ตามกระตู้เลยค่ะ
ดิฉันได้เข้าทำงานในบริษัทเอกชนด้านพลังงานแห่งหนึ่ง ที่มีเป้าหมายจะเข้า SET เร็วๆนี้ เมื่อปี 2565 ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่จัดซื้ออาวุโส และได้ขอลาออกกระทันหัน คือ ขอใบลาออกและเขียนเมื่อ 26 มิถุนายน 2566 และขอสิ้นสุดสภาพการเป็นพนักงาน วันที่ 30 มิถุนายน 2566 ซึ่งหัวหน้างานเซ็นต์อนุมัติแล้ว ดิฉันก็ใส่ซองพร้อมคืนบัตรเข้า-ออก ตึกและสำนักงาน ฝากเพื่อนร่วมงาน ส่งให้เจ้าหน้าที่บุคคล
บ่ายวันที่ 26 มิถุนายน (เวลาประมาณ 13.30) เจ้าหน้าที่บุคคล โทรเข้ามา 1 สาย ดิฉันไม่ได้รับ (e-mail บริษัทโดนล็อค คอมพิวเตอร์โดนไอที ยึดไปทันที)
วันที่ 27 มิถุนายน ดิฉันได้เห็นจดหมายแจ้งพ้นสภาพ ลงวันที่ 26 มิถุนายน (ถูกส่งเมลออกไปหาบริษัทคู่ค้า วันที่ 28 มิถุนายน)
วันที่ 29 มิถุนายน มีจดหมาย ลงทะเบียน (ย้ำว่าลงทะเบียน) ส่งไปถึงที่บ้าน จดหมายลงวันที่ออกคือ 26 มิถุนายน ขอให้เข้าไปรายงานตัว ภายในวันที่ 29 มิถุนายน เพื่อ บริษัท จะเรียกร้องค่าปรับ 1 รอบเงินเดือน
ดิฉันไปขึ้นทะเบียนว่างงาน บริษัทแจ้งว่า ลาออก (แจ้งออกทันที เท่าที่ทราบจากประกันสังคม) แต่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เท่าที่ตรวจสอบคือ ไม่มีการแจ้งออก
วันที่ 18 กรกฏาคม ดิฉันจึงทักไลน์ ไปหาฝายบุคคลที่ ให้ใบลาออก ได้ข้อสรุปคือ ขอให้ไปคืนเงินเดือน จำนวน 5 วัน นับตั้งแต่วันที่ 26-30 มิถุนายน (ประมาณ เกือบ 7 พันบาท) ดิฉันจึงถามฝ่ายบุคคลว่า ดิฉันต้องการทำงานต่อ และ บริษัทเป็นคนสั่งให้พ้นสภาพ ทำไมถึงต้องมีการคืนเงินเดือน มีการคุยไลน์กันเกือบทั้งวัน จดสุดท้ายดิฉันจบประโยคที่จะนำหนังสือแจ้งพ้นสภาพ ไปที่กรมแรงงาน ผู้จัดการฝ่ายบุคคลจึงโทรมาคุยทันที ซึ่งผู้จัดการฝ่ายบุคคลได้สรุปกับดิฉันว่า ขอให้คืนเงินค่าจ้างหลังหักพักร้อน จึงจะแจ้งผู้บริหารให้เซ็นต์อนุมัติออกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้
วันที่ 25 กรกฏาคม ดิฉันทักไลน์ไปหา ผู้จัดการฝ่ายบุคคลอีกครั้ง ได้ข้อสรุปว่า ผู้บริหารต้องการให้เข้าไปคุยและจะยังไม่เซ็นต์ออกกองทุนให้ (บุคคลถามดิฉันว่าจะทำยังไงต่อไป ด้วยความที่คงกลัวชื่อบริษัทเสียหาย)
ต้องแจ้งก่อนว่าก่อนหน้านี้ ดิฉันเคยไปขอใบลาออกจากบุคคลแล้วถึง 2 รอบ แต่บุคคลไม่เคยให้ ล่าสุดมีระดับผู้บริหารเคยได้คุยกัน(อาจจะเป็นการคุยเล่น) คือถ้าจะออกขอให้เขียนใบลาออกล่วงหน้า 6 เดือน
มีการเรียกดิฉันเข้าไปคุย มากกว่า 2 ครั้ง เรื่องการปรับตำแหน่งและเงินเดือน แต่ไม่เคยได้ปรับทั้งตำแหน่งและเงินเดือน มีการคุยเรื่องโบนัสประจำปี และการปรับเงินเดือนประจำปี ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลงโดยที่ไม่มีคำตอบ และบุคคลก็แจ้งว่าไม่ทราบต้องถามผู้บริหารว่าทำไมไม่ได้ปรับ การประเมินผลการทำงานประจำปี ดิฉันได้มากกว่า 80% ผู้บริหารแจ้งอัตราการปรับเงินเดือนมาแล้ว แต่พอเงินเดือนออกจริงดิฉันไม่ได้ปรับ
ทำไมดิฉันไม่แจ้งล่วงหน้าเหรอคะ เพราะหลายๆคนในบริษัท ที่แจ้งล่วงหน้า 30 วันถูกต้อง จะโดนหักเงินสารพัด รวมไปถึงเลื่อนวันออกเงินเดือนเป็นวันสุดท้ายของเดือน ใครที่แจ้งลาออก หลังจากประกาศโบนัส จะโดนระงับไม่ให้โบนัสถึงจะมีการแจ้งยอดมาแล้วก็ตาม
ดิฉันคงทำอะไรไม่ได้นอกจากมาโพสระบาย
เมื่อดิฉันยื่นใบลาออก แต่ได้หนังสือแจ้งพ้นสภาพส่งหาบริษัทคู่ค้า และนายจ้างไม่ยอมแจ้งออกกองทุนฯให้
ดิฉันได้เข้าทำงานในบริษัทเอกชนด้านพลังงานแห่งหนึ่ง ที่มีเป้าหมายจะเข้า SET เร็วๆนี้ เมื่อปี 2565 ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่จัดซื้ออาวุโส และได้ขอลาออกกระทันหัน คือ ขอใบลาออกและเขียนเมื่อ 26 มิถุนายน 2566 และขอสิ้นสุดสภาพการเป็นพนักงาน วันที่ 30 มิถุนายน 2566 ซึ่งหัวหน้างานเซ็นต์อนุมัติแล้ว ดิฉันก็ใส่ซองพร้อมคืนบัตรเข้า-ออก ตึกและสำนักงาน ฝากเพื่อนร่วมงาน ส่งให้เจ้าหน้าที่บุคคล
บ่ายวันที่ 26 มิถุนายน (เวลาประมาณ 13.30) เจ้าหน้าที่บุคคล โทรเข้ามา 1 สาย ดิฉันไม่ได้รับ (e-mail บริษัทโดนล็อค คอมพิวเตอร์โดนไอที ยึดไปทันที)
วันที่ 27 มิถุนายน ดิฉันได้เห็นจดหมายแจ้งพ้นสภาพ ลงวันที่ 26 มิถุนายน (ถูกส่งเมลออกไปหาบริษัทคู่ค้า วันที่ 28 มิถุนายน)
วันที่ 29 มิถุนายน มีจดหมาย ลงทะเบียน (ย้ำว่าลงทะเบียน) ส่งไปถึงที่บ้าน จดหมายลงวันที่ออกคือ 26 มิถุนายน ขอให้เข้าไปรายงานตัว ภายในวันที่ 29 มิถุนายน เพื่อ บริษัท จะเรียกร้องค่าปรับ 1 รอบเงินเดือน
ดิฉันไปขึ้นทะเบียนว่างงาน บริษัทแจ้งว่า ลาออก (แจ้งออกทันที เท่าที่ทราบจากประกันสังคม) แต่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เท่าที่ตรวจสอบคือ ไม่มีการแจ้งออก
วันที่ 18 กรกฏาคม ดิฉันจึงทักไลน์ ไปหาฝายบุคคลที่ ให้ใบลาออก ได้ข้อสรุปคือ ขอให้ไปคืนเงินเดือน จำนวน 5 วัน นับตั้งแต่วันที่ 26-30 มิถุนายน (ประมาณ เกือบ 7 พันบาท) ดิฉันจึงถามฝ่ายบุคคลว่า ดิฉันต้องการทำงานต่อ และ บริษัทเป็นคนสั่งให้พ้นสภาพ ทำไมถึงต้องมีการคืนเงินเดือน มีการคุยไลน์กันเกือบทั้งวัน จดสุดท้ายดิฉันจบประโยคที่จะนำหนังสือแจ้งพ้นสภาพ ไปที่กรมแรงงาน ผู้จัดการฝ่ายบุคคลจึงโทรมาคุยทันที ซึ่งผู้จัดการฝ่ายบุคคลได้สรุปกับดิฉันว่า ขอให้คืนเงินค่าจ้างหลังหักพักร้อน จึงจะแจ้งผู้บริหารให้เซ็นต์อนุมัติออกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้
วันที่ 25 กรกฏาคม ดิฉันทักไลน์ไปหา ผู้จัดการฝ่ายบุคคลอีกครั้ง ได้ข้อสรุปว่า ผู้บริหารต้องการให้เข้าไปคุยและจะยังไม่เซ็นต์ออกกองทุนให้ (บุคคลถามดิฉันว่าจะทำยังไงต่อไป ด้วยความที่คงกลัวชื่อบริษัทเสียหาย)
ต้องแจ้งก่อนว่าก่อนหน้านี้ ดิฉันเคยไปขอใบลาออกจากบุคคลแล้วถึง 2 รอบ แต่บุคคลไม่เคยให้ ล่าสุดมีระดับผู้บริหารเคยได้คุยกัน(อาจจะเป็นการคุยเล่น) คือถ้าจะออกขอให้เขียนใบลาออกล่วงหน้า 6 เดือน
มีการเรียกดิฉันเข้าไปคุย มากกว่า 2 ครั้ง เรื่องการปรับตำแหน่งและเงินเดือน แต่ไม่เคยได้ปรับทั้งตำแหน่งและเงินเดือน มีการคุยเรื่องโบนัสประจำปี และการปรับเงินเดือนประจำปี ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลงโดยที่ไม่มีคำตอบ และบุคคลก็แจ้งว่าไม่ทราบต้องถามผู้บริหารว่าทำไมไม่ได้ปรับ การประเมินผลการทำงานประจำปี ดิฉันได้มากกว่า 80% ผู้บริหารแจ้งอัตราการปรับเงินเดือนมาแล้ว แต่พอเงินเดือนออกจริงดิฉันไม่ได้ปรับ
ทำไมดิฉันไม่แจ้งล่วงหน้าเหรอคะ เพราะหลายๆคนในบริษัท ที่แจ้งล่วงหน้า 30 วันถูกต้อง จะโดนหักเงินสารพัด รวมไปถึงเลื่อนวันออกเงินเดือนเป็นวันสุดท้ายของเดือน ใครที่แจ้งลาออก หลังจากประกาศโบนัส จะโดนระงับไม่ให้โบนัสถึงจะมีการแจ้งยอดมาแล้วก็ตาม
ดิฉันคงทำอะไรไม่ได้นอกจากมาโพสระบาย