JJNY : คนภาคกลางหนุนเลิกเกณฑ์ทหาร│อุ๊งอิ๊ง คลอดแล้ว│ลานสามกษัตริย์มีแต่สีส้ม│รับกลุ่มผู้ชุมนุมวันแรงงาน ยื่นข้อเรียกร้อง

โพลชี้ คนภาคกลางหนุนเลิกเกณฑ์ทหารเยอะสุด สอดรับคะแนนนิยมพรรค ปชต.-ภาคใต้รั้งท้าย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3952764
 
 
โพลชี้ คนภาคกลางหนุนเลิกเกณฑ์ทหารเยอะสุด สอดรับคะแนนนิยมพรรค ปชต.-ภาคใต้รั้งท้าย
 
เมื่อวันที่ 30 เมษายน รศ.ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต เปิดเผยผลวิจัยโดยการเก็บข้อมูลแบบสอบถามจากคนทั้งประเทศ (ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 52.32 ล้านคน) จำนวน 4,588 คน ใน 57 จังหวัด เรื่อง ทัศนคติของประชาชนต่อการเลือกตั้งและสังคมการเมืองไทย 2566
 
มีข้อสรุปเบื้องต้นว่า คนไทยต้องการให้ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหารมากถึงร้อยละ 65.93 เห็นด้วยกับการบังคับเกณฑ์ทหารเพียงร้อยละ 18.51 สอดคล้องกับคะแนนนิยมที่มีต่อพรรคฝ่ายประชาธิปไตย
 
รายละเอียด ดังนี้
 
1. ผู้ที่ต้องการให้ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร มีมากถึงร้อยละ 65.93 คือผู้ที่จะตัดสินใจเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อจากพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ได้แก่ อันดับที่ 1 ก้าวไกล 36.46% อันดับที่ 2 เพื่อไทย 24.30% อันดับที่ 3 เสรีรวมไทย 1.0% อันดับที่ 4 ไทยสร้างไทย 0.70%
ผู้ที่เห็นด้วยกับต้องมีการบังคับเกณฑ์ทหารที่มีร้อยละ 18.51 คือผู้ที่จะตัดสินใจเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อจากพรรคการเมืองสืบทอดอำนาจ คสช. และอดีตพรรคร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แก่ อันดับที่ 1 รวมไทยสร้างชาติ 4.42% อันดับที่ 2 ประชาธิปัตย์ 2.76% อันดับที่ 3 ภูมิใจไทย 2.62% อันดับที่ 4 พลังประชารัฐ 2.06% อันดับที่ 5 ชาติไทยพัฒนา 0.35%

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่แสดงความเห็นเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหารที่มีร้อยละ 15.56 อยู่ในระดับใกล้เคียงกับผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองใดอีกร้อยละ 15.75
 
2. พิจารณารายภาคที่ ให้ยกเลิก บังคับการเกณฑ์ทหาร ภาคกลางมีมากสุดร้อยละ 70.43 รองลงมาเป็นกรุงเทพฯ ร้อยละ 68.0 ตามด้วยภาคเหนือ (บนและล่าง) ร้อยละ 63.44 ภาคอีสาน ร้อยละ 62.72 และภาคใต้ ร้อยละ 61.63
 
3. พิจารณารายภาคที่ยังต้อง ให้มี การบังคับเกณฑ์ทหาร มีจำนวนมากที่สุดคือภาคเหนือ (บนและล่าง) ร้อยละ 22.88 รองลงมาเป็นภาคใต้ ร้อยละ 20.27 ภาคอีสาน ร้อยละ 18.96 ภาคกลาง ร้อยละ 16.84 และกรุงเทพฯ ร้อยละ 14.0
 
4. พิจารณารายภาคที่ไม่แสดงความเห็น ภาคอีสาน ร้อยละ 18.32 ภาคใต้ ร้อยละ 18.10 กรุงเทพฯ ร้อยละ 18.0 ภาคเหนือ (บนและล่าง) ร้อยละ 13.68 ภาคกลาง ร้อยละ 12.73
 
5.บทวิเคราะห์ของผู้วิจัย : นโยบายของพรรคการเมืองเรื่องยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหารกล่าวได้ว่าเป็นบทบาทของพรรคการเมืองที่ได้ประมวลความคิดและความต้องการที่มีอยู่ในประชาชนไทยมาอย่างยาวนาน แล้วนำมาก่อรูปขึ้นเป็นนโยบาย และเสนอแนวทางแก้ไขปัญหานี้ที่หมกสุมอย่างเรื้อรังมานานนับศตวรรษ ดังเป็นเรื่องที่ประชาชนพูดคุยซุบซิบกันตลอดมา หาใช่เป็นเพราะพรรคการเมืองคิดค้นนำเสนอนโยบายนี้เพื่อชี้นำต่อสังคมไทยแต่อย่างใด ด้วยความเข้าใจดังกล่าวนี้ เราจึงเห็นถึงความสอดคล้องกันในความชื่นชมของประชาชนต่อนโยบายยกเลิกเกณฑ์ทหารกับคะแนนนิยมที่มีต่อพรรคการเมืองที่มีนโยบายนี้
 
ข้อมูลพื้นฐาน
งานวิจัยทัศนคติของประชาชนต่อการเลือกตั้งและสังคมการเมืองไทย 2566 มีผู้ตอบแบบสอบถามรวม 4,588 คน เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 6-17 เมษายน 2566
 
เพศของผู้ตอบแบบสอบถาม : หญิง 2,439 คน (53.16%) ชาย 2,023 คน (44.09%) เพศหลากหลาย 126 คน (2.75%)
อายุของผู้ตอบแบบสอบถาม Gen Z (18-26 ปี) 1,915 คน (41.74%) Gen Y (27-44 ปี) 1,016 คน (22.10%) Gen X (44-58 ปี) 1,046 คน (22.80%) Gen Baby Boomer ขึ้นไป (59 ปีขึ้นไป) 613 คน (13.36%)
 
การศึกษาของผู้ตอบแบบสอบถาม ประถมศึกษาหรือต่ำกว่า 492 คน (10.72%) มัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า 971 คน (21.16%) อนุปริญญาหรือเทียบเท่า 542 คน (11.82%) ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า 2,210 คน (48.17%) สูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า 373 คน (8.13%)
อาชีพหลักของผู้ตอบแบบสอบถาม : นักเรียนนักศึกษา 1,529 คน (33.33%) เกษตรกร 456 คน (9.94%) พนักงานเอกชน 431คน (9.39%) รับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน 471 คน (10.27%) เจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ 602 คน (13.12%) ข้าราชการ/พนักงานของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ 600 คน (13.08%) พ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน 329 คน (7.17%) อื่นๆ 170 คน (3.70%)
 
รายได้ต่อเดือนของผู้ตอบแบบสอบถาม : ไม่มีรายได้ 939 คน (20.47%) รายได้ไม่เกิน 10,000 บาท 1,141 คน (24.87%) รายได้ 10,001-20,000 บาท 1,170 คน (25.50%) รายได้ 20,001-30,000 บาท 620 คน (13.51%) รายได้ 30,001- 40,000 บาท 302 คน (6.58%) รายได้ 40,001 บาทขึ้นไป 416 คน (9.07%)



อุ๊งอิ๊ง คลอดแล้ว น้องธาษิณ ทักษิณ ดีใจมาก เตรียมกลับมาเลี้ยงหลาน
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7639360

‘อุ๊งอิ๊ง’ คลอดแล้ว น้องธาษิณ ลืมตาดูโลก แฟนคลับแห่ยินดี ‘ทักษิณ’ ดีใจมาก เตรียมกลับมาเลี้ยงหลาน เผยพบกันเร็ว ๆ นี้
 
วันที่ 1 พ.ค.2566 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ​แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพลูกชายที่เพิ่งลืมตาดูโลก ผ่านทางอินสตาแกรม พร้อมเขียนข้อความระบุว่า สวัสดีครับ ผมชื่อเด็กชาย พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ ชื่อเล่นชื่อ “ธาษิณ” ครับ ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ เดี๋ยวอีกไม่กี่วันนี้ คุณแม่รอแข็งแรงก่อนจะไปพบพี่ๆสื่อมวลชนครับ
 
ด้าน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตาของน้องธาษิณ ทวีตข้อความ ผ่านทางทวิตเตอร์ ระบุว่า เช้าวันนี้ ผมดีใจมากที่ได้หลานคนที่ 7 เป็นชาย ชื่อ ธาษิณ จากน้องอิ๊งค์ แพทองธาร หลานทั้ง 7 คน คลอดในขณะที่ผมต้องอยู่ต่างประเทศ ผมคงต้องขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลาน เพราะผมอายุจะ 74 ปี กรกฎานี้แล้ว พบกันเร็ว ๆ นี้ ครับ ขออนุญาตนะครับ
 
https://www.instagram.com/p/CrrqauFPYaF/
https://twitter.com/ThaksinLive/status/1652843902586728448
 


ลานสามกษัตริย์มีแต่สีส้ม ฟังก้าวไกลปราศรัย ตะโกนเชียร์ ‘พิธา’ นายกฯ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3952814

‘พิธา’ นำทีม ก.ก.ปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายที่เชียงใหม่ แฟนคลับแน่นเวที ขอถ่ายรูป-เซลฟี่ ลูกพรรคชูเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่
 
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 30 เมษายน ที่พระบรมราชานุสาวรรีย์สามกษัตริย์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ขึ้นเวทีปราศรัยพบปะชาวเชียงใหม่ เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ 10  เขต หาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนกาบัตรเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ บนเวทีมีป้ายข้อความ “เปลี่ยนประเทศไทย อย่างตรงไปตรงมา” ท่ามกลางผู้ร่วมฟังปราศรัยและแฟนคลับจำนวนมาก
 
ขณะเดียวกัน มีเจ้าหน้าที่ กกต.จ.เชียงใหม่ ฝ่ายความมั่นคงและการข่าวหลายหน่วยงานร่วมสังเกตการณ์การหาเสียงดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้สมัครและกองเชียร์ต่างโบกธง พร้อมตะโกนว่า “พิธา นายกฯ” ตลอดปราศรัย

กระทั่งเวลา 20.15 น. ภายหลังนายพิธาปราศรัยเสร็จ มีประชาชนและแฟนคลับขึ้นเวทีเพื่อขอถ่ายรูปเซลฟี่กับนายพิธา พร้อมมอบกุหลาบ ช่อดอกไม้ เพื่อให้กำลังใจนายพิธากับพรรค ก.ก. บางรายขอลายเซ็นบนเสื้อ และใบปลิวหาเสียง ก่อนนายพิธาจะเดินทางกลับในเวลา 20.45 น.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่