เป็นผู้ป่วยใน น้ำท่วมปอดไตวาย กรณีนี้สามารถร้องเรียนได้ไหมค่ะ

คือคุณยายเป็น โรคเบาหวาน ความดัน หัวใจ รักษาที่ รพ.วชิระ แห่งนี้มานานหลายสิบปีแล้วเนื่องจากลูกเบิกราชการได้ หมอส่วนใหญ่มีแต่หมอนักเรียนค่ะ  วัยรุ่นๆ ล่าสุดคุณหมอตรวจเจอภาวะโรคไต เป็นผลพวงมาจากการกินยาโรคประจำอะค่ะ  ตั้งแต่ตรวจค่าไต ก็ปรึกษาหมอตลอด หมอก็ดูอาการเรื่อยๆ ผ่านมาร่วมปีกว่า หมอบอกจะให้ทำเส้นล้างไต ก็รอนัด จนมาวันที่ยายเข้า รพ. เดือนเมษายนนี้ วันที่ 4 เข้าด้วยอาการน้ำท่วมปอด หมอรักษาด้วยการดูดน้ำในปอด แล้วก็ดูอาการ พอดีขึ้นก็กลับบ้าน (เข้าออก รพ. ประมาณ 5 - 6 ครั้งได้ค่ะด้วยอาการเดิมๆ เพราะคนไข้ขับน้ำ และ ของเสียออกเองไม่ได้แล้ว  นัดทำเส้นหมอศัลยกรรมเส้นเลือดก็ ผลัดไปผลัดมาไม่ได้ทำสักที)  จนล่าสุดหลังวันสงการณ์ยายอาการทรุด หายใจไม่ออก แนน่หน้าอก ปวดหัว อ่อนเพลีย ไม่มีแรงมาก ปวดเมื่อย พาไปหาหมอฉุกเฉินภาเข้าห้องผู้ป่วยหนักหมอบอกต้องทำเส้นที่คอ เจาะคอเพื่อเตียมล้างไตฉุกเฉิน (จากเดิมทุกครั้งเข้าห้องปกติ) หมอให้แอดมินเหมือนเดิมค่ะ หลังจากนั้นก็รอดูอาการต่อไป ยายต้องอดทดแน่นหน้าอก หายใจเหนื่อยมาก ถ้าวัดระดับตอนแรกอยู่ที่ 7 - 8 ค่ะ ผ่านมา 3 วัน หมอก็ยังไม่ทำอะไร รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ดิฉันไปเฝ้าทุกวัน ดูแลทุกวันตามเวลา รพ. เพราะเป็นห้องรวม ยายก็บอกหายใจไม่ไหว แน่นมาก จุกๆ แน่น หมอก็ให้ยาลดกรด ยาขับปัสสวะ ทำอยู่แบบนี้ จนผ่านมา 4-5 ก็ยังไม่ทำอะไร จนคนไข้ไม่ไหวอาการทรุดลงๆ  ( 10 ปีที่แล้วยายรักษาหัวใจค่ะ ทำบอลลูนหัวใจ 2 เส้น  ส่วนอีกสองเส้นทำไม่ได้ตัน)  จนวันที่เกิดเรื่องคือ ยายไม่มีแรงเลย ต้องให้อาหารทางสายยาง เราเดินถามหมอตลอดจนหมอจะเบื่อกันเลย เพราะยายพร้ำบอกว่าไม่ไหว พาไปล้างไตที่อื่นได้ไหม ไปห้องไอซียูได้ไหม ไปที่ไหนก็ได้ ยายไม่ไหวแล้ว หมอก็ไม่ทำอะไร หมอมาดูก็บอก หมอยังไม่ให้ยายไปนะ อาการยายยังไม่หนักมาก ไอซียู สำหรับคนที่หนักมากนะค่ะยาย พูดแบบนี้... เราก็ถามย้ำเลยว่าหมอยายเราไม่เค้าไหวนะ แนน่ จุกมาก แล้วก็ไม่มีแรงเลย เกินระดับ 10 เลยนะ เค้าก็บอกว่าเป็นอาการของไตวายค่ะ ของเสียเยอะ 100% ปอดข้างขวา น้ำท่วมเต็มเลย เจาะบ่อยๆ น้ำก็ยิ่งเต็มเร็ว  เราก็ถามอีก ปล่อยไว้แบบนี้ อาการปลอดภัยนะค่ะ ไม่เป็นไรนะค่ะ เค้าก็บอกไม่เป็นไรเด๋วพรุ่งนี้จองคิวล้างไตไว้แล้ว 6 โมงเช้า เราก็เฝ้ายายคอยปลอบใจยายอดทนนะ สงสารยายมาก เพราะอ่านมาว่าอาการน้ำท่วมปอด จะหายใจไม่ออกเหมือนคนจมน้ำ เราก็ได้แต่รอตามคำหมอ จน 8 ทุ่มกว่าๆ กลับบ้านไปประมาณเกือบ 4 ทุ่ม หมอโทรมาจากรพ.ว่า ยายหัวใจหยุดเต้น.... คืออะไร.... เราช็อคค่ะ เพราะพึ่งออกมามะกี้เอง ยายยังบอกให้เราพาไปที่อื่นอยู่เลย (ถ้าเรามีเงินเราอยากพาไปค่ะ ด้วยโรคที่ยายเป็น และภาวะตอนนี้เราไม่สามารถย้ายรพ.ได้ เพราะค่ารักษาโรคที่เป็นอยู่ถ้าไปเอกชนก็ต้องมีเงินเยอะถึงจะไปได้ค่ะ)

พอเราไปถึง รพ. หมอมาบอกว่าตอนนี้ปั๊มหัวใจขึ้นแล้วด้วยยากระตุ้น ความดันยังไม่ดี สามารถหัวใจหยุดเต้นได้ตลอดเวลา ตอนนั้นเราคิดว่าเสียยายไปแล้วโกรธหมอมากค่ะบอกตรงๆ ว่าเค้าประวิงเวลารออะไรหลายวัน ถ้าเค้ารักษายายเราเร็วกว่านี้ก็คงไม่เป็นสภาพแบบนี้ ทำไมไม่ล้างไตเร็วกว่านี้  ประเด็นสำคัญอีกเรื่อง คนไข้มีประวัติทำหัวใจอยู่แล้วที่นี่ จะล้างไต หรือเกิดภาวะน้ำท่วมปอดก็ควรปรึกษาหมอหัวใจป่าวค่ะ เท่าที่เราอ่านจากที่อื่นๆ ภาวะน้ำท่วมปอดหัวใจหยุดได้ตลอดเวลา ยิ่งเป็นภาวะหัวใจก็ยิ่งอันตราย แต่ดูหมอไม่กระตือรือร้นอะไรเลย ประวิงเวลารอ อยู่ใน รพ. เป็นผู้ป่วยใน แต่ปั๊มหัวใจ คนไข้ขาดออกซิเจน 20 นาที คืออะไรค่ะ คุณดูแลยายเรายังไง?? อยู่รพ. คนไข้หยุดหายใจกี่นาทีคุณถึงปั๊มขึ้นมา??   ถ้ายายเราได้ล้างไตเร็วกว่านี้อาจไม่ตกอยู่ในสภาพนี้

****กฏหมายมีให้ญาติผู้ป่วยร้องเรียนไหมค่ะ มีทางไหนบ้าง ที่จะให้เค้าตรวจสอบวิธีการและข้อเท็จจิง หากหมอรักษาดีแล้วจิงๆ เกิดภาวะแบบนี้ เรายังรับได้ ถือว่าเค้าทำเต็มที่แล้ว แต่แบบนี้เรารู้สึกเคืองใจมาก แล้วอีกเรื่อง เตียงอื่นๆ ก็มีโคม่าหลายคนค่ะ ระหว่างเราเฝ้ายาย เห็นหลายเตียงที่ใส่ท่อ และไม่รู้สึกตัว มีภาวะปั๊มหัวใจหลายคน มีเสียชีวิต แต่เหมือนเรื่องธรรมดาสำหรับ หมอและพยาบาล เราเป็นญาติรู้สึกสูญเสีย แต่ทำไมหมอและพยาบาล ยังคุยทำตัวปกติ เดินเล่นหัวเราะ สนุกสนานได้ (ตอนปั๊มเค้าก็ทำเต็มที่ค่ะ ขอบคุณที่ยังนำยายเราคืนมาได้ แต่ถ้าคุณดูแลดีกว่านี้เค้าคงไม่เป็นแบบนี้ แล้วอีกอย่างที่สงสัยคือ หัวใจหยุดเต้นที่ รพ. ใช้เวลา 20 นาทีเลยหรอในการปั๊มขึ้นมา ถ้าอยู่บ้านแล้วนำส่ง รพ. ก็พอเข้าใจค่ะ)

รบกวนแนะนำด้วยค่ะ เราควรทำอย่างไรดี เราอยากได้ความเป็นธรรมค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่