ย้อนกลับไป 2 สัปดาห์ก่อน ที่ผมเอา CR-V มาถ่ายน้ำมันเบรค
- ขามา .. รถเนียน วิ่งดีมาก ขับ 100 - 110 นิ่งสนิท จนง่วง
- ขากลับ .. แวะไปบ้านน้องสาว วิ่งหลังราม มีช่วงถนนไม่ดี ก็รูดบ้าง แต่ก็ไม่ได้ตกหลุมแรงอะไร เสร็จธุระแล้ว ก็กลับปราจีน วิ่งออกทางมีนบุรี .. นรกเริ่มมา รถมีอาการสั่น !!
สั่นยังไง ?
- สั่นแบบที่ไม่ใช่ถ่วงล้อไม่ดี .. ถ้าถ่วงล้อไม่ดี พวงมาลัยมันจะสั่นซ้ายขวา .. แต่อันนี้ จับได้ว่า รถมันเต้น ล้อเต้นขึ้นลงถี่ๆ โดยเกิดที่ล้อหน้าขวา .. ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่า สงสัยรูดทางไม่เรียบมั้ง ศูนย์ล้อคงเพี้ยน (รถคันนี้ศูนย์ล้อเพี้ยนง่ายมากๆ .. ถ้าเทียบกับ Pulsar รายนั้น ขับยังไง ตกหลุมยังไงก็ไม่เพี้ยน ตั้งศูนย์ทีคือ เปลี่ยนยางครับ .. ข้อดีเดียวของนิสสันมั้ง)
งั้นก็แค่ตั้งศูนย์ใหม่
- อาทิตย์นี้เลยลงไปตั้งศูนย์ แต่ .. ขาจากปราจีน ไป กทม. ผมเจออีกอาการคือ ท้ายดีด
ดีดยังไง ?
- เคยนั่ง Vigo เดิมๆไหม ? อาการนั้นแหละ ถีบตลอดเวลา ตั้งแต่ 60 ขึ้นไป ยัน 110 - 120 ก็ถีบ
เผื่อใจไว้หน่อย ?
- กด search ข้อมูลไว้หน่อย เผื่อไม่ใช่ศูนย์ล้อ (แต่ภาวนาว่า ศูนย์ล้อ นะ)
แล้วงานก็เข้าจริง !!
- ขึ้นศูนย์ล้อ แปลกที่ Toe เพี้ยนเยอะมาก / แคสเตอร์ก็เพี้ยนเยอะมาก .. จนช่างถามว่า พี่ไปตั้งที่ไหนมา ? .. อ้าวว ก็ตั้งที่เพ่ นี่แหละ ช่างก็เปิดโทรศัพท์ให้ดูว่า รอบก่อนตั้งให้ผม เค้าตั้งไว้เท่านี้นะ .. เออ ไม่รู้ล่ะ รอบนั้นตั้ง (กุมภา) รถวิ่งไปแค่ 2 พันกม.เองนะ ไปแค่ลำพูน แล้วไม่ได้ไปไหนอีก
- แอบใจชื้นว่า ศูนย์ล้อนี่แหละ จำเลย จบๆไป (ข้างหลังเพี้ยนนิดหน่อย ปกติของคันนี้)
ว่าแล้วก็ปล่อยช่างไปลอง แล้วยืนรอจ่ายตังค์ .. พอช่างกลับมา ก็ถามว่า "หายป่าว" ช่างบอก "ไม่หายครับพี่" !!! เหมือนฟ้าผ่า เงินหมื่นอีกแล้วตรู
.....................
ขอลองสักหน่อย
- วิ่งเส้นนครอินทร์นี่แหละ ยอมให้ถึง 120 ละ .. อืมม ตามช่างว่าจริง ยังเหมือนเดิมเลย .. ว่าแล้วก็หาเบอร์ United Tire ถามว่า ยังมี Bilstein B4 ไหม ? คำตอบคือ "มี" งั้นไปกัน
- เปิดประตูรถลงมา ผจก. ยิ้มเลย .. ผมแซวตัวเองว่า "นอกใจไปหาชู้ Tein ซะ 2 ปี สุดท้าย ก็กลับมาตายรัง Bilstein เหมือนเดิม"
มีแซว "รอบนี้ไม่เอา B6 เหรอครับ ?" .. แหม 3.8 หมื่นบาท ถ้าไม่โดน Mugen ใน City ไปก่อน ก็โดน B6 นะ อิอิ
- คำสั่งสั้น "ขอถอดล้อไม่ยิงบล็อคลมนะครับ" .. ช่างก็จัดให้ทันที ไม่อิดออด (บางร้าน มีเถียง มีชักสีหน้าด้วยนะ)
- ของมาแล้ววว
ประวัติ Tein Endurapro
เปลี่ยน 12 สิงหาคม 2020 เลขไมล์ 146,455 กม. ที่ ATP
พัง และ OH 20 มกราคม 2023 เลขไมล์ 180,171 กม. ที่ ATP
อายุรอบแรก 2 ปี 5 เดือน ระยะทาง 33,716 กม. .. สั้นไปไหม ???
พังรอบสอง (หลัง OH) 10 มิถุนายน 2023 เลขไมล์ 182,888 กม. !!!
อายุรอบสอง 5 เดือน ระยะทาง 2,717 กม. !!!
..................
ผลการชันสูตร
- ถือคู่กัน แล้วกดลงพร้อมกัน แล้วปล่อยมันยืดสุด และสลับซ้ายขวา เผื่อน้ำหนักมือผมไม่เท่ากัน
ข้างหน้า : ข้างขวา .. แข็ง กดไม่ลง ต้องออกแรงเยอะมาก แต่ดีดขึ้นปกติ ขึ้นพร้อมๆกัน
ข้างหลัง : ข้างขวา .. หนืด กดยากกว่า ข้างซ้ายเล็กน้อย แต่ที่ชัดๆคือ ข้างขวา ขึ้นช้ากว่าข้างซ้าย พอสมควร
พูดตรงๆ "กระจอกจัง"
ถามว่า เคลมได้ไหม ? เคลมได้ครับ เดี๋ยวส่งเคลม แต่ .. ผมไม่กล้าใช้ หมดความมั่นใจแฮะ แล้วเดี๋ยวผมจะเอารถข้ามไปหลวงพระบางด้วย ทางก็ไม่ดี ซ่อมแล้ว เกิดพังอีกรอบนี่ นรกเลยนะ (ขามากทม. มันดีด จนเพลีย เมื่อยไปทั้งตัวเลย)
.................
มาดู Bilstein B4 กันมั่ง
- ออกตัวก่อนว่า .. โช้คยี่ห้อนี้ ขอรันอิน นานๆหน่อยนะครับ จำได้ว่า ตอน B6 รันอินยาวเลย (ตอน Tein ไม่กี่ร้อยกม.ก็เข้าที่) ดังนั้น ความรู้สึกในวันนี้ อาจจะมีปรับเปลี่ยนเมื่อพ้นรันอินก็ได้นะครับ
ความนุ่มนวล : แน่นอนว่า มันนุ่มกว่า สมัยใช้ B6 พอสมควร แหละ แต่วิ่งรามอินทรา ก็ยังถือว่า ค่อนข้างแข็ง แต่แข็งแบบโช้คอัพเกรด ไม่ได้แข็งแบบโช้คแต่ง หรือ สตรัทปรับเกลียว (ยกเว้น สตรัท Tein SAZ ตานี่ นุ่ม)
- ถ้าเทียบกับ Mugen ใน City ที่เปลี่ยนสัปดาห์ที่แล้วล่ะ ? .. ถ้าเป็นสัปดาห์ที่แล้ว จะบอกว่า Mugen แข็งกว่า กระแทกปั๊กๆๆๆ แล้วหยุด แต่ .. วันนี้ พอกลับถึงปราจีน เอา City ไปลอง .. อ้าว เฮ้ยยย ทำไมมันนุ่มฟะ นุ่มๆแน่นๆเนียนเลย อาการแข็งหายไปละ (ยังมีแข็งบ้าง ถ้ากระแทกแรงๆ พอให้รู้ว่า โช้คแต่งนะ)
การทรงตัว : จริงๆยังบอกอะไรไม่ได้ ศูนย์ล้อยังไม่เป๊ะ ตามประสาคนเรื่องมาก ถ้าพอเปรียบเทียบ ก็ต้องบอกว่า ที่ความเร็วสูง 100 - 110 รถนิ่งกว่า Tein Endurapro แบบรู้สึกได้ มาแบบรถหนักๆ ไม่โยกเยก คือ ถ้า Tein วิ่งช้ามันนุ่ม วิ่งเร็วมันก็ยังนุ่ม แต่แน่นอนก็จะมีโยนนิดๆ (แต่ดีกว่าติดรถเยอะนะ) พอเป็น Bilstein นิสัยที่เหมือนกันระหว่าง B4 กับ B6 ก็คือ ในเมืองแข็ง แต่พอขับเร็ว มันนิ่ง มันแน่น และมันนุ่ม นุ่มแบบรถหนักๆ
- โอเค B4 ยังห่างชั้นจาก B6 เยอะแหละ ทั้งการเข้าโค้ง ความนิ่งบนทางตรง แต่ก็ดีกว่า Tein แบบรู้สึกได้
สรุป
- ถ้าเอาแบบเปลี่ยนแล้ว คนที่บ้านไม่รู้ .. Tein ครับ กระชับกว่าเดิมนิด เกาะถนนกว่าเดิมพอตัว .. ถ้ารับความเปราะของมันได้
- ถ้ายอมแข็ง ในเมืองหน่อย แต่ขับเร็ว รับรองว่า ปลื้ม ทั้งคนขับ คนในรถ ก็ B4 มาตรฐานเยอรมัน ระดับ 7 - 8 หมื่นกม. ผ่านได้ครับ
- ถ้ายอมแข็ง หยอดเอาในเมือง และไม่ค่อยวิ่งในเมือง เน้นทางไกล วิ่งเร็ว สาดโค้งเล่น หลอกซุปเปอร์คาร์สเพื่อการพาณิชย์ไปเชือดเล่น ก็ B6 เลยครับ มันคือ ที่สุด
ปล. วันนี้วนๆในเมือง รูดไม่ยั้ง สักพัก อาการสั่นๆ เต้นๆมาละ มองๆดู Toe หลังขวา เพี้ยนเยอะเชียว / หน้าขวาก็ Toe Out .. ไว้ค่อยจัดการ ก็น่าจะจบ รถคันนี้ ถ้าศูนย์ล้อไม่เป๊ะ พวกวิ่งห่วยมาก
ลืมบอก .. สนนราคา Bilstein B4 ราคา 24,000 บาท รวมใส่ รวมตั้งศูนย์ ครับ ไม่ยอมลดให้สักบาทเลย ใจร้ายยยย
[CR] * * * กลับมาหาแฟนเก่า .. Bilstein B4 ใน CR-V G3 * * *
- ขามา .. รถเนียน วิ่งดีมาก ขับ 100 - 110 นิ่งสนิท จนง่วง
- ขากลับ .. แวะไปบ้านน้องสาว วิ่งหลังราม มีช่วงถนนไม่ดี ก็รูดบ้าง แต่ก็ไม่ได้ตกหลุมแรงอะไร เสร็จธุระแล้ว ก็กลับปราจีน วิ่งออกทางมีนบุรี .. นรกเริ่มมา รถมีอาการสั่น !!
สั่นยังไง ?
- สั่นแบบที่ไม่ใช่ถ่วงล้อไม่ดี .. ถ้าถ่วงล้อไม่ดี พวงมาลัยมันจะสั่นซ้ายขวา .. แต่อันนี้ จับได้ว่า รถมันเต้น ล้อเต้นขึ้นลงถี่ๆ โดยเกิดที่ล้อหน้าขวา .. ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่า สงสัยรูดทางไม่เรียบมั้ง ศูนย์ล้อคงเพี้ยน (รถคันนี้ศูนย์ล้อเพี้ยนง่ายมากๆ .. ถ้าเทียบกับ Pulsar รายนั้น ขับยังไง ตกหลุมยังไงก็ไม่เพี้ยน ตั้งศูนย์ทีคือ เปลี่ยนยางครับ .. ข้อดีเดียวของนิสสันมั้ง)
งั้นก็แค่ตั้งศูนย์ใหม่
- อาทิตย์นี้เลยลงไปตั้งศูนย์ แต่ .. ขาจากปราจีน ไป กทม. ผมเจออีกอาการคือ ท้ายดีด
ดีดยังไง ?
- เคยนั่ง Vigo เดิมๆไหม ? อาการนั้นแหละ ถีบตลอดเวลา ตั้งแต่ 60 ขึ้นไป ยัน 110 - 120 ก็ถีบ
เผื่อใจไว้หน่อย ?
- กด search ข้อมูลไว้หน่อย เผื่อไม่ใช่ศูนย์ล้อ (แต่ภาวนาว่า ศูนย์ล้อ นะ)
แล้วงานก็เข้าจริง !!
- ขึ้นศูนย์ล้อ แปลกที่ Toe เพี้ยนเยอะมาก / แคสเตอร์ก็เพี้ยนเยอะมาก .. จนช่างถามว่า พี่ไปตั้งที่ไหนมา ? .. อ้าวว ก็ตั้งที่เพ่ นี่แหละ ช่างก็เปิดโทรศัพท์ให้ดูว่า รอบก่อนตั้งให้ผม เค้าตั้งไว้เท่านี้นะ .. เออ ไม่รู้ล่ะ รอบนั้นตั้ง (กุมภา) รถวิ่งไปแค่ 2 พันกม.เองนะ ไปแค่ลำพูน แล้วไม่ได้ไปไหนอีก
- แอบใจชื้นว่า ศูนย์ล้อนี่แหละ จำเลย จบๆไป (ข้างหลังเพี้ยนนิดหน่อย ปกติของคันนี้)
ว่าแล้วก็ปล่อยช่างไปลอง แล้วยืนรอจ่ายตังค์ .. พอช่างกลับมา ก็ถามว่า "หายป่าว" ช่างบอก "ไม่หายครับพี่" !!! เหมือนฟ้าผ่า เงินหมื่นอีกแล้วตรู
.....................
ขอลองสักหน่อย
- วิ่งเส้นนครอินทร์นี่แหละ ยอมให้ถึง 120 ละ .. อืมม ตามช่างว่าจริง ยังเหมือนเดิมเลย .. ว่าแล้วก็หาเบอร์ United Tire ถามว่า ยังมี Bilstein B4 ไหม ? คำตอบคือ "มี" งั้นไปกัน
- เปิดประตูรถลงมา ผจก. ยิ้มเลย .. ผมแซวตัวเองว่า "นอกใจไปหาชู้ Tein ซะ 2 ปี สุดท้าย ก็กลับมาตายรัง Bilstein เหมือนเดิม"
มีแซว "รอบนี้ไม่เอา B6 เหรอครับ ?" .. แหม 3.8 หมื่นบาท ถ้าไม่โดน Mugen ใน City ไปก่อน ก็โดน B6 นะ อิอิ
- คำสั่งสั้น "ขอถอดล้อไม่ยิงบล็อคลมนะครับ" .. ช่างก็จัดให้ทันที ไม่อิดออด (บางร้าน มีเถียง มีชักสีหน้าด้วยนะ)
- ของมาแล้ววว
ประวัติ Tein Endurapro
เปลี่ยน 12 สิงหาคม 2020 เลขไมล์ 146,455 กม. ที่ ATP
พัง และ OH 20 มกราคม 2023 เลขไมล์ 180,171 กม. ที่ ATP
อายุรอบแรก 2 ปี 5 เดือน ระยะทาง 33,716 กม. .. สั้นไปไหม ???
พังรอบสอง (หลัง OH) 10 มิถุนายน 2023 เลขไมล์ 182,888 กม. !!!
อายุรอบสอง 5 เดือน ระยะทาง 2,717 กม. !!!
..................
ผลการชันสูตร
- ถือคู่กัน แล้วกดลงพร้อมกัน แล้วปล่อยมันยืดสุด และสลับซ้ายขวา เผื่อน้ำหนักมือผมไม่เท่ากัน
ข้างหน้า : ข้างขวา .. แข็ง กดไม่ลง ต้องออกแรงเยอะมาก แต่ดีดขึ้นปกติ ขึ้นพร้อมๆกัน
ข้างหลัง : ข้างขวา .. หนืด กดยากกว่า ข้างซ้ายเล็กน้อย แต่ที่ชัดๆคือ ข้างขวา ขึ้นช้ากว่าข้างซ้าย พอสมควร
พูดตรงๆ "กระจอกจัง"
ถามว่า เคลมได้ไหม ? เคลมได้ครับ เดี๋ยวส่งเคลม แต่ .. ผมไม่กล้าใช้ หมดความมั่นใจแฮะ แล้วเดี๋ยวผมจะเอารถข้ามไปหลวงพระบางด้วย ทางก็ไม่ดี ซ่อมแล้ว เกิดพังอีกรอบนี่ นรกเลยนะ (ขามากทม. มันดีด จนเพลีย เมื่อยไปทั้งตัวเลย)
.................
มาดู Bilstein B4 กันมั่ง
- ออกตัวก่อนว่า .. โช้คยี่ห้อนี้ ขอรันอิน นานๆหน่อยนะครับ จำได้ว่า ตอน B6 รันอินยาวเลย (ตอน Tein ไม่กี่ร้อยกม.ก็เข้าที่) ดังนั้น ความรู้สึกในวันนี้ อาจจะมีปรับเปลี่ยนเมื่อพ้นรันอินก็ได้นะครับ
ความนุ่มนวล : แน่นอนว่า มันนุ่มกว่า สมัยใช้ B6 พอสมควร แหละ แต่วิ่งรามอินทรา ก็ยังถือว่า ค่อนข้างแข็ง แต่แข็งแบบโช้คอัพเกรด ไม่ได้แข็งแบบโช้คแต่ง หรือ สตรัทปรับเกลียว (ยกเว้น สตรัท Tein SAZ ตานี่ นุ่ม)
- ถ้าเทียบกับ Mugen ใน City ที่เปลี่ยนสัปดาห์ที่แล้วล่ะ ? .. ถ้าเป็นสัปดาห์ที่แล้ว จะบอกว่า Mugen แข็งกว่า กระแทกปั๊กๆๆๆ แล้วหยุด แต่ .. วันนี้ พอกลับถึงปราจีน เอา City ไปลอง .. อ้าว เฮ้ยยย ทำไมมันนุ่มฟะ นุ่มๆแน่นๆเนียนเลย อาการแข็งหายไปละ (ยังมีแข็งบ้าง ถ้ากระแทกแรงๆ พอให้รู้ว่า โช้คแต่งนะ)
การทรงตัว : จริงๆยังบอกอะไรไม่ได้ ศูนย์ล้อยังไม่เป๊ะ ตามประสาคนเรื่องมาก ถ้าพอเปรียบเทียบ ก็ต้องบอกว่า ที่ความเร็วสูง 100 - 110 รถนิ่งกว่า Tein Endurapro แบบรู้สึกได้ มาแบบรถหนักๆ ไม่โยกเยก คือ ถ้า Tein วิ่งช้ามันนุ่ม วิ่งเร็วมันก็ยังนุ่ม แต่แน่นอนก็จะมีโยนนิดๆ (แต่ดีกว่าติดรถเยอะนะ) พอเป็น Bilstein นิสัยที่เหมือนกันระหว่าง B4 กับ B6 ก็คือ ในเมืองแข็ง แต่พอขับเร็ว มันนิ่ง มันแน่น และมันนุ่ม นุ่มแบบรถหนักๆ
- โอเค B4 ยังห่างชั้นจาก B6 เยอะแหละ ทั้งการเข้าโค้ง ความนิ่งบนทางตรง แต่ก็ดีกว่า Tein แบบรู้สึกได้
สรุป
- ถ้าเอาแบบเปลี่ยนแล้ว คนที่บ้านไม่รู้ .. Tein ครับ กระชับกว่าเดิมนิด เกาะถนนกว่าเดิมพอตัว .. ถ้ารับความเปราะของมันได้
- ถ้ายอมแข็ง ในเมืองหน่อย แต่ขับเร็ว รับรองว่า ปลื้ม ทั้งคนขับ คนในรถ ก็ B4 มาตรฐานเยอรมัน ระดับ 7 - 8 หมื่นกม. ผ่านได้ครับ
- ถ้ายอมแข็ง หยอดเอาในเมือง และไม่ค่อยวิ่งในเมือง เน้นทางไกล วิ่งเร็ว สาดโค้งเล่น หลอกซุปเปอร์คาร์สเพื่อการพาณิชย์ไปเชือดเล่น ก็ B6 เลยครับ มันคือ ที่สุด
ปล. วันนี้วนๆในเมือง รูดไม่ยั้ง สักพัก อาการสั่นๆ เต้นๆมาละ มองๆดู Toe หลังขวา เพี้ยนเยอะเชียว / หน้าขวาก็ Toe Out .. ไว้ค่อยจัดการ ก็น่าจะจบ รถคันนี้ ถ้าศูนย์ล้อไม่เป๊ะ พวกวิ่งห่วยมาก
ลืมบอก .. สนนราคา Bilstein B4 ราคา 24,000 บาท รวมใส่ รวมตั้งศูนย์ ครับ ไม่ยอมลดให้สักบาทเลย ใจร้ายยยย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้