ตอนนี้ผมมาทำงานอยู่ต่างประเทศ และเช่าแฟลชอยู่ ลักษณะเป็น 1ห้องนอน1ห้องน้ำ และมีครัว+ห้องนั่งเล่นครับ

โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ป้า(มีศักดิ์เป็นพี่สาวของแม่) ทักผมผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวมาว่า ลูกชายแก(ซึ่งเด็กกว่าผม2ปี โดยปกติผมไม่ได้คุยกันเท่าไหร่ จะเจอกันตอนเด็กๆในงานรวมญาติปีละครั้ง และไม่ได้เจอกันบ่อยทุกปี) ป้าแกบอก ลูกแกกำลังจะมาเรียนภาษาที่นี่และจะขอมาอยู่ด้วยหน่อย

ตอนแรกที่ตกลงกัน คือเขาอาจมาอยู่1-2อาทิตย์ พอหาที่อยู่ได้แล้วจะย้ายออก พอตอนแรกเขาบอกว่าจะมาอยู่แปปเดียว ผมเลยให้เขาเข้ามานอนในห้องเดียวกับผมเพื่อจะได้นอนเตียงสบายๆ  จนถึงตอนนี้..อยู่มาจะครบเดือนแล้วยังไม่ได้มีท่าทีว่าจะย้ายออกเลย

คือการที่เข้ามาอยู่ด้วยกัน เขาสร้างความหงุดหงิดใจให้ผมมาก

เรื่องความสกปรก เช่น ผ้าขนหนูใช้แล้วหมกๆๆไว้ เวลาเดินออกจากห้องน้ำก็เดินย่ำพื้นเปียกๆออกมา เวลาล้างมือก็สะบัดน้ำลงพื้น

หรือความระเบียบเรียบร้อยคือผมแทบจะรับไม่ได้เลย เวลาลุกออกจากเก้าอี้นั่งก็ไม่เคยเก็บเก้าอี้ จานไม่เคยล้างเลย หยิบเอาแต่ของใหม่ๆออกมาใช้ และวางทิ้งไว้ให้ผมล้าง 

ส่วนของกิน..ไม่เคยซื้อเข้ามาแชร์ครับ มีแต่ขุดของในตู้เย็น ที่ผมตุนๆไว้เวลาของลดราคากินจนจะหมด 
มีวันนึง ผมซื้อไก่งวงหมักเก็บไว้    พี่แกก็ถามผมว่ากินได้หรือเปล่า   ด้วยความเกรงใจผมเลยบอกว่ากินได้เท่านั้นแหละ...พี่แกกินทุกมื้อ กินอยู่ไม่กี่วันจนไก่หมดทั้งตัว   คือผมจำได้ว่าครั้งนั้น ผมได้กินไก่ตัวนั้นแค่2มื้อ
และผมเคยก็ถามเขาว่า ทำไมไม่ซื้ออย่างอื่นเข้ามากินบ้าง เขาตอบกลับมาว่าเขากินไม่เยอะหรอก กินแค่นี้ก็พอแล้ว 

เรื่องสุดท้ายคือ ปกติแฟนผม(ซึ่งทำงานอยู่คนละรัฐ)จะมาหาผมบ้างและพักอยู่ด้วยสัปดาห์ละครั้ง ตอนนี้แฟนผมเลยไม่ได้มา เพราะผมให้ญาติผมนอนอยู่ในห้องของผม
พอผมคุยกับญาติว่า ปกติแฟนผมจะมาหาและนอนที่นี่และไม่สะดวกให้นอนแล้ว  สิ่งที่เขาตอบกลับผมคือ..เดี๋ยวเขาย้ายไปนอนที่ห้องนั่งเล่นข้างนอกก็ได้

ผมอยากเฉดหัวเขาออกจากห้องผมมากครับ แต่ก็เกรงใจป้า ไม่อยากทำอะไรที่ดูไม่ดี ไม่อยากให้เรื่องนี้ไปถึงญาติพี่น้องแล้วคนอื่นอาจจะมองว่าผมแล้วน้ำใจ ผมจะทำยังไงดีครับ