‘บรรยง’ เสนอให้พท.เป็นนายกฯ จนส.ว.หมดวาระ แล้วลาออกสลับให้ ‘พิธา’ นั่งนายกฯ ต่อ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4082490

‘บรรยง’ เสนอทางเลือก ให้พท.เป็นนายกฯ จนส.ว.หมดวาระ แล้วลาออกสลับให้ ‘พิธา’ นั่งนายกฯ ต่อ
 
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหารและกรรมการ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือ KKP ในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐศาสตร์ประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ขอถามผู้รู้หน่อยครับ

ถ้าก้าวไกลยอมถอยเรื่องนายกฯ แต่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย ให้เพื่อไทยเป็นนายกก่อน แล้วพอครบบทเฉพาะกาลที่ให้ส.ว.ร่วมเลือกนายก(จำไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ น่าจะไม่ถึงปีดี) ก็ตกลงกันว่าจะลาออก สลับให้คุณพิธาเป็นนายกฯ
 
อย่างนี้เป็นทางเลือกไหมครับ ส่วนนโยบายก็ต้องผสมกัน รัฐมนตรีก็ต้องแบ่งกันอยู่แล้ว
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อเสนอดังกล่าวมีชาวเน็ตส่วนหนึ่งเข้ามาสนับสนุน โดยมองว่าตามกฎหมายทำได้ แต่ไม่สง่างาม ขณะที่บางส่วนเชื่อว่าเพื่อไทยไม่ยอมรับดีลนี้แน่ และบางส่วนก็แนะนำว่าหลังจากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ก็ควรแก้กฎหมายและกติกาให้เป็นธรรมให้แล้วเสร็จ จากนั้นยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ซึ่งจะแฟร์มากกว่า
 
อย่างไรก็ตามสำหรับส.ว.จะหมดอายุเดือนพ.ค.67
 
นอกจากนี้นายบรรยง ได้โพสต์ถึงเหตุผลที่นายพิธา ถูกสกัดไม่ให้เป็นนายกฯ ซึ่งโซเชียลนำไปเผยแพร่ต่ออย่างกว้างขวาง โดยมีข้อความดังนี้
 
“มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่า…มันไม่เกี่ยวกับเรื่องจงรักภักดีอะไรหรอก……พวกเล่นจะลดกองทัพ ลดนายพล ลดข้าราชการ ลดกฎหมาย ลดอำนาจ ลดทุนผูกขาด ลดทุกอย่างของอภิสิทธิ์ชน เพิ่มแค่อย่างเดียว คือ ภาษีคนรวย …ใครเขาจะยอม”
 
https://www.facebook.com/banyong.pongpanich/posts/pfbid02nExWoT6TEHtibsUAPtrcPr277pqTykTndCvapKimbF6EKsRCnNirpVyTa6mJRUpBl 

https://www.facebook.com/banyong.pongpanich/posts/pfbid0uyvQyqi7BnYVrCHHUDvzKsryaLWMctAva9ZH345YHf12twTWtmzuYgAMsTgSpbNcl
 

---

นายกสมาคมอบจ. หวั่น ‘ได้นายกฯช้า’ คนท้องถิ่นเดือดร้อน ลั่น ‘ชกชนะ’ แต่ไม่ให้ให้เกียรติ ไม่ใช่นักกีฬา
https://www.matichon.co.th/region/news_4082328

นายกสมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย หวั่น ‘ได้นายกฯช้า’ คนตจว.เดือดร้อน งบท้องถิ่นถึงช้า ลั่น ไม่ให้เกียรติคน ‘ชกชนะ’ ไม่ใช่นักกีฬา
 
สืบเนื่องผลการโหวตนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย รอบแรก 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกฯ ได้รับเสียงสนับสนุนจากที่ประชุมรัฐสภา (ส.ส.และ ส.ว.) ไม่เพียงพอ จากนโยบายแก้ไข ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดย 324 เสียงในที่ประชุมเห็นชอบ แต่ยังขาดอีก 52 เสียงเพื่อให้เกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา หรือ 376 เสียง ท่ามกลางกระแสประณาม วิพากษ์วิจารณ์ ส.ว.และ กกต.โดยประชาชนในโลกโซเชียล ทั้งนี้ จะมีการโหวตนายกฯ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 19 ก.ค.นี้นั้น
 
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย (นายกสมาคม อบจ.) แสดงความกังวลว่าหากการเลือกนายกฯ ล่าช้า อาจส่งผลกระทบให้ประชาชนเดือดร้อนจากงบประมาณท้องถิ่นที่อาจล้าช้าตามไปด้วย
 
นายบุญชูกล่าวว่า เรื่องผลโหวตให้ นายพิธา เป็นนายกฯเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ไม่สำเร็จ เนื่องจากเสียงหนุนแค่ 324 เสียง มีเสียงไม่หนุน และงดออกเสียงรวมกันมากกว่า ครั้งนี้ชาวบ้านติดตามกันเยอะ ทำให้พรรคก้าวไกลต้องไปหวังการโหวตครั้งต่อไปวันที่ 19 กรกฎาคม 2566
 
เมื่อถามว่า ผลการโหวตนายพิธายังไม่ได้เป็นนายกฯ ในส่วนของท้องถิ่น จะมีผลกระทบอย่างไรหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ มีการพูดกันกับนายพิธา รวมทั้งจัดเวิร์กช็อป การทำงานร่วมกับท้องถิ่น ส่วนตัวมีความกังวลต่อเรื่องนี้อย่างไร ?
 
นายบุญชูกล่าวว่า อาจจะมีผลกระทบต่อเรื่องงบประมาของท้องถิ่น ที่ล่าช้าตามไปด้วย
 
“การเมือง ก็ว่ากันไป มันก็อาจจะมีผลกระทบเพราะเราไม่รู้ว่าผลวันที่ 19 ก.ค.จะเป็นอย่างไร ก็อาจจะมีบ้างก็คือเรื่องงบประมาณแผ่นดิน เพราะว่าถ้าเลือกนายกฯช้า ท้องถิ่นจะมีผลกระทบเรื่องงบประมาณพอสมควร ก็มีความเป็นไปได้ ประชาชนที่เดือดร้อนจะมีผลกระทบตามมา ถ้าอย่างอื่นก็คงไม่มีอะไรเท่าไหร่
 
“สำหรับเสียงสะท้อนเรื่องนี้ ที่จริงบ้านเราการเมืองไม่แน่ไม่นอน แต่ตามหลักการแล้ว คนที่เลือกตั้งมา เหมือนเขาชกบนเวทีแล้วเขาชนะ แล้วไม่ให้ให้เกียรติคนชนะ บางทีมันก็ไม่ใช่นักกีฬา คือความจริงเรามันก็ต้องยอมรับความจริงว่าในเมื่อเขาสร้างกติกาให้การเลือกตั้งแล้วเข้าชนะแล้ว ก็ต้องยอมรับด้วย ส่วนเขาจะทำดี ไม่ดี ก็ว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนในนโยบายเขาอะไรเขาจะแก้โน่นแก้นี่ ก็เข้าไปว่ากันอีกสเต็ปหนึ่ง แต่ถ้าโดยหลักการแล้วก็ควรจะให้เขาได้ทดลองบริหารหรืออะไรก็ว่ากันไป คือความคิดของผม ให้กำลังใจการจัดตั้งรัฐบาล” นายบุญชูกล่าว
 
นายบุญชูกล่าวต่อว่า ขอให้กำลังใจการเมืองไทย ประชาชนต้องใจเย็น อาจจะต้องช่วยกันวิงวอนให้การเมืองไทย เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา
 
“พวกเราก็ต้องใจเย็นๆ นะ ช่วยกันแก้ปัญหาทำให้การเมืองของเราตรงไปตรงมา ก็อาจจะต้องช่วยกันวิงวอน เพื่อให้การเมืองมันตรงไปตรงมาเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ผลประโยชน์ของประชาชน ก็อยากจะให้คนนึกถึงจุดนี้ คือทุกอย่างมันก็ต้องว่าไปตามเกม ตามกติกา แล้วเรามาชี้แนะกันทีหลัง ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี” นายบุญชูชี้

---

‘อสังหา’ แนะให้โอกาส ‘พิธา’ โหวตนายกฯรอบ2 ไม่ผ่านถึงคิว ‘พท.’ ขีดเส้น1เดือนได้รัฐบาล
https://www.matichon.co.th/economy/news_4082363
 
‘อสังหา’ แนะให้โอกาส ’พิธา’ โหวตนายกฯรอบ2 ไม่ผ่านถึงคิว ’พท.’ ขีดเส้น 1 เดือนได้รัฐบาล
 
นายวสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ผลจากการโหวตนายกรัฐมนตตรีเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ออกมา โดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ผ่านการโหวตรอบแรก ยังไม่สามารถจะตอบได้ว่าทิศทางการเมืองจะไปทางไหน ต้องรอผลการโหวตรอบสอง อย่างไรก็ตามขอให้ทุกอย่างดำเนินการไปด้วยความสงบเรียบร้อย อย่าเกิดเหตุวุ่นวาย และขอให้เร่งได้ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นใครก็แล้วแต่ และจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ภายใน 1 เดือนนี้
  
ส.ค.ต้องได้รัฐบาลใหม่ปลุกลงทุน
 
“ในแง่ของภาคธุรกิจ ไม่อยากให้การโหวตนายกรัฐมนตรี การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ลากยาวเลยจากไทม์ไลน์เดือนสิงหาคมนี้ เพราะจะเป็นสุญญากาศต่อเศรษฐกิจของประเทศ หากสามารถฟอร์มทีมรัฐบาลได้ในสิงหาคม กว่าจะเริ่มงานหรือเซตอะไรให้เข้าที่เข้าทางก็ใช้เวลาอีก 1 เดือน ส่งผลเศรษฐกิจไตรมาส3 ยังคงชะลอตัวและจะเริ่มฟื้นตัวได้ในไตรมาส4 ไปแล้ว มาจากปัจจัยมีรัฐบาลใหม่และนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในช่วงไฮซีซั่นนี้” นายวสันต์กล่าว
 
นายวสันต์กล่าวว่า อย่างไรก็ตามหากการเมืองไม่สงบ จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เกิดความวุ่นวายจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในแง่ของบรรยากาศการท่องเที่ยวและการลงทุน ทำให้ต่างชาติชะลอการตัดสินใจ เพื่อรอดูสถานการณ์การเมืองไทย ส่วนจะชะลอระยะสั้นหรือระยะยาวขึ้นอยู่การเมืองจะมีความชัดเจนเมื่อไร ทั้งนี้การเมืองไทยเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยากและยังไม่รู้ว่าจะมีอะไรที่จะพลิกได้อีกหรือไม่
 
“ขออย่าให้ลากยาวนาน เพราะจะไม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ ขณะที่เอกชนไทยรายใหญ่ก็รอดูสถานการณ์เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนโครงการใหญ่ ใช้เงินจำนวนมาก เสี่ยง และลงทุนระยะยาว อาจชะลอเพื่อตั้งรับกับสถานการณ์ยังไม่แน่นอน” นายวสันต์กล่าว
 
แนะให้โอกาส’พิธา’โหวตรอบ2
 
นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการบริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และประธานคณะกรรมการอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การโหวตนายกรัฐมนตรีรอบ2 วันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ทั้ง 8 พรรคการเมืองที่เอ็มโอยูกันไว้ ควรเสนอชื่อคุณพิธาอีกครั้ง แม้รอบแรกจะไม่ผ่านโหวตก็ตาม เพื่อเป็นการให้โอกาสคุณพิธาได้สร้างความเข้าใจถึงประเด็นต่างๆที่ดูหมิ่นเหม่ต่อรัฐสภา โดยเฉพาะส.ว. เพื่อให้ได้เสียงเพิ่ม
 
“แต่หากคุณพิธายังไม่ผ่านโหวต ทางพรรคก้าวไกล ต้องปล่อยให้พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการโหวตรอบ3 ไม่ว่าจะเป็นคุณแพทองธารหรือคุณเศรษฐา ขณะที่ทั้ง 8 พรรค ต้องจับมือกันให้แน่นเพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยต้องเป็นแกนนำ จัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้า” นายอิสระกล่าว
 
‘ซีอีโอไซมิส’ไม่ติดพท.ส่ง’เศรษฐา’ชิง
 
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไม่กังวลว่าจะนายกรัฐมนตรีจะมาจากพรรคก้าวไกลหรือพรรคเพื่อไทย เพราะทั้ง 2 พรรคได้คะแนนเลือกตั้งเป็นเสียงข้างมาก สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้อยู่แล้ว ยังไงพรรคเพื่อไทยน่าจะได้เป็นรัฐบาล เพราะมีความสัมพันธ์กับส.ว.ดีกว่าพรรคก้าวไกล และในการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบ2 มีโอกาสต้องเปลี่ยนชื่อใหม่ เนื่องจากคุณพิธามีแนวโน้มที่จะฝ่าด่านส.ว.ได้ยาก
 
“ในรอบ2 พรรคเพื่อไทยน่าจะส่งชื่อคุณเศรษฐา โดยส่วนตัวมองว่าคุณเศรษฐาก็โอเค เป็นนักธุรกิจ มีความคิดทันสมัย ภายใต้สถานการณ์การเมืองเป็นแบบนี้ ต้องได้คนที่เป็นกลาง ไม่รุนแรงมากเกินไป” นายขจรศิษฐ์กล่าว
 
การเมืองทุบมู้ดซื้อบ้าน-คอนโด
 
นายขจรศิษฐ์กล่าวว่า ปัจจุบันด้วยสถานการณ์ต่างๆ ทั้งภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูง ดอกเบี้ยขาขึ้น ยอดกู้แบงก์ไม่ผ่านสูง และการเมืองยังไม่นิ่ง ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายบ้านและคอนโดมิเนียมไม่ค่อยดีอย่างที่คาด โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าคนไทย แต่ยังดีที่ได้ลูกค้าต่างชาติเข้ามาเติม ล่าสุดมีลูกค้าจากจีนเข้าซื้อคอนโดมิเนียมของบริษัทที่พระราม9 อีก 34 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 5-6 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่ารวม 200 ล้านบาท และซื้อล็อตใหญ่ที่สุขุมวิทประมาณ 20-30 ยูนิต ราคา 20 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่ารวม 500-600 ล้านบาท
 
“การเมืองมีผลต่อตลาดอสังหาฯบ้างในแง่ของกำลังซื้อ แต่ไม่มาก ซึ่งในแง่ของคนซื้อในส่วนของต่างชาติยังคงมีต่อเนื่อง แต่ในแง่ของนักลงทุนมีพันธมิตรเราเป็นนักลงทุนญี่ปุ่นสนใจจะลงทุนพัฒนาคอนโดมิเนียม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจาต่อรอง ได้สอบถามเข้ามาบ้างถึงสถานการณ์การเมือง ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นรัฐบาล จะตั้งเมื่อไหร่ ซึ่งในครึ่งปีหลังเรายังเดินหน้าโครงการอยู่ระหว่างสร้างทั้งบ้าน คอนโด โรงแรมทั้งโครงการและใหม่ที่อยู่ในแผน ในส่วนลงทุนโครงการใหม่ๆได้ชะลอในครึ่งปีหลังนี้” นายขจรศิษฐ์กล่าว
 
รับเหมาหวั่นงานประมูลสะดุดยาว
 
นายกฤษดา จันทร์จำรัสแสง อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ขอให้พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยเร่งสรุปการโหวตผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้เร็วที่สุด เพื่อให้มีการใช้จ่ายงบประมาณใหม่ของปี 2567 และมีการประมูลงานใหม่โดยเร็ว หากยิ่งช้ายิ่งไม่ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากขณะนี้หน่วยงานภาครัฐรอดูความชัดเจนนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ ยังไม่รู้ว่าจะมีการรื้อหรือเดินหน้าโครงการที่อยู่ในแผนพัฒนาให้เดินหน้าต่อไปได้มากน้อยแค่ไหน
 
“หากตั้งรัฐบาลไม่ได้ จะเกิดล้อฟรีการใช้งบลงทุนใหม่และงบประมาณปี 2567 จะล่าช้าออกไปอีก จากเดิมคาดว่าจะล่าช้าไป 6 เดือน งานประมูลโครงการใหม่ชะงักตามไปด้วยโดยธรรมชาติ” นายกฤษดากล่าว