เป็น ผช อายุ 46 ปี สัมภาษณ์ผ่านซูม เขียนโปรไฟล์มาสวยมาก
- จบวิศวฯ
- ทำงานมาแต่กับบริษัทญี่ปุ่น ในนิคมทั้งระยองและชลบุรี
- ใช้ภาษาอังกฤษ และ ญป ได้ เพราะบอกว่า บริษัท เก่าเคยส่งไปทำงานที่นั่น ประมาณ 3 ปี
- เป็น ผจก จัดซื้อมาตลอด
- งานสุดท้ายก่อนมาที่นี่ อยู่บริษัทคนไทย ขายอะไหล่รถยนต์ ระบบครอบครัว ทำมาได้ ครบ 1 ปี ประมาณ กพ 66 นี้เอง เหตุผลที่อยากออก เพราะ ตอนไปสมัคร ผจก HR บอกว่าพ้นโปรจะให้เงินเพิ่ม แต่ HR Mgr มาลาออกไปก่อนเค้าพ้นโปรฯ พอพ้นโปร เจ้าของไม่ขึ้นให้บอกไม่รู้เรื่อง เลยรับไม่ได้
- ไม่มีครอบครัว
ในช่วง 50 วันที่เจอ คือ ขาดภาวะผู้นำ / การตัดสินใจช้า / ไม่รู้จักแก้ไข ปห เฉพาะหน้า / ไม่ละเอียด ไม่รอบคอบ
- พนง ในฝ่าย ลาป่วย ที่บริษัทเป็นการลาแบบ ออนไลน์ ผจก ถามในไลน์กลุ่มว่า เป็นอะไรป่วย (ท้องเสียค่ะ) ทำไมถึงป่วย ไปทำอะไรมา (พนง สาธยายอย่างระเอียด) ตรงนี้เราอ่านแล้วรู้สึกไม่สบายใจ เพราะโดยส่วนตัว ลูกน้องลาอะไรก็ตาม ที่อยู่ในสิทธิ์ที่เขาจะลาได้ เราไม่เคยเข้าไปซักถามวุ่นวาย เพราะลูกน้องทุกคนอายุงานเกิน 10 ปี และเมื่อลางาน หากมีงานสำคัญอะไร เขาจะบอกฝากงานกันเรียบร้อย ไม่เคยมี ปห
เรานิ่งๆ ไม่พูดอะไร พออีกวัน ลูกน้องอีกคน ลากิจฉุกเฉิน ต้องรีบกลับไปรับและพาแม่ไปหาหมอ / คุณ ผจก ก็ซักไซ้อีก ทำไมต้องลากิจฉุกเฉิน เพราะอะไร จะลาไปทำอะไร (ลูกน้องคนนี้ตอบไปว่า ลากิจ ไปทำกิจธุระส่วนตัวค่ะ) คุณ ผจก ถามต่อ ธุระอะไร (ลูกน้องตอบไปว่า ธุระส่วนตัวค่ะ) เค้าจึงหยุดถาม
วันถัดมา มี พนง ฝ่ายอื่นมาติดต่องานที่จัดซื้อ ก็พูดแซวเราว่า เนี่ย น้อง A อยากจะลาพักร้อน ไม่กล้าลาเลยพี่ เขากลัวพี่จะไม่ให้ลา ถ้าไม่ร้อนจริงๆ / เรารู้สึกไม่ OK แล้ว ถึงขนาดคนฝ่ายอื่น พูดแซะแบบนี้ เพราะวัฒนธรรมที่นี่ไม่มีแบบนี้ ทุกคนมีสิทธิ์ใช้สิทธิ์ที่ตนเองได้รับ ตราบใดที่ยังไม่ใช้เกิน ก็ไม่มี ปห / ถึงใช้เกิน ทาง HR ก็จะจัดการตักเตือนกันไป
เราจึงเรียก คุณ ผจก คุยส่วนตัว บอกว่า อย่าซักไซ้ ลูกน้องในเรื่องการลาแบบนี้ เพราะวัฒนธรรมที่นี่ เค้าไม่ทำกัน ตราบใดที่เค้าไม่ได้ละเมิดสิทธิ์ใคร เค้าใช้สิทธิ์ของเค้า คุณมีสถานะเป็น หน แต่ไม่ได้หมายความว่า จะทำแบบนี้ได้ และถ้าเค้าใช้สิทธิ์ เกินจากสิทธิ์ที่ได้ วันนั้นค่อยซักว่ามี ปห อะไร / เราถามเหตุผลทำไมทำแบบนี้ เค้าบอกต้องการโชว์พาว และโชว์ให้เราเห็นว่า เค้าเอาใจใส่ลูกน้องไม่อยากให้งานมี ปห
- ในเรื่องของการไม่มีภาวะผู้นำ ไม่เตรียมพร้อม / ได้มีการจัดการประชุม Supplier ผ่านซูม บอกให้เค้าร่างคำกล่าวเปิดงานให้ ผอ คนไทย ด้วย สั่งล่วงหน้า 2-3 สัปดาห์ ลูกน้องก็คอยเตือนว่าอย่าลืมเขียน เค้ามาเขียนเอาในวันก่อนประชุม 1 วัน !
ในวันประชุม มีตอน 14.00 น เราเห็น เค้าเดินไปคุยกับ ผอ ชาวต่างชาติอีกคนตอน 11.00 น แต่เค้าไม่พูดไม่บอกอะไรเรา / ถึงเวลาประชุม CEO ต่างชาติ กล่าวเปิดงานเป็น ภาษาอังกฤษ พอ CEO พูดจบ น้องเลขา CEO ก็แปลเป็นไทยให้ / พิธีกรเชิญ ผอ ต่างชาติพูด พอ ผอ คนนี้พูดจบ เค้าก็เงียบรอการแปล แต่เพราะไม่มีใครไปนัดแนะกับน้องเลขา พอ CEO กล่าวเปิดงานจบ ท่านก็ออกไป เลขาก็ออกตามไป ไม่มีใครแปล เราเลยถามว่า ทำไมไม่มีคนแปลล่ะ น้องจัดซื้อก็เลยบอกว่า คุณ ผจก ช่วยแปลหน่อยค่ะ เค้าเงียบไม่แปล ไม่พูดอะไร สรุป นิ่งไปเกือบ 30 วิ รอการแปลก็ไม่มีใครแปล พิธีกรก็เลยเชิญ ผอ คนไทยพูดต่อเลย
หลังจากเหตุการณ์นี้ เราก็เลยถามว่า ทำไมไม่มีใครแปลให้ ผอ ต่างชาติ และจริงๆดูในกำหนดการก็ไม่มีคิวของเค้าพูด ทำไมอยู่ดีๆเชิญให้เค้ามาพูดล่ะ (ไม่มีใครตอบ สักพัก น้องจัดซื้อคนนึง ก็บอกหนูขอโทษค่ะ นึกว่าเลขาจะอยู่แปล แต่เค้าออกไปพร้อมกับ CEO) / เราถามต่อแล้วได้นัดแนะเลขาไว้หรือเปล่าล่ะ (เอ่อ... เปล่าค่ะ) แล้วเค้าจะอยู่ทำให้ไหมละจ๊ะ /
คุณ ผจก ไม่พูดอะไร นั่งที่โต๊ะนิ่งเงียบอย่างเดียว เราเลยถามนี่คุณจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ / (เอ่อ คิวไม่มีในกำหนดการ แต่เค้ามาขอพูดครับ) เค้ามาขอพูด แต่เราเห็นคุณไปคุยกับ ผอ ตอน 11.00 โมงนะ แปลว่ารู้ แต่ก็ไม่ได้เตรียมอยู่ดี (ครับๆ ขอโทษครับ จะเก็บเป็นบทเรียน คราวหน้าไม่มีแล้วครับ)
-อีกเรื่องการตัดสินใจช้า และไม่มีภาวะผู้นำ / มีงานสั่งทำจาก รง ของกำหนดส่ง สิ้นเดือน มีค แต่ Supplier ไม่ส่งของให้ น้องในฝ่ายส่ง เมมโมขอเปลี่ยน Supplier มีลายเซ็น ผจก มาเรียบร้อย เราบอกเราไม่เซ็นให้ เราไม่เข้าใจ ทำอะไรกันอยู่ นี่ผ่านไปเดือนครึ่งแล้ว เพิ่งจะมาบอกเปลี่ยน Supplier น้องบอก ตอนที่ถึงกำหนด หนูก็โทรไปตามของแล้ว แต่เค้าบอก ยังไม่เสร็จ ระหว่างนั้นหนูก็ปรึกษา ผจกแล้วค่ะน้องบอกว่า ผจก ไปคุยกับ Supplier มาตอนก่อนปิดสงกรานต์ เค้าก็ยังไม่ทำให้สักที ทาง รง ก็ตามทุกวัน เพราะจะใช้งาน จนวันนี้หนูว่าไม่ไหวแล้ว ก็เลยต้องบอกค่ะ
เรา งง มากว่า จริงๆควรจะตัดสินใจ จะแก้ไข อะไรก็ควรจะทำตั้งนานแล้ว ไม่ใช่รอมานานขนาดนี้ น้องก็ขอโทษใหญ่ และเช่นเดิมค่ะ ผจก นั่งเงียบๆอยู่ที่โต๊ะ คือไม่มาพูดไม่มาอธิบายอะไรเลย เราบอกถ้ามันเป็นสิ่งของที่กระทบกับการผลิต ทำให้ผลิตไม่ได้ เสียหายจะทำยังไง ทำไมตัดสินใจช้าแบบนี้ ! ผจก ยังคงนั่งเงียบเชียบ
-จะไปออดิส supplier ที่ ตจว วันศุกร์ ซึ่งใกล้บ้านเค้า ผจก บอกลูกน้องว่าเสร็จเร็วจะไม่เข้าบริษัทนะ พวกคุณกลับกันไปเลย ลูกน้องเลยบอกว่า ถ้าพวกหนูกลับถึงบริษัทแล้วพี่ไม่กลับมาด้วย แล้วเค้าถามจะให้หนูพูดยังไง หนูว่าพี่บอก GM ไว้ก่อนดีกว่า อันนี้น้องๆแนะนำเค้าตั้งแต่วันจันทร์ (น้องมาบอกเราว่า เค้ายังไม่พ้นโปร หนูเลยบอกให้เค้าบอกพี่ หรือไม่ก็เขียนใบลา แต่เค้าถามหนูว่า ต้องบอก GM ด้วยหรอ) เราก็รอให้เค้ามาบอก ก็ไม่มาบอกเสียที
พอวันพฤหัส ตอน 17.30 น เลิกงาน เรากำลังเดินออกจากออฟฟิศ ผจก วิ่งมาบอกเราว่า พรุ่งนี้ไปออดิส เสร็จแล้วจะไม่เข้าออฟฟิศนะครับ (เราเลยตอบไปว่าถ้าเสร็จช้าสักบ่าย 2-3 โมง ก็ไม่ต้องก็ได้ เพราะเข้ามาก็เลิกงานพอดี แต่ถ้าเสร็จเร็วไม่เกินเที่ยง คุณก็ควรจะเข้ามาทำงานต่อนะ เพราะเด็กๆก็เข้ามา ถ้าไม่อยากเข้าจะไปทำธุระต่อ ก็เขียนใบลาก็แล้วกัน) ผจก ก็หน้าเจื่อนๆไป
-เซ็น เมมโม คัดเลือก supplier และสั่งซื้อของ / เซ็นดะ โดยไม่ดูข้อความ ไม่ดูราคา ไม่ดูรายละเอียด บางทีคนทำเมมโมขอซื้อใส่ราคาผิดมา บางทีสลับชื่อ Supplier มา ใส่รายละเอียดสินค้าผิดๆถูกมา ผจก เซ็นหมดไม่ตรวจเช็คก่อน พอมาถึงเราๆต้องวงข้อผิดพลาด ตีกลับไปให้ทำมาให้ถูกต้อง บ่อยมากๆ จนเราระอาแล้ว
เรารับเค้าข้ามาเพื่อ แบ่งเบาภาระ ไม่ใช่มาเป็นภาระของเรา ตอนนี้เราเหนื่อยมาก เพราะดูทรงแล้ว ไม่ได้ดีขึ้นเลย ตอนสัมภาษณ์ทางซูม ก็พูดตอบดี แต่พอมาทำงานทำไมเป็นแบบนี้ เรานึกถึงตอนเราเข้ามาทำงานใหม่ๆ งานมี ปห ลูกน้องมาบอกเรา เรารีบแก้ ปห ถ้าลูกน้องทำผิดกระทบฝ่ายอื่น เราออกหน้าเคลียร์ตลอด หลังจากนั้นค่อยมาเคลียร์กับลูกน้องเราอีกที หาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดอีก ลูกน้องเราๆเก็บไว้ดุด่าว่ากล่าวเอง เราจะไม่ยอมให้ใครมาว่า / เราเป็นคนใจถึงพึ่งได้ (แต่ไม่ให้ยืมเงิน) แต่เรามาเจอคนแบบที่ตรงข้ามกับเรา เราไม่ OK เลยอะ ถ้าเราจะไม่ให้เค้าพ้นโปร เราจะผิดมากไหมนี่ เราสงสาร พนง ใหม่ทุกคนนะ แต่ถ้าเค้าไม่สามารถช่วยงานเราได้ กลายเป็นเราต้องมาอุ้มมาแบกไว้ เราก็ไม่ไหวเหมือนกัน
ถ้าเราจะไม่ให้ ผจก ที่รับมาไม่พ้นโปรฯ / เราจะผิดและบาปไหมนี่
- จบวิศวฯ
- ทำงานมาแต่กับบริษัทญี่ปุ่น ในนิคมทั้งระยองและชลบุรี
- ใช้ภาษาอังกฤษ และ ญป ได้ เพราะบอกว่า บริษัท เก่าเคยส่งไปทำงานที่นั่น ประมาณ 3 ปี
- เป็น ผจก จัดซื้อมาตลอด
- งานสุดท้ายก่อนมาที่นี่ อยู่บริษัทคนไทย ขายอะไหล่รถยนต์ ระบบครอบครัว ทำมาได้ ครบ 1 ปี ประมาณ กพ 66 นี้เอง เหตุผลที่อยากออก เพราะ ตอนไปสมัคร ผจก HR บอกว่าพ้นโปรจะให้เงินเพิ่ม แต่ HR Mgr มาลาออกไปก่อนเค้าพ้นโปรฯ พอพ้นโปร เจ้าของไม่ขึ้นให้บอกไม่รู้เรื่อง เลยรับไม่ได้
- ไม่มีครอบครัว
ในช่วง 50 วันที่เจอ คือ ขาดภาวะผู้นำ / การตัดสินใจช้า / ไม่รู้จักแก้ไข ปห เฉพาะหน้า / ไม่ละเอียด ไม่รอบคอบ
- พนง ในฝ่าย ลาป่วย ที่บริษัทเป็นการลาแบบ ออนไลน์ ผจก ถามในไลน์กลุ่มว่า เป็นอะไรป่วย (ท้องเสียค่ะ) ทำไมถึงป่วย ไปทำอะไรมา (พนง สาธยายอย่างระเอียด) ตรงนี้เราอ่านแล้วรู้สึกไม่สบายใจ เพราะโดยส่วนตัว ลูกน้องลาอะไรก็ตาม ที่อยู่ในสิทธิ์ที่เขาจะลาได้ เราไม่เคยเข้าไปซักถามวุ่นวาย เพราะลูกน้องทุกคนอายุงานเกิน 10 ปี และเมื่อลางาน หากมีงานสำคัญอะไร เขาจะบอกฝากงานกันเรียบร้อย ไม่เคยมี ปห
เรานิ่งๆ ไม่พูดอะไร พออีกวัน ลูกน้องอีกคน ลากิจฉุกเฉิน ต้องรีบกลับไปรับและพาแม่ไปหาหมอ / คุณ ผจก ก็ซักไซ้อีก ทำไมต้องลากิจฉุกเฉิน เพราะอะไร จะลาไปทำอะไร (ลูกน้องคนนี้ตอบไปว่า ลากิจ ไปทำกิจธุระส่วนตัวค่ะ) คุณ ผจก ถามต่อ ธุระอะไร (ลูกน้องตอบไปว่า ธุระส่วนตัวค่ะ) เค้าจึงหยุดถาม
วันถัดมา มี พนง ฝ่ายอื่นมาติดต่องานที่จัดซื้อ ก็พูดแซวเราว่า เนี่ย น้อง A อยากจะลาพักร้อน ไม่กล้าลาเลยพี่ เขากลัวพี่จะไม่ให้ลา ถ้าไม่ร้อนจริงๆ / เรารู้สึกไม่ OK แล้ว ถึงขนาดคนฝ่ายอื่น พูดแซะแบบนี้ เพราะวัฒนธรรมที่นี่ไม่มีแบบนี้ ทุกคนมีสิทธิ์ใช้สิทธิ์ที่ตนเองได้รับ ตราบใดที่ยังไม่ใช้เกิน ก็ไม่มี ปห / ถึงใช้เกิน ทาง HR ก็จะจัดการตักเตือนกันไป
เราจึงเรียก คุณ ผจก คุยส่วนตัว บอกว่า อย่าซักไซ้ ลูกน้องในเรื่องการลาแบบนี้ เพราะวัฒนธรรมที่นี่ เค้าไม่ทำกัน ตราบใดที่เค้าไม่ได้ละเมิดสิทธิ์ใคร เค้าใช้สิทธิ์ของเค้า คุณมีสถานะเป็น หน แต่ไม่ได้หมายความว่า จะทำแบบนี้ได้ และถ้าเค้าใช้สิทธิ์ เกินจากสิทธิ์ที่ได้ วันนั้นค่อยซักว่ามี ปห อะไร / เราถามเหตุผลทำไมทำแบบนี้ เค้าบอกต้องการโชว์พาว และโชว์ให้เราเห็นว่า เค้าเอาใจใส่ลูกน้องไม่อยากให้งานมี ปห
- ในเรื่องของการไม่มีภาวะผู้นำ ไม่เตรียมพร้อม / ได้มีการจัดการประชุม Supplier ผ่านซูม บอกให้เค้าร่างคำกล่าวเปิดงานให้ ผอ คนไทย ด้วย สั่งล่วงหน้า 2-3 สัปดาห์ ลูกน้องก็คอยเตือนว่าอย่าลืมเขียน เค้ามาเขียนเอาในวันก่อนประชุม 1 วัน !
ในวันประชุม มีตอน 14.00 น เราเห็น เค้าเดินไปคุยกับ ผอ ชาวต่างชาติอีกคนตอน 11.00 น แต่เค้าไม่พูดไม่บอกอะไรเรา / ถึงเวลาประชุม CEO ต่างชาติ กล่าวเปิดงานเป็น ภาษาอังกฤษ พอ CEO พูดจบ น้องเลขา CEO ก็แปลเป็นไทยให้ / พิธีกรเชิญ ผอ ต่างชาติพูด พอ ผอ คนนี้พูดจบ เค้าก็เงียบรอการแปล แต่เพราะไม่มีใครไปนัดแนะกับน้องเลขา พอ CEO กล่าวเปิดงานจบ ท่านก็ออกไป เลขาก็ออกตามไป ไม่มีใครแปล เราเลยถามว่า ทำไมไม่มีคนแปลล่ะ น้องจัดซื้อก็เลยบอกว่า คุณ ผจก ช่วยแปลหน่อยค่ะ เค้าเงียบไม่แปล ไม่พูดอะไร สรุป นิ่งไปเกือบ 30 วิ รอการแปลก็ไม่มีใครแปล พิธีกรก็เลยเชิญ ผอ คนไทยพูดต่อเลย
หลังจากเหตุการณ์นี้ เราก็เลยถามว่า ทำไมไม่มีใครแปลให้ ผอ ต่างชาติ และจริงๆดูในกำหนดการก็ไม่มีคิวของเค้าพูด ทำไมอยู่ดีๆเชิญให้เค้ามาพูดล่ะ (ไม่มีใครตอบ สักพัก น้องจัดซื้อคนนึง ก็บอกหนูขอโทษค่ะ นึกว่าเลขาจะอยู่แปล แต่เค้าออกไปพร้อมกับ CEO) / เราถามต่อแล้วได้นัดแนะเลขาไว้หรือเปล่าล่ะ (เอ่อ... เปล่าค่ะ) แล้วเค้าจะอยู่ทำให้ไหมละจ๊ะ /
คุณ ผจก ไม่พูดอะไร นั่งที่โต๊ะนิ่งเงียบอย่างเดียว เราเลยถามนี่คุณจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ / (เอ่อ คิวไม่มีในกำหนดการ แต่เค้ามาขอพูดครับ) เค้ามาขอพูด แต่เราเห็นคุณไปคุยกับ ผอ ตอน 11.00 โมงนะ แปลว่ารู้ แต่ก็ไม่ได้เตรียมอยู่ดี (ครับๆ ขอโทษครับ จะเก็บเป็นบทเรียน คราวหน้าไม่มีแล้วครับ)
-อีกเรื่องการตัดสินใจช้า และไม่มีภาวะผู้นำ / มีงานสั่งทำจาก รง ของกำหนดส่ง สิ้นเดือน มีค แต่ Supplier ไม่ส่งของให้ น้องในฝ่ายส่ง เมมโมขอเปลี่ยน Supplier มีลายเซ็น ผจก มาเรียบร้อย เราบอกเราไม่เซ็นให้ เราไม่เข้าใจ ทำอะไรกันอยู่ นี่ผ่านไปเดือนครึ่งแล้ว เพิ่งจะมาบอกเปลี่ยน Supplier น้องบอก ตอนที่ถึงกำหนด หนูก็โทรไปตามของแล้ว แต่เค้าบอก ยังไม่เสร็จ ระหว่างนั้นหนูก็ปรึกษา ผจกแล้วค่ะน้องบอกว่า ผจก ไปคุยกับ Supplier มาตอนก่อนปิดสงกรานต์ เค้าก็ยังไม่ทำให้สักที ทาง รง ก็ตามทุกวัน เพราะจะใช้งาน จนวันนี้หนูว่าไม่ไหวแล้ว ก็เลยต้องบอกค่ะ
เรา งง มากว่า จริงๆควรจะตัดสินใจ จะแก้ไข อะไรก็ควรจะทำตั้งนานแล้ว ไม่ใช่รอมานานขนาดนี้ น้องก็ขอโทษใหญ่ และเช่นเดิมค่ะ ผจก นั่งเงียบๆอยู่ที่โต๊ะ คือไม่มาพูดไม่มาอธิบายอะไรเลย เราบอกถ้ามันเป็นสิ่งของที่กระทบกับการผลิต ทำให้ผลิตไม่ได้ เสียหายจะทำยังไง ทำไมตัดสินใจช้าแบบนี้ ! ผจก ยังคงนั่งเงียบเชียบ
-จะไปออดิส supplier ที่ ตจว วันศุกร์ ซึ่งใกล้บ้านเค้า ผจก บอกลูกน้องว่าเสร็จเร็วจะไม่เข้าบริษัทนะ พวกคุณกลับกันไปเลย ลูกน้องเลยบอกว่า ถ้าพวกหนูกลับถึงบริษัทแล้วพี่ไม่กลับมาด้วย แล้วเค้าถามจะให้หนูพูดยังไง หนูว่าพี่บอก GM ไว้ก่อนดีกว่า อันนี้น้องๆแนะนำเค้าตั้งแต่วันจันทร์ (น้องมาบอกเราว่า เค้ายังไม่พ้นโปร หนูเลยบอกให้เค้าบอกพี่ หรือไม่ก็เขียนใบลา แต่เค้าถามหนูว่า ต้องบอก GM ด้วยหรอ) เราก็รอให้เค้ามาบอก ก็ไม่มาบอกเสียที
พอวันพฤหัส ตอน 17.30 น เลิกงาน เรากำลังเดินออกจากออฟฟิศ ผจก วิ่งมาบอกเราว่า พรุ่งนี้ไปออดิส เสร็จแล้วจะไม่เข้าออฟฟิศนะครับ (เราเลยตอบไปว่าถ้าเสร็จช้าสักบ่าย 2-3 โมง ก็ไม่ต้องก็ได้ เพราะเข้ามาก็เลิกงานพอดี แต่ถ้าเสร็จเร็วไม่เกินเที่ยง คุณก็ควรจะเข้ามาทำงานต่อนะ เพราะเด็กๆก็เข้ามา ถ้าไม่อยากเข้าจะไปทำธุระต่อ ก็เขียนใบลาก็แล้วกัน) ผจก ก็หน้าเจื่อนๆไป
-เซ็น เมมโม คัดเลือก supplier และสั่งซื้อของ / เซ็นดะ โดยไม่ดูข้อความ ไม่ดูราคา ไม่ดูรายละเอียด บางทีคนทำเมมโมขอซื้อใส่ราคาผิดมา บางทีสลับชื่อ Supplier มา ใส่รายละเอียดสินค้าผิดๆถูกมา ผจก เซ็นหมดไม่ตรวจเช็คก่อน พอมาถึงเราๆต้องวงข้อผิดพลาด ตีกลับไปให้ทำมาให้ถูกต้อง บ่อยมากๆ จนเราระอาแล้ว
เรารับเค้าข้ามาเพื่อ แบ่งเบาภาระ ไม่ใช่มาเป็นภาระของเรา ตอนนี้เราเหนื่อยมาก เพราะดูทรงแล้ว ไม่ได้ดีขึ้นเลย ตอนสัมภาษณ์ทางซูม ก็พูดตอบดี แต่พอมาทำงานทำไมเป็นแบบนี้ เรานึกถึงตอนเราเข้ามาทำงานใหม่ๆ งานมี ปห ลูกน้องมาบอกเรา เรารีบแก้ ปห ถ้าลูกน้องทำผิดกระทบฝ่ายอื่น เราออกหน้าเคลียร์ตลอด หลังจากนั้นค่อยมาเคลียร์กับลูกน้องเราอีกที หาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดอีก ลูกน้องเราๆเก็บไว้ดุด่าว่ากล่าวเอง เราจะไม่ยอมให้ใครมาว่า / เราเป็นคนใจถึงพึ่งได้ (แต่ไม่ให้ยืมเงิน) แต่เรามาเจอคนแบบที่ตรงข้ามกับเรา เราไม่ OK เลยอะ ถ้าเราจะไม่ให้เค้าพ้นโปร เราจะผิดมากไหมนี่ เราสงสาร พนง ใหม่ทุกคนนะ แต่ถ้าเค้าไม่สามารถช่วยงานเราได้ กลายเป็นเราต้องมาอุ้มมาแบกไว้ เราก็ไม่ไหวเหมือนกัน