JJNY : 5in1 วัดแทบแตก!│ห้างแตกอีก!│ “เศรษฐา”ยันหนุน“พิธา”│‘หนี้ครัวเรือน’พุ่งแตะ 16 ล.ล. │หาช่องทางใช้ทรัพย์สินรัสเซีย

วัดแทบแตก! รอรับ ‘พิธา’ เยือนพิษณุโลก มั่นใจ ‘ปธ.สภา’ จบด้วยดี ปัดเล่นเกมมวลชนกดดัน (มีคลิป)
https://www.matichon.co.th/politics/news_4056397
 
‘พิธา’ เยือนเมืองสองแคว ด้อมส้มพิษณุโลกแห่รับพรึบ มั่นใจเก้าอี้ ปธ.สภาจบด้วยดี ปัดเล่นเกมมวลชนกดดัน
 
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก เพื่อทักทายและขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ลงคะแนนเลือก ส.ส.จากพรรค ก.ก. โดยนายพิธาเดินทางไปสักการะพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรวิหาร วัดคู่บ้านคู่เมือง พร้อมด้วย นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 และแคนดิเดตประธานสภาผู้แทนราษฎร และ นายศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ ส.ส.พิษณุโลก  เขต 5 โดยมีประชาชนแต่งกายเสื้อสีส้มรอต้อนรับจำนวนมาก พร้อมส่งเสียงเชียร์ “นายกฯ สู้ๆ” ด้วย

นายพิธาให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่เดินทางมา จ.พิษณุโลก ในวันนี้เนื่องจากเป็นเขตยุทธศาสตร์ของพรรคและต้องรักษาแชมป์ การเลือกตั้งที่ผ่านมาได้รับคะแนนเพิ่มขึ้นถึง 80% จากการเลือกตั้งปี 2562 ดังนั้น การมา จ.พิษณุโลก ครั้งนี้เป็นการแสดงความยินดีกับ ส.ส.เขตที่ชนะเลือกตั้ง ในส่วนของกรณีประธานสภาเชื่อว่าจะจบได้ด้วยดี
 
เมื่อถามว่า การเดินทางมา จ.พิษณุโลก เป็นการเล่นเกมมวลชนหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า เป็นเวลาที่เหมาะสม
 
ถ้าไม่มาช่วงนี้ มีประชุมสภาแล้วจะเดินทางได้ยาก ตอนนี้ผ่านมา 1 เดือนแล้ว ผมคิดว่าพี่น้องประชาชนก็รู้สึกว่าไปจังหวัดอื่น พี่น้องพิษณุโลก พี่น้องขอนแก่นก็เลือกตั้งเยอะ ต้องใช้โอกาสนี้ขอโทษพี่น้องประชาชน ถ้าไปดู ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็มีทั้ง 50 กว่าจังหวัดจาก 77 จังหวัด พยายามไปให้ครบทุกจังหวัดพื้นที่ จะได้รับฟังปัญหาไปด้วย เห็นภาพจริงๆ รับฟังปัญหาจริงๆ” นายพิธากล่าว
 
จากนั้นนายพิธาเดินทางไปเซ็นทรัลพิษณุโลกเพื่อร่วมในงานสำคัญส่งท้ายเดือนไพรด์ คือการประกวดแมวภายใต้ธีม Happy Cat Happy Pride โดยมีทั้งแมวไทยและแมวต่างประเทศเข้าร่วมประกวดเพื่อส่งเสริมความหลากหลาย
 
เวลา 17.00 น. นายพิธาจะขึ้นรถแห่ขอบคุณประชาชน เส้นทางเริ่มต้นจากเซ็นทรัลพิษณุโลกไปบนถนนสิงหวัฒน์ ถนนเอกาทศรถ วงเวียนรถไฟ ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยพร้อมกับ ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ที่ลานแอโรบิก สวนชมน่าน
 
(คลิปอยู่ในข่าว)
 


ห้างแตกอีก! 'พิธา' พบแฟนคลับ ร่วมงานแฮปปี้แคท แฮปปี้ไพรด์ เซ็นทรัลพิษณุโลก
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7741740

ห้างแตกอีก! ‘พิธา’ พบแฟนคลับ ร่วมงานแฮปปี้แคท แฮปปี้ไพรด์ เซ็นทรัลพิษณุโลก ขณะเจ้าตัวให้คำมั่นสัญญาเดิม จะเข้ามาเป็นนายกฯ คนที่ 30
 
วันที่ 30 มิ.ย.2566 ภายหลังสักการะพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาพบกับพี่น้องประชาชนชาวพิษณุโลก ที่เซ็นทรัลพิษณุโลก และร่วมงานแฮปปี้แคท แฮปปี้ไพร์ด งานที่นำเอาสัตว์เลี้ยงอย่างน้องแมวมาแต่งตัวด้วยสีสันสีรุ้งสัญลักษณ์ของเดือนไพรด์ ที่พรรคก้าวไกลผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมและความเท่าเทียมทางเพศ ภายในห้างมีมวลชนมารอต้อนรับหนาแน่นเต็มพื้นที่ ทางทีมงานต้องคอยอำนวยความสะดวก และประกาศให้ประชาชนระมัดระวัง เนื่องจากประชาชนมากันอย่างล้นหลาม เพื่อป้องกัน มิจฉาชีพ และเกิดความไม่ปลอดภัย
 
ช่วงหนึ่งที่นายพิธากล่าวทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับว่า วันนี้ยังคงยืนยันคำมั่นสัญญาเดิมว่าจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เพื่อเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชนตามที่เคยได้พูดไว้ แล้วบอกกับประชาชนว่าเย็นนี้ตัวเองจะเปิดปราศรัยย่อยขอบคุณพี่น้องชาว จ.พิษณุโลก ที่สวนชมน่าน ในเวลา 17.00 น. ก่อนจะร่วมเซลฟี่บนเวทีและทำสัญลักษณ์รูปหัวใจ แล้วออกไปทำภารกิจส่วนตัว

(คลิปอยู่ในข่าว)



“เศรษฐา” ยันหนุน “พิธา” นั่งนายกฯ ไม่หวั่นเสียง ส.ว. ส่วนปัญหาปธ.สภา ให้ก.ก.ดูแล
https://www.matichon.co.th/region/news_4056121

เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ยันไม่เปลี่ยนแปลง หนุนพรรคก้าวไกล เสนอพิธานั่งนายกรัฐมนตรี จบด้วยดี ปัญหาประธานสภามอบให้ก้าวไกลดูแล รับแค่ตำแหน่ง 2 รองประธาน ตามกติกาประชาธิปไตย ไม่หนักใจเสียง ส.ว.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ดร.มนพร เจริญศรี ส.ส.เขต 2 นครพนม ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ส.ส.เขต 1 นครพนม รวมถึงทีมงานพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยม ชมความสำเร็จของต้นแบบธนาคารน้ำเกี่ยวกับโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งรวมถึงน้ำท่วม
 
ทั้งนี้ อบต.บ้านผึ้ง ถือเป็นต้นแบบการทำโครงการธนาคารน้ำ ทำให้ในพื้นที่ลดปัญหาภัยแล้ง ด้วยการขุดบ่อเติมน้ำลงใต้ดิน และจะนำเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาบริหารจัดการน้ำหลังมีการจัดตั้งรัฐบาล นอกจากนี้ ยังได้ไปตรวจเยี่ยมพบผู้ประกอบการที่ด่านศุลกากรนครพนม เพื่อหารือติดตามเศรษฐกิจการค้าชายแดนเพื่อรับทราบปัญหา และนำไปวางแผนในการยกระดับการค้าชายแดนต่อไปในอนาคต
 
ขณะเดียวกัน นายเศรษฐาได้เปิดเผยถึงเรื่องการเมืองว่า มาถึงวันนี้ยังยืนยันเกี่ยวกับจุดยืนทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยที่ยังสนับสนุนพรรคก้าวไกล รวมถึงสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อันดับ 1 และเป็นพรรคที่ได้รับการเลือกตั้งเสียงข้างมาก จึงเหมาะสมที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกับพรรคเพื่อไทย ถือเป็นกฎกติกาทางประชาธิปไตยและทางพรรคเพื่อไทยเห็นตรงกันที่จะมอบหมายให้พรรคก้าวไกลดูแลเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาเป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทย โดยถือว่าจบด้วยดี ลงตัว ไม่มีขัดแย้ง
 
หากถามว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองเกี่ยวกับการโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ขอพูดถึง เพราะจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน เมื่อปัญหายังไม่เกิดจะไม่ขอพูดถึงการวางแนวทางรับมือ เพราะในส่วนของตนนั้นทำหน้าที่ดูแลบริหารพรรคร่วมกับทุกคน และมีหน้าที่ลงพื้นที่ดูแลรับทราบปัญหาพี่น้องประชาชนให้สอดคล้องกับนโยบายพรรค จึงขอไม่พูดถึงว่าจะวางแผนรับมืออย่างไรหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง เพราะเชื่อมั่นว่าทุกคนต้องเชื่อในเสียงข้างมากของประชาชน และไม่หนักใจเกี่ยวกับเสียง ส.ว. จะต้องเป็นไปตามกฎกติกาทางการเมืองอย่างแน่นอน



  
ธปท.ปรับสูตรหนี้ครัวเรือนเพิ่ม 4 กลุ่ม ดันยอดหนี้เน่า Q1/66 พุ่ง 90.6% ต่อจีดีพี
https://www.matichon.co.th/economy/news_4056468

ธปท.ปรับสูตรหนี้ครัวเรือนเพิ่ม 4 กลุ่ม ดันยอดหนี้เน่า Q1/66 พุ่ง 90.6% ต่อจีดีพี

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานแถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงิน เดือนพฤษภาคม 2566 ว่า ธปท.ได้ปรับปรุงสถิติเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน (หนี้ครัวเรือน) ให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยความครอบคลุมที่เพิ่มขึ้นมาจากผู้ให้กู้ 4 กลุ่ม

นายสักกะภพกล่าวว่า ยอดหนี้แต่ละกลุ่ม ณ ไตรมาส 1 ปี 2566 ประกอบด้วยหนี้เพื่อการศึกษา (กยศ.) 4.83 แสนล้านบาท กลุ่มสหกรณ์อื่นๆ (ที่ไม่ใช่สหกรณ์ออมทรัพ์ย) 265 แสนล้านบาท การเคหะแห่งชาติ 1.1 หมื่นล้านบาท และพิโกไฟแนนซ์ 6 พันล้านบาท ซึ่ง ธปท.มีข้อมูลของกลุ่มผู้ให้กู้เหล่านี้ตั้งแต่ปี 2555 จึงปรับข้อมูลย้อนหลังไปถึงไตรมาส 1 ปี 2555
 
สำหรับยอดหนี้ที่เพิ่มขึ้นจากชุดข้อมูลที่ปรับปรุงใหม่นี้เป็นหนี้ที่มีอยู่แล้ว ไม่ใช่หนี้ที่เพิ่งเกิดใหม่ ณ ไตรมาส 1 ปี 2566 มียอดหนี้เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 7.66 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นหนี้เพื่อการศึกษา 4.85 แสนล้านบาท และหนี้เพื่อการประกอบอาชีพ 1.83 แสนล้านบาท ส่งผลให้หนี้ครัวเรือนหลังปรับปรุงมียอดคงค้าง 15.96 ล้านล้านบาท คิดเป็น 90.6% ต่อจีดีพี เพิ่มขึ้นจากข้อมูลก่อนปรับปรุง 4.3% ต่อจีดีพี นอกจากนี้ โครงสร้างสัดส่วนที่จําแนกตามวัตถุประสงค์การกู้ยืมไม่แตกต่างจากข้อมูลก่อนปรับปรุง

ทั้งนี้ การปรับปรุงข้อมูลหนี้ครัวเรือนดังกล่าวให้มีความครบถ้วนมากขึ้น โดยประเมินแล้วว่าข้อมูลใหม่ 
1. มีความน่าเชื่อถือของวิธีการจัดเก็บและประมวลผล 
2. มีคุณภาพ อธิบายการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเศรษฐกิจได้ 
3. มีความถี่ของการจัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลที่สม่ําเสมอ 
และ 4. ไม่ล่าช้าเกินไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่