'เวหา' แจ้งความ สภ.บางบัวทอง ถูกชายสวมหมวกกันน็อคใช้ไม้เบสบอลเหล็กทำร้ายจนแขนหัก
https://prachatai.com/journal/2023/04/103672
'เวหา' นักกิจกรรมการเมือง เข้าแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง นนทบุรี จากเหตุถูกชายสวมหมวกกันน็อคใช้ไม้เบสบอลเหล็กทำร้ายร่างกายจนแขนหักใกล้ที่พักยามวิกาล
14 เม.ย. 2566
บังเอิญ (นามสมมติ) ศิลปินวัย 25 ปี และผู้พ่นสเปรย์ที่กำแพงพระบรมมหาราชวัง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ (14 เม.ย.) สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
เวหา แสนชนชนะศึก ผู้ถูกกล่าวหาคดี ม.112 และบังเอิญ ได้นำหลักฐานและเอกสารมาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน จากกรณีที่วานนี้ (13 เม.ย.)
เวหา ถูกชายสวมหมวกกันน็อคใช้ไม้เบสบอลเหล็กทำร้ายร่างกายใกล้กับละแวกที่พักอาศัยในยามวิกาล จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บแขนซ้ายหัก
บังเอิญ ระบุว่า วันนี้ได้ลงบันทึกประวันจำ และสอบพยาน โดยใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ได้ลงพื้นที่ไปชี้จุดเกิดเหตุแต่อย่างใด
บังเอิญ ระบุต่อว่า กระบวนการต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องขั้นตอนของทางตำรวจ ซึ่งต้องจับตาดูต่อว่า ตำรวจจะดำเนินตามขั้นตอนหรือไม่ และรอดูว่า
เวหา จะอัพเดทสถานการณ์อย่างไรต่อไป เพราะว่าเขาเป็นแค่พยาน
หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
บังเอิญ รู้สึกถึงความไว้ใจในผู้คน และความปลอดภัยผมเหลือ 0 เปอร์เซ็นต์กับทุกอย่าง และไม่ทราบว่าจะอธิบายเป็นคำพูดออกมาอย่างไร
ทั้งนี้ บังเอิญ ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้อาจเป็นผลสืบเนื่องหลังจากไปพ่นสเปรย์สีดำบนกำแพงพระบรมมหาราชวังเมื่อ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา และเหตุการณ์การจับกุมคดีมาตรา 112 เกี่ยวข้องกับการโพสต์ภาพ เมื่อ 6 เม.ย. 2566 ซึ่งตรงกับวันจักรี
ลำดับเหตุการณ์ทำร้าย 'เวหา'
บังเอิญ ศิลปินวัย 25 ปี ผู้พ่นสเปรย์วัดพระแก้ว และเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ขณะที่
บังเอิญและ
เวหากลับมาจากการซื้ออาหารละแวกที่พัก
เวหาได้ถูกชายสวมหมวกกันน็อคเข้ามาทำร้ายโดยใช้ไม้เบสบอลโลหะทุบเข้าไปที่แขน และร่างกาย จนล้ม ก่อนที่ชาวบ้านโดยรอบที่เห็นเหตุการณ์ จะตะโกนเข้ามาช่วยเหลือ และส่งตัวเวหา ไปกับหน่วยกู้ภัยปอเต๊กตึ๊ง เพื่อไปรักษาตัวที่ รพ.บางบัวทอง
บังเอิญ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เขาและ
เวหา เดินออกมาจากที่พัก เพื่อไปซื้อกับข้าวบริเวณหน้าปากซอยอีกซอยหนึ่ง โดยระหว่างเดินออกมาเขาสังเกตเห็นชาย 2 คนมากับมอเตอร์ไซค์ KR แต่ง เหมือนกำลังเฝ้าดูเขา 2 คนอยู่ ท่าทางไม่น่าไว้ใจ
เวหา ระบุต่อว่า หนึ่งในนั้นเป็นคนที่เวหา จำได้ เนื่องจากชายคนดังกล่าวเคยปรากฏในไลฟ์สดของเวหา เมื่อ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา สายตรวจได้แจ้งกับ
เวหา ระบุด้วยว่า ชายคนดังกล่าวมาจากกลุ่มศรีสุริโยไท ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มปกป้องสถาบัน
"ตอนเดินออกมา เขายังไม่ได้ใส่หมวก จำหน้าได้ เห็นรอยสัก เห็นอะไร เป็นรถ KR แต่ง และชาวบ้านบอกว่ามี รถ Fortuner สีขาว ทะเบียน จ.ระยอง จอดอยู่ใกล้ๆ ด้วย เพื่อสังเกตการณ์"
บังเอิญ ระบุว่า ตอนเดินออกไป พอเห็นละว่ามีคนดักเฝ้าสังเกตการณ์ พอซื้อกับข้าวเสร็จแล้ว ระหว่างเดินกลับ
บังเอิญบอก
เวหา เดินเลี่ยง 2 คนนี้ดีหรือไม่ เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย แต่
เวหา บอกว่า ไม่เป็นไร และเดินกลับเข้าซอยเดิมที่มีชาย 2 คนเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ เพราะเป็นทางใกล้บ้าน
อย่างไรก็ตาม
เวหาเตรียมไลฟ์สดออนไลน์รอไว้ เผื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น จังหวะที่ถึงหัวโค้งเลี้ยวหน้าซอย มีคนสวมหมวกกันน็อคเดินเข้ามา และพอ
เวหา หันกล้องโทรศัพท์ไปหาคนสวมหมวกกันน็อค เขาก็ใช้ไม้เบสบอลฟาด
เวหา จนล้ม และโทรศัพท์ที่กำลังถ่ายไลฟ์สด ก็หล่นลงไปพื้น
แม้ว่าคนร้ายจะใส่หมวกกันน็อค แต่
เวหา ยืนยันว่า คนที่มาทำร้ายเขา เป็นคนที่เคยปรากฏในไลฟ์สดของเขาเองเมื่อ 6 เม.ย.
หลังจากทำร้าย
เวหา ชาวบ้านโดยรอบที่เห็นเหตุการณ์ได้ตะโกน และออกมาช่วย ขณะที่พวกคนร้ายก็ขับรถ ‘Fortuner’ ป้ายทะเบียนระยอง ออกไปจากพื้นที่
จากนั้น มีการแจ้งตำรวจ และหน่วยกู้ภัยให้มาช่วยนำตัวเวหา ส่งโรงพยาบาลบางบัวทอง
สำหรับอาการบาดเจ็บของเวหา ตัวเขาได้แจ้งผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อ 13 เม.ย. 2566 เวลา 4.25 น. ระบุดังนี้ แขนซ้ายหัก กระดูกแตก เนื่องจากผมใช้แขนป้องกันคนร้ายที่ประสงค์จะฟาดบริเวณศีรษะ แพทย์รักษาโดยการใส่เฝือก และส่งตัวไป "consult" แพทย์เฉพาะทางด้านออร์โธปิดิกส์เพื่อรักษากระดูกต่อไป มีบาดแผลบริเวณหน้าแข้งด้านซ้าย คาดว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากถูกฟาดด้วยท่อนเหล็กหลังจากที่ผมล้มลงแล้ว แพทย์รักษาด้วยการทำแผล (ไม่ได้เย็บแผลเนื่องจากลักษณะของบาดแผลไม่สามารถเย็บได้) และพบรอยฟกช้ำหลายจุด บริเวณต้นแขน ขา หน้าท้อง และบริเวณหลัง
สงกรานต์ยังเดือด ยอดสี่วันดับ 158 ราย เมาแล้วขับเหมือนเดิม ศปถ.สั่งคุมเข้มดื่ม-ขับซิ่ง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7613256
สงกรานต์ยังเดือด ยอดสี่วันดับรวม 158 ราย เมาแล้วขับเหมือนเดิม กทม. ผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดศปถ.สั่ง จังหวัดคุมเข้มดื่มแล้วขับซิ่ง
15 เม.ย. 66 – ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นาย
โชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี กล่าวว่า
ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2566 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 14 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่สี่ของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ”
เกิดอุบัติเหตุ 368 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 44 ราย ผู้บาดเจ็บ 368 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 35.60 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 28.53 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 83.07
ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 37.77 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 36.96 บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง ร้อยละ 78.80 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 19.01 – 20.00 น. ร้อยละ 11.68 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 30 – 39 ปี ร้อยละ 17.96
โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ น่าน (16 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ น่าน (16 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครสวรรค์ และพิษณุโลก (จังหวัดละ 3 ราย)
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,862 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 54,368 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 351,228 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 52,422 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 15,467 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 15,144 ราย
สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 4 วัน (วันที่ 11 – 14 เม.ย.) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,422 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 158 ราย ผู้บาดเจ็บ 1,431 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช และน่าน (จังหวัดละ 45 ครั้ง)
จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (12 ราย) และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (48 คน) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต 12 จังหวัด
นาย
โชตินรินทร์ กล่าวต่อว่า วันนี้หลายพื้นที่ยังคงเล่นน้ำสงกรานต์และมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่สูง ศปถ.จึงได้เน้นย้ำให้จังหวัดปรับแผนการดำเนินงานตามบริบทในพื้นที่ โดยใช้ชุดเคลื่อนที่เร็วตรวจตราในตำบล หมู่บ้าน และพื้นที่จัดงาน
ตลอดจนให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสายและหอกระจายข่าวเกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน ทั้งการดื่มแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายที่กำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
พร้อมเข้มงวดการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุและการเล่นน้ำที่ไม่ปลอดภัย
นอกจากนี้ให้จังหวัด เตรียมพร้อมมาตรการรองรับการเดินทางกลับของประชาชน โดยจังหวัดที่มีจุดตรวจรถ – พนักงานขับรถสาธารณะ (Checking Point) ให้ขนส่งจังหวัดดำเนินการกำชับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในระบบ GPS และพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนของพนักงานขับรถ หากพบการกระทำความผิดให้ตักเตือนและดำเนินการตามมาตรการที่เกี่ยวข้องต่อไป
นาย
บุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า จากข้อมูลในช่วงวันที่ 13 – 14 เม.ย.พบว่า ในพื้นที่เขตเมืองและเทศบาลมีสถิติอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีการเล่นน้ำสงกรานต์ และมีการดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ ส่งผลให้ผู้ขับขี่อาจมีพฤติกรรมเสี่ยงที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งการดื่มแล้วขับ การขับรถเร็ว และการขับขี่ด้วยความคึกคะนอง
จึงประสานให้จังหวัดเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยบริเวณสถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่จัดงานรื่นเริงที่มีผู้ไปรวมตัวเป็นจำนวนมาก โดยกวดขันเป็นพิเศษในช่วงเวลาเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูง เพื่อคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว และการขับขี่ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
นอกจากนี้ในช่วงวันนี้และวันที่ 16 เม.ย. หลายพื้นที่ของประเทศอาจมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ซึ่งสภาพถนนที่เปียกลื่นและทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ดี อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
จึงขอฝากเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางในช่วงที่มีฝนตก และสวมใส่อุปกรณ์นิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่และโดยสารยานพาหนะ เพื่อให้การเดินทางและการเล่นน้ำสงกรานต์เป็นไปด้วยความปลอดภัย รวมทั้งเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย
สำหรับประชาชนที่ประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือแจ้งเหตุทางไลน์ “
ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป
JJNY : 'เวหา'แจ้งความสภ.บางบัวทอง│สงกรานต์ยังเดือด ยอดสี่วันดับ 158 ราย│คอนโดไทยคึก│ผู้นำเซอร์เบียปัดข่าวขายอาวุธ
https://prachatai.com/journal/2023/04/103672
'เวหา' นักกิจกรรมการเมือง เข้าแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง นนทบุรี จากเหตุถูกชายสวมหมวกกันน็อคใช้ไม้เบสบอลเหล็กทำร้ายร่างกายจนแขนหักใกล้ที่พักยามวิกาล
14 เม.ย. 2566 บังเอิญ (นามสมมติ) ศิลปินวัย 25 ปี และผู้พ่นสเปรย์ที่กำแพงพระบรมมหาราชวัง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ (14 เม.ย.) สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เวหา แสนชนชนะศึก ผู้ถูกกล่าวหาคดี ม.112 และบังเอิญ ได้นำหลักฐานและเอกสารมาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน จากกรณีที่วานนี้ (13 เม.ย.) เวหา ถูกชายสวมหมวกกันน็อคใช้ไม้เบสบอลเหล็กทำร้ายร่างกายใกล้กับละแวกที่พักอาศัยในยามวิกาล จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บแขนซ้ายหัก
บังเอิญ ระบุว่า วันนี้ได้ลงบันทึกประวันจำ และสอบพยาน โดยใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ได้ลงพื้นที่ไปชี้จุดเกิดเหตุแต่อย่างใด
บังเอิญ ระบุต่อว่า กระบวนการต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องขั้นตอนของทางตำรวจ ซึ่งต้องจับตาดูต่อว่า ตำรวจจะดำเนินตามขั้นตอนหรือไม่ และรอดูว่าเวหา จะอัพเดทสถานการณ์อย่างไรต่อไป เพราะว่าเขาเป็นแค่พยาน
หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว บังเอิญ รู้สึกถึงความไว้ใจในผู้คน และความปลอดภัยผมเหลือ 0 เปอร์เซ็นต์กับทุกอย่าง และไม่ทราบว่าจะอธิบายเป็นคำพูดออกมาอย่างไร
ทั้งนี้ บังเอิญ ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้อาจเป็นผลสืบเนื่องหลังจากไปพ่นสเปรย์สีดำบนกำแพงพระบรมมหาราชวังเมื่อ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา และเหตุการณ์การจับกุมคดีมาตรา 112 เกี่ยวข้องกับการโพสต์ภาพ เมื่อ 6 เม.ย. 2566 ซึ่งตรงกับวันจักรี
ลำดับเหตุการณ์ทำร้าย 'เวหา'
บังเอิญ ศิลปินวัย 25 ปี ผู้พ่นสเปรย์วัดพระแก้ว และเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ขณะที่บังเอิญและเวหากลับมาจากการซื้ออาหารละแวกที่พัก เวหาได้ถูกชายสวมหมวกกันน็อคเข้ามาทำร้ายโดยใช้ไม้เบสบอลโลหะทุบเข้าไปที่แขน และร่างกาย จนล้ม ก่อนที่ชาวบ้านโดยรอบที่เห็นเหตุการณ์ จะตะโกนเข้ามาช่วยเหลือ และส่งตัวเวหา ไปกับหน่วยกู้ภัยปอเต๊กตึ๊ง เพื่อไปรักษาตัวที่ รพ.บางบัวทอง
บังเอิญ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เขาและเวหา เดินออกมาจากที่พัก เพื่อไปซื้อกับข้าวบริเวณหน้าปากซอยอีกซอยหนึ่ง โดยระหว่างเดินออกมาเขาสังเกตเห็นชาย 2 คนมากับมอเตอร์ไซค์ KR แต่ง เหมือนกำลังเฝ้าดูเขา 2 คนอยู่ ท่าทางไม่น่าไว้ใจ
เวหา ระบุต่อว่า หนึ่งในนั้นเป็นคนที่เวหา จำได้ เนื่องจากชายคนดังกล่าวเคยปรากฏในไลฟ์สดของเวหา เมื่อ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา สายตรวจได้แจ้งกับเวหา ระบุด้วยว่า ชายคนดังกล่าวมาจากกลุ่มศรีสุริโยไท ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มปกป้องสถาบัน
"ตอนเดินออกมา เขายังไม่ได้ใส่หมวก จำหน้าได้ เห็นรอยสัก เห็นอะไร เป็นรถ KR แต่ง และชาวบ้านบอกว่ามี รถ Fortuner สีขาว ทะเบียน จ.ระยอง จอดอยู่ใกล้ๆ ด้วย เพื่อสังเกตการณ์"
บังเอิญ ระบุว่า ตอนเดินออกไป พอเห็นละว่ามีคนดักเฝ้าสังเกตการณ์ พอซื้อกับข้าวเสร็จแล้ว ระหว่างเดินกลับ บังเอิญบอกเวหา เดินเลี่ยง 2 คนนี้ดีหรือไม่ เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย แต่เวหา บอกว่า ไม่เป็นไร และเดินกลับเข้าซอยเดิมที่มีชาย 2 คนเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ เพราะเป็นทางใกล้บ้าน
อย่างไรก็ตาม เวหาเตรียมไลฟ์สดออนไลน์รอไว้ เผื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น จังหวะที่ถึงหัวโค้งเลี้ยวหน้าซอย มีคนสวมหมวกกันน็อคเดินเข้ามา และพอเวหา หันกล้องโทรศัพท์ไปหาคนสวมหมวกกันน็อค เขาก็ใช้ไม้เบสบอลฟาดเวหา จนล้ม และโทรศัพท์ที่กำลังถ่ายไลฟ์สด ก็หล่นลงไปพื้น
แม้ว่าคนร้ายจะใส่หมวกกันน็อค แต่เวหา ยืนยันว่า คนที่มาทำร้ายเขา เป็นคนที่เคยปรากฏในไลฟ์สดของเขาเองเมื่อ 6 เม.ย.
หลังจากทำร้ายเวหา ชาวบ้านโดยรอบที่เห็นเหตุการณ์ได้ตะโกน และออกมาช่วย ขณะที่พวกคนร้ายก็ขับรถ ‘Fortuner’ ป้ายทะเบียนระยอง ออกไปจากพื้นที่
จากนั้น มีการแจ้งตำรวจ และหน่วยกู้ภัยให้มาช่วยนำตัวเวหา ส่งโรงพยาบาลบางบัวทอง
สำหรับอาการบาดเจ็บของเวหา ตัวเขาได้แจ้งผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อ 13 เม.ย. 2566 เวลา 4.25 น. ระบุดังนี้ แขนซ้ายหัก กระดูกแตก เนื่องจากผมใช้แขนป้องกันคนร้ายที่ประสงค์จะฟาดบริเวณศีรษะ แพทย์รักษาโดยการใส่เฝือก และส่งตัวไป "consult" แพทย์เฉพาะทางด้านออร์โธปิดิกส์เพื่อรักษากระดูกต่อไป มีบาดแผลบริเวณหน้าแข้งด้านซ้าย คาดว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากถูกฟาดด้วยท่อนเหล็กหลังจากที่ผมล้มลงแล้ว แพทย์รักษาด้วยการทำแผล (ไม่ได้เย็บแผลเนื่องจากลักษณะของบาดแผลไม่สามารถเย็บได้) และพบรอยฟกช้ำหลายจุด บริเวณต้นแขน ขา หน้าท้อง และบริเวณหลัง
สงกรานต์ยังเดือด ยอดสี่วันดับ 158 ราย เมาแล้วขับเหมือนเดิม ศปถ.สั่งคุมเข้มดื่ม-ขับซิ่ง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7613256
สงกรานต์ยังเดือด ยอดสี่วันดับรวม 158 ราย เมาแล้วขับเหมือนเดิม กทม. ผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดศปถ.สั่ง จังหวัดคุมเข้มดื่มแล้วขับซิ่ง
15 เม.ย. 66 – ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี กล่าวว่า
ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2566 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 14 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่สี่ของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ”
เกิดอุบัติเหตุ 368 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 44 ราย ผู้บาดเจ็บ 368 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 35.60 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 28.53 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 83.07
ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 37.77 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 36.96 บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง ร้อยละ 78.80 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 19.01 – 20.00 น. ร้อยละ 11.68 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 30 – 39 ปี ร้อยละ 17.96
โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ น่าน (16 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ น่าน (16 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครสวรรค์ และพิษณุโลก (จังหวัดละ 3 ราย)
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,862 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 54,368 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 351,228 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 52,422 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 15,467 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 15,144 ราย
สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 4 วัน (วันที่ 11 – 14 เม.ย.) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,422 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 158 ราย ผู้บาดเจ็บ 1,431 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช และน่าน (จังหวัดละ 45 ครั้ง)
จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (12 ราย) และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (48 คน) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต 12 จังหวัด
นายโชตินรินทร์ กล่าวต่อว่า วันนี้หลายพื้นที่ยังคงเล่นน้ำสงกรานต์และมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่สูง ศปถ.จึงได้เน้นย้ำให้จังหวัดปรับแผนการดำเนินงานตามบริบทในพื้นที่ โดยใช้ชุดเคลื่อนที่เร็วตรวจตราในตำบล หมู่บ้าน และพื้นที่จัดงาน
ตลอดจนให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสายและหอกระจายข่าวเกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน ทั้งการดื่มแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายที่กำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
พร้อมเข้มงวดการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุและการเล่นน้ำที่ไม่ปลอดภัย
นอกจากนี้ให้จังหวัด เตรียมพร้อมมาตรการรองรับการเดินทางกลับของประชาชน โดยจังหวัดที่มีจุดตรวจรถ – พนักงานขับรถสาธารณะ (Checking Point) ให้ขนส่งจังหวัดดำเนินการกำชับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในระบบ GPS และพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนของพนักงานขับรถ หากพบการกระทำความผิดให้ตักเตือนและดำเนินการตามมาตรการที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า จากข้อมูลในช่วงวันที่ 13 – 14 เม.ย.พบว่า ในพื้นที่เขตเมืองและเทศบาลมีสถิติอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีการเล่นน้ำสงกรานต์ และมีการดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ ส่งผลให้ผู้ขับขี่อาจมีพฤติกรรมเสี่ยงที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งการดื่มแล้วขับ การขับรถเร็ว และการขับขี่ด้วยความคึกคะนอง
จึงประสานให้จังหวัดเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยบริเวณสถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่จัดงานรื่นเริงที่มีผู้ไปรวมตัวเป็นจำนวนมาก โดยกวดขันเป็นพิเศษในช่วงเวลาเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูง เพื่อคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว และการขับขี่ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
นอกจากนี้ในช่วงวันนี้และวันที่ 16 เม.ย. หลายพื้นที่ของประเทศอาจมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ซึ่งสภาพถนนที่เปียกลื่นและทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ดี อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
จึงขอฝากเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางในช่วงที่มีฝนตก และสวมใส่อุปกรณ์นิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่และโดยสารยานพาหนะ เพื่อให้การเดินทางและการเล่นน้ำสงกรานต์เป็นไปด้วยความปลอดภัย รวมทั้งเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย
สำหรับประชาชนที่ประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือแจ้งเหตุทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป