เมื่อทริปน่าน เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เริ่มรู้สึกว่า เจ้า “โอโม่” มีอาการผิดปกติ
1.  อาการเหมือนถ่วงล้อไม่ดี แต่พอสังเกตดีๆ พวงมาลัยมันนิ่งนะ (แปลว่า ถ่วงล้อดี) แต่ GPS / โทรศัพท์ ที่ติดไว้บนคอนโซล สั่นตลอด .. อัพเดท ล่าสุดอาการนี้ก็ยังอยู่นะ คาดว่า Michelin น่าจะเล่นผมอีกละ เพราะอาการเหมือน Michelin PS4 ใน Pulsar เลยครับ เจ้า Pulsar พอเปลี่ยนเป็น BS S007a อาการนี้ก็หายไป

2.  อาการยาง Lattitude Sport 3 ส่งเสียงร้องครวญคราง ถึง 3 รอบ โดยมีอาการท้ายดิ้น ทั้งที่โค้งแค่นี้ ปกติเข้าได้นี่หว่า มีอยู่รอบนึง ท้ายดิ้นไปดิ้นมาเลยล่ะ (แต่หน้ารถนิ่ง พวงมาลัยนิ่ง)

3.  เลียเบรกบางๆแล้วดึงขวา

4. หลังซ้าย มีเสียงก๊อกๆเบาๆ เวลารูดทางขรุขระฝั่งซ้ายฝั่งเดียว (ถ้าพร้อมกันซ้ายขวาไม่ดัง)
ยิ่งตอนช่วงขากลับ ก็ยิ่งชัด เพราะอาการมันเหมือนนั่งกระบะ ที่ช่วงล่างหลังดีดๆ คอยถีบหลังตลอดเวลา และก็แน่นอนกลับถึงปราจีนบุรี ผมเพลียมากมาย ทั้งที่ขับรถแค่ 800 กว่ากม. ใกล้กว่าทุกทีที่ไปนคร 900 กม.มากมาย

วิเคราะห์หาสาเหตุ
เรื่องเบรก
- ผมเช็คเบื้องต้น ด้วยการเอามือแตะล้อทั้ง 4 หลายรอบแล้ว ไม่พบว่า มีล้อไหนร้อนผิดปกติ / ล้างรถฉีดเบรค ก็ไม่เจอฝุ่นออกมาจากเบรกล้อไหนมากผิดปกติ แต่เพื่อความไม่ประมาท ดูประวัติแล้ว น้ำมันเบรกชุดนี้ ใช้งานมา 1 ปี 9 เดือน กับระยะทาง 3 หมื่นกว่ากม.ละ ตัวน้ำมันเบรกเอง (ATE TYP200) ก็เปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้มละ ก็เลยถือโอกาสถ่ายน้ำมันเบรก พร้อม หล่อลื่นสลักเบรคไปพร้อมกันเลยแล้วกัน
            
- แน่นอน .. ไม่พ้น พี่เสว กิจเจริญชัย เหมือนเดิม .. พร้อมให้ช่วยเช็คช่วงล่างหลังซ้ายที่มีเสียงเบาๆเวลารูดฝั่งซ้ายฝั่งเดียวด้วย แต่ก็ไม่เจออะไรผิดปกติ .. กลับมาเรื่องเบรก เช็คแล้วก็ปกติ ทุกอย่าง ลองรถกับพี่เสว ช่วงที่ผมขับ ลงสะพาน ลองเลียเบรก มันก็ไปขวานะ แต่พี่เสวบอกว่า น่าจะสปริงเริ่มทรุด / ช่วงล่าง หรือ ศูนย์ล้อ ไม่น่าจะเป็นเบรก
            
เอาเป็นว่า ตัดประเด็นเรื่องเบรกมีปัญหาไปได้

เรื่องช่วงล่าง
- พี่เสว ได้ให้ช่างไล่ขันแน่นทุกจุดแล้ว ตอนลอง ก็พบว่า เสียงหายไป แต่พอมาขับยาวๆตอนกลับปราจีน พบว่า ยังพอมีเสียงอยู่ แต่เบาลงมาก
            
- เหลือเรื่องสั่น .. แว้บไป United Tire ให้สลับยางถ่วงล้อ เพราะไม่ได้สลับมา 2 หมื่นกม.ละ เผื่อฟลุ้คว่า ปัญหามาจาก ยางหลังถ่วงไม่ดี .. แต่แล้วก็ผิดหวัง เพราะอาการยังเดิมเป๊ะ พวงมาลัยนิ่งสนิท แต่รถสั่นเบาๆ และหลังถีบตลอด

ช่วงล่างรถคันนี้ ผมไล่ไปหมดแทบทุกจุดแล้ว เบิกใหม่ เปลี่ยนที่ศูนย์
1. แร็คพวงมาลัย / ลูกหมากปลายแร็ค ปลายปีที่แล้ว 
2. ลูกหมากกันโคลงทั้ง 4 ล้อ
3. ปีกนกหลังตัวบน ซ้าย/ขวา
4. บู๊ชปีกนกหน้า / บู๊ชคอม้า

- ดังนั้น ก็เหลือ จำเลยเดียว คือ โช้คอัพ ซึ่งพอเช็คประวัติ ก็พบว่า ใช้งานมา 4 ปีกว่า กับ ระยะทางเกือบๆ 8 หมื่นกม.ครับ (ในขณะที่ของศูนย์ติดรถ เปลี่ยนออกเพราะกระด้าง ตอน 7 หมื่นกม.) ก็แปลว่า สมควรแก่เวลา ที่จะต้องบ๊ายบาย Bilstein B6 แล้วล่ะ 

- ไม่คิดว่า เป็นพวกส่วนควบของโช้ค เช่น เบ้าโช้ค เพราะ ผมเบิกใหม่เปลี่ยนพร้อมโช้ค รถรุ่นนี้ไม่มีประวัติอะไหล่พวกนี้พังก่อนโช้ค แบบพวก Sylphy / Pulsar ครับ

เลือกโช้ค
แน่นอนครับ ผมไม่โหลดเด็ดขาด เพราะคันนี้ไว้วิ่งในทางที่ Pulsar ไปไม่ได้ ดังนั้นก็เหลือแต่เปลี่ยนโช้คแหละ ตัวเลือกในตลาดก็จะมี

1. Bilstein B6 .. ของเดิม ราคา 38,600 บาท / 4 ตัว แต่ถ้าเปลี่ยนเฉพาะตัวที่เสีย อย่างโช้คหลัง ก็จะเหลือ 18,100 บาท
-  ทีแรก ว่าจะเปลี่ยนแต่โช้คหลัง ไม่เปลี่ยนส่วนควบ แต่คิดอีกที แล้วถ้าใช้ไปอีกไม่กี่เดือน โช้คหน้าพังล่ะ ? เบิกแยกแพงกว่าด้วยนะ
- ถ้ายกชุด 4 ต้น บวกส่วนควบอีกหมื่นนึง ก็แตะ 5 หมื่นเลยนะ แน่นอน ได้รถที่ขับแล้วมั่นใจสูงสุด ซ่าส์ได้ไม่อายใคร แต่ก็มีคำถามว่า ..ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ควรลงทุนเหรอ ? แล้วถ้าเพลินๆ อีก 1 – 2 ปี เปลี่ยนรถ จะเสียดายไหม ?
 
2. KYB New SR .. ราคาราวๆ 18,XXX บาท ถูกดี Made in Japan ใน Jazz GE วิ่งมาแสนกว่ากม.ก็ยังไม่พัง ใน CRV G4 ก็เกือบแสน ยังไม่พัง แต่พอค้นข้อมูล เจอคนบ่นว่า หลังๆรั่วเร็ว แถมเคลมยากอีก งั้นผ่านก่อนนะ
 
3. TEIN Endurapro .. เป็นตัวนอกสายตา ไม่เคยสน เพราะใน Pulsar เอง ใส่ Street Advance Z ผมก็เฉยๆกับมัน คือ เกาะดีขึ้น แต่มันฟิลลิ่งญี่ปุ่น มันไม่แน่น ไม่เฟิร์มแบบ Bilstein เรียกว่า สตรัทปรับเกลียวทั้งชุดใน Pulsar เกาะได้สัก 50% ของ Bilstein B6 ใน CRV เองครับ แต่ ...
-  มันทนนะ
-  มันมีศูนย์บริการ O/H ได้นะ (4 ต้น หมื่นนึง ยังไงก็ถูกกว่าซื้อใหม่ 2 หมื่น)

ก็เลยมาจบที่มันนี่แหละ ทีนี้ มีรุ่นปรับได้ กับ ปรับไม่ได้ .. ผมเลือกรุ่นปรับไม่ได้เพราะ ด้านหลังของ CR-V G3 และ G4 (G5 ไม่รู้) มันจะติดโครงรถ ไม่สามารถปรับนุ่มแข็งได้ ถ้าจะปรับต้องถอดมาปรับเท่านั้น แล้วนิสัยผม มันไม่จบง่ายๆ มีหวัง ถอดเข้า ถอดออกกันสนุกเลย (ใน Pulsar กว่าจะลงตัว ก็ปรับอยู่นั่นแหละ)

แล้วทำไมไม่ใส่ EDFC ล่ะ ?

คำตอบก็คือ ถ้าต้องใส่ EDFC อีกหมื่นสามในรุ่นธรรมดา หรือ สองหมื่นในรุ่นโปร .. ผมเอาเงินไปใส่ Bilstein B6 ดีกว่าครับ เกาะกว่ากันเยอะ ดังนั้นเหตุผลของผม จบเนอะ !!

เตรียมอะไหล่ส่วนควบ
สองจิต สองใจ ว่า จะใช้ส่วนควบของเดิมดีไหม ? หรือ เบิกใหม่ดี
- ใจนึงบอก วิ่งมาแค่ 8 หมื่นกม. ไม่พังหรอก เหลือๆ 
- ใจนึงบอก แล้วถ้าใช้สักพัก แล้วมันพังล่ะ ? เสียงดังล่ะ ? เสียเวลารื้อรถอีกนะ

สุดท้าย ก็เบิกใหม่หมดแหละ แต่คราวนี้ เบิกสปริงทั้ง 4 เส้นใหม่ด้วย ตามคำแนะนำของพี่เสว และ เจ้าส่วนควบ ก็ไม่เบิกน้อตครับ ให้ใช้ของเดิม และ จริงๆ พอรับอะไหล่มาแล้ว มีอยู่สัก 3 – 4 รายการ ที่เป็นเหล็ก ไม่บุบสลาย สามารถใช้ของเดิมได้ครับ (ประหยัดลงได้อีก 600 – 700 บาท)


- ทีแรก ว่าจะไม่รีบ แต่ดันเห็นในเพจของ ATP ว่า วันแม่ เปิดนะ (เห็นคืนวันศุกร์) .. อ้าว ถ้าจะไปเปลี่ยนวันพุธ  ก็ต้องได้ส่วนควบแล้วสิ แล้ว จะไปศูนย์ HONDA ได้ ก็วันอาทิตย์วันเดียว (วันแม่ศูนย์ก็หยุด) ทำไงดีล่ะ ? (HONDA ปราจีน เลิกคุย สั่งของที อาทิตย์กว่า ยังไม่ได้ของเลย)

- เช้าวันเสาร์ ก็ไลน์บอก ผจก. ศูนย์ ว่า ช่วยสั่งอะไหล่ให้หน่อยนะ พร้อม Part no. ทั้งหมด ส่งให้เรียบร้อย 
- สายๆ ผจก ก็ตอบไลน์ ส่ง list รายการ และ ราคา มาคอนเฟิร์ม
- บ่ายๆ ศูนย์แจ้งอีกทีว่า ยางกันกระแทกโช้คหลัง ของขาด จะเข้าอีกที 26 สิงหาเลย .. ก็เลยยกเลิกรายการนี้ไป

- จากนั้นก็ติดต่อร้านอะไหล่ ที่เคยสั่งกันว่า พอหาตัวนี้ได้ไหม ? เอาของแท้ ร้านตอบมาว่า มีของพอดี ก็เลยโอนเงิน พร้อมกำชับให้ส่ง Kerry นะ
- ก่อนเลิกงานวันเสาร์ ศูนย์ไลน์มาแจ้งว่า อะไหล่มาถึงศูนย์เรียบร้อย วันอาทิตย์ให้ผมไปติดต่อที่ ลูกค้าสัมพันธ์นะ เดี๋ยวฝากเรื่องไว้ (เพราะวันหยุดเค้า)
- วันอาทิตย์ ก็ขับ Pulsar เข้า กทม. ไปรับอะไหล่ที่ศูนย์ HONDA เรียบร้อยครับ / วันอังคาร Kerry ก็มาส่งยางกันกระแทก ตามกำหนด

ข้อดีของรถตลาด รถ HONDA เนอะ


ติดตั้ง
- จัดการเรื่องอะไหล่ส่วนควบเรียบร้อย (ให้แน่ใจว่า มีของ) ก็จัดการนัดกับ ATP ราคาของ 20,400 บาทลด 10% เหลือ 18,100 บาท (โปร.พอดี) พร้อมติดตั้ง ซึ่งสามารถนัดเค้าได้แค่ ช่วงเช้า หรือ บ่าย แต่ไม่สามารถระบุเวลาได้ เพราะเค้าทำตามคิวครับ ใครมาก่อนก็ทำก่อน
            
เรื่องนี้ สบายมาก สำหรับผม เพราะไปรอตั้งแต่ 8.00 น. (ร้านเปิด 9.00 น.)


และเพื่อความไม่ประมาท ผมก็ print Part Diagram ไปให้ช่าง กันเหนียว ด้วยครับ ซึ่งก็คิดไม่ผิด ได้ใช้งานจริงๆ เพราะ ชิ้นส่วนมันเยอะเหลือเกิน


ใช้เวลาติดตั้งเกือบ 2 ช.ม.ครับ เจ้า HR-V ที่มาพร้อมๆกัน เปลี่ยน Endurapro plus เสร็จไปก่อนนานละ (CRV มันสตรัทหน้า / หลัง ก็วุ่นวายหน่อย)


ตั้งศูนย์ล้อ
- เสร็จจาก ATP พวงมาลัยเอียงขวา รถดึงขวา อย่างหนักเลย ขับแล้วก็แปลกๆ ตามประสารถศูนย์ล้อเพี้ยน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ตั้งศูนย์ครับ
- วันเสาร์ที่ 15 ก็เข้า กทม. อีกรอบ มาตั้งแต่ก่อนไก่โห่ กับ “บางพลัดศูนย์ล้อ” ขาประจำผมแหละ


- ด้านหน้า .. ช่างจัดการปรับ มุมแคมเบอร์ ให้ใหม่ ส่วน Toe เพี้ยนไม่เยอะ

- เรียบร้อยแล้ว ช่างก็ตรวจเช็ค ไล่แน่นน้อตต่างๆอีกรอบ แล้วก็เจอ ...
1. น้อตยึดสายเบรกล้อหน้าขวา ขันปีนเกลียว !!! .. น้อตน่ะแน่น แต่สายเบรกขยับได้ เพราะ น้อตลงไม่สุด .. ช่างจัดการต้าปเกลียวให้ใหม่ เป็นอันเรียบร้อย
 
2. น้อตยึดลูกหมากกันโคลงปีนเกลียว ... แม่มเอ๊ยยยย ลูกหมากกันโคลง เปลี่ยนมาได้ไม่กี่เดือน ข้างละพันแปดนะนั่น !!! 
แต่ .. ช่างบอกว่า ปกติ มันจะรูดที่ตัวเมีย เดี๋ยวลองดูก่อน ว่าแล้ว ก็เอาออกมา รูดที่ตัวเมียจริงๆ ช่างจัดการค้นน้อตเก่า เจอน้อตแบบเดียวกัน เลยเปลี่ยนใส่ไปให้

- งานนี้ฝีมือ ATP เค้าแหละ เพราะด้านหน้า เป็นช่างใหม่ ในขณะที่ช่างเก่า ที่เจอหน้าบ่อยๆจะทำล้อหลังครับ สงสัยพวกไม่ยอมหมุนมือ ยิงบล็อกลมอย่างเดียวเลย แบบนี้ก็ไม่ไหวแฮะ
            
- แต่ในความโชคร้าย ก็ยังโชคดี ที่ช่างบางพลัดศูนย์ล้อเจอ และ แก้ไขให้ .. ขอบคุณครับ (ผมถึงบอกว่า ผมยอมออกจากปราจีน ตี 3 เพื่อมารอคิวที่นี่ ทุกครั้งที่ตั้งศูนย์ครับ น่าจะ 11 – 12 ปีแล้วมั้ง)