🌷🤍🌷 นิทานชาดก ๐๕๐ (อรกชาดก) : อานิสงส์การแผ่เมตตา 🌷🤍🌷

กระทู้คำถาม


          ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงตรัสปรารภเมตตาสูตรว่า

          "ภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ของการแผ่เมตตามี ๑๑ ประการ คือ
          ๑. หลับเป็นสุข
          ๒. ตื่นเป็นสุข
          ๓. ไม่ฝันร้าย
          ๔. เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย
          ๕. เป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลาย
          ๖. เทวดาย่อมรักษา
          ๗. ไฟ ยาพิษ ศัสตรา ไม่ล่วงเกิน
          ๘. จิตได้สมาธิเร็ว
          ๙. สีหน้าผ่องใส
          ๑๐. ไม่หลงตาย
          ๑๑. เมื่อยังไม่บรรลุ ธรรม ย่อมเข้าถึงพรหมโลกชั้นสูง

          ภิกษุทั้งหลาย พึงเจริญเมตตาไปในสัตว์ทุกชนิดโดยเจาะจงและไม่เจาะจง พึงเจริญ กรุณา มุทิตา อุเบกขา แม้ไม่ได้มรรคผลก็ยังเข้าถึงพรหมโลกได้"
          แล้วได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า...

          กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นฤาษีชื่ออรกะ บำเพ็ญเพียรอยู่ในป่าหิมพานต์ ได้เป็นอาจารย์สอนหมู่ฤาษี พร่ำสอนอานิสงส์การแผ่เมตตาว่า "ธรรมดาบรรพชิตควรเจริญเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เพราะเมื่อจิตถึงความแน่วแน่แล้ว ย่อมบังเกิดในพรหมโลกได้" แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า

          "ผู้ใดอนุเคราะห์สัตว์โลกทั้งมวล ด้วยเมตตาจิตอันหาประมาณมิได้ ทั้งเบื้องบนเบื้องต่ำและเบื้องล่าง โดยประการทั้งปวง จิตเกื้อกูลหาประมาณมิได้ เป็นจิตบริบูรณ์อันผู้นั้นอบรมมาดีแล้ว กรรมใดที่เขาทำแล้วพอประมาณ กรรมนั้นจะไม่เหลืออยู่ในจิตของเขานั้น"

          เมื่อกล่าวคาถาจบ ได้พาหมู่ฤาษีบำเพ็ญเพียรไม่เสื่อมจากฌานได้ไปบังเกิดในพรหมโลก ไม่ได้กลับมาเกิดในโลกมนุษย์อีกเป็นเวลา ๗ สังวัฏฏกัปป์


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอานิสงส์ของการเจริญเมตตาภาวนามีอยู่ ๑๑ ประการ นักปฏิบัติธรรมพึงมีความขยันหมั่นเพียรเทอญ

( ที่มา : หนังสือนิทานชาดก โดย พระมหาสุนทร สุนฺทรธฺมโม http://www.dhammathai.org/chadoknt/chadoknt50.php )

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่