สามวันต่อมา ขณะที่จักรพรรดิกับวรรณานั่งรับประทานอาหารค่ำอยู่ด้วยกัน
วรรณาก็ทำลายความเงียบขึ้น
"ฉันได้ข่าวว่าเมื่อสามวันก่อน คนในตระกูลนัดประชุมกันเหรอ"
จักรพรรดิได้แต่เงียบ
"แล้วทำไมไม่เรียกฉันด้วย เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอหรือยังไง"
วรรณาเริ่มเกรี้ยวกราดมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่จักรพรรดิยังสงบอยู่
"ฉันไม่รู้ว่าพวกแกคิดอะไรกันอยู่ แต่ฉันไม่ชอบ
ทุกคนเห็นฉันเป็นคนนอก ทั้ง ๆ ที่ฉันก็คือเมียของคุณชายคนรอง"
จักรพรรดิเบื่อมากกับบรรยากาศแบบนี้
"คุณพูดอะไรบ้างสิ เงียบเป็นเป่าสากแบบนี้ มันไม่มีประโยชน์หรอก"
จักรพรรดิก็ยังคงเงียบ วรรณาลุกขึ้น กรีดร้องสุดเสียง
พร้อมกับเอากาแฟอุ่น ๆ สาดใส่หน้าจักรพรรดิ
หลังจากนั้นเธอก็ล้มโต๊ะดินเนอร์อย่างไม่มีชิ้นดี
โมโหถึงขีดสุด แล้วเธอก็เข้าห้องของเธอไป
จักพรรดิทนรับอะไรแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว
เขาลงไปชั้นล่าง นั่งกอดเข่าอยู่ตรงริมระเบียงชั้นล่าง
ซึ่งเป็นมุมอับสายตา เขาคิดมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น
เวลาคิดมากทีไร จักรพรรดิจะมีอาการชักเกร็ง
วันนี้เขาชักจนต้องนอนหงายลงไป แล้วไม่นาน เขาก็แน่นิ่ง
หลังจากนั้นฝนก็เทลงมาไม่หยุด
ไม่มีคนของวิลล่าพาเลซคนไหนเห็นจักรพรรดิเลย
เพราะเขานอนอยู่ในมุมที่อับสายตาจริง ๆ
จนถึงประมาณตีสอง รปภ โด่งเดินมาหาของตรงบริเวณนั้นพอดี
จึงเห็นจักรพรรดิเข้าโดยบังเอิญ
รปภ โด่งรีบแจ้งธนัชโดยด่วน ธนัชเอง พอรู้ข่าวก็รีบวิ่งมาอย่างไม่คิดชีวิต
เขาติดต่อประสานงานกับรถพยาบาล โดยให้รถพยาบาลไปส่งธนัชที่มหาเวหนโดยด่วน
มหาเวหนเป็นโรงพยาบาลที่คนไม่ค่อยรู้จัก ธนัชวางแผนไว้แล้วว่า
เขาจะต้องกันจักพรรดิให้ห่างจากนางมารร้ายคนนี้
เขาจะไม่ยอมปล่อยให้จักรพรรดิต้องตกนรกทั้งเป็นอีก
มหาเวหนเป็นที่หลบซ่อนตัวที่ดีที่สุดในตอนนี้
พอหมอแจ้งว่าจักรพรรดิพ้นขีดอันตรายแล้วและเข้าเยี่ยมได้
ธนัชจึงเข้าไปในห้องพักของจักรพรรดิด้วยความเป็นห่วง
ตอนนั้น จักรพรรดิยังคงนอนอย่างไมไ่ด้สติ ธนัชเดินเข้ามากอดร่างเขาไว้
แล้วก็ร้องไห้ออกมา หลังจากนี้ เขาคงจะต้องเป็นคนที่ดูแลจักรพรรดิเอง
ธนัชแจ้งข่าวให้จักรพันธ์และจักรภพรู้ ไม่นานนักทั้งคู่ก็รีบมา
"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่วะ" จักรพันธ์ถามด้วยความเป็นห่วง
"ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์หรอก แต่วรรณาต้องเป็นสาเหตุแน่ ๆ"
จักรพันธ์กำมัดแน่น
"อย่าห่วงไปเลย ต่อแต่นี้ไป ฉันจะไม่ให้จักรพรรดิต้องตายทั้งเป็นอีก"
"แล้วนายจะทำยังไง" จักรพันธ์ถามด้วยความสงสัย
"ฉันเตรียมแผนไว้หมดแล้ว และเตรียมมาตรการตอบโต้ตั้งแต่เบาไปหาหนัก
รับรองว่าจักรพรรดิจะต้องปลอดภัยแน่ ฉันไม่ยอมให้เขาต้องทุกข์ทรมานอีกแน่นอน"
"แล้วหม่อมป้าละครับ จะจัดการกับแกยังไง ได้ข่าวว่าแกกลับจากอังกฤษแล้ว"
จักรภพถามขึ้นบ้าง
"เรื่องหม่อมป้าก็ต้องตั้งรับไปเรื่อย ๆ จนกว่าฝั่งเราจะได้เปรียบ แต่เชื่อมั่นว่าทางเรารับมือได้แน่"
จักรพันธ์มองหน้าจักรพรรดิด้วยความสงสาร เขาเอามือลูบหน้าผากจักรพรรดิเบา ๆ
ส่วนจักรภพจับมือจักรพรรดิ ซึ่งก็ยังไม่ได้สติ "ต่อไป ผมจะเป็นบอดี้การ์ดให้พี่ครับ
พี่ไม่ต้องห่วง"
จักรพันธ์เดินไปอีกฝั่งหนึ่งของเตียง เขาโอบไหล่จักรภพ
"หลังจากนี้ พวกเราต้องดูแลกันดี ๆ นะไอ้น้องรัก ตอนนี้เราเหลือกันแค่ 3 คนพี่น้องแล้ว
พันธมิตรที่ดีที่สุดของเราตอนนี้ก็เห็นมีแต่ไอ้นัชกับคุณศรีจิตราเท่านั้น"
ไม่นานนัก จักรพรรดิก็ฟื้นคืนสติ เขาดีใจมากที่เห็นจักรพันธ์และจักรภพอยู่ใกล้ ๆ
"แล้วพี่นัชละครับ"
"เขาไปซื้อของ เดี๋ยวมา"
พอธนัชเดินเข้ามาในห้อง เขาดีใจมากที่เห็นจักรพรรดิฟื้นแล้ว
หลังจากนั้น 4 หนุ่มก็ประชุมกันอย่างเคร่งเครียด
ธนัชบอกแผนการทั้งหมดที่อยู่ในหัวของเขา
"เราต้องปิดข่าวเรื่องที่จักรพรรดิมาอยู่ที่มหาเวหน แต่พวกนายจะต้องไปเดินป่ากันที่
ป่าเดือนพันดาว"
ป่าเดือนพันดาวเป็นธุรกิจเอกชน เปิดให้คนมาเดินป่าและต้องผจญกับด่านต่าง ๆ
ที่นี่มีไว้บริการสำหรับพวกที่ชอบลุย ๆ หรืออยากมีกิจกรรมสนุก ๆ กับเพื่อน ๆ
"เป็นแผนแรกที่จะกันตัวจักรพรรดิให้ห่างจากวรรณา แล้วต่อไปก็จะมีแผนที่สองสามสี่ตามมาเรื่อย ๆ"
จักรภพถามขึ้น "แล้วตอนที่พวกเราไม่อยู่ คุณศรีจิตราจะปลอดภัยเหรอ หม่อมป้าก็กลับมาแล้ว"
"ฉันวางแผนทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว ฉันจะให้มือดีของฉันคือนายสหัส
เป็นบอดี้การ์ดให้กับคุณศรีจิตรา และก็จะมีช่วงที่ฉันจะไปสมทบกับพวกนายที่ภูผาเมฆ
ตอนนั้น กำพลจะขึ้นมารักษาการทุกอย่างแทนฉัน ฉันคิดว่าสหัสกับกำพลต้องรับมือ
หม่อมป้ากับวรรณาได้แน่"
"แผนนายดีมากนะไอ้นัช ดีจริง ๆ" จักรพันธ์ชมเพื่อนรักของเขาอย่างออกนอกหน้า
ตอนอยู่ภูผาเมฆ ธนัชก็อยากใกล้ชิดกับจักรพรรดิอีกครั้ง
แผนของเขานั้น กระสุนนัดเดียว ได้นก 7 ตัว
*** จักรพรรดิ คนรักของฉัน คน ๆ นั้นจะต้องเป็นนาย ***
ธนัชได้แต่คิดวนอยู่ในใจ
วิมานมายา โดย ศักดา ตอนที่ 11
วรรณาก็ทำลายความเงียบขึ้น
"ฉันได้ข่าวว่าเมื่อสามวันก่อน คนในตระกูลนัดประชุมกันเหรอ"
จักรพรรดิได้แต่เงียบ
"แล้วทำไมไม่เรียกฉันด้วย เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอหรือยังไง"
วรรณาเริ่มเกรี้ยวกราดมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่จักรพรรดิยังสงบอยู่
"ฉันไม่รู้ว่าพวกแกคิดอะไรกันอยู่ แต่ฉันไม่ชอบ
ทุกคนเห็นฉันเป็นคนนอก ทั้ง ๆ ที่ฉันก็คือเมียของคุณชายคนรอง"
จักรพรรดิเบื่อมากกับบรรยากาศแบบนี้
"คุณพูดอะไรบ้างสิ เงียบเป็นเป่าสากแบบนี้ มันไม่มีประโยชน์หรอก"
จักรพรรดิก็ยังคงเงียบ วรรณาลุกขึ้น กรีดร้องสุดเสียง
พร้อมกับเอากาแฟอุ่น ๆ สาดใส่หน้าจักรพรรดิ
หลังจากนั้นเธอก็ล้มโต๊ะดินเนอร์อย่างไม่มีชิ้นดี
โมโหถึงขีดสุด แล้วเธอก็เข้าห้องของเธอไป
จักพรรดิทนรับอะไรแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว
เขาลงไปชั้นล่าง นั่งกอดเข่าอยู่ตรงริมระเบียงชั้นล่าง
ซึ่งเป็นมุมอับสายตา เขาคิดมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น
เวลาคิดมากทีไร จักรพรรดิจะมีอาการชักเกร็ง
วันนี้เขาชักจนต้องนอนหงายลงไป แล้วไม่นาน เขาก็แน่นิ่ง
หลังจากนั้นฝนก็เทลงมาไม่หยุด
ไม่มีคนของวิลล่าพาเลซคนไหนเห็นจักรพรรดิเลย
เพราะเขานอนอยู่ในมุมที่อับสายตาจริง ๆ
จนถึงประมาณตีสอง รปภ โด่งเดินมาหาของตรงบริเวณนั้นพอดี
จึงเห็นจักรพรรดิเข้าโดยบังเอิญ
รปภ โด่งรีบแจ้งธนัชโดยด่วน ธนัชเอง พอรู้ข่าวก็รีบวิ่งมาอย่างไม่คิดชีวิต
เขาติดต่อประสานงานกับรถพยาบาล โดยให้รถพยาบาลไปส่งธนัชที่มหาเวหนโดยด่วน
มหาเวหนเป็นโรงพยาบาลที่คนไม่ค่อยรู้จัก ธนัชวางแผนไว้แล้วว่า
เขาจะต้องกันจักพรรดิให้ห่างจากนางมารร้ายคนนี้
เขาจะไม่ยอมปล่อยให้จักรพรรดิต้องตกนรกทั้งเป็นอีก
มหาเวหนเป็นที่หลบซ่อนตัวที่ดีที่สุดในตอนนี้
พอหมอแจ้งว่าจักรพรรดิพ้นขีดอันตรายแล้วและเข้าเยี่ยมได้
ธนัชจึงเข้าไปในห้องพักของจักรพรรดิด้วยความเป็นห่วง
ตอนนั้น จักรพรรดิยังคงนอนอย่างไมไ่ด้สติ ธนัชเดินเข้ามากอดร่างเขาไว้
แล้วก็ร้องไห้ออกมา หลังจากนี้ เขาคงจะต้องเป็นคนที่ดูแลจักรพรรดิเอง
ธนัชแจ้งข่าวให้จักรพันธ์และจักรภพรู้ ไม่นานนักทั้งคู่ก็รีบมา
"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่วะ" จักรพันธ์ถามด้วยความเป็นห่วง
"ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์หรอก แต่วรรณาต้องเป็นสาเหตุแน่ ๆ"
จักรพันธ์กำมัดแน่น
"อย่าห่วงไปเลย ต่อแต่นี้ไป ฉันจะไม่ให้จักรพรรดิต้องตายทั้งเป็นอีก"
"แล้วนายจะทำยังไง" จักรพันธ์ถามด้วยความสงสัย
"ฉันเตรียมแผนไว้หมดแล้ว และเตรียมมาตรการตอบโต้ตั้งแต่เบาไปหาหนัก
รับรองว่าจักรพรรดิจะต้องปลอดภัยแน่ ฉันไม่ยอมให้เขาต้องทุกข์ทรมานอีกแน่นอน"
"แล้วหม่อมป้าละครับ จะจัดการกับแกยังไง ได้ข่าวว่าแกกลับจากอังกฤษแล้ว"
จักรภพถามขึ้นบ้าง
"เรื่องหม่อมป้าก็ต้องตั้งรับไปเรื่อย ๆ จนกว่าฝั่งเราจะได้เปรียบ แต่เชื่อมั่นว่าทางเรารับมือได้แน่"
จักรพันธ์มองหน้าจักรพรรดิด้วยความสงสาร เขาเอามือลูบหน้าผากจักรพรรดิเบา ๆ
ส่วนจักรภพจับมือจักรพรรดิ ซึ่งก็ยังไม่ได้สติ "ต่อไป ผมจะเป็นบอดี้การ์ดให้พี่ครับ
พี่ไม่ต้องห่วง"
จักรพันธ์เดินไปอีกฝั่งหนึ่งของเตียง เขาโอบไหล่จักรภพ
"หลังจากนี้ พวกเราต้องดูแลกันดี ๆ นะไอ้น้องรัก ตอนนี้เราเหลือกันแค่ 3 คนพี่น้องแล้ว
พันธมิตรที่ดีที่สุดของเราตอนนี้ก็เห็นมีแต่ไอ้นัชกับคุณศรีจิตราเท่านั้น"
ไม่นานนัก จักรพรรดิก็ฟื้นคืนสติ เขาดีใจมากที่เห็นจักรพันธ์และจักรภพอยู่ใกล้ ๆ
"แล้วพี่นัชละครับ"
"เขาไปซื้อของ เดี๋ยวมา"
พอธนัชเดินเข้ามาในห้อง เขาดีใจมากที่เห็นจักรพรรดิฟื้นแล้ว
หลังจากนั้น 4 หนุ่มก็ประชุมกันอย่างเคร่งเครียด
ธนัชบอกแผนการทั้งหมดที่อยู่ในหัวของเขา
"เราต้องปิดข่าวเรื่องที่จักรพรรดิมาอยู่ที่มหาเวหน แต่พวกนายจะต้องไปเดินป่ากันที่
ป่าเดือนพันดาว"
ป่าเดือนพันดาวเป็นธุรกิจเอกชน เปิดให้คนมาเดินป่าและต้องผจญกับด่านต่าง ๆ
ที่นี่มีไว้บริการสำหรับพวกที่ชอบลุย ๆ หรืออยากมีกิจกรรมสนุก ๆ กับเพื่อน ๆ
"เป็นแผนแรกที่จะกันตัวจักรพรรดิให้ห่างจากวรรณา แล้วต่อไปก็จะมีแผนที่สองสามสี่ตามมาเรื่อย ๆ"
จักรภพถามขึ้น "แล้วตอนที่พวกเราไม่อยู่ คุณศรีจิตราจะปลอดภัยเหรอ หม่อมป้าก็กลับมาแล้ว"
"ฉันวางแผนทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว ฉันจะให้มือดีของฉันคือนายสหัส
เป็นบอดี้การ์ดให้กับคุณศรีจิตรา และก็จะมีช่วงที่ฉันจะไปสมทบกับพวกนายที่ภูผาเมฆ
ตอนนั้น กำพลจะขึ้นมารักษาการทุกอย่างแทนฉัน ฉันคิดว่าสหัสกับกำพลต้องรับมือ
หม่อมป้ากับวรรณาได้แน่"
"แผนนายดีมากนะไอ้นัช ดีจริง ๆ" จักรพันธ์ชมเพื่อนรักของเขาอย่างออกนอกหน้า
ตอนอยู่ภูผาเมฆ ธนัชก็อยากใกล้ชิดกับจักรพรรดิอีกครั้ง
แผนของเขานั้น กระสุนนัดเดียว ได้นก 7 ตัว
*** จักรพรรดิ คนรักของฉัน คน ๆ นั้นจะต้องเป็นนาย ***
ธนัชได้แต่คิดวนอยู่ในใจ