BKK-Aichi exchange program รีวิวโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนกรุงเทพมหานคร-ไอจิ ! 🇯🇵

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ หนูเป็นนักเรียนจากกรุงเทพมหานครที่ได้รับคัดเลือกเพื่อไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ไอจิ ญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 สัปดาห์ค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกที่ได้ทำการเขียนขึ้น หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

     ก่อนอื่นต้องขอแนะนำโครงการคร่าว ๆ ก่อนนะคะ โครงการนี้เป็นโครงการของสำนักงานการต่างประเทศกรุงเทพมหานคร ทำร่วมกับทางเมืองไอจิที่ญี่ปุ่นค่ะ! ที่ได้จัดการแลกเปลี่ยนระหว่างนักเรียน ม.ปลาย ของทาง กทม. และทางเมืองไอจิค่ะ ซึ่งหัวข้อการไปแลกเปลี่ยนของปีนี้คือสิ่งแวดล้อม รวมถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมตาม Sdg's ที่ญี่ปุ่นให้ความสำคัญมาก ๆ เดี๋ยวเรามาเริ่มอ่านกันเลยนะคะ !

      วันที่บิน 12 พ.ค. 2566 วันกลับ 18 พ.ค. 2566 ระยะเวลาโครงการ 7 วันค่ะ

วันที่ 1 (May 12) 💗

• พวกเราเริ่มต้นเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 00:05 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถึงที่ Chubu centrair เวลา 7:40 น. (ตามเวลาปนะเทศญี่ปุ่น)


ระหว่างทางเห็นคอกเขียวด้วยค่ะ คอกนี้จะใช้สำหรับวางถุงขยะทิ้ง ก่อนมาอาจารย์ชัชชาติได้พูดถึงไว้แล้วว่าได้นำมาใช้กับ กทม. พอได้มาเห็นต้นฉบับเลยถ่ายเก็บไว้ ใช้ทิ้งขยะได้เป็นระเบียบมากก 😍


• พวกเราชมมหาวิทยาลัยนาโกย่าต่อ เดินดูโซนต่าง ๆ รวมถึงตึกจัดแสดงรางวัลและพิพิธภัณฑ์ในมหาวิทยาลัย อาจารย์หลายท่านใน ม. ก็ได้รางวัลโนเบลด้านวิชาฟิสิกส์ด้วยนะคะ ได้ร่วมทานอาหารกับพี่นักศึกษาทุนจากไทยใน ม.นาโกย่า ☺️



จู่ ๆ ก็ได้ออกรายการทีวี ณ วันที่เขียนอยู่ on-air แล้วนะคะะ ใครจะเป็นดารา ชั้นน่ะสิ ชั้นน่ะสิ



• ร่วมทานอาหารกับเพื่อน ๆ แล้วก็พี่ภูรีค่า พี่ภูรีเป็นพี่คนไทยที่ได้ทุน 100% มาเรียนต่อคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่นาโกย่าค่า พี่ภูรีน่ารักมากก แนะนำเรื่องการชิงทุน แล้วก็การเรียนในคณะ ใน ม.นาโกย่า รวมถึงสภาพแวดล้อม การปรับตัว เป็นการปลุกไฟมาก ๆ เผื่อในอนาคตอยากจะลองยื่นทุนที่ ม. ดูค่ะ 🥹


• จบวันที่ 1 ด้วยการที่ไปที่ศาลากลางจังหวัดไอจิ เข้าคารวะท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดไอจิ รวมทั้งมี discussion เกี่ยวกับ environmental management ของทางจังหวัดเองแล้วก็นโยบายต่าง ๆ ค่ะ ท่านรองผู้ว่าน่ารักมากก สไตล์การตอบเท่มากค่ะ ทางไอจิก็เปิดโอกาสลองถามการจัดการเมืองของท่านดู ท่านก็ตอบตามความเป็นจริง แบบไม่ได้อวยตัวเองเลยค่ะ ได้ของที่ระลึกจากท่านกลับมาด้วยเป็นแมวกวักของขึ้นชื่อไอจิ ท่านได้ให้นามบัตรมา พร้อมบอกว่าหากอยากถามอะไรสามารถอีเมลล์หรือโทรไปได้เลยค่ะ รู้สึกว่าท่านเข้าถึงง่าย และพร้อมให้ความรู้กับพวกเราอย่างเต็มที่ค่ะ


Day 2 (13 May) 🎀

• เริ่มต้นเช้าวันที่ 2 ตั้งนาฬิกาปลุก 5:30 ตื่นมาแทบช็อค ทำไมฟ้าสว่างจัง รีบคว้าโทรศัพท์มาดูนึกว่าเลทแล้ว แต่ญี่ปุ่นสว่างไวมากค่ะ ใจหายใจคว่ำ55555555555


• เดินทางไปที่วัดนิกไทยจิในช่วงเช้า วันนิกไทยจิเป็นวัดไทยในไอจิ ที่มีรูปปั้น ร.5 อยู่ด้วยค่ะ เนื่องจากท่านเป็นผู้มอบพระพุทธสารีริกธาตุส่วนหนึ่งให้ทางการไอจิเพื่อสร้างเป็นวัดพุทธขึ้น ท่านจึงถือเป็นบุคคลสำคัญที่ทางวัดและชาวพุทธในญี่ปุ่นให้ความเคารพมาก ๆ เลยค่ะ


ไปกดกาชาปองดูดวง 100¥ มาด้วยค่ะ แต่เหมือนดวงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยบอกตัวเองว่าเป็นคนยึดถือความเป็นจริงเป็นหลัก55555555


• ตอนเที่ยงไปที่ Osu market ได้แบ่งกลุ่มเดินกับเพื่อน ๆ ญี่ปุ่นจาก รร. มัธยมปลายในไอจิ ไปทานอาหารกลางวันแล้วก็เดินช็อปปิ้งด้วยกันค่ะ
(ปล.ในภาพคือโคร็อกเกะปูมีมันปูด้วยค่ะ อร่อยปะลั่มปะเหลือ อร่อยไม่เผื่อใคร)


• กลับมาที่ศาลากลางจังหวัดกับทุกคน พร้อมทำงานกลุ่มกับเพื่อนคนญี่ปุ่นเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม แล้วก็พรีเซ้นท์ค่า การสื่อสารค่อนข้างยาก แต่พวกเราก็ช่วยกันจนผ่านไปได้ด้วยดีมาก ๆ เลยค่ะ 😊


การเริ่มต้นถกเถียง เริ่มจากแต่ละคนเสนอหัวข้อที่ตัวเองอยากนำเสนอกับเพื่อน ๆ เล่าให้ฟังถึงปัญหาทำไมถึงเลือกหัวข้อนี้มานำเสนอ ส่วนตัวหนูนำปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ กทม. ไปนำเสนอ พร้อมเรื่องการอุดตันของท่อ จากที่ว่าเส้นเลือดฝอยเรามีปัญหา จึงไม่สามารถนำพาน้ำไปถึงท่อที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ได้ค่ะ
เพื่อน ๆ ชาวญี่ปุ่นก็ได้นำเสนอเกี่ยวกับพลังงานทดแทน , ปัญหาสิ่งแวดล้อมในครอบครัว , พลังงานนิวเคลียร์ , ไฟป่า และอื่น ๆ มานำเสนอ สุดท้ายพวกเราได้เลือกหัวข้อพลังงานทดแทน ไปเล่าและนำเสนอให้เพื่อน ๆ ได้รับฟังกันค่ะ 🫶🏻


Day 3 (14 May) 🌸

• วันนี้ที่รอคอยยย วันนี้ต้องไปเที่ยวกับโฮสแฟมิลี่ค่า ดีใจมากกก ตอนโฮสมาแล้วประกาศชื่อตื่นเต้นสุด ๆ เดี๋ยวจะมาเล่าถึงกิจกรรมและเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้ทำกับโฮสกันเลยนะคะ

โฮสครอบครัวของหนูมีคุณแม่กับลูกสาวที่อายุน้อยกว่าหนู 1 คน พวกเราเจอกันตอนเช้า พร้อมออกเดินทางด้วยรถยนต์ที่น่ารักมาก ๆ ปุ๊กปิ๊ก ลักษณะรถยนต์ที่ญี่ปุ่นส่วนมากจะใช้รถทรงตู้เพื่อที่จะให้ประหยัดพื้นที่จอด ถึงแม้ว่ารถจะดูเล็ก แต่ภายในค่อนข้างจะโปร่งและกว้างมากเลยค่ะ รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น ตลอดทางที่ขับผ่านมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่น่าสนใจ วินัยบนท้องถนน ความมีน้ำใจบนท้องถนน รวมถึงการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีมาก ๆ ของคนญี่ปุ่นผ่านไปทางไหนก็ไม่มีขยะ รวมทั้งเห็นการซ่อมแซมถนนที่ถูกกั้นไว้อย่างดี สะอาด การเช็คสภาพท้องถนนที่เห็นแล้วรู้สึกถึงความใส่ใจ เข้าใจเลยว่าทำไมอุบัติเหตุทางท้องถนนที่ญี่ปุ่นถึงไม่ค่อยมี หรือต่อให้มีก็ไม่ได้รุนแรงค่ะ 🥹


ที่แรกที่ได้ไป ตอนแรกงง ๆ ว่าเราอยู่ไหนกันน้า โฮสพาเดินเข้าไปในป่าเมเปิ้ล ป่าไผ่ แล้วก็ไปทะลุออกที่พระพุทธรูปในภาพค่า สวยมาก ๆ เห็นคนมาขอพรด้วยเลยรู้สึกว่าชาวพุทธที่ไอจิให้ความสำคัญกับศาสนามากเหมือนที่ไทยเลยค่ะ 🫶🏻


โฮสพาไปโยนโบลลิ่งค่ะ สถานที่ลึกลับอีกแล้ว เป็นฟีลอยู่ในป่าในดง แต่พอเข้าไปคนเยอะมากก คะแนนของหนูคือ 0 กลม ๆ เหมือนเป็นไข่ต้มเลยค่ะ5555555 ได้ที่บ๊วย โฮสมัมได้ที่ 2 น้องสาวได้ที่ 1 เก่งมากกกก


มาทานข้าวเที่ยงกับโฮสที่ร้านอุด้งในเมือง Nagakute ค่ะ อร่อยมากก กินกับไข่ออนเซ็นพร้อมบรรยากาศร้านอาหารญี่ปุ่น หันไปตรงไหนก็น่ารักไปหมด ทานข้าวอร่อยขึ้นแบบ 100% ร้านนี้เหมือนเป็นร้าน traditional เลยค่ะ เพราะมีแต่คนญี่ปุ่นนน หลังจากทานเสร็จทุกคนจะลุกไปเก็บถาดและจานให้กับพนักงานที่ชั้นเก็บค่ะ เหมือนเป็นการช่วยกันและกัน และเพื่อให้ลูกค้าคนต่อไปสามารถนั่งต่อได้เลยด้วยค่ะ ถ้าร้านอาหารที่ไทยสามารถทำแบบนี้ได้ทั้งหมดน่าจะดีมาก ๆ เลยค่ะ


พวกเราไปต่อที่ Aichi prefecture ceramic museum ได้ทำถ้วยปั้นดินเผาเองด้วยค่ะ ใช้เวลาค่อนข้างนานมาก แต่ไม่น่าเบื่อเลย คุณครูก็สอนอย่างดีเลยค่ะ ต่อให้เราจะฟังญี่ปุ่นไม่ออกก็ตาม แต่คุณครูก็ช่วยอย่างเต็มที่ จนถ้วยที่ปั้นออกมาดีมาก ๆค่ะ 🤩


อาหารเย็นค่าา โฮสชวนไปที่บ้าน ได้ทำทาโกยากิด้วยกัน เป็นเวลาที่ดีมาก ๆ หนูได้ช่วยพลิกช่วยทำด้วย อร่อยมาก ๆ มีความสุขมาก ๆ ค่ะ 💘


ออกมาหน้าตาเป็นแบบนี้ ทาโกยากิที่ถูกต้องงง อร่อยลิ้นพองค่ะ อิ้อิ้


ตบท้ายที่การไปถ่าย purikura แบบวิ่งให้ไว อยากถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึกแต่ใกล้ถึงเวลาต้องกลับโรงแรมแล้ว เลยวิ่งใส่เกียร์อย่างไวเลยค่ะ !
จริง ๆ บ้านนี้มีลูกสาว 2 คนน้า แต่พี่สาวคนโตเพิ่งกลับจากโรงเรียนพวกเราเลยนัดเจอกันที่ Aeon ได้คุยกันไม่นานระหว่างทางกลับแต่น่ารักมากกกเลยค่ะ 💗

Day 4 (15 May) 🤎

• เยี่ยมชมโรงเรียนมัธยมปลาย Ichinomiya Nichi พร้อมทั้งจับกลุ่มกับเพื่อน ๆ ญี่ปุ่น เล่นเกมบันไดงู SDG's goals และตอบคำถามความรู้เกี่ยวกับ SDG's สนุกกก เพื่อน ๆ ญี่ปุ่นก็น่ารักมาก ๆ ค่ะ ทุกคนพยายามจะสื่อสารกันมาก ๆ ค่ะ

ทางเดินและห้องเรียนสะอาดมาก ๆ เพราะมีการเปลี่ยนเป็นรองเท้าเดินภายในตึกและมีรองเท้าที่เดินได้เฉพาะภายในห้องด้วยค่ะ ทุกที่สะอาดและเป็นระเบียบมาก ข้อดีของการเป็นประเทศที่มีวินัยเป็นแบบนี้นี่เองค่ะ 🥹


ป้ายชื่อนี้เพื่อนญี่ปุ่นเขียนให้ค่ะ ส่วนป้ายชื่อของเพื่อนญี่ปุ่นหนูเขียนให้ สลับกันเขียนภาษาบ้านเกิดของตัวเองให้เพื่อน ฟินม้ากก
 

ดูชมรมต่าง ๆ ของโรงเรียน ในภาพด้านล่างเป็นลูกธนูของกีฬาที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า Kyudo กีฬายิงธนูที่มีเอกลักษณ์มาก ๆ ของคนญี่ปุ่น ชมรมที่นั่นทุกคนให้ความร่วมมือ และจริงจังในการเล่น รับผิดชอบต่อการซ้อม แล้วคุณครูมีดีกรีเป็นถึงนักกีฬาทีมชาติ ต่อให้เป็นโรงเรียนที่ไม่ใหญ่มาก แต่บุคลากรมีคุณภาพและสามารถพัฒนาเด็กได้จนสามารถยึดเป็นอาชีพในอนาคตได้ หากดูการแข่งขันระดับนานาชาติ จะเห็นว่าญี่ปุ่นมีความมุ่งมั่น และประสบความสำเร็จมาก เพราะการเริ่มพัฒนาจากชมรมตั้งแต่ รร. ครูในชมรมได้แสดงวิธีการยิงให้พวกเราดูด้วยค่ะ เป็นขั้นเป็นตอนและเป็นวิธียิงที่ยึดถือใช้กันมานานค่ะ


• กลับจากโรงเรียน ทานอาหารเย็นที่โรงแรม กำลังจะเดินไปละลายทรัพย์ที่ Donki แถว ๆ Sakae ค่ะ จริง ๆ ระยะทางไกลมาก แต่เดินได้เรื่อย ๆ บนฟุตบาทที่กว้างและเรียบมาก ทุกครั้งที่เดินก็จะรู้สึกปลอดภัย การข้ามถนนก็ปฎิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด อยากให้นำข้อนี้มาปรับใช้กับที่กรุงเทพมหานครแล้วก็ประเทศไทย การมีทางเดินที่ดี มาคู่กับวินัยจราจร ทุกก้าวก็จะปลอดภัยและจะลดอุบัติเหตุทางท้องถนนไปได้เยอะเลยค่ะ
  
Shopping timeeee 🛍️🫶🏻


ตอนต่อไปมาแล้วนะคะะ ทุกท่านสามารถตามไปรับชมต่อได้ตามลิ้งค์ข้างล่างได้เลยค่า ไปกันเล้ยย !
BKK-Aichi exchange program Ep.2 🤍
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่