//// สมาชิกท่านหนึ่ง บอกว่า (จิต คือ วิญญาณธาตุ) และ พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสว่า จิต เป็น อนัตตา"

.

https://m.ppantip.com/topic/42134765?

"   ...
... ว่า
จิต คือ ธาตุรู้ คือ วิญญาณธาตุ

วิญญาณขันธ์ คือ อาการที่จิตออกรับอารมณ์ "

และพระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสว่า จิต เป็น อนัตตา ...  "

--------  https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=14&A=2445

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖
มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
 
๒. ฉวิโสธนสูตร (๑๑๒)

   ...

...

          

ดูกรภิกษุทั้งหลาย คำกล่าวของภิกษุรูปนั้น พวกเธอควรชื่นชม
อนุโมทนาว่า สาธุ ครั้นแล้วพึงถามปัญหาให้ยิ่งขึ้นไปว่า 

ดูกรท่านผู้มีอายุ ธาตุอัน-
*พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธ
ตรัสไว้ชอบ นี้มี ๖ ประการ ๖ ประการเป็นไฉน คือ
ปฐวีธาตุ 
อาโปธาตุ
เตโชธาตุ 
วาโยธาตุ 
อากาสธาตุ 
วิญญาณธาตุ

ดูกรท่านผู้มีอายุ นี้แลธาตุ ๖ ประการ
อันพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธ
ตรัสไว้ชอบแล้ว ก็จิตของท่านผู้มีอายุ ผู้รู้อยู่ เห็นอยู่อย่างไรเล่า
จึงหลุดพ้น
จากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในธาตุ ๖ นี้ ฯ


             [๑๗๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้สิ้นอาสวะแล้ว อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว ทำกิจที่ควร
ทำเสร็จแล้ว ปลงภาระได้แล้ว บรรลุประโยชน์ตนแล้วโดยลำดับ สิ้นสัญโญชน์ในภพแล้ว
พ้นวิเศษแล้วเพราะรู้ชอบ
 จึงนับว่ามีธรรมอันสมควร จะพยากรณ์ได้ดังนี้ว่า 
ดูกรท่านผู้มีอายุ

ข้าพเจ้าครองปฐวีธาตุโดยความเป็นอนัตตา 
มิใช่ครองอัตตาอาศัยปฐวีธาตุเลย 
จึงทราบชัดว่า
จิตของเราหลุดพ้นแล้ว เพราะสิ้น สำรอก ดับ สละ และสลัดคืนซึ่งอุปาทานขันธ์ที่ยึดมั่นอาศัย
ปฐวีธาตุ และอนุสัยคือความตั้งใจและความปักใจมั่นอาศัยปฐวีธาตุได้ 

ข้าพเจ้าครองอาโปธาตุ
โดยความเป็นอนัตตา ... เพราะสิ้น สำรอก ดับ สละ และสลัดคืนซึ่งอุปาทานขันธ์ที่ยึดมั่นอาศัย
อาโปธาตุ และอนุสัยคือความตั้งใจและความปักใจมั่นอาศัยอาโปธาตุได้ 
ข้าพเจ้าครองเตโชธาตุ
โดยความเป็นอนัตตา ... เพราะสิ้น สำรอก ดับ สละ และสลัดคืนซึ่งอุปาทานขันธ์ที่ยึดมั่นอาศัย
เตโชธาตุ และอนุสัยคือความตั้งใจและความปักใจมั่นอาศัยเตโชธาตุได้ 

ข้าพเจ้าครองวาโยธาตุ
โดยความเป็นอนัตตา ... เพราะสิ้น สำรอก ดับ สละ และสลัดคืนซึ่งอุปาทานขันธ์ที่ยึดมั่นอาศัย
วาโยธาตุ และอนุสัยคือความตั้งใจและความปักใจมั่นอาศัยวาโยธาตุได้ ข้าพเจ้าครองอากาสธาตุ
โดยความเป็นอนัตตา ... เพราะสิ้น สำรอก ดับ สละ และสลัดคืนซึ่งอุปาทานขันธ์ที่ยึดมั่นอาศัย
อากาสธาตุและอนุสัยคือความตั้งใจและความปักใจมั่นอาศัยอากาสธาตุได้ 

ข้าพเจ้าครอง
วิญญาณธาตุโดยความเป็นอนัตตา
มิใช่ครองอัตตา
อาศัยวิญญาณธาตุเลย
จึงทราบชัดว่า
จิตของเราหลุดพ้นแล้ว 
เพราะสิ้น สำรอก ดับ สละ และสลัดคืนซึ่งอุปาทานขันธ์ที่ยึดมั่น
อาศัยวิญญาณธาตุ และอนุสัยคือความตั้งใจและความปักใจมั่นอาศัยวิญญาณธาตุได้

ดูกรท่านผู้มีอายุ จิตของข้าพเจ้าผู้รู้อยู่ เห็นอยู่อย่างนี้แล จึงได้หลุดพ้นจากอาสวะ 
ไม่ยึดมั่นในธาตุ ๖ นี้

     ...



**********

.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่