าหลัง’ มาก ลั่นยุคเซ็นเซอร์สื่อจบไปแล้ว จี้ กสทช.เข้าดูแล
จากกรณีสถานีโทรทัศน์ของไทยช่องหนึ่งได้สัญญาณช่วงถ่ายทอดสด ขณะที่สื่อต่างประเทศสัมภาษณ์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ในการแถลงผลประชุม 8 พรรคที่พรรคประชาชาติ เมื่อวานนี้
ล่าสุด วันนี้ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล และว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า
“การที่ทีวีไทยช่องหนึ่งตัดสัญญาณช่องต่างประเทศตอนกำลังสัมภาษณ์ #พิธา ทำให้ประชาชนต้องตามชมรายการย้อนหลังกันเองแบบนี้ ผมเห็นว่าเป็นการกระทำที่ล้าหลังไม่ทันยุคสมัย ที่ซึ่งหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบอย่าง กสทช. ควรมาดูแลไม่ให้เอกชนกระทำกันโดยพลการเช่นนี้ครับ
.
วันนี้ยุคของ คสช. ที่สื่อและคนไทยต้องอยู่ภายใต้ censorship และความหวาดกลัวได้จบไปแล้ว สื่อของไทยหลายเจ้าเองก็เริ่มเปิดกว้างมากขึ้นต่อการพูดถึงประเด็นแหลมคมต่างๆ ซึ่งในท้ายที่สุดประชาชนจะเป็นผู้รับฟังและตัดสินผู้พูดด้วยตัวเองอยู่แล้วครับ”
https://twitter.com/RangsimanRome/status/1663740707008569350
จับตา หอการค้าพบ พิธา บ่ายนี้ ปลดล็อก “นโยบายเศรษฐกิจ”
https://www.prachachat.net/economy/news-1307392
จับตา หอการค้าพบพิธาบ่ายนี้ ปลดล็อก “นโยบายเศรษฐกิจ” ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ นักลงทุนต่างชาติ รอฟังคำตอบ
วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การประชุมหารือกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในวันนี้ (31 พฤษภาคม 2566) ซึ่งจะมีหอการค้าจังหวัด หอการค้าต่างประเทศ 40 ประเทศ รวมถึงตัวแทนนักธุรกิจรุ่นใหม่ เข้าร่วมหารือด้วย
โดยประเด็นที่จะหารือเป็นเรื่องความห่วงใยของภาคเอกชน ใน 8-9 ประเด็น โดยเฉพาะเรื่องนโยบาย การปรับนโยบายฐานศูนย์ การปรับขึ้นค่าแรง ค่าไฟ ค่าพลังงาน การแก้กฎระเบียบกฎหมายที่สามารถทำได้ทันทีควรทำเลย
“ขอให้ว่าที่พรรคที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลให้ดำเนินการตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด ตามไทม์ไลน์ประชุมสภาฯ สิงหาคม แต่เลือกนายกจะได้เมื่อไร นักธุรกิจโดยเฉพาะนักธุรกิจต่างประเทศ หอการค้าต่างประเทศ 40 ประเทศ สอบถามตลอดเวลารวมถึงทูตจากต่างประเทศก็มีความห่วงใยและกังวลว่ารัฐบาลจะจัดตั้งได้เมื่อไร และจะมีนโยบายอย่างไร เพราะตอนนี้โมเมนตัมด้านการลงทุนที่กำลังจะเข้ามา ซึ่งอาจจะหยุดชะงักหากนโยบายยังไม่ชัดเจน นโยบายที่จะประกาศกับทางสภาเป็นอย่างไร นี่เป็นสิ่งที่เราอยากจับคุยกัน ”
เบรคการรื้องบประมาณฐานศูนย์
นายสนั่นยังระบุอีกว่า เอกชนให้ความกังวลและสนใจในเรื่องการจัดทำงบประมาณฐานศูนย์ โดยอยากจะขอว่าอย่าเพิ่งทำได้หรือไม่ เพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดความล่าช้าว่าจะใช้งบประมาณปีหน้ามาไม่ทัน และไทยจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เพราะเรากำลังอยู่ระหว่างของการฟื้นตัว การท่องเที่ยว การบริการ เอสเอ็มอี รวมถึงเศรษฐกิจฐานราก ชุมชนต่างรอคอยความชัดเจนถ้าหากงบประมาณเกิดความล่าช้า ก็อาจจะกระทบหนักสำหรับเศรษฐกิจไทยชะลอแน่เสียดาย งบประมาณรายจ่ายสำคัญทำได้ เรื่องอะไรทำได้ทำก่อน
“เรื่องงบประมาณฐานศูนย์เห็นด้วยแต่ต้องใช้เวลา ทำความเข้าใจ เกิดขึ้นได้จริง ”
นโยบายลดผูกขาดต้องแคร์เอกชน
ส่วนเรื่องนโยบายของพรรค การลดผูกขาด มองว่าเอกชนเองก็คงจะอยากจะเห็นเศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ไม่ต่างกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าเอกชนเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาตลอด แม้จะเกิดวิกฤตช่วงไหน แต่ผ่านมาได้เพราะเอกชนเข้มแข็ง ทุกรัฐบาลไม่ว่าจะรัฐบาลทหารหรือพลเรือนก็ทำงานร่วมเอกชนได้ดีถ้าเทียบกับประเทศอื่น ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็ให้ความสนใจ เรื่องนี้จึงมองว่าไม่น่าห่วง
“เรื่องการปรับโครงสร้างพลังงาน ช่วงที่คุยก็คงหารือ ว่าทางพรรคฯ ต้องทำให้เห็นว่าเราเสียค่าความพร้อม ทำให้อัตราการค่าไฟปรับ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามีทางออก ถ้าทางหอฯ ชี้ทางออกให้ถ้าเขาทำได้ ทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์ ประชาชนก็ยกมือให้ ไม่เกิดความขัดแย้ง ทุกคนอยู่รวมกันได้ ไม่ผิดกฎหมาย ไม่เอาเปรียบ ระยะกลาง ยาว ดี เชื่อว่าจะเดินหน้าไปได้ ”
ชงทางออกค่าแรง 450 บ.
ส่วนกรณีการขึ้นค่าแรง 450 บาทต่อวันทันที ผมว่าหอการค้าต่างประเทศก็ถามคำถามนี้ว่าจะไหวหรือ หากปรับคงไปเวียดนาม อินโดนีเซีย ซึ่งเขาต้องการทราบความชัดเจน ซึ่งตอนนี้ทั้งพรรคเพื่อไทย ก้าวไกล มาด้วยเสียงจากประชาชน การเดินนโยบายก็ควรฟังเสียงประชาชน ซึ่งเอกชนมีหอการค้าจังหวัดดำเนินงานในแต่ละพื้นที่ จะต้องฟังเขาว่าทางออกเป็นอย่างไร มีกลไกไตรภาคีอยู่แล้ว หวังดีแต่ผลจะออกมาดีจริงหรือไม่ต้องมาลองหารือกันดู
“วันที่หารือจะชี้ให้เห็นว่าการมีสัญญาประชาชน ประชาชนลงคะนแนเสียงให้ คงไม่ใช่ลงเพราะนโยบาย 450 บาทต่อวันอย่างเดียวเท่านั้น ฉะนั้นแต่ละส่วนที่ออกมา ทางพรรคก้าวไกล เข้าใจ หาทางออกที่ดีด้วยกัน ผมคิดว่าฐานเสียงเขาจะดีขึ้นระยะไกล ซึ่งเราไม่ได้ ไม่ได้บอกไม่ให้ปรับค่าแรง แต่ปรับในช่วงเวลาที่เหมาะสม และสถานที่หรือจังหวัดที่เหมาะสม และไม่ควรขึ้นในอัตราเดียวกัน ทุกจังหวัดฟันธงได้ ถ้ารัฐบาลสามารถทำให้ GDP ของประเทศ โต 5% ก็มีโอกาสปรับค่าแรงเกินกว่า 450 บาท ก็ได้ ต้องดูรายรับ รายจ่าย ขับเครื่อง GDP ดีกว่า ”
เร่งแก้กม.-ความโปร่งใส ลองเทอมเรสซิเด้น ชัดเจน
นอกจากนี้ ก็การหารือในประเด็นกฎระเบียบ ความโปร่งใส นโยบายระยะยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการรับฟังความชัดเจน ยุทธศาสตร์ 20 ปี เขามาเพียงแต่ว่าจะทำต่อไหม ซึ่งเราก็ต้องการสะท้อนเสียงจากทุกฝ่าย รวมไปถึงต่างชาติที่นำเม็ดเงินเข้ามาในประเทศ