เราเลิกกับแฟนสาวมาได้ 4 เดือน แล้วตอนนี้เค๊าไปคบทอมพม่าที่เป็นเพื่อนร่วมงาน
ย้อนเวลากลับไปประมาณ 6 เดือนที่แล้ว แฟนเก่าเราเริ่มทำตัวแปลกๆ
เค๊าเคยเล่าให้ฟังว่า มีคนพม่ามาทำงานที่ออฟฟิต แล้วเค๊าก็พาไปหาหมอ ทีแรกเราไม่ได้เอะใจ คิดว่าเพื่อนร่วมงานป่วย ถามไปถามมาถึงได้รู้ว่า ทอมพม่าคนนี้ต้องไปตรวจร่างกายเพื่อไปทำ work permit อันนี้เอ๊ะที่ 1 - ช่วงนั้นเค๊างานยุ่งมาก แต่ยอมออกจากออฟฟิตก่อนเวลาเพื่อพาคุณทอมพม่าไปหาหมอ
เอ๊ะที่สอง เป็นเอ๊ะที่แรงมาก - มีอยู่วันนึงที่เค๊าต้องไปงานเลี้ยงกับเพื่อนๆ ที่ทำงาน แล้วเที่ยวกลางคืนกันต่อ วันรุ่งขึ้นโทรคุยกัน เค๊าก็เล่าให้ฟังว่าไปเที่ยวมา พร้อมกับคำถามภาษาอังกฤษที่เค๊าไม่เข้าใจความหมายที่ส่งผ่านทาง Chat จากทางทอมพม่าว่า Are you straight ?? ซึ่งมันแปลได้ว่า คุณชอบเพศเดียวกันรึป่าว ตอนนั้นเราก็อธิบายให้เค๊าเข้าใจ แต่ก็เริ่มสงสัยถึงคำถามละ แล้วบอกทีเล่นทีจริงให้เค๊าตอบไปว่า เค๊าชอบคนเพศเดียวกัน แต่ไม่โสดนะจ๊ะ
หลังจากนั้นประมาณ 10 วัน เรามีไปทริป ตจว ด้วยกัน เค๊าเริ่มเปลี่ยนไปอย่างรู้สึกได้ อาบน้ำอยู่ก็มีคุยโทรศัพท์ภาษาอังกฤษด้วย แต่เราไม่ได้แอบฟัง / สนใจในรายละเอียด ไม่ยอมให้นอนใกล้ๆ มีหงุดหงิดหลายๆ ครั้ง และพฤติกรรมอื่นๆ ที่ทำแบบที่เค๊าไม่เคยทำในช่วงเวลาที่เรารู้จักกันหลายปี แล้วมีการยกเรื่องราวบางอย่างมาต่อว่าเราด้วย
ต่อมาเค๊าเริ่มทำตัวห่าง ไม่ค่อยตอบไลน์ ไปไหนไม่บอก เหมือนที่เคยทำ เงียบไปอาทิตย์กว่าทั้งๆที่ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะอะไรกัน - อันนี้เอ๊ะอีก
บนหน้า FB จะมี Comment บนโพสต์เค๊าจากทอมพม่าคนนั้น ด้วยคำบางคำ ที่เรารู้ว่า ใช้เฉพาะครอบครัว / คนสนิทเค๊าเท่านั้น - เอ๊ะซิคะ
จนวันนึง ตอนเช้าวันหยุดชดเชย เราทักไลน์ไป ถามเค๊าว่าไม่ไปทำงานใช่ป่าว พอดีวันนั้นมีนัดกินข้าวกะเพื่อนในกลุ่ม เลยถามว่าไปมั๊ย
เค๊าบอกไม่ไป เลยรู้ว่าเค๊าอยู่บ้าน ก่อนเราไปกินข้าวกับเพื่อน เราแวะไปหาเค๊าที่บ้าน เอาขนม + ผลไม้ไปให้ตามปกติ
เข้าบ้านไปเค๊าหงุดหงิดใส่เราเบอร์แรงมาก พร้อมต่อว่า บลาๆ ว่า Pop Up มาแบบนี้ทำไม เค๊าไม่ชอบ แล้วก็พูดด้วยอารมณ์ว่า ไม่อยากไปต่อแล้ว
บลาๆๆๆๆ เราไม่ใช่ตามที่เค๊าคาดหวัง แล้วพยายามไล่ให้เราออกจากบ้าน
สิ่งที่เค๊าทำวันนั้นมันทำให้เรารู้สึกว่า ดีแล้วละที่เราเลิกกันไป ทำแบบนี้มันไม่น่ารักเลยจริงๆ I see your true color
จริงๆคือเราตั้งใจจะไปบอกเค๊าว่า เราจะไปเที่ยว ตปท กับเพื่อน เพราะรู้สึกได้ถึงความแปลกๆ เลยหาที่ไปเบรคตัวเองซักหน่อย กลับมาค่อยมานั่งคุยกัน
แต่ยังไม่ทันได้บอก โดนชิงบอกเลิกก่อน 5555
ไอที่เอ๊ะมานาน ก็ไม่ต้องเอ๊ะละ ....เอิ่มมม แทนละกัน
หลังจากวันนั้น เราเห็น Post เค๊าบน FB ไปงาน + ทานข้าว กับกลุ่มเพื่อนที่ทำงาน พร้อมกับความใกล้ชิดกับทอมพม่าในรูป
ตอนนั้นยังไม่ได้แน่ใจ 100% ว่าเค๊าคบกัน จนมีเพื่อนบอก
แล้วเราไม่ได้คุยกันอีกเลย .....
เราก็ Move on ไปกับการทำงาน + ครอบครัว + ออกกำลัง + การหาที่กินอร่อยๆ + หาที่เที่ยวสวยๆ คนเดียวบ้าง กับเพื่อนบ้าง
ตามแต่โอกาส
เดือนที่แล้ว เค๊าทักไลน์มา (นี่ตกใจนึกว่าผีหลอก 555) บอกว่าได้งานใหม่
เป็นที่ที่เราเคยฝากฝังผ่านเพื่อนให้ก่อนที่เราจะมีปัญหากัน เค๊าบอกขอบคุณที่เราช่วยเหลือมาตลอด
แล้วก็มีบอกขอโทษ ที่ทำให้รู้สีกไม่ดี
อ่า.... msg เป็นภาษาอังกฤษด้วยจ้ะ เราได้แค่ตอบสั้นๆ ไปว่า ขอบคุณ ยินดีด้วย ขอให้โชคดี
เรื่องที่ผ่านมาก็ให้มันผ่านไป เราเห็นเรารับรู้มามากพอละ....และก็จบบทสนทนา
จบค่ะ ก็ขอให้ความรักเค๊ามีแต่ความสุขใจ ไม่ว่าสิ่งไหน เข้ากันหมดทุกอย่าง. ขอให้ความรักเขาและเธอไม่มีจืดจาง. มีเขาเคียงข้างไม่มีความทุกข์ใด.
ป.ล. พม่ามีประชากร LGBTQ พอสมควร แต่ด้วยวัฒนธรรมแล้ว ยังไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมมาก
แฟนเก่า ไปมีแฟนใหม่เป็นทอมพม่า
ย้อนเวลากลับไปประมาณ 6 เดือนที่แล้ว แฟนเก่าเราเริ่มทำตัวแปลกๆ
เค๊าเคยเล่าให้ฟังว่า มีคนพม่ามาทำงานที่ออฟฟิต แล้วเค๊าก็พาไปหาหมอ ทีแรกเราไม่ได้เอะใจ คิดว่าเพื่อนร่วมงานป่วย ถามไปถามมาถึงได้รู้ว่า ทอมพม่าคนนี้ต้องไปตรวจร่างกายเพื่อไปทำ work permit อันนี้เอ๊ะที่ 1 - ช่วงนั้นเค๊างานยุ่งมาก แต่ยอมออกจากออฟฟิตก่อนเวลาเพื่อพาคุณทอมพม่าไปหาหมอ
เอ๊ะที่สอง เป็นเอ๊ะที่แรงมาก - มีอยู่วันนึงที่เค๊าต้องไปงานเลี้ยงกับเพื่อนๆ ที่ทำงาน แล้วเที่ยวกลางคืนกันต่อ วันรุ่งขึ้นโทรคุยกัน เค๊าก็เล่าให้ฟังว่าไปเที่ยวมา พร้อมกับคำถามภาษาอังกฤษที่เค๊าไม่เข้าใจความหมายที่ส่งผ่านทาง Chat จากทางทอมพม่าว่า Are you straight ?? ซึ่งมันแปลได้ว่า คุณชอบเพศเดียวกันรึป่าว ตอนนั้นเราก็อธิบายให้เค๊าเข้าใจ แต่ก็เริ่มสงสัยถึงคำถามละ แล้วบอกทีเล่นทีจริงให้เค๊าตอบไปว่า เค๊าชอบคนเพศเดียวกัน แต่ไม่โสดนะจ๊ะ
หลังจากนั้นประมาณ 10 วัน เรามีไปทริป ตจว ด้วยกัน เค๊าเริ่มเปลี่ยนไปอย่างรู้สึกได้ อาบน้ำอยู่ก็มีคุยโทรศัพท์ภาษาอังกฤษด้วย แต่เราไม่ได้แอบฟัง / สนใจในรายละเอียด ไม่ยอมให้นอนใกล้ๆ มีหงุดหงิดหลายๆ ครั้ง และพฤติกรรมอื่นๆ ที่ทำแบบที่เค๊าไม่เคยทำในช่วงเวลาที่เรารู้จักกันหลายปี แล้วมีการยกเรื่องราวบางอย่างมาต่อว่าเราด้วย
ต่อมาเค๊าเริ่มทำตัวห่าง ไม่ค่อยตอบไลน์ ไปไหนไม่บอก เหมือนที่เคยทำ เงียบไปอาทิตย์กว่าทั้งๆที่ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะอะไรกัน - อันนี้เอ๊ะอีก
บนหน้า FB จะมี Comment บนโพสต์เค๊าจากทอมพม่าคนนั้น ด้วยคำบางคำ ที่เรารู้ว่า ใช้เฉพาะครอบครัว / คนสนิทเค๊าเท่านั้น - เอ๊ะซิคะ
จนวันนึง ตอนเช้าวันหยุดชดเชย เราทักไลน์ไป ถามเค๊าว่าไม่ไปทำงานใช่ป่าว พอดีวันนั้นมีนัดกินข้าวกะเพื่อนในกลุ่ม เลยถามว่าไปมั๊ย
เค๊าบอกไม่ไป เลยรู้ว่าเค๊าอยู่บ้าน ก่อนเราไปกินข้าวกับเพื่อน เราแวะไปหาเค๊าที่บ้าน เอาขนม + ผลไม้ไปให้ตามปกติ
เข้าบ้านไปเค๊าหงุดหงิดใส่เราเบอร์แรงมาก พร้อมต่อว่า บลาๆ ว่า Pop Up มาแบบนี้ทำไม เค๊าไม่ชอบ แล้วก็พูดด้วยอารมณ์ว่า ไม่อยากไปต่อแล้ว
บลาๆๆๆๆ เราไม่ใช่ตามที่เค๊าคาดหวัง แล้วพยายามไล่ให้เราออกจากบ้าน
สิ่งที่เค๊าทำวันนั้นมันทำให้เรารู้สึกว่า ดีแล้วละที่เราเลิกกันไป ทำแบบนี้มันไม่น่ารักเลยจริงๆ I see your true color
จริงๆคือเราตั้งใจจะไปบอกเค๊าว่า เราจะไปเที่ยว ตปท กับเพื่อน เพราะรู้สึกได้ถึงความแปลกๆ เลยหาที่ไปเบรคตัวเองซักหน่อย กลับมาค่อยมานั่งคุยกัน
แต่ยังไม่ทันได้บอก โดนชิงบอกเลิกก่อน 5555
ไอที่เอ๊ะมานาน ก็ไม่ต้องเอ๊ะละ ....เอิ่มมม แทนละกัน
หลังจากวันนั้น เราเห็น Post เค๊าบน FB ไปงาน + ทานข้าว กับกลุ่มเพื่อนที่ทำงาน พร้อมกับความใกล้ชิดกับทอมพม่าในรูป
ตอนนั้นยังไม่ได้แน่ใจ 100% ว่าเค๊าคบกัน จนมีเพื่อนบอก
แล้วเราไม่ได้คุยกันอีกเลย .....
เราก็ Move on ไปกับการทำงาน + ครอบครัว + ออกกำลัง + การหาที่กินอร่อยๆ + หาที่เที่ยวสวยๆ คนเดียวบ้าง กับเพื่อนบ้าง
ตามแต่โอกาส
เดือนที่แล้ว เค๊าทักไลน์มา (นี่ตกใจนึกว่าผีหลอก 555) บอกว่าได้งานใหม่
เป็นที่ที่เราเคยฝากฝังผ่านเพื่อนให้ก่อนที่เราจะมีปัญหากัน เค๊าบอกขอบคุณที่เราช่วยเหลือมาตลอด
แล้วก็มีบอกขอโทษ ที่ทำให้รู้สีกไม่ดี
อ่า.... msg เป็นภาษาอังกฤษด้วยจ้ะ เราได้แค่ตอบสั้นๆ ไปว่า ขอบคุณ ยินดีด้วย ขอให้โชคดี
เรื่องที่ผ่านมาก็ให้มันผ่านไป เราเห็นเรารับรู้มามากพอละ....และก็จบบทสนทนา
จบค่ะ ก็ขอให้ความรักเค๊ามีแต่ความสุขใจ ไม่ว่าสิ่งไหน เข้ากันหมดทุกอย่าง. ขอให้ความรักเขาและเธอไม่มีจืดจาง. มีเขาเคียงข้างไม่มีความทุกข์ใด.
ป.ล. พม่ามีประชากร LGBTQ พอสมควร แต่ด้วยวัฒนธรรมแล้ว ยังไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมมาก