ขอเล่ารายละเอียดก่อนนะครับ ผมอายุ 20 เคยมีเเฟนมาแล้วสองคน คนเเรกตอนม.2-ม.5 ( 3ปี โดยประมาณ ) คนหลังกำลังคบอยู่ ณ ปัจจุบัน (คุย 8 เดือน ตอนนี้คบได้ 4 เดือนแล้ว) ผมเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูงมาก ๆ ถ้าวัดเป็นเปอเซนต์น่าจะสัก 90+% ผมสามารถอยู่ที่บ้านคนเดียวได้ ดูซีรีย์ เล่นเกม อ่านนิยาย กิจกรรมพวกนี้มันทำให้ผมสนุกได้ ผมนิยามตัวเองว่าเป็น introvert ก็ได้ เพราะผมจะชาตพลังงานตอนที่อยู่คนดียว(เป็นส่วนใหญ่) และรู้สึกเสียพลังงานเมื่ออยู่ท่ามกลางผู้คน แต่ผมก็เปน introvert ที่เข้าสังคมได้ บางคนที่ไม่ได้รู้จักผมจริง ๆ จะมองว่าผมเป็น extrovert เพราะผมกล้าแสดงออกและเฟรนลี่พอสมควร
ทุกท่านอาจจะสงสัยมันก็ปกติ ปัญหามันคืออะไร ? ด้วยการที่ผมเป็นแบบนี้มันทำให้ผมชอบการอยู่คนเดียว ชอบการนั่งคิดตกผลึก จนบางตครั้งมันมีผลต่อความสัมพันธ์ในหลาย ๆ แง่มุม เเฟนก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมกล้าผู้เลยว่าผมอยู่ได้โดยที่ไม่มีแฟน คงมีคนถามเเล้วปัญหาคืออะไร ทำไมไม่อยู่เป็นโสดไปเลย ? ด้วยความที่ผมชอบการศึกษาตัวเอง ชอบศึกษาคนอื่น เช่น ตัวเองเป็นคนยังไง ถ้าเราเจอกับคนแบบนี้เราจะเปลี่ยนไปเป็นยังไง เราจะรับมือกับความสัมพันธ์ได้หรือเปล่า หรือจะกล่าวอีกนับหนึ่งก็คือ เก็บประสบการณ์ชีวิตนั่นเอง
สถานการณ์ตอนคบ
เเฟนคนที่ 1 (puppy love)
ผมมีเป็นคนมีเหตุผลมาก ๆ ถ้าทะเลาะกันขอเเค่คุยบอกเหตุผลมา ผมหายได้ในทันที และจะไม่หลงเหลือความรู้สึกไม่ดีเลย (ตลอดที่คบกับเเฟนมา ผมไม่เคยมีการโกรธ งอล หวง หึง ใดๆ เลย) แต่มันก็จะมีการทะเลาะกันเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ปันหาก็เปนที่ตัวผมเอง ผมไม่ค่อยมีเวลาให้เขา เช่น ไม่ได้ตอบเเชทนาน หายไปครึ่งวัน หายไปวันหนึ่ง ไอจีก็ไม่ค่อยเล่น (ส่วนมากก็คือจะอยู่กับตัวเอง) เเฟนก็งอล จนเลิกไปทั้งหมด 11 ครั้ง เลิกนี่หมายถึงเขาเป็นคนบอกเลิกผม แต่ด้วยความที่ถึงผมจะเป็นแบบนี้ แต่ผมก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง เเฟนก็จะกลับมาคืนดีด้วยตลอด บางครั้งผมก็ง้อบ้าง เเฟนก็กลับมาเองบ้าง (11 ครั้งไม่ใช่เพราะ เรื่องผมไม่มีเวลาให้อย่างเดียวนะ แต่มีเรื่องอื่นๆด้วย) จนครั้งที่ 12 เขาบอกเลิกผมด้วยเหตุผลที่ผมรับไม่ได้จริงๆ ผมเลยไม่ขอกลับไปอีก ถึงแม้เเฟนจะเป็นคนขอกลับมาเองก็ตาม ลึกๆในใจผมสงสัยตัวเองว่าทำไมเราดูไม่ค่อยสนใจเลย คือผมไม่ได้ไม่สนใจเพราะหมดโปร หรือเบื่ออะไรอย่างนั้น แต่มันแค่เป็นตัวผมเอง ผมเลยคิดว่าหรือตัวเองแค่อยากลองคบ ยังไม่ได้รัก แต่กคบกันมาจน 3 ปีเนี่ยนะ ? แล้วถ้าเขาไม่บอกเลิกด้ยเหตุผลงี่เง่า ผมก็ยังคงคบต่อ
เเฟนคนที่ 2 (learn how to love)
เราพอรู้จากประสบการณ์ที่ได้จากคนแรกเเล้วว่า จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และเราต้องปรับปรุงตัวตรงไหน ตอนไปจีบ ด้วยความที่เป็นคน real มาก ๆ มีไรขอให้พูดตรง ๆ ผมบอกเขาเลยว่า ผมเป็นแบบนี้นะ ก็คือ เป็นคนโลกส่วนตัวสูงมากๆ ถ้าคุณอยากคุยต่อ ขอให้รู้ไว้เลยว่าคุณจะเจอปัญาหานี่แน่ ๆ ผมบอกไปเลยว่าถ้าคุณจะมาหาคนโทรคุยด้วยทุกวันเชิญไปหาที่อื่น ผมทำให้ไม่ได้ ผมบอกไปอีกว่าความรักไม่ใช่เกม ถ้าอยากมาเอาชนะผมด้วยการมาควบคุมผมก็เชิญไปทางอื่น ผม list ปัญหาทั้งหมดที่เขาอาจจะเจอถ้าจะไปต่อ แต่จากประสบการณ์ครั้งที่แล้วเรารู้ว่าความรักมันมีทั้งให้ ทั้งรับ เราไม่สามารถให้ใครปรับตัวเข้าหาเราได้ตลอดอยู่แล้ว ผมเลยบอกว่าถึงผมจะเป็นแบบนี้ แต่ผมจะปรับตัวเข้าหาคุณด้วย เช่นพวก ไปอยู่กับเขามากขึ้น คุยมากขึ้น ตอบแชทเร็วขึ้น ซึ่งผมก็ทำตามที่พูดไว้ ตั้งแต่วันแรกที่คุยกันผมไม่เคยให้โปรโมชั่นกับเขาเลย ผมเป็้นยังไงผมก็แสดงออกให้เขาเห็นแบบนั้น ไม่มีการตอบเร็ว 3 เดือนแรกหรืออะไรทำนองนั้น สิ่งนี้มันทำให้ทำรู้สึกเป็นตัวเอง ไม่ฝืน และยังรู้สึกว่ามันจะไปได้สวยอีกด้วย แต่ประเด็นคือ ณ ตอนนั้นคือตอนเปิดเทอมซึ่งเราก็ไปมาหาสู่กันปกติ แต่ตอนปิดเทอมผมเริ่มกลับเขาสู่โหมดของตัวเอง เริ่มไม่ค่อยตอบ บางทีก็จะหาข้ออ้างในการอยู่คนเดียวบ้าง เช่น เราทำงานอยู่ เราทำนู่นนี่อยู่ ทั้งๆที่เราแค่อยากทำกิจกรรมของเรา รู้สึกว่าเราไม่มีเเฟนเลยก็ยังได้ ซึ่งผมรู้ว่าไอความรู้สึกอันนี้มันดูเอาแต่ใจเกินไป อารมณ์เหมือนก็อยากอยู่คนเดียวอะ ทำนองนั้น แต่ผมแค่ไม่กล้าบอกเขาว่าเพราะจะไปดูซีรีย์ ไปเล่นกม มีครั้งหนึ่งเขาถามเราว่าไม่คิดถึงเขาเหรอ ผมอยากตอบว่า ใช่ ในทีนี้หมายถึง ผมก็หาอะไรทำของผม จะบอกว่าผมคิดถึงเขาตอนนั้นก็ไม่ใช่ แต่ผมก็แค่หาข้อเเก้ตัวเเล้วตอบอย่างอื่นไป ผมเริ่มรู้สึกว่า ทำไมความรู้สึกนี้มันกลับมา การสงสัยในตัวเองว่าเรารักคนๆ นี้จริงๆเหรอ ทั้งๆที่เขาก็ดี ยอมรับเราได้ แต่ทำไมเราก็ยังดูสนใจแต่ตัวเอง แชทก็ไม่ค่อยตอบ โทรก็ไม่ค่อยได้โทร
---ยังมีรายละเอียดมีมาก ถ้าอยากรู้เพิ่มถามไว้ได้เลยนะครับ--
มีใครเคยเป็นแบบผมไหม ผมเป็นแบบนี่ถือว่าผมแปลกไหม เราผิดไหมที่จะรู้สึกแบบนี้ เพื่อนๆช่วยเเชร์ประสบการณ์กันหน่อยครับ
รู้สึกว่าตัวเองไม่เคยรักใครจริง ๆ เลย เราแค่คิดไปเองหรือเปล่า ?
ทุกท่านอาจจะสงสัยมันก็ปกติ ปัญหามันคืออะไร ? ด้วยการที่ผมเป็นแบบนี้มันทำให้ผมชอบการอยู่คนเดียว ชอบการนั่งคิดตกผลึก จนบางตครั้งมันมีผลต่อความสัมพันธ์ในหลาย ๆ แง่มุม เเฟนก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมกล้าผู้เลยว่าผมอยู่ได้โดยที่ไม่มีแฟน คงมีคนถามเเล้วปัญหาคืออะไร ทำไมไม่อยู่เป็นโสดไปเลย ? ด้วยความที่ผมชอบการศึกษาตัวเอง ชอบศึกษาคนอื่น เช่น ตัวเองเป็นคนยังไง ถ้าเราเจอกับคนแบบนี้เราจะเปลี่ยนไปเป็นยังไง เราจะรับมือกับความสัมพันธ์ได้หรือเปล่า หรือจะกล่าวอีกนับหนึ่งก็คือ เก็บประสบการณ์ชีวิตนั่นเอง
สถานการณ์ตอนคบ
เเฟนคนที่ 1 (puppy love)
ผมมีเป็นคนมีเหตุผลมาก ๆ ถ้าทะเลาะกันขอเเค่คุยบอกเหตุผลมา ผมหายได้ในทันที และจะไม่หลงเหลือความรู้สึกไม่ดีเลย (ตลอดที่คบกับเเฟนมา ผมไม่เคยมีการโกรธ งอล หวง หึง ใดๆ เลย) แต่มันก็จะมีการทะเลาะกันเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ปันหาก็เปนที่ตัวผมเอง ผมไม่ค่อยมีเวลาให้เขา เช่น ไม่ได้ตอบเเชทนาน หายไปครึ่งวัน หายไปวันหนึ่ง ไอจีก็ไม่ค่อยเล่น (ส่วนมากก็คือจะอยู่กับตัวเอง) เเฟนก็งอล จนเลิกไปทั้งหมด 11 ครั้ง เลิกนี่หมายถึงเขาเป็นคนบอกเลิกผม แต่ด้วยความที่ถึงผมจะเป็นแบบนี้ แต่ผมก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง เเฟนก็จะกลับมาคืนดีด้วยตลอด บางครั้งผมก็ง้อบ้าง เเฟนก็กลับมาเองบ้าง (11 ครั้งไม่ใช่เพราะ เรื่องผมไม่มีเวลาให้อย่างเดียวนะ แต่มีเรื่องอื่นๆด้วย) จนครั้งที่ 12 เขาบอกเลิกผมด้วยเหตุผลที่ผมรับไม่ได้จริงๆ ผมเลยไม่ขอกลับไปอีก ถึงแม้เเฟนจะเป็นคนขอกลับมาเองก็ตาม ลึกๆในใจผมสงสัยตัวเองว่าทำไมเราดูไม่ค่อยสนใจเลย คือผมไม่ได้ไม่สนใจเพราะหมดโปร หรือเบื่ออะไรอย่างนั้น แต่มันแค่เป็นตัวผมเอง ผมเลยคิดว่าหรือตัวเองแค่อยากลองคบ ยังไม่ได้รัก แต่กคบกันมาจน 3 ปีเนี่ยนะ ? แล้วถ้าเขาไม่บอกเลิกด้ยเหตุผลงี่เง่า ผมก็ยังคงคบต่อ
เเฟนคนที่ 2 (learn how to love)
เราพอรู้จากประสบการณ์ที่ได้จากคนแรกเเล้วว่า จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และเราต้องปรับปรุงตัวตรงไหน ตอนไปจีบ ด้วยความที่เป็นคน real มาก ๆ มีไรขอให้พูดตรง ๆ ผมบอกเขาเลยว่า ผมเป็นแบบนี้นะ ก็คือ เป็นคนโลกส่วนตัวสูงมากๆ ถ้าคุณอยากคุยต่อ ขอให้รู้ไว้เลยว่าคุณจะเจอปัญาหานี่แน่ ๆ ผมบอกไปเลยว่าถ้าคุณจะมาหาคนโทรคุยด้วยทุกวันเชิญไปหาที่อื่น ผมทำให้ไม่ได้ ผมบอกไปอีกว่าความรักไม่ใช่เกม ถ้าอยากมาเอาชนะผมด้วยการมาควบคุมผมก็เชิญไปทางอื่น ผม list ปัญหาทั้งหมดที่เขาอาจจะเจอถ้าจะไปต่อ แต่จากประสบการณ์ครั้งที่แล้วเรารู้ว่าความรักมันมีทั้งให้ ทั้งรับ เราไม่สามารถให้ใครปรับตัวเข้าหาเราได้ตลอดอยู่แล้ว ผมเลยบอกว่าถึงผมจะเป็นแบบนี้ แต่ผมจะปรับตัวเข้าหาคุณด้วย เช่นพวก ไปอยู่กับเขามากขึ้น คุยมากขึ้น ตอบแชทเร็วขึ้น ซึ่งผมก็ทำตามที่พูดไว้ ตั้งแต่วันแรกที่คุยกันผมไม่เคยให้โปรโมชั่นกับเขาเลย ผมเป็้นยังไงผมก็แสดงออกให้เขาเห็นแบบนั้น ไม่มีการตอบเร็ว 3 เดือนแรกหรืออะไรทำนองนั้น สิ่งนี้มันทำให้ทำรู้สึกเป็นตัวเอง ไม่ฝืน และยังรู้สึกว่ามันจะไปได้สวยอีกด้วย แต่ประเด็นคือ ณ ตอนนั้นคือตอนเปิดเทอมซึ่งเราก็ไปมาหาสู่กันปกติ แต่ตอนปิดเทอมผมเริ่มกลับเขาสู่โหมดของตัวเอง เริ่มไม่ค่อยตอบ บางทีก็จะหาข้ออ้างในการอยู่คนเดียวบ้าง เช่น เราทำงานอยู่ เราทำนู่นนี่อยู่ ทั้งๆที่เราแค่อยากทำกิจกรรมของเรา รู้สึกว่าเราไม่มีเเฟนเลยก็ยังได้ ซึ่งผมรู้ว่าไอความรู้สึกอันนี้มันดูเอาแต่ใจเกินไป อารมณ์เหมือนก็อยากอยู่คนเดียวอะ ทำนองนั้น แต่ผมแค่ไม่กล้าบอกเขาว่าเพราะจะไปดูซีรีย์ ไปเล่นกม มีครั้งหนึ่งเขาถามเราว่าไม่คิดถึงเขาเหรอ ผมอยากตอบว่า ใช่ ในทีนี้หมายถึง ผมก็หาอะไรทำของผม จะบอกว่าผมคิดถึงเขาตอนนั้นก็ไม่ใช่ แต่ผมก็แค่หาข้อเเก้ตัวเเล้วตอบอย่างอื่นไป ผมเริ่มรู้สึกว่า ทำไมความรู้สึกนี้มันกลับมา การสงสัยในตัวเองว่าเรารักคนๆ นี้จริงๆเหรอ ทั้งๆที่เขาก็ดี ยอมรับเราได้ แต่ทำไมเราก็ยังดูสนใจแต่ตัวเอง แชทก็ไม่ค่อยตอบ โทรก็ไม่ค่อยได้โทร
---ยังมีรายละเอียดมีมาก ถ้าอยากรู้เพิ่มถามไว้ได้เลยนะครับ--
มีใครเคยเป็นแบบผมไหม ผมเป็นแบบนี่ถือว่าผมแปลกไหม เราผิดไหมที่จะรู้สึกแบบนี้ เพื่อนๆช่วยเเชร์ประสบการณ์กันหน่อยครับ