ขอใช้พื้นที่ขอโทษเธอคนนั้นหน่อยนะครับ
ถ้านับเดือนนี้ ก้อเท่ากับว่าเรารู้จักกันได้1ปีกว่าแล้ว
อยากขอบคุณที่เข้ามาทำให้1ปีกว่าที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่ามากๆ จากการใช้ชีวิตตามลำพังเพียงคนเดียว กลับมีคุณเข้ามาเติมเต็มให้มีความรู้สึกว่า การมีใครสักคนที่รักและห่วงเรามันน่าอบอุ่นขนาดไหน
แต่เป็นเพราะเราเองที่ไม่เคยรู้ว่าการรักษาความสัมพันธ์มันละเอียดอ่อนขนาดไหน
หลังๆเราทะเลาะกันบ่อยมาก สาเหตุมาจากการไม่เข้าใจกันในบางเรื่อง จากเรื่องเล็กน้อยบางครั้งบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่โตจนถึงขั้นขอแยกทางกัน และก้อเป็นเราที่ไม่ยอมปล่อยมือเธอ พยายามที่จะรักษาความสัมพันธ์ครั้งนี้ให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้
จนกระทั่งมันมาถึงสุดทาง...
ปกติที่ผ่านมาเราทั้งคู่ได้เจอกันอาทิตย์ละครั้ง เป็นแบบนี้มาตลอด ทุกครั้งที่เจอกัน หรือเวลาไปเที่ยวด้วยกัน เราจะเป็นฝ่ายดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในเรื่องต่างๆมาโดยตลอด เพราะรู้ว่าภาระทางบ้านของเธอหนักหนาพอสมควร อะไรที่ช่วยได้ เราก้อยินดีที่จะซัพพอร์ทให้เต็มที่เท่าที่จะทำได้
แต่ระยะหลัง เธอมีภาระทางบ้านเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีปัญหาทางการเงิน เราจึงไม่ค่อยได้เจอกัน สื่อสารกันผ่านทางโซเชียลเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาเธอบ่นกับเรามาโดยตลอดว่ามีปัญหาทางด้านการเงิน เรารับฟังและให้กำลังใจกันไป จนมาถึงวันที่เราเคยรับปากว่าจะมาเจอกัน แต่สุดท้ายเธอปฎิเสธการมาเจอกันโดยบอกว่าไม่มีเงิน
เราก็บอกว่าปกติการมาเจอกัน เธอก้อไม่เคยต้องเสียค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว
จากจุดเล็กเริ่มลามใหญ่โตขึ้น
เธอบอกว่า เวลาเธอมีปัญหาเราไม่เคยซัพพอร์ทเธอเลย เธอมีแฟนก้ออยากให้แฟนมาช่วยเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่คบกันไปวันๆ ที่ผ่านมา เธอมองว่ามันเป็นการช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆเท่านั้น มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา ถ้ามีแฟนแล้วชีวิตไม่ดีขึ้น ก้ออย่ามีดีกว่า
ตอนฟังแรกๆยอมรับว่าโกรธ เสียใจ ผิดหวังกับสิ่งที่เธอบอกมา และไม่เคยคิดว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้มันมีปัจจัยที่เรียกว่าเงินเข้ามามีส่วนสำคัญมากกว่าอะไรทั้งนั้น
แต่พอใจเย็นลง และได้คิดอะไรให้กว้างขึ้น กลับพบว่าเป็นเพราะเราที่มองข้ามอะไรหลายๆอย่างไป เธอเคยบอกว่าไม่มีเงิน แต่เรากลับคิดไปเองว่าครอบครัวเธอคงช่วยเหลือปัญหาเหล่านี้ได้ ในขณะที่เธอกลับมองว่า มันคือหน้าที่ของคนเป็นแฟนที่ควรจะซัพพอร์ทเธอในเรื่องนี้
ขอโทษด้วยนะ ที่เราไม่ละเอียดอ่อนพอที่จะคิดว่าเรื่องเหล่านี้คือหน้าที่ของเรา
ถ้าเราใส่ใจความรู้สึกของเธอให้มากกว่านี้ ตอนนี้เราคงมีเธออยู่ข้างๆเหมือนเดิม
คงไม่กลับมาอยู่ตัวคนเดียวเหมือนตอนนี้.
ในวันที่ต้องเลิกกันเพราะปัจจัยที่เรียกว่าเงิน..
ถ้านับเดือนนี้ ก้อเท่ากับว่าเรารู้จักกันได้1ปีกว่าแล้ว
อยากขอบคุณที่เข้ามาทำให้1ปีกว่าที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่ามากๆ จากการใช้ชีวิตตามลำพังเพียงคนเดียว กลับมีคุณเข้ามาเติมเต็มให้มีความรู้สึกว่า การมีใครสักคนที่รักและห่วงเรามันน่าอบอุ่นขนาดไหน
แต่เป็นเพราะเราเองที่ไม่เคยรู้ว่าการรักษาความสัมพันธ์มันละเอียดอ่อนขนาดไหน
หลังๆเราทะเลาะกันบ่อยมาก สาเหตุมาจากการไม่เข้าใจกันในบางเรื่อง จากเรื่องเล็กน้อยบางครั้งบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่โตจนถึงขั้นขอแยกทางกัน และก้อเป็นเราที่ไม่ยอมปล่อยมือเธอ พยายามที่จะรักษาความสัมพันธ์ครั้งนี้ให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้
จนกระทั่งมันมาถึงสุดทาง...
ปกติที่ผ่านมาเราทั้งคู่ได้เจอกันอาทิตย์ละครั้ง เป็นแบบนี้มาตลอด ทุกครั้งที่เจอกัน หรือเวลาไปเที่ยวด้วยกัน เราจะเป็นฝ่ายดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในเรื่องต่างๆมาโดยตลอด เพราะรู้ว่าภาระทางบ้านของเธอหนักหนาพอสมควร อะไรที่ช่วยได้ เราก้อยินดีที่จะซัพพอร์ทให้เต็มที่เท่าที่จะทำได้
แต่ระยะหลัง เธอมีภาระทางบ้านเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีปัญหาทางการเงิน เราจึงไม่ค่อยได้เจอกัน สื่อสารกันผ่านทางโซเชียลเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาเธอบ่นกับเรามาโดยตลอดว่ามีปัญหาทางด้านการเงิน เรารับฟังและให้กำลังใจกันไป จนมาถึงวันที่เราเคยรับปากว่าจะมาเจอกัน แต่สุดท้ายเธอปฎิเสธการมาเจอกันโดยบอกว่าไม่มีเงิน
เราก็บอกว่าปกติการมาเจอกัน เธอก้อไม่เคยต้องเสียค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว
จากจุดเล็กเริ่มลามใหญ่โตขึ้น
เธอบอกว่า เวลาเธอมีปัญหาเราไม่เคยซัพพอร์ทเธอเลย เธอมีแฟนก้ออยากให้แฟนมาช่วยเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่คบกันไปวันๆ ที่ผ่านมา เธอมองว่ามันเป็นการช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆเท่านั้น มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา ถ้ามีแฟนแล้วชีวิตไม่ดีขึ้น ก้ออย่ามีดีกว่า
ตอนฟังแรกๆยอมรับว่าโกรธ เสียใจ ผิดหวังกับสิ่งที่เธอบอกมา และไม่เคยคิดว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้มันมีปัจจัยที่เรียกว่าเงินเข้ามามีส่วนสำคัญมากกว่าอะไรทั้งนั้น
แต่พอใจเย็นลง และได้คิดอะไรให้กว้างขึ้น กลับพบว่าเป็นเพราะเราที่มองข้ามอะไรหลายๆอย่างไป เธอเคยบอกว่าไม่มีเงิน แต่เรากลับคิดไปเองว่าครอบครัวเธอคงช่วยเหลือปัญหาเหล่านี้ได้ ในขณะที่เธอกลับมองว่า มันคือหน้าที่ของคนเป็นแฟนที่ควรจะซัพพอร์ทเธอในเรื่องนี้
ขอโทษด้วยนะ ที่เราไม่ละเอียดอ่อนพอที่จะคิดว่าเรื่องเหล่านี้คือหน้าที่ของเรา
ถ้าเราใส่ใจความรู้สึกของเธอให้มากกว่านี้ ตอนนี้เราคงมีเธออยู่ข้างๆเหมือนเดิม
คงไม่กลับมาอยู่ตัวคนเดียวเหมือนตอนนี้.