หากท่านใดยังไม่ได้อ่านกระทู้แรก สามารถย้อนกลับไปอ่านได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้เลยนะคะ
Bkk-Aichi exchange program Ep.1 !

สำหรับ Ep,2 เรามาเริ่มกันต่อเลยค่ะ ! 🌟

Day 5 (16 May) 🍀

• เริ่มต้นวันด้วยการไปดูการดำเนินงานของ UNHCR ใน Nagoya ค่ะ สถานที่ที่ไปเรียกว่า Nagoya international center building  เป็นจุดศูนย์กลางของหลาย ๆ หน่วยงานอยู่รวมกัน UNHCR ดำเนินงานด้านการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพเป็นหลัก แต่ยังมีการดำเนินงานด้านการดูแลและพัฒนาสิ่งแวดล้อมร่วมด้วยค่ะ มีพี่เจ้าหน้าที่มาพูดให้เราฟังคล่าว ๆ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ได้ถามคำถาม ประเด็นที่น่าสนใจมากคือ บริษัทในไอจิเกิน 70% เข้าร่วม Sdg's ค่ะ เข้าร่วมโดยสมัครใจ ภาครัฐไม่ได้มีการบังคับ หนูเลยได้ถามคำถามไปว่า การผลิตแบบ environment friendly อาจจะทำให้ต้นทุน และราคาขายสูงขึ้น แล้วแบบนี้ จะยังขายได้ดีอยู่ไหม ได้รับคำตอบที่ทำให้อึ้งไปเลยค่ะ พี่เจ้าหน้าที่บอกว่า ผู้ผลิตไม่ได้จะเอากำไรเป็นหลัก ผู้บริโภคพร้อมซัพพอร์ต ใช้ความคิดที่ว่า ผู้ผลิตแฮปปี้ ผู้บริโภคแฮปปี้ และสิ่งแวดล้อมแฮปปี้ค่ะ ☺️




• หลังจากที่ได้ไปชมพิพิธภัณฑ์ Toyota kaikan museum และเดินทางไปต่อที่ Meidoh ซึ่งเป็นโรงงานผลิต bolt supplier หลักของ Toyota ค่ะ 



รถคันสีขาวด้านล่างล้ำมากค่า ถ้าบอกว่าบินได้ก็เชื่อ แต่ตัวนี้เป็นแค่โมเดลนะคะ ยังไม่ได้ลองผลิตจริง ไม่น่าเขื่อว่าเทคโนโลยีของมนุษย์จะพัฒนาไปไกลได้มากขนาดนี้เลยค่ะ



คันสีดำข้างล่าง คุ้น ๆ ไหมคะ คันนี้เป็นรถยนต์ที่ราชวงศ์ญี่ปุ่นใช้บ่อยมาก ๆ เลยค่ะ ปกติแล้วพี่ ๆ จะล็อคไว้ แต่เห็นพวกเราแอบส่อง พี่พนักงานเลยกดเปิดให้ลองขึ้นไปนั่งดูค่ะ รู้สึกลักชูมากค่ะ5555555



MEIDOH CO.,
     เรามาต่อกันที่บริษัท Meidoh ค่ะ เป็นบริษัท supplier หลักของ Toyota ที่ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่เรียกว่า bolt ค่ะ มีการเล่าเรื่องจุดเริ่มต้นของบริษัทและการดำเนินบริษัท สาขาต่าง ๆ ที่ไทยมีบริษัท 1 แห่ง ที่สมุทรปราการค่ะ ทุกท่านคงพอจะทราบว่าโตโยต้ามีศูนย์การผลิตขนาดใหญ่อยู่ในไทยใช่ไหมคะ วันนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับการผลิตอะไหล่รถยนต์กันค่ะ

พวกเราได้เข้าไปดูในโรงงานและชมไลน์การผลิตของบริษัท Meidoh ได้เห็นระบบการทำงานภายในโรงงานที่ยังคงคอนเซ็ปท์ สะอาด เป็นระเบียบ ปลอดภัย !

หลังจากนั้นได้พูดคุยกับพี่คนไทย 2 คนที่ทำงานอยู่ที่นี่ค่ะ พี่ ๆ เล่าถึงเรื่องราวการทำงาน เพื่อนร่วมงาน สวัสดิการและการใช้ชีวิตที่อยู่ไกลบ้านด้วยค่ะ จากการคุยกันพวกเราได้เห็นมุมมองการทำงาน รวมถึงความใส่ใจพนักงาน โดยพี่ ๆ เล่าว่า ที่บริษัทจะมีการตรวจสุขภาพร่างกายรวมถึงการตรวจสุขภาพจิตด้วย หากเข้าข่ายสุขภาพไม่ดีไม่ว่าด้านใดจะมีดำเนินการรักษาต่อไป สิ่งที่อยากนำมา adapt กับ กทม. คืออยากให้บริษัทในไทยให้ความสนใจกับสุขภาพร่างกายและจิตใจของพนักงานเหมือนที่ไอจิค่ะ การเจ็บป่วย ความเครียดจากการทำงาน การเป็นโรคซึมเศร้ามีเปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ บางทีคนเป็นเองก็อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ หากนำเรื่องนี้มาปรับใช้ได้ อาจจะทำให้การทำงาน กับความสุขระหว่างชีวิตทำงานสามารถดีควบคู่ไปด้วยกันได้ค่ะ 

ถึงเวลาอาหารเย็นนน มื้อที่สุขที่สุดขอมอบให้สุกี้ยากี้เนื้อ มันอร่อยมากก จนอยากกรี๊ดเลยค่ะ แต่ก้มลงไปอีกทีอ้าวหมดแล้ว อร่อยมากกก ลงท้องไวมากด้วยค่ะ555555555


Day 6 (17 May) 🫶🏻

• วันนี้เป็นวันที่จะต้องย้ายโรงแรมจากที่ Iris Aichi ที่อยู่มา 5 คืน เพื่อที่จะเตรียมตัวไปที่โรงแรมใกล้สนามบินที่ Tokoname เพื่อความสะดวกต่อการเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ค่ะ จะคิดถึงห้อง 1109 ตลอดไปปปป


• เดินทางออกจากโรงแรมมุ่งหน้าไปที่ Mori no Manabiya อดีตที่จัดงาน Aichi Expo 2005 ค่ะ !

พวกเราได้มาดูป่าไม้ และธรรมชาติของญี่ปุ่นจากที่นี่ค่ะ ยังคงคอนเซ็ปท์สะอาดมากกเหมือนเดิม ในป่าก็ไม่มีขยะแม้แต่ชิ้นเดียวเลยค่ะ มีพี่ ๆ 3 คน ชาวญี่ปุ่นเจ้าหน้าที่คล้าย ๆ เจ้าหน้าที่อุทยานเป็นคนพาเราเดินขึ้นไปชมและให้ศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติค่ะ 😊

• ไปต่อที่ Ghibli park สวนสนุกที่ไม่มีเครื่องเล่นนนน เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะรู้จักค่ายอนิเมชั่นชื่อดังของญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Ghibli กันใช่ไหมคะ พวกเราได้ไปดูเกี่ยวกับการวาดภาพทำอนิเมชั่นและดูการจำลองฉากต่าง ๆ จากอนิเมชั่นของ Ghibli ด้วยค่ะ

ในภาพเป็นบัตรเข้าชมอนิเมชั่นเรื่องสั้นที่ถูกจัดทำขึ้นเพื่อแสดงที่นี่โดยเฉพาะค่ะ เรื่องราวของน้องหมาโคโร่ ที่หลงหายไปในเมือง มาช่วยตามหาน้องไปด้วยกันในอนิเมชั่นค่ะะะ


ภาพด้านล่างเพื่อน ๆ บอกว่ามาจากเรื่องแม่มดน้อยกิกิค่ะ ตรงนี้เป็นลิฟต์แต่ว่าทำสวยมาก ๆ เลยค่าา หากสังเกตเห็นมุมขวาในภาพจะเห็นว่ามีถังขยะเล็ก ๆ อยู่แค่ 1 ถังใช่ไหมคะ แต่มันมหัศจรรย์มากที่ถังขยะน้อยแค่ไหน ก็ไม่มีขยะหล่นกระจายตามสถานที่ต่าง ๆ การปลูกฝังที่ดี และความมีวินัยยืนหนึ่งให้ญี่ปุ่นเลยค่ะ !

• หลังจากเข้าชม Ghibli park แล้ว เจ้าหน้าที่เล่าให้พวกเราฟังว่า หลังจากจัด Aichi Expo 2005 เสร็จ ก็ไม่ได้ใช้สถานที่นี้และปล่อยให้เป็นที่ร้างไปนานค่ะ สุดท้ายจึงตัดสินใจปรับปรุงที่นี่ขึ้นมาโดยใช้พรีเซ้นท์จุดขายของไอจิคือ ค่ายอนิเมชั่นจิบลิ มาสร้างเป็นที่เที่ยวชมสำหรับผู้หลงไหลในการ์ตูน 3D ที่เล่าเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจได้เข้าชม ในการสร้างและปรับปรุงสถานที่ครั้งนี้ ไม่มีการตัดต้นไม้แม้แต่ต้นเดียวเลยค่ะ เป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่หาได้ยาก แต่หาได้ที่ไอจิค่ะ ☺️

Day 7 (18 May) 💕

• วันนี้เป็นวันบินกลับประเทศไทยค่ะ บินเวลา 11.00 น. (เวลาญี่ปุ่น) ถึงที่ไทยประมาณบ่าย 3-4 โมงเย็น (ตามเวลาประเทศไทย)

See you again Japan ! 🤍

ถึงเวลากลับไทยและนำสิ่งต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้มา มาปรับใช้แล้วค่ะ 😊 การได้ไปดูงานในครั้งนี้ เปลี่ยนความคิดของหนูมาก ๆ ในหลาย ๆ เรื่อง อยากขอขอบพระคุณทางกรุงเทพมหานคร จังหวัดไอจิ เจ้าหน้าที่ เพื่อน ๆ คนไทยและเพื่อนชาวญี่ปุ่น รวมทั้งทุกคนที่ได้มาร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน มิตรภาพดี ๆ และโอกาสดี ๆ ในครั้งนี้หนูจะนำทุกอย่างที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดค่ะ 🙏🏻

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนจบนะคะ หากมีเรื่องราวหรือข้อสงสัยประการใดสามารถพิมพ์แสดงความเห็นมาได้เลยนะคะ หนูยินดีที่จะตอบเผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อหลาย ๆ ท่านค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ 🙏🏻🇯🇵💗

คลิปใน youtube ที่จัดทำขึ้นเป็นความทรงจำและเพื่อส่งต่อประสบการณ์ค่ะ
1.J-Vlog นักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุน Ep.1
2.J-Vlog นักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น Ep.2