วิมานมายา โดย ศักดา ตอนที่ 10

กระทู้สนทนา
ธนัชขอเล่าบ้าง "ประจวบเหมาะกับตอนนั้น ทางเราโดนกดดันอย่างหนัก
โดยคนในตระกูลเองและผู้ถือหุ้น สาเหตุหลักมาจากความเจ้าชู้ของจักรพันธ์
ทำให้ภาพลักษณ์เสียหายไปมาก" ขณะพูดธนัชยังคงจับมือจักรพันธ์ไว้ตลอด
แต่เขาก็เลือกที่จะเล่าอย่างตรงไปตรงมา

"ตอนนั้นมีหลายคนเสนอทางออกว่าจักรพันธ์ควรแต่งงานเพื่อสยบข่าวลือเรื่องความเจ้าชู้
ช่วงนั้นศรีจิตราติดต่อเข้ามาพอดีเรื่องการตามหาพี่สาวที่หายตัวไป
ตอนที่มาทำงานกับเรา ผมเสนอว่าถ้าจะสืบก็ต้องเข้ามาใกล้ชิดพวกเรา ถ้าอยู่ ๆ แล้ว
เดินเข้ามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย อาจจะโดนหม่อมป้าเล่นงานได้"

หม่อมป้าที่ธนัชอ้างถึงหมายถึงราชนิกูลท่านหนึ่งที่กำลังตกอับ เลยมาแต่งงานกับคุณลุง
เพื่อพยุงฐานะ แต่พอพ่อกับแม่ของสามพี่น้องเกิดตายขึ้นมา
หม่อมป้าก็ดูเหมือนจะเข้ามาบงการทุกสิ่งอย่าง แถมยังบังคับให้จักรพรรดิแต่งงานกับวรรณา
ซึ่งเป็นลูกสาวท่านนายพล หม่อมป้าเอง เมื่อพยุงฐานะของตนเองได้แล้ว 
ก็อยากได้มาซึ่งอำนาจ และกำลังกลายเป็นไฟที่กำลังเผาไหม้ทุกคนในวิลล่าพาเลซ
อย่างไม่ปรานีปราศรัย 

ธนัชเล่าต่อว่า "ตอนนั้นจักรพันธ์ไม่ขัดข้องกับการแต่งงานหลอก ๆ ภายหลังพบว่าจักรพันธ์กับศรีจิตรา
ก็รู้จักกันดี เหมือนจะเป็นเพื่อนสนิทกัน การแต่งงานหลอก ๆ จึงเริ่มดำเนินการตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา"

จักรพันธ์เล่าต่อว่า "และการแต่งงานครั้งนั้นคือสิ่งที่นาถรพีใช้เป็นเครื่องมือในการทำร้ายจิตใจจินตหรา
จนไม่มีชิ้นดี จินตหราคือเป้าหมายแรกของเขา เป้าหมายที่สองก็คือผมเอง นาถรพีนัดผมให้ไปเจอ
เขาเล่าว่าได้ฮุบธุรกิจของจินตหรา แล้วบอกว่าจินตหราตกต่ำมาก ตอนนี้เป็นพนักงานเสริฟที่ร้านแครอล
ตอนผมรู้ ผมรีบวิ่งไปที่นั่น แต่จินตหราตั้งใจหนีผม ไม่ให้ผมพบเจอเธอได้ 
นี่คือสิ่งที่นาถรพีกำลังแก้แค้นผม และเป้าหมายที่ 3 ก็คือคุณ ศรีจิตรา"

จักรพันธ์มองไปที่ศรีจิตรา จักรภพถามว่า "ทำไมต้องเป็นคุณศรีด้วย"
ธนัชช่วยตอบให้ "ก็เพราะนาถรพีเข้าใจว่าจักรพันธ์ก็รักศรีจิตราด้วย 
เขาอยากทำลายทุกคนที่จักรพันธ์รัก มันก็เหมือนเหยี่ยบย่ำหัวใจของจักรพันธ์ให้จมดิน"

จักรพันธ์พูดกับศรีจิตรา "คุณเองต้องระวังตัวให้มากนะ ตอนนี้เราไม่รู้ว่านาถรพีกำลังวางแผนอะไรอยู่"
แล้วก็หันมาพูดกับจักรภพ "พี่ฝากศรีจิตราให้นายดูแลด้วยนะ"
"ครับผม" จักรภพรับคำ

ธนัชกล่าวว่า "งั้นฉันกับคุณศรีจะไปคุยกันที่ห้องตรงโน้นสักครู่นะ พวกนายอาจมีเรื่องต้องคุยกัน"

พอธนัชกับศรีจิตราออกจากห้องไป จักรพันธ์ก็เขยิบเก้าอี้มาใกล้จักรพรรดิ
"เมื่อวานพี่ไม่ลืมนะว่าเป็นวันเกิดนาย นี่ของขวัญวันเกิดจากพี่นะ สุขสันต์วันเกิดนะไอ้น้องชาย"
"ขอบคุณมากครับ" จักรพรรดิแกะกล่องออกดู ก็พบว่ามันเป็นนาฬิกาที่ทำจากไม้ทั้งเรือน
"พี่ทำเองกับมือนะเพื่อน้องชายสุดที่รัก" จักรพรรดิโผเข้ากอดพี่ชายอย่างอบอุ่น

"ผมเองก็มีของขวัญให้พี่นะครับ" จักรพรรดิหันมาทางเสียงของจักรภพ
เขายื่นกล่องของขวัญให้ "สุขสันต์วันเกิดครับพี่" 
"ขอบใจมากไอ้ภพ" พอแกะกล่องดูก็พบว่ามันคือเนคไทที่ทำด้วยไม้
"ขอบใจมากนะไอ้น้องชาย" จักพรรดิโผเข้ากอดจักรภพ

ในวิลล่าพาเลซจะมีโรงไม้ขนาดย่อมอยู่ คนที่ชอบใช้บริการก็มีธนัช จักรพันธ์และจักรภพ
ทั้งสามชอบทำงานไม้มาก

จักรพันธ์กล่าวขึ้น "พวกเราต้องหาโอกาสไปเดินป่าด้วยกันอีกนะ ไปผจญภัยด้วยกัน สนุกดี"
ทั้งจักรพรรดิและจักรภพต่างเห็นด้วย 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
หลังจากนั้นจักรภพได้พาศรีจิตราไปที่เพดานดาว
พอไปถึง จักรภพก็เสริฟของว่างเลย ทั้งคู่คุยกันไปกินกันไปอย่างเอร็ดอร่อย
"คุณกังวลเรื่องที่พี่พันธ์เล่าไหมครับ"
"ก็มีบ้างค่ะ แต่คิดว่าพอรับมือได้"
ทั้งคู่ยังคุยเรื่องสัพเพเหระอีกหลายเรื่อง จนจักรภพชวนศรีจิตราไปดูหนังสือในห้องนอน

ห้องนอนหนุ่มโสดของเขาอยู่หลังครัวรับแขกพอดี มันเป็นห้องนอนที่เรียบง่ายมาก
มีเตียงไม้ที่เรียบง่ายอยู่ตรงกลาง ผนังห้อง 4 ด้านคือตู้หนังสือที่มีหนังสืออยู่เต็มตู้
ปลายเตียงมีโต๊ะญี่ปุ่นอยู่ 1 ตัว มุมหนึ่งมีตู้เย็นเล้ก ๆ อยู่ 1 ตู้

จักรภพนั่งรอที่พื้นตรงโต๊ะญี่ปุ่น ส่วนศรีจิตราเดินดูหนังสืออยู่รอบ ๆ 
เธอหยิบมาสองสามเล่ม "ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือศิลปะ ประวัติศาสตร์ แล้วก็ปรัชญานะคะ"
"ครับ ผมวางแผนไว้ว่าหลังจากจบตรีทางศิลปะ ก็จะต่อโททางประวัติศาสตร์
แล้วก็อยากเรียนเอกทางปรัชญาครับ" ทั้งคู่คุยกันอีกนานมากจนเย็นย่ำ

จักรภพขอตัวไปทำอาหารเย็นข้างนอก ศรีจิตราก็อ่านหนังสือประวัติศาสตร์เล่มหนึ่งไปพลาง

จนได้เวลา เขาก็เอาอาหารเย็นมาเสริฟด้านใน มีสเต็ก ซุป แล้วก็สลัด
ทั้งสองคุยกันไปกินกันไป ศรีจิตราแอบเห็นอะไรบางอย่างตรงมุมตู้
จึงถามขึ้น "นั่นคืออะไรคะ"

จักรภพเดินไปหยิบมาให้ดูใกล้ ๆ มันเป็นแผนภาพขนาดใหญ่พอควร
แต่ไม่ถึงกับใหญ่มาก
"นี่เป็นแผนที่ของวิลล่าพาเลซครับ พ่อกับแม่ตั้งใจให้พวกเราอยู่กันที่ตึกใหญ่แห่งเดียว
ส่วนตึกอื่นอีก 13 ตึก ท่านจะทำเป็นบ้านเด็กกำพร้า ศูนย์ดูแลผู้ยากไร้ 
และก็ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแบบบริการฟรีทุกอย่างครับ

แต่พอท่านทั้งสองเสียชีวิต ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป หม่อมป้าเข้ามาควบคุมทุกอย่าง
เท่าที่จะทำได้ มีญาติห่าง ๆ เข้ามาอยู่กันมากขึ้น 
และทุกคนขอมีส่วนร่วมในเงินกองกลาง ผมไม่ชอบบรรยากาศแบบนั้น
ก็เลยย้ายมาอยู่ที่เพดานดาว"

"อ้อ อย่างนี้นี่เอง"

"ผมอยากทำให้มันเป็นแบบที่พ่อกับแม่คิดฝันไว้ แต่ยังหาหนทางไม่ได้"
"ใจเย็น ๆ ค่ะ บางเรื่องมันต้องค่อยเป็นค่อยไปนะคะ"
"รวมถึงเรื่องของเราด้วยรึเปล่าครับ"
ประโยคนั้นทำให้ศรีจิตราอึ้งไปชั่วขณะ

จักรภพยังรุกต่อ "คุณก็รู้ว่าตอนนี้เรารู้สึกยังไงต่อกัน"
ศรีจิตรายังคงนิ่งอยู่

จักรภพจ้องมองไปที่นัยน์ตาของศรีจิตรา
"ผมรักคุณนะครับ คุณก็รู้"
ศรีจิตราไม่รู้ว่าจะตอบว่าอย่างไร
"ถ้าคุณยังไม่อยากพูดอะไรออกมา แค่พยักหน้าก็พอครับ คุณรักผมบ้างไหม"
ศรีจิตราคิดอยู่สักพักก่อนที่จะพยักหน้ารับอย่างเขินอาย

จักรภพยิ้มอย่างมีความสุข "ผมมีของจะให้คุณนะครับ"
เขาลุกขึ้นไปหยิบของอย่างมีความสุข แล้วกลับมานั่งที่เดิม ส่งกล่อง ๆ หนึ่งให้ศรีจิตรา
"เปิดดูสิครับว่าคุณชอบไหม"

ศรีจิตราเปิดออกดูจึงพบว่ามันเป็นสร้อยข้อมือพลอยสีฟ้า
"สวยจังค่ะ"
"ผมร้อยเองกับมือเลยนะครับ แล้วก็คัดเลือกพลอยเองกับมือเลยนะครับ"
"จริงเหรอคะ แมน ๆ อย่างคุณเนี่ยนะ จะทำของแบบนี้ได้"
"ทำได้ครับ ทำให้คุณไงครับ ทำให้คุณคนเดียว มาครับ เดี๋ยวผมใส่ให้นะครับ"

จักรภพใส่สร้อยข้อมือพลอยสีฟ้าให้กับศรีจิตรา 
พอใส่เสร็จ เขาก็จ้องมองตาเธอ "นึกว่าเป็นของหมั้นแล้วกันนะครับ"
แล้วบรรจงจูบอย่างแผ่วเบาลงบนมือของเธอ

ศรีจิตราใจเต้นไม่เป็นส่ำ พอดีกับไฟที่ระเบียงดาวติดขึ้นมา
"ข้างนอกห้องคุณตรงนั้นคืออะไรคะ"
"ระเบียงดาวครับ ออกมาดูด้วยกันสิครับ"
พอศรีจิตราเดินออกไปตรงนั้น จึงพบระเบียงไม้แสนงดงาม 
จักรภพปลูกดอกไม้ไว้จนเต็ม ประดับไฟงดงาม 

ระเบียงนี้ใช้ชมดาวตกจากยอดผาได้ และยังชมดาวนับพันบนท้องฟ้าได้อีกด้วย
"สวยจังค่ะ วิวตรงนี้สวยมากเลยนะคะ"
ขณะที่ศรีจิตรากำลังยืนตื่นเต้นอยู่นั้น จักรภพได้โอบกอดเธอจากทางด้านหลัง
เขากระซิบที่ข้างหู "ขออนุญาตนะครับ ยอดรักของผม"

ศรีจิตราอธิบายความรู้สึกของตัวเองไม่ถูก เมื่ออยู่ในอ้อมกอดของจักรภพ
เธอสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งและความอบอุ่นไปพร้อม ๆ กัน 
เธอเอาศีรษะพิงที่อกเขาแล้วหลับตา เธอรู้สึกว่ามันเป็นสถานที่ ๆ ปลอดภัยและอบอุ่น
จักรภพจูบอย่างแผ่วเบาที่ศีรษะของเธอ

ศรีจิตรารู้สึกว่าเวลาความแข็งแกร่งสัมผัสเธออย่างอ่อนโยน
มันคือความอบอุ่นที่น่าโหยหา มันคืออณูแห่งฝัน
มันคือรุ่งอรุณแห่งรัก มันคือความปรารถนาอันแรงกล้า ทว่าอบอุ่นในหัวใจเหลือเกิน.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เมื่ออารมณ์แห่งรักประจักษ์จิต
ประหวัดคิดถึงรักประจักษ์มั่น
ช่างอบอุ่นละมุนจิตแนบชิดกัน
คือสวรรค์แห่งดาวสกาวเดือน

ลมหายใจแห่งรักมาโอบเอื้อ
เกิดมาเพื่อกันและกันมั่นเสมือน
ความอบอุ่นแห่งหัวใจคอยย้ำเตือน
ประดุจเดือนดาราฟ้าพร่างพราย

อันความรักจากเธอผู้แข็งแกร่ง
ช่างร้อนแรงดุจดังตะวันฉาย
หัวใจฉันเรืองรองก่องกำจาย
มิรู้คลายความอบอุ่นละมุนละไม

รักแห่งแรงแรงแห่งรักประจักษ์สมาน
อบอุ่นดวงมาลย์ตรึงตราจะหาไหน
กายโอบกายด้วยโอบกอดมาจากใจ
เสริมส่งให้รักล้นท้นดวงมาลย์.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่