เมื่อกลุ่มคนรุ่นใหม่กำลังถูกพรรคก้าวเกินทำให้ฝันหวานถึงฝันที่ไกลเกินกว่าจะเป็นความเป็นจริง ไปสู่อนาคตที่สวยหรูดั่งภาพฝันในจินตนาการ ให้ก้าวข้ามทุกอย่าง ให้ก้าวข้ามการขับเคลื่อนด้วยกลุ่มทุน สู่การขับเคลื่อนด้วย SMEs แล้วเรียกความฝันของตนเองว่า เป็นความฝันที่เรียบง่าย เป็นสังคมที่ใครๆ อยากเห็น อยากเป็น
หลายสื่อหลายกระแสบอกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคก้าวเกินจะแรงเหมือนพรรค (เดิม) ที่ดับอนาคตตัวเอง เพราะหัวหน้าพรรคดันไปถือหุ้นสื่อจนโดนกกต.ตัดสิทธิ์ทางการเมือง มาครั้งนี้ (อดีต) หัวหน้าพรรคก็ยังคงพยายามที่จะสร้างบทบาทให้ตัวเองอีกครั้ง ตั้งตัวเป็นกูรู้ทุกอย่าง ถูกทุกเรื่อง หากพรรคการเมืองเช่นนี้ยังคงสร้างความเชื่อ วาดความฝันอันสวยหรูจนหยั่งรากลึกไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ และส่งต่ออุดมการณ์ไปยังอนาคตบอกเลยว่า ทั้งการเมือง และสังคมไทยคงถึงความวุ่นวายอย่างแน่นอน
ถึงแม้จะเถียงไม่ได้ว่า พรรคการเมืองนี้จะมีความคิดครอบงำความคิดของคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยที่เเริ่มเห็นศักยภาพของพรรคการเมืองนี้ในการทำงานในสภา ในการอภิปรายอย่างมีเหตุมีผล การศึกษาและทำการบ้านในประเด็นที่นำมาอภิปราย และกล้าแตะต้องทุกปัญหาของสังคมไทย เพราะการอภิปรายอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ กล้าชนทุกคนจนทำให้คนรุ่นเก่าบางคนก็พร้อมจะหันไปลงคะแนนให้
แต่ก็น่าเสียดาย ที่พรรคการเมืองนี้ ดันสร้างภาพฝันที่เรียกว่า ไกลเกินกว่าจะเป็นจริงได้ ไกลเกินกว่ากลุ่มอนุรักษ์นิยมของสังคมไทยจะยอม ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดสุดขั้วอย่างเรื่องที่คุณก็รู้ว่าเรื่องอะไร หรือแม้แต่การจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วย SMEs หรือนโยบาย 300 ข้อ ในการแก้ปัญหาประเทศไทย
สำหรับ (อดีต) หัวหน้าพรรค อย่าง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นักธุรกิจของกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ก็ถือว่าเป็นลูกหลานที่เติบโตมาด้วยเงินของกลุ่มนายทุนใหญ่เช่นกัน แล้วตอนนี้กำลังพยายายามที่จะเดินหน้ายุทธศาสตร์หาเสียงในเชิงรุกด้วยการต่อต้านกลุ่มทุน ต่อต้านเงินทุนที่เลี้ยงตัวจนเติบโตมา หรือประเด็นที่เป็นข่าวดังกระทบทั้งประเทศไทย อย่างเช่น ปัญหาหมอกควัน PM2.5 ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ หรือแม้กระทั่งจะขับเคลื่อนอนาคต SME ไทยให้เป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แทนที่กลุ่มทุนขนาดใหญ่ เป็นต้น
โดยไม่เคยมองย้อนไปถึงพื้นฐานความจริงของสังคมไทยบ้างเลยว่า คนส่วนใหญ่ที่จ่ายภาษีให้ประเทศนั้น เป็นพนักงานประจำที่ทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยการทำงานอยู่ในกลุ่มทุนขนาดใหญ่กว่าหลายสิบล้านคน ซึ่ง 1 บริษัททุนขนาดใหญ่สร้างงาน สร้างอาชีพให้คนไทยกว่าหลักร้อย หลักพัน หลักหมื่น หรือในบริษัทกลุ่มทุนขนาดใหญ่มากๆ อาจจะมีพนักงานที่ทำงานอยู่อาจจะหลักแสนก็ได้
แล้วลองมองย้อนมาที่ธุรกิจ SME ที่พรรคการเมืองนี้พยายามให้มาขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สามารถสร้างงานสร้างอาชีพได้กี่สิบกี่ร้อยตำแหน่ง หรือต้องให้พนักงานประจำออกจากงานมาเป็น SME เป็นเจ้านายตัวเองหรืออย่างไร
อีกทั้งนโยบายที่ย้อนแย้งกันระหว่าง นโยบาย SME กับ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ หรือ ให้โควตาชั้นวางสำหรับสินค้า SME ในห้างใหญ่
อ้าว! ไหนบอกว่าไม่ต้องการกลุ่มทุนขนาดใหญ่ (เราจะต้องต่อสู้กับกลุ่มทุนผูกขาด) แต่ต้องขอให้ห้างสมัยใหม่ (เช่น ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ) เปิดโอกาสให้สินค้า SMEs ได้มีโอกาสมาวางขาย พูดเหมือนกลุ่มไทยซัมมิทจะเปิดพื้นที่ให้ SME มาวางขายของเองซะงั้น
หรือแค่การยกตัวอย่างของคนรวยที่มาจากนวัตกรรม อย่างเช่น Elon Musk ที่รวยจากการสร้างกระบวน
การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้มีราคาถูก คนทั่วไปเข้าถึงได้ ถามจริงๆ มีคนไทยชนชั้นกลางสักกี่คนที่เข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ของอีลอน ในขณะที่คนส่วนใหญ่ของประเทศยังโดยสารรถสาธารณะกันอยู่เลย หรือเพราะเกิดมาคาบช้อนเงิน ช้อนทองมาเกิด กับรถไฟฟ้าราคา 2-3 ล้าน เลยอุปโลกน์ว่า คนทั่วไปเข้าถึงได้
ส่วนวิสัยทัศน์ของพรรค พยายามที่จะสร้างความฝันให้สวยหรู ให้ฝันถึงประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นตัวอย่าง โดยไม่เคยมองย้อนมาดูแม้แต่ความเป็นจริงของสังคมไทยที่ปัจจุบันขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยกลุ่มทุนอยู่เลย
อย่าเอาความฝันที่อาจจะสำเร็จอีก 20-30 ปีข้างหน้า หรือาจจะไม่สำเร็จเลย มาพูดสร้างความหวังให้คนไทยฝันหวานว่าจะเกิดขึ้นได้ใน 4 ปีนี้สักที เพราะการกระทำของพรรคคุณก็ไม่ต่างอะไรกับพรรครัฐบาลที่พูดแล้ว พูดต่อ และก็พูดต่อไป หรือทำให้เกิดเป็นความจริงได้เพียงแค่เศษเสี้ยวของวาทะกรรมที่หาเสียงไว้เท่านั้นเอง
ก้าวให้ไกล ไม่เน้นไปให้ถึง กับพรรคก้าวเกินหน้า ฝันเกินจริง ทำจริงไม่ได้
หลายสื่อหลายกระแสบอกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคก้าวเกินจะแรงเหมือนพรรค (เดิม) ที่ดับอนาคตตัวเอง เพราะหัวหน้าพรรคดันไปถือหุ้นสื่อจนโดนกกต.ตัดสิทธิ์ทางการเมือง มาครั้งนี้ (อดีต) หัวหน้าพรรคก็ยังคงพยายามที่จะสร้างบทบาทให้ตัวเองอีกครั้ง ตั้งตัวเป็นกูรู้ทุกอย่าง ถูกทุกเรื่อง หากพรรคการเมืองเช่นนี้ยังคงสร้างความเชื่อ วาดความฝันอันสวยหรูจนหยั่งรากลึกไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ และส่งต่ออุดมการณ์ไปยังอนาคตบอกเลยว่า ทั้งการเมือง และสังคมไทยคงถึงความวุ่นวายอย่างแน่นอน
ถึงแม้จะเถียงไม่ได้ว่า พรรคการเมืองนี้จะมีความคิดครอบงำความคิดของคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยที่เเริ่มเห็นศักยภาพของพรรคการเมืองนี้ในการทำงานในสภา ในการอภิปรายอย่างมีเหตุมีผล การศึกษาและทำการบ้านในประเด็นที่นำมาอภิปราย และกล้าแตะต้องทุกปัญหาของสังคมไทย เพราะการอภิปรายอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ กล้าชนทุกคนจนทำให้คนรุ่นเก่าบางคนก็พร้อมจะหันไปลงคะแนนให้
แต่ก็น่าเสียดาย ที่พรรคการเมืองนี้ ดันสร้างภาพฝันที่เรียกว่า ไกลเกินกว่าจะเป็นจริงได้ ไกลเกินกว่ากลุ่มอนุรักษ์นิยมของสังคมไทยจะยอม ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดสุดขั้วอย่างเรื่องที่คุณก็รู้ว่าเรื่องอะไร หรือแม้แต่การจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วย SMEs หรือนโยบาย 300 ข้อ ในการแก้ปัญหาประเทศไทย
สำหรับ (อดีต) หัวหน้าพรรค อย่าง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นักธุรกิจของกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ก็ถือว่าเป็นลูกหลานที่เติบโตมาด้วยเงินของกลุ่มนายทุนใหญ่เช่นกัน แล้วตอนนี้กำลังพยายายามที่จะเดินหน้ายุทธศาสตร์หาเสียงในเชิงรุกด้วยการต่อต้านกลุ่มทุน ต่อต้านเงินทุนที่เลี้ยงตัวจนเติบโตมา หรือประเด็นที่เป็นข่าวดังกระทบทั้งประเทศไทย อย่างเช่น ปัญหาหมอกควัน PM2.5 ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ หรือแม้กระทั่งจะขับเคลื่อนอนาคต SME ไทยให้เป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แทนที่กลุ่มทุนขนาดใหญ่ เป็นต้น
โดยไม่เคยมองย้อนไปถึงพื้นฐานความจริงของสังคมไทยบ้างเลยว่า คนส่วนใหญ่ที่จ่ายภาษีให้ประเทศนั้น เป็นพนักงานประจำที่ทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยการทำงานอยู่ในกลุ่มทุนขนาดใหญ่กว่าหลายสิบล้านคน ซึ่ง 1 บริษัททุนขนาดใหญ่สร้างงาน สร้างอาชีพให้คนไทยกว่าหลักร้อย หลักพัน หลักหมื่น หรือในบริษัทกลุ่มทุนขนาดใหญ่มากๆ อาจจะมีพนักงานที่ทำงานอยู่อาจจะหลักแสนก็ได้
แล้วลองมองย้อนมาที่ธุรกิจ SME ที่พรรคการเมืองนี้พยายามให้มาขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สามารถสร้างงานสร้างอาชีพได้กี่สิบกี่ร้อยตำแหน่ง หรือต้องให้พนักงานประจำออกจากงานมาเป็น SME เป็นเจ้านายตัวเองหรืออย่างไร
อีกทั้งนโยบายที่ย้อนแย้งกันระหว่าง นโยบาย SME กับ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ หรือ ให้โควตาชั้นวางสำหรับสินค้า SME ในห้างใหญ่ อ้าว! ไหนบอกว่าไม่ต้องการกลุ่มทุนขนาดใหญ่ (เราจะต้องต่อสู้กับกลุ่มทุนผูกขาด) แต่ต้องขอให้ห้างสมัยใหม่ (เช่น ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ) เปิดโอกาสให้สินค้า SMEs ได้มีโอกาสมาวางขาย พูดเหมือนกลุ่มไทยซัมมิทจะเปิดพื้นที่ให้ SME มาวางขายของเองซะงั้น
หรือแค่การยกตัวอย่างของคนรวยที่มาจากนวัตกรรม อย่างเช่น Elon Musk ที่รวยจากการสร้างกระบวนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้มีราคาถูก คนทั่วไปเข้าถึงได้ ถามจริงๆ มีคนไทยชนชั้นกลางสักกี่คนที่เข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ของอีลอน ในขณะที่คนส่วนใหญ่ของประเทศยังโดยสารรถสาธารณะกันอยู่เลย หรือเพราะเกิดมาคาบช้อนเงิน ช้อนทองมาเกิด กับรถไฟฟ้าราคา 2-3 ล้าน เลยอุปโลกน์ว่า คนทั่วไปเข้าถึงได้
ส่วนวิสัยทัศน์ของพรรค พยายามที่จะสร้างความฝันให้สวยหรู ให้ฝันถึงประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นตัวอย่าง โดยไม่เคยมองย้อนมาดูแม้แต่ความเป็นจริงของสังคมไทยที่ปัจจุบันขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยกลุ่มทุนอยู่เลย
อย่าเอาความฝันที่อาจจะสำเร็จอีก 20-30 ปีข้างหน้า หรือาจจะไม่สำเร็จเลย มาพูดสร้างความหวังให้คนไทยฝันหวานว่าจะเกิดขึ้นได้ใน 4 ปีนี้สักที เพราะการกระทำของพรรคคุณก็ไม่ต่างอะไรกับพรรครัฐบาลที่พูดแล้ว พูดต่อ และก็พูดต่อไป หรือทำให้เกิดเป็นความจริงได้เพียงแค่เศษเสี้ยวของวาทะกรรมที่หาเสียงไว้เท่านั้นเอง