🧡มาลาริน🧡โถ!นายกฯทิพย์จะรีบไปประชุมที่ UN พาไทยกลับสู่มุมมองที่ดีของต่างชาติ พูดแบบนี้ฟังแล้วยี้ล้านครั้ง


13 ก.ค.2566 - เมื่อเวลา 12.39 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีถูกพาดพิงใน 3 ประเด็นว่า 1.เรื่องการต่างประเทศ ซึ่งเราต้องรีบเลือกนายกฯ เพราะเดือนก.ย.นี้ จะมีการประชุมสหประชาชาติ ที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ตนต้องการเป็นผู้นำไปบอกทุกคนบอกโลกว่า ไทยพร้อมแล้วที่จะกลับมามีบทบาทที่ดีในมุมมองทางการต่างประเทศ วันนี้น่ากังวลที่มีการพูดถึงทหารยิงประชาชนโดยพาดพิงประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าเป็นตนจะระมัดระวังคำพูดที่จะพูดถึงประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับเรา เศรษฐกิจเราขับเคลื่อนได้ด้วยพวกเขา นี่เป็นสิ่งที่นายกฯต้องทำ ต้องหาจุดสมดุล และต้องรู้หลักการว่าเราจะเป็นหนึ่งในสมาชิกของโลกอย่างไร รู้ว่าต้องเงียบเมื่อไหร่ ดังนั้น ขอให้สมาชิกสบายใจได้ว่าการแถลงนโยบายต่อสหประชาชาติครั้งแรกของตนจะเป็นประโยชน์ของคนในชาติ  

นายพิธา กล่าวต่อว่า 2.เรื่องการแบ่งแยกดินแดน สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ติดกับประเทศมาเลเซียจึงเป็นเรื่องของความมั่นคงด้วย ซึ่งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำ ปัญหาเสพติด และน้ำมันเถื่อน ตนขอให้คำยืนยันว่ารัฐไทยภายใต้การนำของนายพิธา ประเทศไทยจะเป็นรัฐเดี่ยว และจะทำทุกวิถีทางผ่านการทูต และพลเรือน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นรัฐเดี่ยวที่ก้าวหน้า จะลดความมั่นคงทางทหาร แต่จะเพิ่มความมั่งคั่งทางอาหาร และใช้สภาเป็นพื้นที่พูดคุยปกป้องการแบ่งแยกดินแดนให้ดีที่สุด ซึ่งส.ส.ทั้ง 13 เขต และประธานสภาผู้แทนราษฎร มีคุณวุฒิเรื่องแบบนี้เราจะทำงานร่วมกันโดยใช้สภาสร้างความสบายใจ พร้อมสนับสนุนพหุวัฒนธรรม สนับสนุนทุกศาสนา ทำให้รัฐไทยก้าวหน้านี่คือคำมั่นสัญญาของตน

นายพิธา กล่าวอีกว่า 3.เรื่องที่เกี่ยวกับยาเสพติด และน้ำมันเถื่อน คิดว่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลได้ยืนยันชัดเจนในสภาแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตำรวจ และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย การบริหารจัดการกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาในการนำยาเสพติดเข้ามา ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เป็นเรื่องที่ทั้ง 8 พรรค ที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลใส่ใจปัญหาเหล่านี้อย่างแน่นอน 



ประเทศไทย  เป็นประเทศที่ทั่วโลกมีมุมมองในเรื่องที่ดี

มีสัมพันธไมตรีกับทุกประเทศ แม้ประเทศซาอุดิอาระเบีย ก็กลับมาติดต่อกันอีก

ลุงตู่ทำชื่อเสียงเอาไว้ดีมาก จนมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ก่อนมีโควิดและหลังจบโควิด

พิเธนสะกี้ คงจะรีบไปเป็นเสนอตัวเป็นเครือข่ายยูเครน


การพูดกับพฤติกรรมมันย้อนแย้งจนหมดความน่าเชื่อถือ จมูกยาวไปถึงยูเอ็น

ขอยี้สักล้านครั้ง






แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่