บันทึกความอร่อย "เบื้องหลังการทำบ้ะจ่าง"
"มาม้า จะเริ่มทำบ้ะจ่างรึยัง นันอยากกินมาก.ก." แม่นันส่งเสียงตามสายไปหาคุณแม่บุญธรรม
"ไม่ต้องมาลากเสียง จะเริ่มทำอาทิตย์หน้าโน่น ตอนนี้ดูรูปไปก่อนละกัน" ดูนางตอบกลับสิ ฮ่าฮ่า
อดเปรี้ยวไว้กินหวาน (เพราะไส้หวานมีไส้โอ่วนี้ด้วย..อร่อยมาก.ก.ก)
มาดูหลังเบื้องหลังความอร่อย..โฮมเมดบ้ะจ่างของครอบครัวมาม้าบุญธรรมกันค่ะ ปีที่แล้วแม่นันยืนช่วยอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นยังทำเอาขาแข็งเลยค่ะ
มาถึงก็เห็นมาม้าถือตะหลิวใหญ่ยักษ์สองคนกับลูกสาวกำลังผัดตัวข้าวเหนียวกันอย่างขมักเขม้น แรกเริ่มก็ผัดกระเทียมก่อน ต่อจากนั้นถึงต่อด้วยข้าวเหนียวและส่วนผสมอื่นๆ ... มาม้าเจ็ดสิบห้าแล้วแต่แรงดีมาก บอกตรงๆว่าแม่นันสู้แรงมาม้าไมไหวค่ะ "มา..นัน..มาผัดแทนมาม้าแป๊บนึง" เป็นไงล่ะค่ะ แค่คิดในใจดังไปหน่อย....ขั้นตอนนี้ถือเป็นหัวใจเลยค่ะ ถ้าผัดไม่ทั่ว ไม่เร็ว มีสิทธิ์ทำให้ข้าวเหนียวจับเป็นก้อน และไหม้ได้ค่ะ ยิ่งทำทีเยอะๆแบบนี้ ต้องใช้สองคนผัดและต้องเข้าขากันด้วยค่ะ
สมัยนี้หายากมากแล้วค่ะที่จะเห็นบรรพบุรุษและลูกหลานยังมารวมตัวกันทำอาหารโบราณแบบนี้กันอยู่ อากิ๋ม (ภรรยาของน้องชายมาม้า) มานอนค้างด้วยตั้งแต่เมื่อคืน เพื่อจะมาช่วยผสมข้าวเหนียว ส่วนอาแฉอึ้ม (คุณแม่ของลูกเขยมาม้า) ยังตรงมาจากอุดร เพื่อมาช่วยห่อโดยเฉพาะ อาแฉอึ้มห่อไวมากค่ะ นอกนั้นก็ลูกๆ หลานๆ ผลัดกันมาช่วย หลานคนไหนถึงเวลาเรียนออนไลน์ก็จะขอปลีกตัวไปเรียนก่อน
วันนี้ผัดข้าวเหนียวสามกระทะ ได้ประมาณสามร้อยใบ ใช้เวลาหนึ่งวันเต็มๆ ผู้สูงวัยก็นั่งห่อ ในขณะที่ลูกหลานแบ่งงานกันทำ สองคนช่วยกันแยกใบไผ่ (ต้องแยกใบใหญ และใบเล็กไว้ซ้อนกัน) กว่าจะถึงขั้นตอนนี้ต้องผ่านการล้าง การต้มมาก่อน วันนี้ทำสามร้อยลูก ต้องใช้ใบไผ่ถึงหกร้อยใบ เผื่อเสียอีกต่างหาก ปีนี้มาม้าทำพันสองร้อยลูก ลองคูณเข้าไปค่ะ ....
ลูกหลานอีกสองสามคนนั่งตอกไข่เค็มสามร้อยฟองลงภาชนะ บางคนจะสงสัยนะคะว่าทำไมต้องมานั่งตอกทีละใบ เค้ามีฟรีสขายเป็นถุงละร้อยฟองนี่คะ ตอกทำไมให้เสียเวลา อย่างที่แม่นันเคยเล่าให้ฟังไงคะว่า ตราบใดที่บรรพบุรุษดั้งเดิมทำเอง จะไม่ยอมซื้อวัตถุดิบสำเร็จรูปเด็ดขาดถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ถ้าได้ไข่ที่ดองแล้วมาตอกเองแบบนี้ จะได้ไข่ที่สด ทำออกมาจะอร่อยกว่าค่ะ
โต๊ะหนึ่งกำลังห่อไส้เค็ม อีกโต๊ะหนึ่งห่อไส้หวาน หน้าที่อื่นก็แบ่งๆกันไป แต่แม่นันแอบเห็นอากิ๋มก้มๆเงยๆ คอยเก็บคอยทำความสะอาดนู่นนี่ตลอด ทั้งๆที่ตัวเองเพิ่งเสร็จจากการผสมข้าวเหนียวไปสามกะละมังใหญ่ๆ นี่ล่ะค่ะเค้าถึงว่าคนแก่อยู่เฉยไม่เป็น ลูกหลานรึเป็นห่วงกลัวจะลื่นล้ม ห้ามไปก็เท่านั้นค่ะ พวกเราคอยเช็ดถูพื้นไม่ให้ลื่นจะดีกว่า ส่วนมาม้านั่งนานไม่ได้ ลุกขึ้นยืนแต่ละครั้งขาจะชาสั่นอยู่นานเลยค่ะ ลูกๆต้องช่วยกันจับคนละข้าง
ห่อเสร็จต้องนำมานึ่งอีกชั่วโมงเศษ ลังถึงทั้งใหญ่ทั้งหนัก แถมฝาก็สูงปรี้ด ถ้าไม่ได้แรงผู้ชาย..สาวๆคงล้าไปกว่านี้ค่ะ งานนี้ตี๋เล็กจึงเป็นพระเอกไปค่ะ
นึ่งเสร็จใช้ตะขอเกี่ยวมาแขวนผึ่งไว้กับราว รอจนขนมจะเย็นตัวดีค่ะ
เป็นไงคะ จุกจิกดีมั้ยคะ หมดวันหมดแรง...แต่ความสด.ความอร่อย.มาเต็มค่ะ
.
.
.
.
.
.
cr. ภาพหน้าปกจากเวปไซส์ ตัวเองลืมแชะก่อนใส่ปากทุกที
บันทึกความอร่อย "บ้ะจ่าง"
"มาม้า จะเริ่มทำบ้ะจ่างรึยัง นันอยากกินมาก.ก." แม่นันส่งเสียงตามสายไปหาคุณแม่บุญธรรม
"ไม่ต้องมาลากเสียง จะเริ่มทำอาทิตย์หน้าโน่น ตอนนี้ดูรูปไปก่อนละกัน" ดูนางตอบกลับสิ ฮ่าฮ่า
อดเปรี้ยวไว้กินหวาน (เพราะไส้หวานมีไส้โอ่วนี้ด้วย..อร่อยมาก.ก.ก)
มาดูหลังเบื้องหลังความอร่อย..โฮมเมดบ้ะจ่างของครอบครัวมาม้าบุญธรรมกันค่ะ ปีที่แล้วแม่นันยืนช่วยอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นยังทำเอาขาแข็งเลยค่ะ
มาถึงก็เห็นมาม้าถือตะหลิวใหญ่ยักษ์สองคนกับลูกสาวกำลังผัดตัวข้าวเหนียวกันอย่างขมักเขม้น แรกเริ่มก็ผัดกระเทียมก่อน ต่อจากนั้นถึงต่อด้วยข้าวเหนียวและส่วนผสมอื่นๆ ... มาม้าเจ็ดสิบห้าแล้วแต่แรงดีมาก บอกตรงๆว่าแม่นันสู้แรงมาม้าไมไหวค่ะ "มา..นัน..มาผัดแทนมาม้าแป๊บนึง" เป็นไงล่ะค่ะ แค่คิดในใจดังไปหน่อย....ขั้นตอนนี้ถือเป็นหัวใจเลยค่ะ ถ้าผัดไม่ทั่ว ไม่เร็ว มีสิทธิ์ทำให้ข้าวเหนียวจับเป็นก้อน และไหม้ได้ค่ะ ยิ่งทำทีเยอะๆแบบนี้ ต้องใช้สองคนผัดและต้องเข้าขากันด้วยค่ะ
สมัยนี้หายากมากแล้วค่ะที่จะเห็นบรรพบุรุษและลูกหลานยังมารวมตัวกันทำอาหารโบราณแบบนี้กันอยู่ อากิ๋ม (ภรรยาของน้องชายมาม้า) มานอนค้างด้วยตั้งแต่เมื่อคืน เพื่อจะมาช่วยผสมข้าวเหนียว ส่วนอาแฉอึ้ม (คุณแม่ของลูกเขยมาม้า) ยังตรงมาจากอุดร เพื่อมาช่วยห่อโดยเฉพาะ อาแฉอึ้มห่อไวมากค่ะ นอกนั้นก็ลูกๆ หลานๆ ผลัดกันมาช่วย หลานคนไหนถึงเวลาเรียนออนไลน์ก็จะขอปลีกตัวไปเรียนก่อน
วันนี้ผัดข้าวเหนียวสามกระทะ ได้ประมาณสามร้อยใบ ใช้เวลาหนึ่งวันเต็มๆ ผู้สูงวัยก็นั่งห่อ ในขณะที่ลูกหลานแบ่งงานกันทำ สองคนช่วยกันแยกใบไผ่ (ต้องแยกใบใหญ และใบเล็กไว้ซ้อนกัน) กว่าจะถึงขั้นตอนนี้ต้องผ่านการล้าง การต้มมาก่อน วันนี้ทำสามร้อยลูก ต้องใช้ใบไผ่ถึงหกร้อยใบ เผื่อเสียอีกต่างหาก ปีนี้มาม้าทำพันสองร้อยลูก ลองคูณเข้าไปค่ะ ....
ลูกหลานอีกสองสามคนนั่งตอกไข่เค็มสามร้อยฟองลงภาชนะ บางคนจะสงสัยนะคะว่าทำไมต้องมานั่งตอกทีละใบ เค้ามีฟรีสขายเป็นถุงละร้อยฟองนี่คะ ตอกทำไมให้เสียเวลา อย่างที่แม่นันเคยเล่าให้ฟังไงคะว่า ตราบใดที่บรรพบุรุษดั้งเดิมทำเอง จะไม่ยอมซื้อวัตถุดิบสำเร็จรูปเด็ดขาดถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ถ้าได้ไข่ที่ดองแล้วมาตอกเองแบบนี้ จะได้ไข่ที่สด ทำออกมาจะอร่อยกว่าค่ะ
โต๊ะหนึ่งกำลังห่อไส้เค็ม อีกโต๊ะหนึ่งห่อไส้หวาน หน้าที่อื่นก็แบ่งๆกันไป แต่แม่นันแอบเห็นอากิ๋มก้มๆเงยๆ คอยเก็บคอยทำความสะอาดนู่นนี่ตลอด ทั้งๆที่ตัวเองเพิ่งเสร็จจากการผสมข้าวเหนียวไปสามกะละมังใหญ่ๆ นี่ล่ะค่ะเค้าถึงว่าคนแก่อยู่เฉยไม่เป็น ลูกหลานรึเป็นห่วงกลัวจะลื่นล้ม ห้ามไปก็เท่านั้นค่ะ พวกเราคอยเช็ดถูพื้นไม่ให้ลื่นจะดีกว่า ส่วนมาม้านั่งนานไม่ได้ ลุกขึ้นยืนแต่ละครั้งขาจะชาสั่นอยู่นานเลยค่ะ ลูกๆต้องช่วยกันจับคนละข้าง
ห่อเสร็จต้องนำมานึ่งอีกชั่วโมงเศษ ลังถึงทั้งใหญ่ทั้งหนัก แถมฝาก็สูงปรี้ด ถ้าไม่ได้แรงผู้ชาย..สาวๆคงล้าไปกว่านี้ค่ะ งานนี้ตี๋เล็กจึงเป็นพระเอกไปค่ะ
นึ่งเสร็จใช้ตะขอเกี่ยวมาแขวนผึ่งไว้กับราว รอจนขนมจะเย็นตัวดีค่ะ
เป็นไงคะ จุกจิกดีมั้ยคะ หมดวันหมดแรง...แต่ความสด.ความอร่อย.มาเต็มค่ะ
.
.
.
.
.
.
cr. ภาพหน้าปกจากเวปไซส์ ตัวเองลืมแชะก่อนใส่ปากทุกที