JJNY : เศรษฐาอยากให้ทุกฝ่ายยอมกันบ้าง│"สุริยะ"รับ"พท."ทาบ"วันนอร์"│‘แอตต้า’หวั่นเทาจีนทำพิษ│“แวกเนอร์”งดรับสมัครชั่วคราว

เศรษฐาชี้ เลือก ประธานสภา อยากให้ทุกฝ่ายยอมกันบ้าง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4059965
 
‘เศรษฐา’ บอกตอบลำบาก-ไม่เป็นธรรม หากให้ชี้ใครเหมาะนั่งป ธ.สภา ลั่นทุกฝ่ายพยายามกันเพื่อให้ได้รัฐบาล ปชต. หวัง ‘ก้าวไกล-เพื่อไทย’ คุยกันแล้วเป็นผลที่ทุกฝ่ายพอใจ
 
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 กรกฎาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท.และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีประธานสภาระหว่างพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และพรรค พท.ที่ยังไม่ลงตัวกัน ว่า ได้ข่าวอยู่เช่นกันว่าวันนี้ยังมีการถกกันอยู่ และมีความหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะคุยกันแล้วจะเป็นผลที่ทุกฝ่ายพอใจ

เมื่อถามว่า หากทั้งสองฝ่ายคุยกันแล้วไม่ลงตัวทำให้ต้องมีการเสนอตัวกลาง ถือเป็นแนวทางที่ทำให้ลดความขัดแย้งหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ขึ้นอยู่กับวิธีเจรจาและทั้งสองฝ่ายยอมรับได้หรือไม่ ใช้เหตุผลคุยกันโดยเอาเป้าหมายเป็นหลักคือรัฐบาลต้องมาจากฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทุกคนไม่ว่าจะเป็นพรรคพท. หรือพรรค ก.ก. หรือพรรคร่วมอีก 6 พรรคต้องยึดมั่น ทั้งนี้ ตนก็ได้ทราบข่าวเช่นกันว่า พรรค พท.จะดันนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา  หัวหน้าพรรคและส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ (ปช.) ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างพรรค พท. และพรรคก.ก. ซึ่งตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นการตกลงกันระหว่างพรรคร่วมทั้ง 8 พรรค
 
ต่อข้อถามว่า มองว่านายวันมูหะมัดนอร์มีความเหมาะสมหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า เป็นคำถามที่ลำบากหากจะให้ตนตอบ เชื่อว่ามีการโยนชื่อมาหลายชื่อและทุกชื่อที่มีการเสนอมามีความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นนายวันมูหะมัดนอร์ หรือทางพรรคก.ก.เสนอมา หรือเป็นคนจากพรรค พท.ก็ตาม และเชื่อว่าทุกคนมีประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม คงไม่เป็นธรรมหากจะให้ตนตอบว่าใครมีความเหมาะสมหรือไม่ แต่เข้าใจว่าเราพยายามกันทุกฝ่ายที่จะได้รัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตย และต้องทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน ตำแหน่งมีได้แค่คนเดียว และเข้าใจว่าหลายคนก็สถานภาพที่ค่อนข้างจะลำบาก หากมาจากพรรค ก.ก.หรือมาจากพรรค พท. หรือมาจากคนกลาง หากมีคนได้ก็ต้องมีคนเสีย
 
อยากวิงวอนเช่นนี้ว่าเราอยู่ด้วยกัน จุดมุ่งหมายเดียวกัน นี่คือจุดเริ่มต้นการเดินทางครั้งสำคัญที่สุดของประเทศไทย จึงอยากวิงวอนว่าแม้ผลจะออกมาเช่นไรก็อยากให้ทุกฝ่ายยอมกันบ้าง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ” นายเศรษฐากล่าว
 
 ถามย้ำว่า หากทั้งสองพรรคตกลงกันไม่ได้ ต้องเป็นคนนอก การทำงานของทั้งสองพรรคจะราบรื่นหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า คงเป็นเรื่องของคะแนนที่มีความใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจจะเป็นประเด็นหนึ่งที่ส.ส.ของพรรคหลายคนยกขึ้นมา เป็นเรื่องที่น่าคิดเช่นกันแต่เราต้องยึดจุดมุ่งหมายเดียวกันและทำงานร่วมกัน คือเรามาทำงานให้พี่น้องประชาชนซึ่งเป็นเรื่องที่ตนมองว่าสำคัญที่สุด จากที่ได้สัมผัสมากับคณะทำงานของพรรค ก.ก. ทุกคนที่เข้าประชุมด้วยกัน แม้บางคนจะอาวุโสน้อยกว่าแต่ก็ให้เกียรติคนที่ทำงานด้วยกันอย่างมาก ซึ่งก็ชื่นชมวิธีการทำงานของเขา
 
เมื่อพรรคมีมติออกมาอย่างไร ในฐานะพรรคการเมืองประชาธิปไตยก็จะต้องน้อมรับ ซึ่งลูกพรรคก็ต้องทำตามมติพรรค อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถจะเอามติของเราไปก้าวล่วงพรรคอื่นไม่ได้ โดยจากบรรยากาศที่คุยกันเชื่อว่าทุกคนอยากให้ฝ่ายประชาธิปไตยจับมือด้วยกันและเดินทางด้วยกัน” นายเศรษฐากล่าว



"สุริยะ" ยอมรับ "เพื่อไทย" ทาบ"วันนอร์" เสนอชื่อชิง "ประธานสภา" เชื่อชงคนกลางเป็นทางออกลดขัดแย้ง
https://siamrath.co.th/n/459157

‘สุริยะ’ รับ ’เพื่อไทย’ เสนอ ‘วันนอร์’ ชิงประธานสภา แม้ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ทาบทามไว้เบื้องต้นแล้ว เชื่อเสนอคนกลาง เป็นทางออกลดความขัดแย้ง ปัดตอบ ‘ก้าวไกล’ รับได้หรือไม่ ก่อนหนีขึ้นลิฟต์ไปประชุม
 
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 กรกฎาคม 66 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหนึ่งในคณะเจรจาพรรค พท. ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรค พท. จะเสนอนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคและส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ (ปช.) ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างพรรค พท. และพรรคก.ก.ว่า ยอมรับว่า พรรค พท.มีแนวทางจะเสนอชื่อนายวันมูหะมัดนอร์ เป็นตัวกลางชิงตำแหน่งประธานสภาฯ  หลังพรรค พท. และพรรค ก.ก. ยังตกลงเรื่องนี้กันไม่ได้ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และ ส.ส.พรรคพท. ซึ่งเชื่อว่า หากกก.บห. มีมติเสนอชื่อนายวันมูหะมัดนอร์ จะสามารถอธิบายชี้แจงกับส.ส. ให้เข้าใจได้ เพื่อให้การเมืองเดินหน้าต่อไปได้เมื่อมีความขัดแย้ง และเชื่อว่าจะเป็นทางออกที่ดีเพื่อลด ความขัดแย้งระหว่างพรรค ก.ก.และพรรคพท.ได้ 
 
เมื่อถามย้ำว่า พรรค พท.จะยอมเสียโควตาประธานสภาฯ ใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า พรรคพท.ต้องการให้การเมืองเดินหน้าต่อไปได้ ถ้าเป็นทางออกที่ดี เมื่อพรรค พท.และ ก.ก. ยังไม่มีข้อสรุปที่ลงตัวจึงต้องมีการเสนอชื่อคนกลาง ทั้งนี้ ยอมรับว่าได้มีการทาบทามนายวันมูหะมัดนอร์ ไว้ในเบื้องต้นแล้ว 

ต่อข้อถามว่า พรรค ก.ก. จะรับข้อเสนอนี้หรือไม่นั้น นายสุริยะ ไม่ได้ตอบคำถามนี้ก่อนเดินเข้าลิฟท์ขึ้นไปประชุมทันที
 


‘แอตต้า’ หวั่นเทาจีนทำพิษ เข้มวีซ่ากระทบเป้านักท่องเที่ยวไม่ถึงฝัน
https://www.matichon.co.th/economy/news_4059566

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า แนวโน้มนักท่องเที่ยวจีน ที่เดินทางเข้าไทยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม-มิถุนายน) อยู่ประมาณ 1.3 ล้านคน เป็นตัวเลขที่ยอมรับว่าอาจทำให้ทั้งปีทำได้ไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ 5-7 ล้านคน ถือเป็นเรื่องยาก และช่วงปลายไตรมาส 2/2566 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยเพียงเดือนละ 1 แสนคนเท่านั้น โดยสาเหตุเพราะมีการวางเงื่อนไขในการอนุมัติวีซ่าเพื่อป้องกันทุนจีนสีเทา หรือ แก๊งจีนที่ใช้ประเทศไทยหากินแบบไม่ถูกต้อง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ใช้การตรวจสอบ และตั้งเงื่อนไขการให้วีซ่ากับนักท่องเที่ยวเข้มงวดมากขึ้น อาทิ คนจีนที่ต้องการของวีซ่านักท่องเที่ยวไทย ต้องแสดงเงินในบัญชี 5 หมื่นหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาน 2.5 แสนบาท ถือเป็นการสร้างเงื่อนไขที่ยากยิ่งกว่าการเดินทางไปท่องเที่ยวในยุโรปหรือสหรัฐอีก
 
กต.ยังขอความร่วมมือไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ฝั่งจีน ให้ช่วยตรวจสอบตั้งแต่ต้นทาง ก่อนส่งคนออกจากประเทศมาเที่ยวไทย ส่งผลให้เกิดความยุ่งยาก เป็นการเข้มงวดกับนักท่องเที่ยวจริงๆ ที่เดินทางมากับบริษัททัวร์ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นคนละกลุ่มกันกับจีนเทา เพราะกลุ่มจีนเทาจะไม่มาขอวีซ่านักท่องเที่ยว และไม่เดินทางร่วมกับกลุ่มทัวร์นักท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่จะเดินทางมาจากประเทศที่ 3 หรือถือหนังสือเดินทางของชาติที่ 3 เข้ามาแทน ซึ่งมาตรการตรวจสอบตั้งแต่ต้นทางและการเข้มงวดกับนักท่องเที่ยวจีน จึงไม่กระทบเพียงนักท่องเที่ยวแต่กระทบกันนักธุรกิจด้วย” นายอดิษฐ์ กล่าว
 
นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ขณะนี้อยากให้รัฐบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีขนาดใหญ่ และเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ต้องมีหน่วยงานกำกับดูแลอย่างจริงจัง ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย จนทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย กลายเป็นเรื่องถูกกฎหมาย อยากให้ทำให้สิ่งที่ถูกต้อง เพื่อความเป็นธรรมและความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยต่อไป
 
นางมาริสา กล่าวว่า สมาคมโรงแรมไทยมี 993 แห่ง 160,000 ห้อง เกิดการจ้างงานประมาณ 50,000 ตำแหน่ง คิดเป็นสัดส่วน 26% ของโรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้อง เฉลี่ยเข้าพัก 65% ราคาเฉลี่ย 2,000 บาทต่อห้อง มีรายได้ประมาณ 80,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะมีความเชื่อมโยงกับซัพพลายเชนกับสินค้าจำพวกอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ ทั้งอุปโภคและบริโภคที่สำคัญ โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เฉพาะในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา มีอัตราเข้าพักอยู่ที่ 60.65% เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม ที่อัตราเข้าพักอยู่ประมาณ 57.6% ทำให้ปี 2566 คาดว่าอัตราการเข้าพัก จะอยู่ที่ 60-65% ซึ่งอัตราเข้าพักทั้งปีจะได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ หมายถึงนักท่องเที่ยวจีน ต้องเดินทางเข้ามาไทยได้ตามเป้าหมายขั้นต่ำคือ 5 ล้านคน แต่หากจำนวนนักท่องเที่ยวจีน ไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ อัตราการเข้าพักทั้งปีเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ประมาณ 60% ของจำนวนห้องพักทั้งหมด
 
ที่ผ่านมารัฐบาลไทยไม่ยอมเหนื่อย ไม่ทำงานหลายอย่างก็จะกลายเป็นปัญหา ทำให้ทั้งรัฐและผู้ประกอบการจะต้องมาร่วมกันคลี่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาคท่องเที่ยวร่วมกัน หากไม่ลุกขึ้นมาทำอะไร หรือเตรียมความพร้อม เพื่อความยั่งยืนของภาคการท่องเที่ยว กังวลว่ากลุ่มทุนต่างชาติจะเข้ามาทำธุรกิจแบบเดิมในไทย เหมือนอดีตก่อนการระบาดของโควิด-19 ที่กลุ่มคนจีนเข้ามาซื้ออพาร์ทเม้นเพื่อทำการรับนักท่องเที่ยวจีนเองแทน” นางมาริสา กล่าว
 
ด้านนายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ข้อจำกัดเรื่องการอนุมัติวีซ่านักท่องเที่ยวจีน ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยเงื่อนไขวีซ่าตอนนี้ทำให้คนจีนจะมาเที่ยวไทยก็ตัดสินใจที่จะไม่มาแทน เพราะเงื่อนไขการอนุมัติวีซ่าที่ยากเหลือเกิน ทำให้ตลาดจีนเที่ยวไทยชะลอตัวทั้งที่ความต้องการ (ดีมานด์) อยากเข้ามาเที่ยวไทยยังมีอยู่ ส่วนคนที่อยากมาเที่ยวไทยมากจริงๆ ก็มาผ่านวีซ่า Visa on Arrival (วีโอเอ) หรือวีซ่าหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองในประเทศ ซึ่งจากข้อมูลที่ได้มาพบว่า วีซ่าแบบวีโอเอก็ไม่ได้ทำง่าย เพราะต้องรอการตรวจสอบและพิจารณา ที่ต้องรอในสนามบิน 4-5 ชั่วโมง แบบนี้ทรมานมาก พอเจอแบบนี้นักท่องเที่ยวจีนก็คิดหนักในการเข้ามาเที่ยวไทย ซึ่งก็น่าสงสารเหมือนกัน ที่จะเข้ามาเที่ยวแล้วต้องเจอแบบนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่