สวัสดีค่าาาา

วันนี้เราก็จะมาเล่าประสบการณ์การไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศญี่ปุ่น 1 สัปดาห์ให้ฟังกันค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเราเลย ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะคะ ; v ;

แต่ก่อนอื่น เราขอแนะนำโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนระหว่างกรุงเทพมหานครกับเมืองพี่เมืองน้อง ซึ่งเป็นโครงการที่เราได้รับคัดเลือกกันก่อนนะคะ

โครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนระหว่างกรุงเทพมหานคร เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างเมืองพี่เมืองน้อง คือ เมืองในต่างประเทศที่มีข้อตกลงกันว่าจะสถาปนาให้เมืองในประเทศของแต่ละฝ่ายมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเป็นพิเศษ เพื่อร่วมมือกันในด้านต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย เช่น กรุงเทพมหานครกับจังหวัดไอจิที่เราได้รับคัดเลือกไปแลกเปลี่ยนในปีนี้นั่นเองค่า

สำหรับการคัดเลือกของโครงการในปีนี้ (2562) ก็จะเป็นการเขียนเรียงความทั้งภาษาไทยและอังกฤษ แล้วก็มีการสัมภาษณ์ และคัดเหลือ20คนจากทั้งหมดเป็นเยาวชนแลกเปลี่ยนในโครงการของปีนี้ค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนระหว่างกรุงเทพฯกับจังหวัดไอจิจะรับสมัครแบบปีเว้นปี คือ สมมติว่าปีนี้เปิดรับเด็กไทยไปญี่ปุ่น ปีหน้าจะเปิดรับเด็กญี่ปุ่นมาไทยและไม่เปิดรับเด็กไทยไปญี่ปุ่น ต้องรอปีถัดไปถึงจะเปิดรับเด็กไทยไปญี่ปุ่นอีกครั้งนะคะ ดังนั้นโอกาสมาแล้วก็อย่ารอช้าค่ะ รีบไปสมัครกันเลย แต่ถ้ามันผ่านไปแล้วก็ไม่เป็นไรนะคะ โอกาสอื่นๆยังมีอยู่ข้างหน้าเสมอ สู้ๆค่ะทุกคน


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพิ่มเติม

สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนและสิ่งน่าสนใจอื่นๆเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกรุงเทพมหานครกับเมืองในต่างประเทศได้ทาง

Website : http://iad.bangkok.go.th
Facebook : https://www.facebook.com/bangkokiad/





เราเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปลงที่ Chubu Centrair International Airport เมืองนาโกยา จังหวัดไอจินะคะ เครื่องออก 0.05 น. ของวันที่ 5 มิ.ย. เย็นวันนั้นเรารีบวาร์ปจากโรงเรียนกลับบ้านมาเตรียมตัวเลยค่ะ ตื่นเต้นมากแต่ก็ยังไม่อยากลา5555

พอเครื่องขึ้นแล้วเราก็ภาพตัดเลยค่ะ
またね、バンコク。



おはよ~う☆
ลืมตามาอีกทีก็เช้าแล้วค่ะ ใกล้ถึงแล้วววว

เครื่องลงตอนประมาณ 7.30 น. ตามเวลาที่ญี่ปุ่นค่ะ ลงจากเครื่องปุ๊บก็เริ่มโปรแกรมกันเลยทีเดียว




เดินทางออกจากสนามบินค่ะ นั่งรถบัสที่ญี่ปุ่นก็อย่าลืมคาดเข็มขัดนิรภัยกันนะคะ




และแล้วเราก็มาถึง Aichi Prefectural Government (ที่ทำการจังหวัดไอจิ) โปรแกรมแรกของวันนี้ก็คือ Orientation หรือคล้ายๆกับการปฐมนิเทศนั่นเองค่ะ ก็จะมีการแนะนำตัวเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลโครงการทั้งฝั่งไทยและญี่ปุ่น รวมถึงเยาวชนจากไทยทั้ง20คนด้วย นอกจากนี้ก็มีแจก Handbook ที่มีตารางกิจกรรมในแต่ละวันและข้อมูลต่างๆที่จำเป็นระหว่างที่เราอยู่ที่นี่ พร้อมทั้งอธิบายรายละเอียดต่างๆค่ะ



昼ご飯で~す☆
ข้าวเที่ยงวันนี้เป็นหนึ่งในอาหารท้องถิ่นของที่นี่ก็คือ คิชิเมง นั่นเองค่ะ ลักษณะจะเป็นเส้นคล้ายๆอุด้งแต่ว่าจะเป็นเส้นแบนค่ะ พี่เบียร์ ล่ามภาษาไทย(แต่เป็นคนญี่ปุ่นนะคะ)ของเราเล่าให้ฟังว่าเป็นเพราะคนนาโกยาเป็นคนจริงจัง ไม่ชอบเสียเวลาค่ะ เส้นอุด้งปกติที่เป็นเส้นกลมจะใช้เวลาต้มนานกว่าจะสุก เส้นคิชิเมงที่เป็นเส้นแบน สุกได้เร็วกว่าจึงเป็นอาหารที่เป็นที่นิยมอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ค่ะ




จากนั้นเราก็เดินทางมาที่ Toyota Kaikan Museum ค่ะ ที่จริงจะมีส่วนโรงงานประกอบรถยนต์ด้วย แต่ว่าในโรงงานห้ามถ่ายรูปนะคะ จากนั้นก็จะมีส่วนที่จัดแสดงรถยนต์รุ่นต่างๆ ซึ่งเราชอบคันนี้เป็นพิเศษค่ะ






นี่เลยค่ะ เป็นรถที่มีขนและหูหาง น่ารักมากค่ะ งุ้ยยย ////// แต่ถ้าเอามาขับจริงๆน่าจะต้องทำความสะอาดบ่อยหน่อยนะคะ5555








มาต่อกันที่ Toyota Ecoful Town นะคะ ที่นี่ก็จะเป็นเมืองต้นแบบด้านเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมโดยโตโยต้าค่ะ ในส่วนที่เราได้เข้าชมก็จะมี Pavilion เป็นส่วนนิทรรศการที่อธิบายถึงคอนเซปต์รวมๆของที่นี่ แล้วก็ตัวอย่างบ้านพลังงานแสงอาทิตย์ Toyota Smart House ค่ะ



ปิดท้ายวันแรกกันด้วยงานเลี้ยงต้อนรับที่โรงแรม Iris Aichi ที่เป็นที่พักของเรานั่นเอง อาหารอร่อยมากจนถ่ายทันแค่นี้จริงๆค่ะ5555
ごちそうさまでした☆

**ยังไม่จบค่ะ ติดตามต่อได้ใน comment นะคะ**