#Save "เด็กหยก" ?

ประเด็นเรื่อง “เด็กหยก” กับพฤติกรรม ก้าวร้าว มีพฤติกรรมตอบสนองต่อความต้องการของตนเอง โดยไม่สนใจผู้อื่นในสังคม มีความผิดปกติทางอารมณ์ และความคิดโดยเฉพาะเมื่อต้องเข้าสังคม มักกระทำความรุนแรงซ้ำ ๆ และก่อให้เกิดอาชญากรรม และกลายเป็นเครื่องมือในการสร้างความแตกแยกของสังคม

เด็กหยก เพิ่งสละคอซอง เปลี่ยนจากวัยเด็กที่สดใสกำลังเข้าสู่วัยรุ่นที่ควรจะมีทิศทางการก้าวเดินที่ดี ทว่ากลับถูกกลุ่มก๊วนห้อมล้อมหน้าหลังและใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการสร้างความแตกแยก และทำให้สังคมไทยเกิดความระส่ำ ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นยุทธศาสตร์ที่กำหนดมาเพื่อการเปลี่ยนระบบสังคมไทยในทุก ๆ มิติ ภายใต้การบงการของคนเลว ที่ใช้ทุกวิถีทาง และสนับสนุนเงินทุน

สิ่งที่กำลังเกิดกับ “เด็กหยก” ไม่ต่างจากอาการของโรคที่เรียกว่า “โรคไซโคพาธ (Psychopaths)” อาการขาดความสำนึกผิด โกหกหน้าไม่อาย หลอกตัวเอง ไร้ความเห็นใจผู้อื่น เพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตัว เป็นหนึ่งในกลุ่มของโรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม (Antisocial Personality Disorder) ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการเยียวยาบำบัด 

เรามีกรมสุขภาพจิต,มีกรมสวัสดิการและคุ้มครองเด็ก มีกฎหมายที่เรียก “พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก” ที่เราไม่เคยใส่ใจจะช่วยกันชี้ให้ภาครัฐ ให้ความสำคัญและดึงเด็กกลับมาสู่สภาวะของ “เด็กไทยที่(อาจ)จะเติบโตเป็นทรัพยากรที่ดีของสังคม” แต่เรากลับหลงไปตามอารมณ์โกรธ,เกลียด  และชิงชังเด็ก ตามหมากกลที่กลุ่มคนอำมหิตวางไว้ให้มันเป็น

เทียบเคียงกรณีชายแดนใต้ เด็ก ๆที่นั่นถูกปั่นความคิด ล้างสมอง และสอนซ้ำ ๆ ให้เชื่อว่า พวกเค้าไม่ใช่คนสยาม และถูกกดทับด้วยการใส่ชุดความคิดผิด ๆ จนเด็ก ๆ เยาวชน หลายคนในพื้นเกลียดประเทศตัวเอง สั่งสมชุดความเกลียดจนผันตัวเองเป็นอาชญากร และในที่สุดต้องสูญเสีย,หมดสิ้นอนาคต  ทั้งหมดก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็น “ยุทธศาสตร์” เลวๆ ทีใช้เด็กที่ยังเยาว์ต่อความโหดร้ายของสังคม เป็นเครื่องมือ

บรรดานักร้อง วิงวอนว่าอย่าร้องกันแต่เรื่อง “การเมือง” ที่เป็นผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มก๊วนการเมือง  แต่ต้องเลือกที่จะร้องทุกข์กล่าวโทษเรื่องที่น่ากังวลเหล่านี้ให้ภาครัฐฯ กลับมาสนใจ ดึงเด็ก ๆ ออกจากเงื้อมมืออำมหิต

ช่วยกัน Save เด็กหยก  อย่าให้ตกเป็นเครื่องมือใครครับ.

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่