เพื่อไทย โร่แจง 'ค่าไฟแพง' เพราะ 'ปู ยิ่งลักษณ์' หลังแห่แชร์ในกลุ่มสวัสดีวันจันทร์
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7622020
เพื่อไทย โร่แจง ‘ค่าไฟแพง’ เพราะ ‘ปู ยิ่งลักษณ์’ หลังแห่แชร์ในกลุ่มไลน์สวัสดีวันจันทร์ รวมถึงในช่องทางอื่น ๆ ในโลกโซเชียลอย่างมากมาย
20 เม.ย. 2566 – นาย
ศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าว ไฟฟ้าแพงเพราะสมัย น.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ได้เซ็นสัญญาเพิ่มกิโลวัตต์ โดยผู้โพสต์คือ นาย
หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ก่อนมีการแชร์ข่าวดังกล่าวไปตามกลุ่มไลน์ผู้สูงอายุ รวมถึงในโซเชียลอย่างมากมาย
นาย
ศึกษิษฏ์ กล่าวว่า หากย้อนไปช่วงนั้นพบว่า GDP ประเทศไทยเติบโตประมาณ 7% ดังนั้นการมีกิโลวัตต์ไฟฟ้าที่เหลือ เพื่อการรองรับเศรษฐกิจที่โตขึ้นจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสม แต่ 8 ปีที่ผ่านมา GDP ไทยโตต่ำกว่าที่ประมาณการณ์ไว้จากการบริหารของรัฐบาลนี้ หากจะใช้ข้ออ้างว่าต้องมีส่วนเพิ่มเติมตามขีดความสามารถของเศรษฐกิจ (Access capacity) ให้มากกว่า 54% ถือว่าไม่ค่อยเหมาะสม
อีกทั้ง คสช.ทำรัฐประหาร มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานชุดใหม่ ไม่มีการเปิดประมูลให้ผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระเข้ามา ไม่มีการเจรจากับภาคเอกชน ทั้งที่การใช้พลังงานของประเทศลดลง ดังนั้นจึงต้องเข้าไปเจรจากับโรงไฟฟ้าเพื่อปรับลดการผลิตไฟฟ้าอย่างเป็นธรรม
ขณะเดียวกันช่วงโควิด-19 กำลังระบาด มีการปิดโรงไฟฟ้า 7-9 โรง แต่โรงไฟฟ้าเหล่านั้นยังได้รับรายได้เหมือนเดิม อีกทั้ง 6 เดือนก่อนยุบสภา มีการเจรจาซื้อไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 แหล่งเพิ่มมาอีกประมาณ 1,000 กิโลวัตต์ และมีการทำสัญญาอนุมัติที่เขื่อนหลวงพระบางอีก 35 ปี เปรียบเสมือนการล็อกตัวเองไว้กับค่าใช้จ่าย ซึ่งปกติต้องมีความยืดหยุ่นมากกว่านี้
ข้อกล่าวหาว่ารัฐบาล น.ส.
ยิ่งลักษณ์ ทำให้ค่าไฟแพงที่เกิดขึ้น จึงไม่เป็นความจริง แต่เกิดจากการบริหารที่ไม่มีประสิทธิภาพและวิสัยทัศน์ที่ไม่ชัดเจนมากกว่า ที่ทำให้ค่าไฟแพงขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบัน
เพื่อไทย จี้ ‘บิ๊กตู่’ รับผิดชอบเหตุปาบึ้มใส่รถ‘ประชา’ บี้ กกต.เร่งสอบ ส่อโยงยุบพรรค
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7621728
เพื่อไทย จี้ ‘ประยุทธ์’ รับผิดชอบเหตุปาบึ้มใส่รถ ‘ประชา’ บี้ กกต.เร่งสอบ ประเสริฐโวยตร.ตั้งข้อหาไม่เหมาะ ส่อผิด กม.เลือกตั้ง โทษถึงจำคุก-ยุบพรรค
เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นาย
ภูมิธรรม เวชยชัย นาย
ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และผอ.ศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงกรณีรถประชาสัมพันธ์หาเสียงของ นาย
ประชา ประสพดี ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ ถูกปาระเบิดระหว่างหาเสียง เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านา
นาย
ภูมิธรรม กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว สรุปได้ใน 2 ประเด็น ดังนี้
1.
การกระทำที่เกิดขึ้นเป็นการใช้อำนาจอันมิชอบ ขณะนี้อยู่ในวาระของการเลือกตั้ง ภายใต้การบริหารจัดการในรัฐบาลนี้ และอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ กกต.ที่ต้องสืบสวนให้ชัดเจน เพราะผู้ปาระเบิดใส่รถหาเสียงของนายประชานั้น เป็นหัวคะแนนของพรรคที่มีความเกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ
ดังนั้น นายกฯ ต้องสืบให้ทราบว่า เกิดปัญหานี้ได้อย่างไรจะรับผิดชอบอย่างไร แล้วจะจัดการปัญหานี้อย่างไร กกต.ต้องเข้ามาดูแล เพราะเข้าข่ายผิดกฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายเลือกตั้ง
2.
มีประชาชนให้ข้อมูลกล่าวหาว่า มีการใช้อิทธิพลของรัฐ อำนาจรัฐ กลไกของรัฐไปใช้ช่วยหาคะแนนเสียงให้กับพรรคหนึ่งในภาคเหนือและภาคอีสาน โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของตำรวจ เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ระดับผู้กำกับ ผู้การ สารวัตรให้ทำทุกวิถีทาง เพื่อให้พรรคหนึ่งได้รับชัยชนะในหลายเขตเลือกตั้ง เมื่อมีข่าวนี้เกิดขึ้น นายกฯ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรสร้างความกระจ่าง ไม่ควรทำให้เกิดข้อครหา ทำให้ประชาชนไม่สบายใจ
มิฉะนั้นอาจถูกมองได้ว่าผู้นำของประเทศอยากสืบทอดอำนาจของตนเอง ใช้อำนาจทุกวิถีทางเพื่ออยู่ต่อ เพราะเราต่างขออาสามารับใช้ประชาชน ไม่ควรมีใครใช้กระบวนการของรัฐข่มขู่คุกคามผู้สมัครต่างพรรคต่างเบอร์กัน ซึ่งผิดกับหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
“
เราไม่ควรมีบรรยากาศการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยที่มีการข่มขู่ คุกคาม นำไปสู่การทำลายระบบประชาธิปไตย เกิดการหวาดหวั่นในการเลือกตั้งที่จะถึง และหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้นอีก ไม่ควรมีกระบวนการใด อิทธิพลใด หรือการกระทำใดๆ ที่กระบวนการของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องและข่มขู่ผู้สมัคร ที่ต่างพรรคต่างเบอร์ กกต.ไม่ต้องรอให้พรรคเพื่อไทยร้องเรียน สามารถสอบสวนได้เลย” นายภูมิธรรม กล่าว
นาย
ประเสริฐ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าว ถือเป็นการคุกคาม ขู่เข็ญผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค และผู้สนับสนุนให้เกิดความหวาดกลัว ส่งผลต่อการได้เปรียบ เสียเปรียบในการเลือกตั้ง ส่อเกิดความไม่เป็นธรรม ตัวผู้กระทำผิดก็มีพฤติกรรมเกี่ยวพันกับพรรคที่นายกฯ มีความเกี่ยวข้องอีกด้วย พล.อ.
ประยุทธ์ต้องรับผิดชอบตรวจสอบ และดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะเดียวกันอีก
ทั้งนี้ พฤติการณ์ของผู้กระทำผิด พรรคเห็นว่าสุ่มเสี่ยงที่จะฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง และกฎหมายพรรคการเมือง เพราะเป็นการคุกคามต่อความสงบเรียบร้อย ซึ่งไม่ใช่แค่ข่มขวัญ แต่หวังเอาชีวิต ดังนั้น กกต.ควรเข้าไปตรวจสอบเพื่อเอาผิดพรรคการเมืองและนักการเมืองที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตเพิ่มเติมคือ
1. สถานที่เกิดเหตุระเบิดและสถานีตำรวจอยู่ห่างกันไม่ถึง 1 กิโลเมตร แต่เมื่อผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ แจ้งไปยังสน. กลับใช้เวลาเดินทางมาตรวจสอบนานถึง 30 นาที ทั้งที่ควรใช้เวลาแค่ 5-10 นาทีเท่านั้น
2. ภายหลังจับกุมผู้กระทำผิด พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำผิดเบาเกินไป ไม่สมเหตุสมผล ได้แก่ ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ทำให้เสียทรัพย์ พยายามทำร้ายร่างกาย และทำให้ส่งเสียงดังอื้ออึง โดยปกตินายประชา จะนั่งไปในรถหาเสียงคันดังกล่าวด้วย หากวันนั้นนายประชา อยู่ในรถคันดังกล่าว โดนระเบิดหลบไม่ทัน หมายถึงการประสงค์ต่อชีวิต ดังนั้น การตั้งข้อหาที่เบาเกินไป จึงดูขาดน้ำหนัก
นาย
ประเสริฐ กล่าวอีกว่า การที่ผู้ต้องหา อ้างว่าเป็นโรคทางจิตเวช แต่ในข้อเท็จจริงผู้กระทำความผิดเคยได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 9 เดือน ระหว่างนั้นได้ยกเอาสาเหตุอาการป่วยทางจิตมาเป็นสาเหตุอ้างต่อศาล แต่ศาลไม่รับฟัง และได้ตัดสินจำคุกผู้ต้องหา 9 เดือน ครั้งนี้ตนกังวลว่าจะยกเอาเหตุผลทางจิตเวชขึ้นมาอีก แต่ในเมื่อมีบรรทัดฐานจากคดีการลักทรัพย์ที่ผู้ต้องหาถูกจำคุกแล้ว จึงไม่ควรอ้างเหตุนี้อีก ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้งพรรค แจ้งไปยังผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 400 เขต ให้ระมัดระวังในการลงพื้นที่ และเป็นศูนย์กลางรับเรื่องการลงพื้นที่ต่างๆ
นาย
ชูศักดิ์ กล่าวว่า ในข้อกฎหมาย สามารถตั้งข้อสังเกตหรือเอาผิดได้ 2 ประเด็น คือ
1. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชัดเจนว่าอยู่ในช่วงเวลาที่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566 แล้ว การทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งในช่วงนี้ ถือเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.ต้องเข้ามาดูแลและดำเนินคดี
หากสอบสวนแล้วพบผู้กระทำผิด โทษตามที่กฎหมายระบุไว้ อาจมีโทษถึงจำคุก หรือหากสอบสวนแล้วพบว่ามีพรรคการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่งเสริม หรือ ทราบเรื่องแต่ไม่ห้ามปราบ อาจมีผลถึงขั้นยุบพรรคได้
2. พฤติกรรมข้าราชการที่วางตนไม่เป็นกลาง หรือ ช่วยเหลือสนับสนุนใดๆ ให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากกฎหมายเลือกตั้งได้ให้อำนาจ กกต.สั่งห้ามไม่ให้ข้าราชการกระทำการที่สุ่มเสี่ยงต่อการเอื้อต่อพรรคใดพรรคหนึ่ง หากสั่งการแล้วข้าราชการไม่เชื่อฟัง กกต. มีอำนาจเสนอย้ายข้าราชการเหล่านั้นให้ออกจากพื้นที่ จึงขอแจ้งไปยังผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคว่าหากพบพฤติกรรมของข้าราชการ และอาจทำให้ผู้สมัครได้รับความเสียหาย หรืออยู่ในการแข่งขันที่ไม่ยุติธรรม ผู้สมัครสามารถใช้กฎหมายข้อนี้ในการเอาผิดได้
พิธา ลั่นถ้าเป็นรัฐบาล 100 วันแรก ดัน ‘ศิริกัญญา’ นั่งรมว.คลัง ปลดล็อกสุราเสรี
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7621579
พิธา ลั่น ถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล 100 วันแรก ดัน ศิริกัญญา นั่งรมว.คลัง ปลดล็อกสุราเสรี ล็อกเป้ารีดงบกองทัพ ย้ำเงื่อนไขตึง 3 ข้อ ร่วมรัฐบาล
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 20 เม.ย. 2566 นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค กล่าวในรายการ ‘
กรรมกรข่าวเปิดอกคุย’ ของนาย
สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง ถึงกรณีถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาลจะทำอะไร ว่า ถ้าเป็นรัฐบาล 100 วันแรก ส่งน.ส.
ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ไปเป็นรมว.คลัง แก้ไขกฎกระทรวงให้ไม่สามารถมีกฎหมายกีดกันการค้าในอุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ ไม่ต้องใช้กฎหมาย เพราะเป็นกฎกระทรวง
เมื่อถามว่า เรื่องนี้เคยสู้กันมาในสภาช่วงที่ผ่านมา สุดท้ายรัฐบาลตัดหน้าแก้กฎกระทรวง เรื่องสรรพสามิต นาย
พิธา กล่าวว่า มันคือการลดกำแพงหนึ่ง แล้วเพิ่มกำแพงใหม่ขึ้นมา เพิ่มผู้ผลิต ไม่ได้เพิ่มผู้ดื่ม สำหรับทุนใหญ่ที่กังวลว่าจะโดนคุกคาม พอผ่านกฎหมายสุราก้าวหน้า มาร์เก็ตแชร์เจ้าใหญ่หายไปแค่ 5% คือ 3-4 หมื่นล้านบาท แต่ 3-4 หมื่นล้านบาทในมือเกษตรกร และในมือของเจ้าสัวมันต่างกันเยอะ
เมื่อถามถึงนโยบายการลดงบกองทัพ ไม่ต้องซื้อเรือดำน้ำและอาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ความมั่นคงเดิมบอกว่าต้องมี นาย
พิธา ว่า สำหรับคนที่บอกว่าความมั่นคงยังสำคัญ เมื่อเราปฏิรูปกองทัพเมื่อไหร่ กองทัพที่เป็นมืออาชีพ กองทัพที่สามารถมีงบประมาณส่วนหนึ่งไปสู้กับภัยคุกคามแบบใหม่ๆ จะทำให้คุณมั่นใจในความมั่นคงของประเทศมากขึ้น
นาย
พิธา กล่าวต่อว่า มีคนเคยบอกตนว่า จำนวนพลทหารเยอะเท่าไหร่ แสดงว่ากองทัพนั้นอ่อนแอมากเท่านั้น เพราะคุณจะไม่มีงบไปอัปเกรดเทคโนโลยีในกองทัพ ทุกวันนี้เขาสู้กันด้วยการแฮ็ก ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ คือภัยความมั่นคงคุกคามอันใหม่ ที่ประเทศไทยก็เจออยู่คือ 9Near
“
ถ้าอยากเห็นประเทศไทยมีความมั่นคงมากขึ้น ต้องลงทุนในเทคโนโลยีของกองทัพ มากกว่าจำนวนพลทหารที่มีไว้ตัดหญ้า และซักเสื้อ ถ้าพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล จะรีดไขมันที่ไม่จำเป็นจากกองทัพ และยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ไม่เท่ากับยกเลิกทหาร” นาย
พิธา กล่าว
เมื่อถามว่า ถ้าได้เป็นรัฐบาล อยากดูแลกระทรวงกลาโหมหรือไม่ นาย
พิธา กล่าวว่า “
อยากดูครับ”
“
ตอนนี้งบกระทรวงกลาโหม 2 แสนล้านบาท ถ้าตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกจะประหยัดได้ 5 หมื่นล้านบาท ยืนยันว่าต้องเอาจริง เพราะถ้าไม่เอาจริงก็ไม่มีทางเลือกอื่น เราจะหาเงินมาจากไหน ถ้าไม่รีดไขมันในตัวของเราเอง” นาย
พิธา กล่าว
เมื่อถามว่า สมมติก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล แต่พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ยอมให้ทำนโยบายที่ตึงเหล่านี้ จะทำอย่างไร นาย
พิธา กล่าวว่า ตนมีเงื่อนไขที่ตึง และเงื่อนไขที่หย่อน ลายเซ็นของพรรคก้าวไกล คือ ปฏิรูปกองทัพ สุราก้าวหน้า และสมรสเท่าเทียม ซึ่งที่ตนฟังจากผู้นำพรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบัน ทั้ง 3 เงื่อนไขดังกล่าว ตนยังไม่เห็นใครบอกว่าไม่ได้ ดังนั้น ทำให้ตนมั่นใจ ทั้งนี้ คงจะมีอีกหลายเงื่อนไขที่หย่อนลง
JJNY : 5in1 พท.โร่แจง'ค่าไฟแพง'│พท.จี้‘ตู่’รับผิดชอบ│พิธาดัน‘ศิริกัญญา’│บิ๊ก CPF โอด│เดนมาร์ก-เนเธอร์แลนด์จะบริจาครถถัง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7622020
เพื่อไทย โร่แจง ‘ค่าไฟแพง’ เพราะ ‘ปู ยิ่งลักษณ์’ หลังแห่แชร์ในกลุ่มไลน์สวัสดีวันจันทร์ รวมถึงในช่องทางอื่น ๆ ในโลกโซเชียลอย่างมากมาย
20 เม.ย. 2566 – นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าว ไฟฟ้าแพงเพราะสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ได้เซ็นสัญญาเพิ่มกิโลวัตต์ โดยผู้โพสต์คือ นายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ก่อนมีการแชร์ข่าวดังกล่าวไปตามกลุ่มไลน์ผู้สูงอายุ รวมถึงในโซเชียลอย่างมากมาย
นายศึกษิษฏ์ กล่าวว่า หากย้อนไปช่วงนั้นพบว่า GDP ประเทศไทยเติบโตประมาณ 7% ดังนั้นการมีกิโลวัตต์ไฟฟ้าที่เหลือ เพื่อการรองรับเศรษฐกิจที่โตขึ้นจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสม แต่ 8 ปีที่ผ่านมา GDP ไทยโตต่ำกว่าที่ประมาณการณ์ไว้จากการบริหารของรัฐบาลนี้ หากจะใช้ข้ออ้างว่าต้องมีส่วนเพิ่มเติมตามขีดความสามารถของเศรษฐกิจ (Access capacity) ให้มากกว่า 54% ถือว่าไม่ค่อยเหมาะสม
อีกทั้ง คสช.ทำรัฐประหาร มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานชุดใหม่ ไม่มีการเปิดประมูลให้ผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระเข้ามา ไม่มีการเจรจากับภาคเอกชน ทั้งที่การใช้พลังงานของประเทศลดลง ดังนั้นจึงต้องเข้าไปเจรจากับโรงไฟฟ้าเพื่อปรับลดการผลิตไฟฟ้าอย่างเป็นธรรม
ขณะเดียวกันช่วงโควิด-19 กำลังระบาด มีการปิดโรงไฟฟ้า 7-9 โรง แต่โรงไฟฟ้าเหล่านั้นยังได้รับรายได้เหมือนเดิม อีกทั้ง 6 เดือนก่อนยุบสภา มีการเจรจาซื้อไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 แหล่งเพิ่มมาอีกประมาณ 1,000 กิโลวัตต์ และมีการทำสัญญาอนุมัติที่เขื่อนหลวงพระบางอีก 35 ปี เปรียบเสมือนการล็อกตัวเองไว้กับค่าใช้จ่าย ซึ่งปกติต้องมีความยืดหยุ่นมากกว่านี้
ข้อกล่าวหาว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำให้ค่าไฟแพงที่เกิดขึ้น จึงไม่เป็นความจริง แต่เกิดจากการบริหารที่ไม่มีประสิทธิภาพและวิสัยทัศน์ที่ไม่ชัดเจนมากกว่า ที่ทำให้ค่าไฟแพงขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบัน
เพื่อไทย จี้ ‘บิ๊กตู่’ รับผิดชอบเหตุปาบึ้มใส่รถ‘ประชา’ บี้ กกต.เร่งสอบ ส่อโยงยุบพรรค
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7621728
เพื่อไทย จี้ ‘ประยุทธ์’ รับผิดชอบเหตุปาบึ้มใส่รถ ‘ประชา’ บี้ กกต.เร่งสอบ ประเสริฐโวยตร.ตั้งข้อหาไม่เหมาะ ส่อผิด กม.เลือกตั้ง โทษถึงจำคุก-ยุบพรรค
เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และผอ.ศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงกรณีรถประชาสัมพันธ์หาเสียงของ นายประชา ประสพดี ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ ถูกปาระเบิดระหว่างหาเสียง เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านา
นายภูมิธรรม กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว สรุปได้ใน 2 ประเด็น ดังนี้
1. การกระทำที่เกิดขึ้นเป็นการใช้อำนาจอันมิชอบ ขณะนี้อยู่ในวาระของการเลือกตั้ง ภายใต้การบริหารจัดการในรัฐบาลนี้ และอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ กกต.ที่ต้องสืบสวนให้ชัดเจน เพราะผู้ปาระเบิดใส่รถหาเสียงของนายประชานั้น เป็นหัวคะแนนของพรรคที่มีความเกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ
ดังนั้น นายกฯ ต้องสืบให้ทราบว่า เกิดปัญหานี้ได้อย่างไรจะรับผิดชอบอย่างไร แล้วจะจัดการปัญหานี้อย่างไร กกต.ต้องเข้ามาดูแล เพราะเข้าข่ายผิดกฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายเลือกตั้ง
2. มีประชาชนให้ข้อมูลกล่าวหาว่า มีการใช้อิทธิพลของรัฐ อำนาจรัฐ กลไกของรัฐไปใช้ช่วยหาคะแนนเสียงให้กับพรรคหนึ่งในภาคเหนือและภาคอีสาน โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของตำรวจ เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ระดับผู้กำกับ ผู้การ สารวัตรให้ทำทุกวิถีทาง เพื่อให้พรรคหนึ่งได้รับชัยชนะในหลายเขตเลือกตั้ง เมื่อมีข่าวนี้เกิดขึ้น นายกฯ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรสร้างความกระจ่าง ไม่ควรทำให้เกิดข้อครหา ทำให้ประชาชนไม่สบายใจ
มิฉะนั้นอาจถูกมองได้ว่าผู้นำของประเทศอยากสืบทอดอำนาจของตนเอง ใช้อำนาจทุกวิถีทางเพื่ออยู่ต่อ เพราะเราต่างขออาสามารับใช้ประชาชน ไม่ควรมีใครใช้กระบวนการของรัฐข่มขู่คุกคามผู้สมัครต่างพรรคต่างเบอร์กัน ซึ่งผิดกับหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
“เราไม่ควรมีบรรยากาศการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยที่มีการข่มขู่ คุกคาม นำไปสู่การทำลายระบบประชาธิปไตย เกิดการหวาดหวั่นในการเลือกตั้งที่จะถึง และหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้นอีก ไม่ควรมีกระบวนการใด อิทธิพลใด หรือการกระทำใดๆ ที่กระบวนการของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องและข่มขู่ผู้สมัคร ที่ต่างพรรคต่างเบอร์ กกต.ไม่ต้องรอให้พรรคเพื่อไทยร้องเรียน สามารถสอบสวนได้เลย” นายภูมิธรรม กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าว ถือเป็นการคุกคาม ขู่เข็ญผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค และผู้สนับสนุนให้เกิดความหวาดกลัว ส่งผลต่อการได้เปรียบ เสียเปรียบในการเลือกตั้ง ส่อเกิดความไม่เป็นธรรม ตัวผู้กระทำผิดก็มีพฤติกรรมเกี่ยวพันกับพรรคที่นายกฯ มีความเกี่ยวข้องอีกด้วย พล.อ.ประยุทธ์ต้องรับผิดชอบตรวจสอบ และดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะเดียวกันอีก
ทั้งนี้ พฤติการณ์ของผู้กระทำผิด พรรคเห็นว่าสุ่มเสี่ยงที่จะฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง และกฎหมายพรรคการเมือง เพราะเป็นการคุกคามต่อความสงบเรียบร้อย ซึ่งไม่ใช่แค่ข่มขวัญ แต่หวังเอาชีวิต ดังนั้น กกต.ควรเข้าไปตรวจสอบเพื่อเอาผิดพรรคการเมืองและนักการเมืองที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตเพิ่มเติมคือ
1. สถานที่เกิดเหตุระเบิดและสถานีตำรวจอยู่ห่างกันไม่ถึง 1 กิโลเมตร แต่เมื่อผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ แจ้งไปยังสน. กลับใช้เวลาเดินทางมาตรวจสอบนานถึง 30 นาที ทั้งที่ควรใช้เวลาแค่ 5-10 นาทีเท่านั้น
2. ภายหลังจับกุมผู้กระทำผิด พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำผิดเบาเกินไป ไม่สมเหตุสมผล ได้แก่ ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ทำให้เสียทรัพย์ พยายามทำร้ายร่างกาย และทำให้ส่งเสียงดังอื้ออึง โดยปกตินายประชา จะนั่งไปในรถหาเสียงคันดังกล่าวด้วย หากวันนั้นนายประชา อยู่ในรถคันดังกล่าว โดนระเบิดหลบไม่ทัน หมายถึงการประสงค์ต่อชีวิต ดังนั้น การตั้งข้อหาที่เบาเกินไป จึงดูขาดน้ำหนัก
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า การที่ผู้ต้องหา อ้างว่าเป็นโรคทางจิตเวช แต่ในข้อเท็จจริงผู้กระทำความผิดเคยได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 9 เดือน ระหว่างนั้นได้ยกเอาสาเหตุอาการป่วยทางจิตมาเป็นสาเหตุอ้างต่อศาล แต่ศาลไม่รับฟัง และได้ตัดสินจำคุกผู้ต้องหา 9 เดือน ครั้งนี้ตนกังวลว่าจะยกเอาเหตุผลทางจิตเวชขึ้นมาอีก แต่ในเมื่อมีบรรทัดฐานจากคดีการลักทรัพย์ที่ผู้ต้องหาถูกจำคุกแล้ว จึงไม่ควรอ้างเหตุนี้อีก ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้งพรรค แจ้งไปยังผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 400 เขต ให้ระมัดระวังในการลงพื้นที่ และเป็นศูนย์กลางรับเรื่องการลงพื้นที่ต่างๆ
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ในข้อกฎหมาย สามารถตั้งข้อสังเกตหรือเอาผิดได้ 2 ประเด็น คือ
1. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชัดเจนว่าอยู่ในช่วงเวลาที่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566 แล้ว การทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งในช่วงนี้ ถือเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.ต้องเข้ามาดูแลและดำเนินคดี
หากสอบสวนแล้วพบผู้กระทำผิด โทษตามที่กฎหมายระบุไว้ อาจมีโทษถึงจำคุก หรือหากสอบสวนแล้วพบว่ามีพรรคการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่งเสริม หรือ ทราบเรื่องแต่ไม่ห้ามปราบ อาจมีผลถึงขั้นยุบพรรคได้
2. พฤติกรรมข้าราชการที่วางตนไม่เป็นกลาง หรือ ช่วยเหลือสนับสนุนใดๆ ให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากกฎหมายเลือกตั้งได้ให้อำนาจ กกต.สั่งห้ามไม่ให้ข้าราชการกระทำการที่สุ่มเสี่ยงต่อการเอื้อต่อพรรคใดพรรคหนึ่ง หากสั่งการแล้วข้าราชการไม่เชื่อฟัง กกต. มีอำนาจเสนอย้ายข้าราชการเหล่านั้นให้ออกจากพื้นที่ จึงขอแจ้งไปยังผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคว่าหากพบพฤติกรรมของข้าราชการ และอาจทำให้ผู้สมัครได้รับความเสียหาย หรืออยู่ในการแข่งขันที่ไม่ยุติธรรม ผู้สมัครสามารถใช้กฎหมายข้อนี้ในการเอาผิดได้
พิธา ลั่นถ้าเป็นรัฐบาล 100 วันแรก ดัน ‘ศิริกัญญา’ นั่งรมว.คลัง ปลดล็อกสุราเสรี
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7621579
พิธา ลั่น ถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล 100 วันแรก ดัน ศิริกัญญา นั่งรมว.คลัง ปลดล็อกสุราเสรี ล็อกเป้ารีดงบกองทัพ ย้ำเงื่อนไขตึง 3 ข้อ ร่วมรัฐบาล
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 20 เม.ย. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค กล่าวในรายการ ‘กรรมกรข่าวเปิดอกคุย’ ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง ถึงกรณีถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาลจะทำอะไร ว่า ถ้าเป็นรัฐบาล 100 วันแรก ส่งน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ไปเป็นรมว.คลัง แก้ไขกฎกระทรวงให้ไม่สามารถมีกฎหมายกีดกันการค้าในอุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ ไม่ต้องใช้กฎหมาย เพราะเป็นกฎกระทรวง
เมื่อถามว่า เรื่องนี้เคยสู้กันมาในสภาช่วงที่ผ่านมา สุดท้ายรัฐบาลตัดหน้าแก้กฎกระทรวง เรื่องสรรพสามิต นายพิธา กล่าวว่า มันคือการลดกำแพงหนึ่ง แล้วเพิ่มกำแพงใหม่ขึ้นมา เพิ่มผู้ผลิต ไม่ได้เพิ่มผู้ดื่ม สำหรับทุนใหญ่ที่กังวลว่าจะโดนคุกคาม พอผ่านกฎหมายสุราก้าวหน้า มาร์เก็ตแชร์เจ้าใหญ่หายไปแค่ 5% คือ 3-4 หมื่นล้านบาท แต่ 3-4 หมื่นล้านบาทในมือเกษตรกร และในมือของเจ้าสัวมันต่างกันเยอะ
เมื่อถามถึงนโยบายการลดงบกองทัพ ไม่ต้องซื้อเรือดำน้ำและอาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ความมั่นคงเดิมบอกว่าต้องมี นายพิธา ว่า สำหรับคนที่บอกว่าความมั่นคงยังสำคัญ เมื่อเราปฏิรูปกองทัพเมื่อไหร่ กองทัพที่เป็นมืออาชีพ กองทัพที่สามารถมีงบประมาณส่วนหนึ่งไปสู้กับภัยคุกคามแบบใหม่ๆ จะทำให้คุณมั่นใจในความมั่นคงของประเทศมากขึ้น
นายพิธา กล่าวต่อว่า มีคนเคยบอกตนว่า จำนวนพลทหารเยอะเท่าไหร่ แสดงว่ากองทัพนั้นอ่อนแอมากเท่านั้น เพราะคุณจะไม่มีงบไปอัปเกรดเทคโนโลยีในกองทัพ ทุกวันนี้เขาสู้กันด้วยการแฮ็ก ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ คือภัยความมั่นคงคุกคามอันใหม่ ที่ประเทศไทยก็เจออยู่คือ 9Near
“ถ้าอยากเห็นประเทศไทยมีความมั่นคงมากขึ้น ต้องลงทุนในเทคโนโลยีของกองทัพ มากกว่าจำนวนพลทหารที่มีไว้ตัดหญ้า และซักเสื้อ ถ้าพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล จะรีดไขมันที่ไม่จำเป็นจากกองทัพ และยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ไม่เท่ากับยกเลิกทหาร” นายพิธา กล่าว
เมื่อถามว่า ถ้าได้เป็นรัฐบาล อยากดูแลกระทรวงกลาโหมหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า “อยากดูครับ”
“ตอนนี้งบกระทรวงกลาโหม 2 แสนล้านบาท ถ้าตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกจะประหยัดได้ 5 หมื่นล้านบาท ยืนยันว่าต้องเอาจริง เพราะถ้าไม่เอาจริงก็ไม่มีทางเลือกอื่น เราจะหาเงินมาจากไหน ถ้าไม่รีดไขมันในตัวของเราเอง” นายพิธา กล่าว
เมื่อถามว่า สมมติก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล แต่พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ยอมให้ทำนโยบายที่ตึงเหล่านี้ จะทำอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ตนมีเงื่อนไขที่ตึง และเงื่อนไขที่หย่อน ลายเซ็นของพรรคก้าวไกล คือ ปฏิรูปกองทัพ สุราก้าวหน้า และสมรสเท่าเทียม ซึ่งที่ตนฟังจากผู้นำพรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบัน ทั้ง 3 เงื่อนไขดังกล่าว ตนยังไม่เห็นใครบอกว่าไม่ได้ ดังนั้น ทำให้ตนมั่นใจ ทั้งนี้ คงจะมีอีกหลายเงื่อนไขที่หย่อนลง