เราทำงานอยู่ รพ พ่อกับแม่ก็ทำงานอยู่ รพ
ปกติแม่จะดูเรื่องการนัดตรวจ เรื่องยาของพ่อ รวมไปถึงเรื่องของตายาย และญาติฝั่งแม่ ดูเรื่องการนัดตรวจและเรื่องยา เลยได้เข้าดูประวัติของเขาเป็นปกติ
แต่ของเรา เรารักษาเอง เดินไปตรวจเอง
เรารักษาอะไร แม่ก็ชอบเข้ามาอ่านดูประวัติการรักษาของเรา อะไรที่มันส่วนตัวมากๆ ที่ควรเป็นของหมอกับคนไข้ แม่ก็ชอบเปิดอ่านดู
บอกไปหลายรอบแล้วว่าอย่าเปิด แต่ก็พูดไปแค่นั้น
มันควรเป็นจุดที่เราต้องหนีเองหรอ ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด
อยากเปลี่ยนที่ทำงาน เปลี่ยนบ้าน แต่ก็ยังอยากอยู่บ้าน อยากเจอตายายหรือพ่ออยู่
ได้แต่ทน
ช่วงก่อนรักษากับหมอจิตเวชเพราะเครียดเรื่องแม่ แม่ก็เพลาๆลงบ้าง
หรือหาหมอนรีเวช แม่ก็มาอ่าน อ่านไปหมดอะ ความส่วนตัวคือไม่มีเลย เป็นแม่ที่ไม่เคยเข้าใจลูกเลย ไม่เคยจะถามลูก เอาแต่คิดเองเออเอง ความคิดเห็นก็ไม่ตรงกันบ่อย เหนื่อยท้อ หรือควรย้ายจริงๆ
แม่ชอบแอบดูประวัติการรักษา
ปกติแม่จะดูเรื่องการนัดตรวจ เรื่องยาของพ่อ รวมไปถึงเรื่องของตายาย และญาติฝั่งแม่ ดูเรื่องการนัดตรวจและเรื่องยา เลยได้เข้าดูประวัติของเขาเป็นปกติ
แต่ของเรา เรารักษาเอง เดินไปตรวจเอง
เรารักษาอะไร แม่ก็ชอบเข้ามาอ่านดูประวัติการรักษาของเรา อะไรที่มันส่วนตัวมากๆ ที่ควรเป็นของหมอกับคนไข้ แม่ก็ชอบเปิดอ่านดู
บอกไปหลายรอบแล้วว่าอย่าเปิด แต่ก็พูดไปแค่นั้น
มันควรเป็นจุดที่เราต้องหนีเองหรอ ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด
อยากเปลี่ยนที่ทำงาน เปลี่ยนบ้าน แต่ก็ยังอยากอยู่บ้าน อยากเจอตายายหรือพ่ออยู่
ได้แต่ทน
ช่วงก่อนรักษากับหมอจิตเวชเพราะเครียดเรื่องแม่ แม่ก็เพลาๆลงบ้าง
หรือหาหมอนรีเวช แม่ก็มาอ่าน อ่านไปหมดอะ ความส่วนตัวคือไม่มีเลย เป็นแม่ที่ไม่เคยเข้าใจลูกเลย ไม่เคยจะถามลูก เอาแต่คิดเองเออเอง ความคิดเห็นก็ไม่ตรงกันบ่อย เหนื่อยท้อ หรือควรย้ายจริงๆ