ตอนก่อนแต่งงานชีวิตดีเหมือนฝันมากค่ะ สองครอบครัวเข้ากันได้ดีไปเที่ยวไปไหนด้วยกัน แต่พอแต่งงานฝันสลายตั้งแต่ก่อนถึงวันงานเลยค่ะ ห่างเหินกันมีปัญหากันวันงานไม่มองหน้ากัน ไม่ทราบเหตุผลจากฝั่งชายว่าเพราะอะไร แต่ฝั่งเราไม่พอใจที่เขาไม่ให้เกียรติไม่เคารพกันในวันงานค่ะ ในฐานะคนกลางลำบากใจมากค่ะ
การแต่งงานครั้งนี้แยกบ้านออกมานะคะ ไม่ได้อยู่บ้านฝั่งใดฝั่งนึง
ชีวิตคู่ก็มีปัญหามาเรื่อยๆค่ะ เพราะการแต่งงานคือเรื่องของสองครอบครัวไม่ใช่เรื่องของคนสองคน
แม่เราไปสืบพบมาว่าแม่เขาเป็นบ้านเล็ก เป็นผู้หญิงที่ไม่ทำงานชอบเที่ยว ฯลฯ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวทำให้แม่เราไม่ชอบแม่เขามากขึ้น
แม่เริ่มอคติกับตัวแฟนเรา เริ่มไม่อยากเจอหน้า ไม่อยากให้เข้าบ้าน เราได้ยินแบบนี้เรายิ่งเครียดค่ะ
แต่ก็พยายามให้แฟนเข้าหาแม่ให้มากขึ้นไม่ได้บอกสาเหตุเขานะคะว่าเพราะอะไร แต่เขาก็ไม่เข้าใจถามทำไมเขาต้องทำ ทำไมเขาต้องเป็นคนเริ่มพูดคุยก่อนด้วย มีแต่คำถามทำไมๆทุกครั้งที่เราพยายามจะให้เขาปรับเข้าหาบ้านเรา ทำให้เรารู้สึกเหมือนบังคับหรือฝืนใจเขาเลยค่ะ
จริงๆไม่คาดหวังอะไรมากเลยนอกจากให้เข้ากันได้ ไม่ต้องดีเหมือนดีกับแม่เขาก็ได้ แต่ดีต่อกันก็พอ
ที่อึดอัดคือมันรู้สึกเปรียบเทียบว่าต่างจากเวลาเราไปบ้านเขา เราทำทุกอย่างปกติไม่ได้แสดงอาการไม่พอใจไม่ชอบใจอะไรแม่เขาเลย ชวนคุยทำกับข้าว ชวนไปเที่ยว ดูแลเหมือนเป็นแม่เราอีกคน
ปัญหามันเริ่มบานปลายเริ่มอึดอัดมากๆตอนเราต้องย้ายงานค่ะ ความฝันของเราทั้งชีวิตคือได้กลับไปทำงานในจังหวัดบ้านเกิดอยู่ดูแลพ่อแม่ตอนแก่ แต่เขาอยากให้เราเข้ากรุงเทพไปอยู่กับเขาเพื่อเริ่มชีวิตครอบครัวด้วยกัน เรายอมทิ้งความฝันของเรา ร้องไห้ไปหลายวัน มาอยู่กรุงเทพ ระหว่างรอทำเรื่องย้ายงาน สิ่งที่เขาเคยพูดหลายๆอย่างที่ไม่ดีก็ตีย้อนมาในความคิดเรา เช่น อยู่กันแล้วมีแต่ความทุกข์ไม่มีความสุขไม่เหมือนคู่อื่น ,ทำไมเหนื่อยจากงานมาทั้งวันแล้วยังต้องมารับมาช้อนอารมณ์เมียอีก (เราป่วยเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ) ความคิดเหล่านี้เลยทำให้เราคิดว่าหรือเราควรพอแล้ว เราเองก็เหนื่อยแล้ว แต่ก็ยังมีความหวังว่าจะมีความสุขนะคะ ยังหวังว่าจะดีขึ้น
ขอพื้นที่ระบายค่ะ ชีวิตหลังแต่งงานไม่มีความสุขเลย
การแต่งงานครั้งนี้แยกบ้านออกมานะคะ ไม่ได้อยู่บ้านฝั่งใดฝั่งนึง
ชีวิตคู่ก็มีปัญหามาเรื่อยๆค่ะ เพราะการแต่งงานคือเรื่องของสองครอบครัวไม่ใช่เรื่องของคนสองคน
แม่เราไปสืบพบมาว่าแม่เขาเป็นบ้านเล็ก เป็นผู้หญิงที่ไม่ทำงานชอบเที่ยว ฯลฯ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวทำให้แม่เราไม่ชอบแม่เขามากขึ้น
แม่เริ่มอคติกับตัวแฟนเรา เริ่มไม่อยากเจอหน้า ไม่อยากให้เข้าบ้าน เราได้ยินแบบนี้เรายิ่งเครียดค่ะ
แต่ก็พยายามให้แฟนเข้าหาแม่ให้มากขึ้นไม่ได้บอกสาเหตุเขานะคะว่าเพราะอะไร แต่เขาก็ไม่เข้าใจถามทำไมเขาต้องทำ ทำไมเขาต้องเป็นคนเริ่มพูดคุยก่อนด้วย มีแต่คำถามทำไมๆทุกครั้งที่เราพยายามจะให้เขาปรับเข้าหาบ้านเรา ทำให้เรารู้สึกเหมือนบังคับหรือฝืนใจเขาเลยค่ะ
จริงๆไม่คาดหวังอะไรมากเลยนอกจากให้เข้ากันได้ ไม่ต้องดีเหมือนดีกับแม่เขาก็ได้ แต่ดีต่อกันก็พอ
ที่อึดอัดคือมันรู้สึกเปรียบเทียบว่าต่างจากเวลาเราไปบ้านเขา เราทำทุกอย่างปกติไม่ได้แสดงอาการไม่พอใจไม่ชอบใจอะไรแม่เขาเลย ชวนคุยทำกับข้าว ชวนไปเที่ยว ดูแลเหมือนเป็นแม่เราอีกคน
ปัญหามันเริ่มบานปลายเริ่มอึดอัดมากๆตอนเราต้องย้ายงานค่ะ ความฝันของเราทั้งชีวิตคือได้กลับไปทำงานในจังหวัดบ้านเกิดอยู่ดูแลพ่อแม่ตอนแก่ แต่เขาอยากให้เราเข้ากรุงเทพไปอยู่กับเขาเพื่อเริ่มชีวิตครอบครัวด้วยกัน เรายอมทิ้งความฝันของเรา ร้องไห้ไปหลายวัน มาอยู่กรุงเทพ ระหว่างรอทำเรื่องย้ายงาน สิ่งที่เขาเคยพูดหลายๆอย่างที่ไม่ดีก็ตีย้อนมาในความคิดเรา เช่น อยู่กันแล้วมีแต่ความทุกข์ไม่มีความสุขไม่เหมือนคู่อื่น ,ทำไมเหนื่อยจากงานมาทั้งวันแล้วยังต้องมารับมาช้อนอารมณ์เมียอีก (เราป่วยเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ) ความคิดเหล่านี้เลยทำให้เราคิดว่าหรือเราควรพอแล้ว เราเองก็เหนื่อยแล้ว แต่ก็ยังมีความหวังว่าจะมีความสุขนะคะ ยังหวังว่าจะดีขึ้น