สวัสดีค่ะ เราชื่อธัญญ่านะคะ เราตั้งใจตั้งกระทู้นี้ขึ้นเพื่อแชร์ข้อมูลประสบการณ์ทำงานในบริษัทขนส่งสีเหลือง โดยตำแหน่งที่เราทำอยู่ปัจจุบันคือทีมโทรออก ในพื้นที่ห้องทำงานจะมีหัวหน้างานญ 2 คน คือ ซุปผลไม้และซุปหน่วยพลังงานไฟฟ้าเป็นผู้ดูแล สมาชิกในทีมประมาณ 24 คน + หัวหน้างาน 2 + แม่บ้าน 1 เราจะแบ่งเล่าเฉพาะเรื่องที่เป็นประเด็น และใช้การแบ่ง EP. ในการเล่าเพื่อจะได้ไม่สับสนนะคะ
.
1.ซุปผลไม้ อายุ 28-29 ปี เดิมทีเป็นพนักงานสายคอลเซนเตอร์อิ้งบริษัทค่ายทรศ.สีแดง ปัจจุบันเป็นซุปใหม่แกะกล่องที่โปรเจคนี้ตั้งแต่เปิดมาได้ 2 ปีกว่าๆ โดยหัวหน้าของซุปคือเมเนเจอร์ที่อาศัยอยู่ในประเทศแผ่นดินใหญ่ควบคุมงานผ่านเทคโนโลยี นานทีปีหนจะเดินทางมาดูหน้างานจริง มีผู้ประสานงานเป็นล่าม แต่ซุปผลไม้เรียนจบเอกอิ้งและได้ work and travel ที่ตปท.มาก่อน นางเลยมีสกิลอิ้งติดตัวมาใช้ทำงาน
2.ซุปหน่วยพลังงานไฟฟ้า อายุ 30-32 ปี เดิมทีเป็นพนักงานสายคอลเซนเตอร์ธนาคารสีม่วง ปัจจุบันเป็นซุปใหม่แกะกล่องที่ย้ายเข้ามาช่วยงานทีมโทรในภายหลัง ไม่มีสกิลด้านภาษา คอยช่วยงานและดูแลงานตามที่ซุปผลไม้มอบหมาย
.
เราตัดสินใจเข้าทำงานที่บริษัทและตำแหน่งงานนี้ด้วยประสบการณ์สายงานคอลเซนเตอร์ พิจารณาเงินเดือนและวันหยุดที่มีความเหมาะสม แต่เราไม่เคยคิดว่าพฤติกรรมของหัวหน้างานจะมีผลกับการทำงานมากมายขนาดนี้ จนวันนั้นมาถึง เราได้เริ่มทำงานวันแรกโดยจะเป็นการอบรมที่สำนักงานใหญ่ก่อน อบรมการใช้ระบบเข้างาน-เลิกงาน เดินชมสำนักงานใหญ่ ในสำนักงานใหญ่บรรยากาศการทำงานดีมาก น่าทำงาน มีจุดพักผ่อนหย่อนใจให้สามารถใช้ได้ แต่หารู้ไม่ เราไม่ได้ทำที่สำนักงานใหญ่ค่ะ นู่นน ต้องเดินไปอีกตึกห่างออกไป 200 เมตร ใช้เวลาอบรมรวมเดินชมสถานที่ประมาณ 1.30 ชม. เสร็จภารกิจแยกย้ายไปตึกที่ทำงาน ที่นี่ไม่มีระบบการเทรนด์งานที่เป็นกิจจะลักษณะ ซุปโยนไฟล์โปรเจคงานมาให้นั่งอ่านทำความเข้าใจ และสคริปงานที่ค่อนข้างจะเป็นงงต้องทำความเข้าใจเอาเองทั้งหมด คำถามวนซ้ำไปซ้ำมา แต่จับประเด็นคำตอบได้อยู่ไม่กี่เรื่อง (ในมุมลูกค้าที่ต้องตอบคำถามเราก็เข้าใจนะ) เป็นการถามคำถามและลงข้อมูล ส่วนใหญ่เนื้องานในโปรเจคทีมโทรออกจะมีแค่นี้ ถามเอาข้อมูลจากลูกค้าเท่านั้น ในช่วงเดือนแรกเรายังมองไม่เห็นปัญหาที่จะเกิดขึ้น แต่เริ่มสัมผัสได้ถึงบรรยากาศการทำงานที่เปลี่ยนไป ทุกเช้าของการทำงานจะเป็นการบรีฟแจกแจงงานให้แต่ละโปรเจค และแชร์เคสแจ้งข้อมูลข่าวสาร บางทีซุปผลไม้ก็ใช้ช่องทางบรีฟตอนเช้าเอาไว้กัด แซะโปรเจคอื่น หรือว่าคนนั้นทีคนนี้ทีที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องงานจะคอยสอดแทรกมาตลอด คนในที่ทำงานทราบดีโดยทั่วกัน เรามองว่าคนอื่นไม่จำเป็นที่จะต้องมารับรู้เรื่องส่วนนี้ที่ไม่เกี่ยวกับการทำงาน เพราะเราทำงานแข่งกับเวลา ต้องมาเสียเวลาฟังเรื่องอิหยังวะจากคนคนเดียว ยิ่งบรีฟนานเราจะได้เริ่มงานช้ามันมีผลต่อการทำงานให้เสร็จในแต่ละวันค่ะ + อารมณ์ของซุปผลไม้ก็ขึ้นๆลงๆในแต่ละวันตามฤดูกาล ทุกคนต้องปรับตัวและเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันกับนาง ทุกครั้งที่มีประเด็นนางจะไปซบอกป้างข้างบ้านบ่อยๆ ฟีลไม่อยากนั่งทำงานตรงนี้เลยยกโน๊ตบุ๊คไปนั่งทำงานฝั่งโน้น เพราะเอาเรื่องฝั่งนี้ไปเล่าให้ป้าข้างบ้านฟังค่ะ ป้าข้างบ้านเป็นหัวหน้าทีมโทรขายปัจจุบันโดนเด้งไปแล้ว แต่ป้าข้างบ้านนี่แหละคือตัวการสำคัญที่เสี้ยมให้ซุปผลไม้เป็นอย่างทุกวันนี้ ป้าแกจะคอยเสนอแนะ วิธีการต่างๆให้ซุปผลไม้มาปรับใช้กับพนักงาน ขนาดทีมโทรขายเองยังบอกเลยว่าแกไม่หวังดีแต่แกเสี้ยม จนวันนึงเราว่าเรื่องมันเริ่มบานปลายมาจนถึงตอนที่ทุกคนต้องคอยขออนุญาตเข้าห้องน้ำ และต้องรายงานตลอดว่ากลับมาแล้วค่ะ ประเด็นเรื่องนี้เกิดจากมีหนอน 1 ในที่ทำงานคอยเอาเรื่องที่พนักงานคุยหรือปรึกษาเรื่องงานไปรายงานซุปผลไม้ จนนางรู้ว่าอาจจะไปแอบคุยกันในห้องน้ำ จึงสร้างกฎข้อนี้ขึ้นมา และอ้างว่าเป็นกฎที่นางสร้างและทุกคนที่อยู่ภายใต้ต้องทำตาม (เราแนบรูปหลักฐานให้นะคะ เป็นวีรกรรมที่ซุปสร้างมาเรื่อยๆ) ต่อ..ep.2 นะคะ
รีวิวประสบการณ์ทำงาน..ความเน่าเฟะของทีมโทรออกบริษัทขนส่งสีเหลืองแห่งหนึ่ง
.
1.ซุปผลไม้ อายุ 28-29 ปี เดิมทีเป็นพนักงานสายคอลเซนเตอร์อิ้งบริษัทค่ายทรศ.สีแดง ปัจจุบันเป็นซุปใหม่แกะกล่องที่โปรเจคนี้ตั้งแต่เปิดมาได้ 2 ปีกว่าๆ โดยหัวหน้าของซุปคือเมเนเจอร์ที่อาศัยอยู่ในประเทศแผ่นดินใหญ่ควบคุมงานผ่านเทคโนโลยี นานทีปีหนจะเดินทางมาดูหน้างานจริง มีผู้ประสานงานเป็นล่าม แต่ซุปผลไม้เรียนจบเอกอิ้งและได้ work and travel ที่ตปท.มาก่อน นางเลยมีสกิลอิ้งติดตัวมาใช้ทำงาน
2.ซุปหน่วยพลังงานไฟฟ้า อายุ 30-32 ปี เดิมทีเป็นพนักงานสายคอลเซนเตอร์ธนาคารสีม่วง ปัจจุบันเป็นซุปใหม่แกะกล่องที่ย้ายเข้ามาช่วยงานทีมโทรในภายหลัง ไม่มีสกิลด้านภาษา คอยช่วยงานและดูแลงานตามที่ซุปผลไม้มอบหมาย
.
เราตัดสินใจเข้าทำงานที่บริษัทและตำแหน่งงานนี้ด้วยประสบการณ์สายงานคอลเซนเตอร์ พิจารณาเงินเดือนและวันหยุดที่มีความเหมาะสม แต่เราไม่เคยคิดว่าพฤติกรรมของหัวหน้างานจะมีผลกับการทำงานมากมายขนาดนี้ จนวันนั้นมาถึง เราได้เริ่มทำงานวันแรกโดยจะเป็นการอบรมที่สำนักงานใหญ่ก่อน อบรมการใช้ระบบเข้างาน-เลิกงาน เดินชมสำนักงานใหญ่ ในสำนักงานใหญ่บรรยากาศการทำงานดีมาก น่าทำงาน มีจุดพักผ่อนหย่อนใจให้สามารถใช้ได้ แต่หารู้ไม่ เราไม่ได้ทำที่สำนักงานใหญ่ค่ะ นู่นน ต้องเดินไปอีกตึกห่างออกไป 200 เมตร ใช้เวลาอบรมรวมเดินชมสถานที่ประมาณ 1.30 ชม. เสร็จภารกิจแยกย้ายไปตึกที่ทำงาน ที่นี่ไม่มีระบบการเทรนด์งานที่เป็นกิจจะลักษณะ ซุปโยนไฟล์โปรเจคงานมาให้นั่งอ่านทำความเข้าใจ และสคริปงานที่ค่อนข้างจะเป็นงงต้องทำความเข้าใจเอาเองทั้งหมด คำถามวนซ้ำไปซ้ำมา แต่จับประเด็นคำตอบได้อยู่ไม่กี่เรื่อง (ในมุมลูกค้าที่ต้องตอบคำถามเราก็เข้าใจนะ) เป็นการถามคำถามและลงข้อมูล ส่วนใหญ่เนื้องานในโปรเจคทีมโทรออกจะมีแค่นี้ ถามเอาข้อมูลจากลูกค้าเท่านั้น ในช่วงเดือนแรกเรายังมองไม่เห็นปัญหาที่จะเกิดขึ้น แต่เริ่มสัมผัสได้ถึงบรรยากาศการทำงานที่เปลี่ยนไป ทุกเช้าของการทำงานจะเป็นการบรีฟแจกแจงงานให้แต่ละโปรเจค และแชร์เคสแจ้งข้อมูลข่าวสาร บางทีซุปผลไม้ก็ใช้ช่องทางบรีฟตอนเช้าเอาไว้กัด แซะโปรเจคอื่น หรือว่าคนนั้นทีคนนี้ทีที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องงานจะคอยสอดแทรกมาตลอด คนในที่ทำงานทราบดีโดยทั่วกัน เรามองว่าคนอื่นไม่จำเป็นที่จะต้องมารับรู้เรื่องส่วนนี้ที่ไม่เกี่ยวกับการทำงาน เพราะเราทำงานแข่งกับเวลา ต้องมาเสียเวลาฟังเรื่องอิหยังวะจากคนคนเดียว ยิ่งบรีฟนานเราจะได้เริ่มงานช้ามันมีผลต่อการทำงานให้เสร็จในแต่ละวันค่ะ + อารมณ์ของซุปผลไม้ก็ขึ้นๆลงๆในแต่ละวันตามฤดูกาล ทุกคนต้องปรับตัวและเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันกับนาง ทุกครั้งที่มีประเด็นนางจะไปซบอกป้างข้างบ้านบ่อยๆ ฟีลไม่อยากนั่งทำงานตรงนี้เลยยกโน๊ตบุ๊คไปนั่งทำงานฝั่งโน้น เพราะเอาเรื่องฝั่งนี้ไปเล่าให้ป้าข้างบ้านฟังค่ะ ป้าข้างบ้านเป็นหัวหน้าทีมโทรขายปัจจุบันโดนเด้งไปแล้ว แต่ป้าข้างบ้านนี่แหละคือตัวการสำคัญที่เสี้ยมให้ซุปผลไม้เป็นอย่างทุกวันนี้ ป้าแกจะคอยเสนอแนะ วิธีการต่างๆให้ซุปผลไม้มาปรับใช้กับพนักงาน ขนาดทีมโทรขายเองยังบอกเลยว่าแกไม่หวังดีแต่แกเสี้ยม จนวันนึงเราว่าเรื่องมันเริ่มบานปลายมาจนถึงตอนที่ทุกคนต้องคอยขออนุญาตเข้าห้องน้ำ และต้องรายงานตลอดว่ากลับมาแล้วค่ะ ประเด็นเรื่องนี้เกิดจากมีหนอน 1 ในที่ทำงานคอยเอาเรื่องที่พนักงานคุยหรือปรึกษาเรื่องงานไปรายงานซุปผลไม้ จนนางรู้ว่าอาจจะไปแอบคุยกันในห้องน้ำ จึงสร้างกฎข้อนี้ขึ้นมา และอ้างว่าเป็นกฎที่นางสร้างและทุกคนที่อยู่ภายใต้ต้องทำตาม (เราแนบรูปหลักฐานให้นะคะ เป็นวีรกรรมที่ซุปสร้างมาเรื่อยๆ) ต่อ..ep.2 นะคะ