อ.จุฬาฯ ถามดังๆ สว.ประพันธ์ ฟังเสียงใคร หลังลั่นสื่อนอก ไม่สนเสียงประชาชน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7743310
อ.จุฬาฯ งง สว.ประพันธ์ ให้สัมภาษณ์สื่อนอก ลั่นไม่ใช่หน้าที่ ฟังเสียงประชาชน ถามดังๆ แล้วมีหน้าที่ฟังเสียงใคร ทั้งที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย
กรณี นาย
ประพันธ์ คูณมี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ สำนักข่าว Japantimes ถึงกรณี การโหวต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ แคนดิเดตนายกฯ โดยระบุว่า “
ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะฟังเสียงของประชาชน แม้ว่าพิธาได้ 100 ล้านโหวต ผมก็ยังไม่เลือกคุณ ถ้าผมไม่ชอบคุณหรือคิดว่าคุณเหมาะสมแล้ว”
ต่อเรื่องดังกล่าว ผศ.ดร.
พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความคิดเห็นว่า
คำถามสั้นๆ ของผมคือ ถ้าคุณบอกว่าไม่ใช่หน้าที่คุณที่จะต้องฟังเสียงประชาชน แล้วคุณมีหน้าที่ฟังเสียงใคร? สรุปแล้ววุฒิสมาชิกเป็นใครกันแน่ ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้คุณทำหน้าที่เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย?
ตอบให้ดีนะครับระวังจะกลายเป็นบูมเบอแรง
https://www.facebook.com/pornson.liengboonlertchai/posts/pfbid02CsraBg9pf9tSnjgXMA7RGRfYds5iv3qHsbXR7kDY4L9jEBuoRoyp1VtyTQG5grnFl
‘เศรษฐา’ โพสต์ทวิตตั้งคำถามโครงสร้างพื้นฐานในชีวิตทำให้เด็กๆในปัจจุบันเลือกจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกออนไลน์
https://www.matichon.co.th/politics/news_4058194
‘เศรษฐา’ โพสต์ทวิตตั้งคำถามโครงสร้างพื้นฐานในชีวิตทำให้เด็กๆในปัจจุบันเลือกจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกออนไลน์
นาย
เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ทวิตเตอร์ส่วนตัว ระบุว่า
ภาพวันหยุดสมัยพ่อเป็นเด็กและวันหยุดของเด็กสมัยนี้ที่เห็นแชร์ๆ กัน
เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นจนโทรศัพท์มือถือสามารถทำได้เกือบทุกอย่าง ไม่แปลกเลยครับที่สถานการณ์แบบในภาพนี้จะเกิดขึ้น และไม่ใช่เรื่องผิดด้วย
ภาพนี้ควรนำไปสู่การตั้งคำถามถึงโครงสร้างพื้นฐานในชีวิตที่ทำให้เด็กๆในปัจจุบันเลือกจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกออนไลน์มากกว่าโลกภายนอก
พวกเขาจะอ่านหนังสือได้อย่างไรในเมื่อหนังสือแพงกว่าค่าครองชีพ จะออกไปใช้ชีวิตและออกกำลังกายในพื้นที่สาธารณะได้อย่างไรในเมื่อไม่มีพื้นที่เหล่านี้ใกล้ตัวในระยะที่เข้าถึงง่าย พวกเขาจะดูทีวีไปทำไมในเมื่อเนื้อหาบนอินเตอร์เน็ตทั้งรวดเร็ว เปิดกว้าง และตอบโจทย์ทั้งในแง่ของคุณภาพและความสนใจยิ่งกว่า มือถือไม่ใช่ตัวร้ายของเรื่องนี้ ถ้านอกบ้านถูกทำให้เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับพวกเขา ผมเชื่อว่าเราจะได้เห็นภาพเก่าๆ เหมือนชีวิตวัยเด็กสมัยคนรุ่นเราเกิดขึ้นแน่นอนครับ
https://twitter.com/Thavisin/status/1675103968350064640
ขอนแก่น แห่ต้อนรับ พิธา เจ้าตัววอน วันนี้อย่ามองก้าวไกล เป็นศัตรู
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7743567
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไปขอนแก่น คนแห่ต้อนรับ คึกคักมากล้น เจ้าตัวขอ จะเกลียด จะโกรธตน ทำได้ แต่จะโกรธประชาชนไม่ได้ วอนอย่ามองก้าวไกล เป็นศัตรู
วันที่ 1 ก.ค.2566 นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ขึ้นปราศรัยและพบปะประชาชนที่เวทีกลาง สวนสาธารณะ 100 ปี บึงแก่งนคร จ.ขอนแก่น ท่ามกลางคนที่มารอพบอย่างคึกคัก
นาย
พิธาเผยว่า วันนี้ตนมาขอนแก่น อิ่มมาก เพราะได้กินผัดเผ็ดงูเห่า เนื่องคะแนนเลือกตั้งครั้งนี้ เขต 1 ขอนแก่น ซึ่งเป็นฐานที่มั่นเดิมของพรรค ได้รับชัยชนะอีกครั้ง และได้คะแนนเกือบ 4 หมื่นคะแนน
ตนจึงขอขอบคุณคนขอนแก่นทียังรักและไว้วางใจให้กับพรรคได้ทำงานเพื่อประชาชนต่อไป แม้หลายคนจะเกลียดและโกรธในตัวพิธา ซึ่งทุกคนโกรธและเกลียดพิธาได้ แต่จะโกรธประชาชนไม่ได้
วันนี้อย่ามองว่าศัตรูคือ
พิธา หรือพรรคก้าวไกล เพราะศัตรูที่แท้จริงคือความเหลื่อมล้ำ ความยากจน การทุจริตคอรัปชั่นและปัญหาต่างๆ ที่พรรคก้าวไกลต้องเข้าไปแก้ไข ตามที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จนผลการเลือกตั้งที่ได้มาอันดับ 1
ตนคงต้องขอเสียงคนขอนแก่นส่งดังๆไปยังทำเนียบรัฐบาล ให้พิธาได้เป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะมีอุปสรรคอย่างมาก แต่เราก็จะเดินไปข้างหน้าด้วยกัน
โดยวันนี้มาขอนแก่น ได้ยินว่า ว่าที่นายกรัฐมนตรี ตั๋ว ซึ่งเป็นภาษาอีสานว่าหลอก เพราะใบ้หวยไม่ถูก เพราะหลายคนบอกว่าตามเลขตนเองมาหลายงวดและงวดนี้ตนเองโชว์สลาก เลขท้าย 376 วันนี้ออกรางวัล ออก 16 ซึ่งหากนำเอา 3+7+6 มารวมกันก็จะได้ 16 นั่นเอง อย่างไรก็ดีในวันที่ 14 ก.ค.ซึ่งเป็นวันที่ทุกฝ่าย กำหนดโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี รับรองว่าหวยออก 376 คนไทยถูกทั้งประเทศอย่างแน่นอน
เอ็มพีไอ 5 เดือนร่วง มิ.ย.ห่วงปมตั้งรัฐบาล – สงคราม
https://www.matichon.co.th/economy/news_4057738
เอ็มพีไอ 5 เดือนร่วง มิ.ย.ห่วงปมตั้งรัฐบาล – สงคราม ถกผู้ผลิตช่วย 4 อุตฯเจ็บหนักจากส่งออกร่วง – จับตา 25 อุตฯโอทีลด
นาง
วรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือนพฤษภาคม ปี 2566 อยู่ที่ระดับ 94.80 ลดลง 3.14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ดีขึ้นจากเดือนเมษายน 2566 คิดเป็น 14.23% อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 60.20% และช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 61.04% และดัชนีเอ็มพีไอ 5 เดือนแรก(มกราคม-พฤษภาคม2566)ลดลง 4.49% ปัจจัยบวกต่อเอ็มพีไอมาภาคการท่องเที่ยวส่งผลต่อความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งการผลิตรถยนต์นั่งและรถยนต์กระบะ 1 ตัน จากการส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้น
แนวโน้มเอ็มพีไอเดือนมิถุนายนพบสัญญาณเฝ้าระวังจากการส่งออกที่หดตัวเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ประกอบกับความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและงบประมาณปี 2567 อีกทั้งความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีโอกาสรุนแรงขึ้น ยังคงเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจไทย รวมทั้งต้องติดตามปรากฏการณ์เอลนีโญจะกระทบต่อวัตถุดิบในอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรเพียงใด อย่างไรก็ตามยังพบปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน รวมถึงเศรษฐกิจของคู่ค้าหลักอย่างประเทศจีนและญี่ปุ่นมีแนวโน้มการฟื้นตัว
ผลจากการส่งออกที่ลดลงต่อเนื่อง 8 เดิอนส่งผลให้เอ็มพีไอลดลง แม้อุตสาหกรรมหลักอย่างรถยนต์จะเติบโตแต่ไม่สามารถประคองเอ็มพีไอภาพรวมได้ โดยเมื่อเร็วๆนี้ สศอ.ได้ประชุมโฟกัสกลุ่ม4อุตสาหกรรมที่ส่งออกกระทบเยอะ อาทิ เหล็ก สิ่งทอ เพื่อหามาตรการรับมือร่วมกัน พร้อมเน้นแนวทางปรับตัวไปสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสูง อาทิ สิ่งทอชนิดพิเศษ เป็นโอกาสของไทย เพราะหากจะผลิตแบบเดิมต้องยอมรับว่าไทยสู้ต้นทุนบางประเทศไม่ได้ อาทิ เวียดนาม ที่เวลานี้เน้นผลิตสินค้าราคาถูกทั้งสิ่งทอง เครื่องใช้ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์
“
ความกังวลของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ต่อ 25 อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการส่งออกลดลงจะต้องลดโอทีนั้น ได้สอบถามไปยังส.อ.ท.แล้วได้รับคำตอบว่ากำลังรวบรวมข้อมูล โดยสศอ.จะติดตามใกล้ชิดเพื่อทำงานช่วยเหลือภาคเอกชน หลังหารือกับ 4 อุตสาหกรรมไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าการลดโอทีเกิดขึ้นมาระยะหนึ่งในบางอุตสาหกรรมแล้ว เป็นการปรับตัวของผู้ผลิตเนื่องจากภาคการส่งออกไทยปีนี้ชะลอตัว ประกอบกับบางอุตสาหกรรมการเติบโตสูงมากในปีที่ผ่านมา อาทิ อุตสาหกรรมยาง จึงฐานสูง แต่ปีนี้ความต้องการกลับมาปกติ ดังนั้นต้องพิจารณาข้อมูลในแต่ละอุตสาหกรรมอีกครั้ง” นาง
วรวรรณกล่าว
JJNY : 5in1 ถามดังๆ สว.ประพันธ์│‘เศรษฐา’ทวิตตั้งคำถาม│ขอนแก่นแห่ต้อนรับพิธา│เอ็มพีไอ5ด.ร่วง│ซีไอเอย่องเงียบเยือนยูเครน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7743310
อ.จุฬาฯ งง สว.ประพันธ์ ให้สัมภาษณ์สื่อนอก ลั่นไม่ใช่หน้าที่ ฟังเสียงประชาชน ถามดังๆ แล้วมีหน้าที่ฟังเสียงใคร ทั้งที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย
กรณี นายประพันธ์ คูณมี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ สำนักข่าว Japantimes ถึงกรณี การโหวต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ แคนดิเดตนายกฯ โดยระบุว่า “ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะฟังเสียงของประชาชน แม้ว่าพิธาได้ 100 ล้านโหวต ผมก็ยังไม่เลือกคุณ ถ้าผมไม่ชอบคุณหรือคิดว่าคุณเหมาะสมแล้ว”
ต่อเรื่องดังกล่าว ผศ.ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความคิดเห็นว่า
คำถามสั้นๆ ของผมคือ ถ้าคุณบอกว่าไม่ใช่หน้าที่คุณที่จะต้องฟังเสียงประชาชน แล้วคุณมีหน้าที่ฟังเสียงใคร? สรุปแล้ววุฒิสมาชิกเป็นใครกันแน่ ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้คุณทำหน้าที่เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย?
ตอบให้ดีนะครับระวังจะกลายเป็นบูมเบอแรง
https://www.facebook.com/pornson.liengboonlertchai/posts/pfbid02CsraBg9pf9tSnjgXMA7RGRfYds5iv3qHsbXR7kDY4L9jEBuoRoyp1VtyTQG5grnFl
‘เศรษฐา’ โพสต์ทวิตตั้งคำถามโครงสร้างพื้นฐานในชีวิตทำให้เด็กๆในปัจจุบันเลือกจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกออนไลน์
https://www.matichon.co.th/politics/news_4058194
‘เศรษฐา’ โพสต์ทวิตตั้งคำถามโครงสร้างพื้นฐานในชีวิตทำให้เด็กๆในปัจจุบันเลือกจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกออนไลน์
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ทวิตเตอร์ส่วนตัว ระบุว่า
ภาพวันหยุดสมัยพ่อเป็นเด็กและวันหยุดของเด็กสมัยนี้ที่เห็นแชร์ๆ กัน
เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นจนโทรศัพท์มือถือสามารถทำได้เกือบทุกอย่าง ไม่แปลกเลยครับที่สถานการณ์แบบในภาพนี้จะเกิดขึ้น และไม่ใช่เรื่องผิดด้วย
ภาพนี้ควรนำไปสู่การตั้งคำถามถึงโครงสร้างพื้นฐานในชีวิตที่ทำให้เด็กๆในปัจจุบันเลือกจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกออนไลน์มากกว่าโลกภายนอก
พวกเขาจะอ่านหนังสือได้อย่างไรในเมื่อหนังสือแพงกว่าค่าครองชีพ จะออกไปใช้ชีวิตและออกกำลังกายในพื้นที่สาธารณะได้อย่างไรในเมื่อไม่มีพื้นที่เหล่านี้ใกล้ตัวในระยะที่เข้าถึงง่าย พวกเขาจะดูทีวีไปทำไมในเมื่อเนื้อหาบนอินเตอร์เน็ตทั้งรวดเร็ว เปิดกว้าง และตอบโจทย์ทั้งในแง่ของคุณภาพและความสนใจยิ่งกว่า มือถือไม่ใช่ตัวร้ายของเรื่องนี้ ถ้านอกบ้านถูกทำให้เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับพวกเขา ผมเชื่อว่าเราจะได้เห็นภาพเก่าๆ เหมือนชีวิตวัยเด็กสมัยคนรุ่นเราเกิดขึ้นแน่นอนครับ
https://twitter.com/Thavisin/status/1675103968350064640
ขอนแก่น แห่ต้อนรับ พิธา เจ้าตัววอน วันนี้อย่ามองก้าวไกล เป็นศัตรู
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7743567
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไปขอนแก่น คนแห่ต้อนรับ คึกคักมากล้น เจ้าตัวขอ จะเกลียด จะโกรธตน ทำได้ แต่จะโกรธประชาชนไม่ได้ วอนอย่ามองก้าวไกล เป็นศัตรู
วันที่ 1 ก.ค.2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ขึ้นปราศรัยและพบปะประชาชนที่เวทีกลาง สวนสาธารณะ 100 ปี บึงแก่งนคร จ.ขอนแก่น ท่ามกลางคนที่มารอพบอย่างคึกคัก
นายพิธาเผยว่า วันนี้ตนมาขอนแก่น อิ่มมาก เพราะได้กินผัดเผ็ดงูเห่า เนื่องคะแนนเลือกตั้งครั้งนี้ เขต 1 ขอนแก่น ซึ่งเป็นฐานที่มั่นเดิมของพรรค ได้รับชัยชนะอีกครั้ง และได้คะแนนเกือบ 4 หมื่นคะแนน
ตนจึงขอขอบคุณคนขอนแก่นทียังรักและไว้วางใจให้กับพรรคได้ทำงานเพื่อประชาชนต่อไป แม้หลายคนจะเกลียดและโกรธในตัวพิธา ซึ่งทุกคนโกรธและเกลียดพิธาได้ แต่จะโกรธประชาชนไม่ได้
วันนี้อย่ามองว่าศัตรูคือพิธา หรือพรรคก้าวไกล เพราะศัตรูที่แท้จริงคือความเหลื่อมล้ำ ความยากจน การทุจริตคอรัปชั่นและปัญหาต่างๆ ที่พรรคก้าวไกลต้องเข้าไปแก้ไข ตามที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จนผลการเลือกตั้งที่ได้มาอันดับ 1
ตนคงต้องขอเสียงคนขอนแก่นส่งดังๆไปยังทำเนียบรัฐบาล ให้พิธาได้เป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะมีอุปสรรคอย่างมาก แต่เราก็จะเดินไปข้างหน้าด้วยกัน
โดยวันนี้มาขอนแก่น ได้ยินว่า ว่าที่นายกรัฐมนตรี ตั๋ว ซึ่งเป็นภาษาอีสานว่าหลอก เพราะใบ้หวยไม่ถูก เพราะหลายคนบอกว่าตามเลขตนเองมาหลายงวดและงวดนี้ตนเองโชว์สลาก เลขท้าย 376 วันนี้ออกรางวัล ออก 16 ซึ่งหากนำเอา 3+7+6 มารวมกันก็จะได้ 16 นั่นเอง อย่างไรก็ดีในวันที่ 14 ก.ค.ซึ่งเป็นวันที่ทุกฝ่าย กำหนดโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี รับรองว่าหวยออก 376 คนไทยถูกทั้งประเทศอย่างแน่นอน
เอ็มพีไอ 5 เดือนร่วง มิ.ย.ห่วงปมตั้งรัฐบาล – สงคราม
https://www.matichon.co.th/economy/news_4057738
เอ็มพีไอ 5 เดือนร่วง มิ.ย.ห่วงปมตั้งรัฐบาล – สงคราม ถกผู้ผลิตช่วย 4 อุตฯเจ็บหนักจากส่งออกร่วง – จับตา 25 อุตฯโอทีลด
นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือนพฤษภาคม ปี 2566 อยู่ที่ระดับ 94.80 ลดลง 3.14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ดีขึ้นจากเดือนเมษายน 2566 คิดเป็น 14.23% อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 60.20% และช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 61.04% และดัชนีเอ็มพีไอ 5 เดือนแรก(มกราคม-พฤษภาคม2566)ลดลง 4.49% ปัจจัยบวกต่อเอ็มพีไอมาภาคการท่องเที่ยวส่งผลต่อความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งการผลิตรถยนต์นั่งและรถยนต์กระบะ 1 ตัน จากการส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้น
แนวโน้มเอ็มพีไอเดือนมิถุนายนพบสัญญาณเฝ้าระวังจากการส่งออกที่หดตัวเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ประกอบกับความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและงบประมาณปี 2567 อีกทั้งความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีโอกาสรุนแรงขึ้น ยังคงเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจไทย รวมทั้งต้องติดตามปรากฏการณ์เอลนีโญจะกระทบต่อวัตถุดิบในอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรเพียงใด อย่างไรก็ตามยังพบปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน รวมถึงเศรษฐกิจของคู่ค้าหลักอย่างประเทศจีนและญี่ปุ่นมีแนวโน้มการฟื้นตัว
ผลจากการส่งออกที่ลดลงต่อเนื่อง 8 เดิอนส่งผลให้เอ็มพีไอลดลง แม้อุตสาหกรรมหลักอย่างรถยนต์จะเติบโตแต่ไม่สามารถประคองเอ็มพีไอภาพรวมได้ โดยเมื่อเร็วๆนี้ สศอ.ได้ประชุมโฟกัสกลุ่ม4อุตสาหกรรมที่ส่งออกกระทบเยอะ อาทิ เหล็ก สิ่งทอ เพื่อหามาตรการรับมือร่วมกัน พร้อมเน้นแนวทางปรับตัวไปสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสูง อาทิ สิ่งทอชนิดพิเศษ เป็นโอกาสของไทย เพราะหากจะผลิตแบบเดิมต้องยอมรับว่าไทยสู้ต้นทุนบางประเทศไม่ได้ อาทิ เวียดนาม ที่เวลานี้เน้นผลิตสินค้าราคาถูกทั้งสิ่งทอง เครื่องใช้ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์
“ความกังวลของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ต่อ 25 อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการส่งออกลดลงจะต้องลดโอทีนั้น ได้สอบถามไปยังส.อ.ท.แล้วได้รับคำตอบว่ากำลังรวบรวมข้อมูล โดยสศอ.จะติดตามใกล้ชิดเพื่อทำงานช่วยเหลือภาคเอกชน หลังหารือกับ 4 อุตสาหกรรมไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าการลดโอทีเกิดขึ้นมาระยะหนึ่งในบางอุตสาหกรรมแล้ว เป็นการปรับตัวของผู้ผลิตเนื่องจากภาคการส่งออกไทยปีนี้ชะลอตัว ประกอบกับบางอุตสาหกรรมการเติบโตสูงมากในปีที่ผ่านมา อาทิ อุตสาหกรรมยาง จึงฐานสูง แต่ปีนี้ความต้องการกลับมาปกติ ดังนั้นต้องพิจารณาข้อมูลในแต่ละอุตสาหกรรมอีกครั้ง” นางวรวรรณกล่าว