ขอขอบคุณเพจ ป.ปืน อย่างสูงครับ
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster
เดิมที่ตั้งแต่ปี1887 กองทัพฝรั่งเศสใช้กระสุนขนาด 8 mm Lebel ในปี 1929 กองทัพฝรั่งเปลี่ยนมาใช้กระสุนขนาด 7.5×54mm French, ซึ่งพัฒนามาจาก 7.5×57mm MAS ใช้ในปี1924 ซึ่งออกแบบมาสำหรับปืนกลเบาแบบ FM 24 และปรับปรุงเป็น FM 24/29 (7.5×54mm French,)
ซึ่งในช่วงปี1927 โรงงานผลิตอาวุธ Manufacture d'armes de Saint-Étienne หรือ MAS ได้พัฒนาปืนเล็กยาวระบบลูกเลื่อนซึ่งอาศัยประสบการณ์จากการรบในช่วงสงครามโลกครั้งแรก โดยอาศัยคุณลักษณะของอาวุธชาติพันทมิตรต่างๆ คือปีกขัดกลอนคู่ท้ายลูกเลื่อนแบบ SMLE rifle ของอังกฤษ ซึ่งเป็นแบบที่ทนทานต่อสิ่งสกปรกต่างๆได้ดี คันรั้งลูกเลื่อนแบบ Dog leg ของ P14/U.S. M1917 Enfield rifle ซึ่เหมาะสมกับสรีระของคนเมื่อต้องยกปืนขึ้นเล็งและบริหารกลไกปืน การถอดประกอบระบบลูกเลื่อนคล้ายระบบของ Arisaka Type 38,ของญี่ปุ่น ซองกระสุนในบรรจุ5นัดแบบ Gewehr 98 ของเยอรมัน บรรจุด้วยแหนบตับกระสุน5นัด (5-round stripper clips)
ปืนมีชื่อว่า Fusil à répétition 7 mm 5 M. 36 หรือ MAS Modèle 36 หรือ MAS 36
คุณสมบัติทั้งหมดการออกแบบจึงได้ปืนเล็กยาวที่มีชุดไม้พานท้ายและประกับรองลำกล้องแยกชิ้นประกอบโดยมีโครงปืนอยู่ตรงกลางหรือ(two-piece stock and slab-sided receiver.) ซึ่งก็การออกแบบนี้มีมาตั้งแต่ Lebel Model 1886 rifle แล้ว MAS Modèle 36 เป็นปืนระบบลูกเลื่อน(rotating bolt action rifle.) ซึ่งกลายเป็นปืนประเภทปืนเล็กสั้น (short carbine-style rifle) ด้วยคงามยาวลำกล้อง 57.5 ซม. และความยาวรวม 102.0 ซม. น้ำหนักปืนเปล่า 3.7 กก.
MAS Modèle 36 มีชิ้นส่วนหลัก 5ชิ้นสำหรับการถอด/ประกอบขั้นผู้ใช้ โครงปืนเป็นเหล็กกัดขึ้นรูปสี่เหลี่ยมชิ้นเดียว(square-shaped receiver)ซึ่งเป็นซองกระสุนไปในตัว(contained integral magazine.)
มีหอกปลายปืน /spike bayonet, (ดาบปลายปืน)ยาว 17 นิ้ว ที่มีช่องเก็บใต้ลำกล้อง เมื่อใช้งานก็หมุนออกกแล้วกลับด้านหันส่วนด้ามหมุนติดเข้ากับแท่นช่องเก็บ มีแท่งสำหรับรวมปืนอยู่ด้านขวาของปากลำกล้อง แต่ปืนไม่มีคันนิรภัย
ระบบศูนย์ปืนสามารถปรับได้ตั้งแต่ 100 ถึง 1200 เมตร ปรับครั้งละ 100 เมตร ระยะหวังผลคือ 400 เมตร
MAS-36 จริงๆแล้วมีวัตถุประสงค์เป็นปืนที่มีต้นทุนการผลิตต่ำเพื่อใช้งานในกองทัพอาณานิคม หน่วยช่วยรบและหน่วยแนวหลัง เพื่อปูทางไปยั้งปืนแบบกึ่งอัตโนมัติ MAS-38/39. ซึ่งในปี1940 มีการทดสอบปืนเล็กยาวกึ่งอัตโนมัติแบบ MAS-40 แต่หลังฝรั่งเศสถูกยึดครองโดยเยอรมันโครงการจึงถูกพับลงไป และถูกนำมาใช้หลังสงครามสิ้นสุดลงคือ MAS-49
นอกจากกองทัพฝรั่งเศสและกลุ่มรัฐอาณานิคมและคุ้มครองของฝรั่งเศสใช้งานแล้ว ก็ยังมีชาติอื่นๆอีกกว่า 30 ชาติใช้งานในกองทัพ
กองทัพฝรั่งเศสใช้งานตั้งแต่ปี 1939 ถึง 1967 แต่ยังมีบางประเทศยังคงใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน มีรุ่นอื่นอีกคือ
FR F1 และ FR F2 sniper rifles
FR F1 c]t FR F2 sniper rifles ใช้พื้นฐานของ MAS-36 รุ่นมาตรฐาน แต่มีการปรับปรุงเพื่อให้มีความแข็งแรงและแม่นยำมากขึ้นสำหรับพลแม่นปืน ในปี1951 ซึ่งใช้กระสุนขนาด 7.62×51mm NATO
MAS 36 CR39 —
คือ MAS 36 ที่มีลำกล้องสั้นลงและใช้พานท้ายอลูมีเนียมพับได้ สำหรับใช้งานในหน่วยพลร่ม/ขนส่งทางอากาศ
MAS 36 LG48
— MAS 36 ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องยิงลูกระเบิดปากลำกล้องขนาด 48 mm (rifle grenade launcher)
MAS 36/51
—MAS 36 เป็นรุ่นที่ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องยิงลูกระเบิดปากลำกล้องของ NATO ขนาด 22 mm (NATO standard rifle grenade launcher.)
Fusil modèle FR-G2
— เป็น MAS-36 ที่ดัดแปลงขั้นสุด(highly modified)ใช้ลำกล้องคุณภาพสูง (match barrel ) ติดตั้งปลอกลดการสะบัด (harmonic compensator) และ ใช้ระบบศูนย์กล้อง telescopic sight สำหรับพลแม่นปืน
นอกจากรุ่นย่อยที่ใช้ทางทหารแล้วก็ยังมีการนำมาดัดแปลงเป็นปืนสำหรับการกีฬาและสันธนาการ (Sporterized) อีก ซึ่งก็ยังคงมีการใช้งานมาถึงปัจจุบัน
บ้านเราก็นำเข้าได้ในเวอร์ชั่น Sporter
ขอบคุณที่ติดตามและขออภัยหากมีข้อผิดพลาดประการใดๆมา ณ. ที่นี้ครับ
Cr.
http://www.armeetpassion.com/armese.../eclatemas36page2.html
https://modernfirearms.net/.../france-bolt.../mas-36-eng/
https://www.historicalfirearms.info/.../mas-36cr39...
http://armesfrancaises.free.fr/FR%20MAS%2036%20LG%2048.html
#MAS_36_rifle #ป_ปืน
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 1945 MAS-36 Rifle
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster
เดิมที่ตั้งแต่ปี1887 กองทัพฝรั่งเศสใช้กระสุนขนาด 8 mm Lebel ในปี 1929 กองทัพฝรั่งเปลี่ยนมาใช้กระสุนขนาด 7.5×54mm French, ซึ่งพัฒนามาจาก 7.5×57mm MAS ใช้ในปี1924 ซึ่งออกแบบมาสำหรับปืนกลเบาแบบ FM 24 และปรับปรุงเป็น FM 24/29 (7.5×54mm French,)
ซึ่งในช่วงปี1927 โรงงานผลิตอาวุธ Manufacture d'armes de Saint-Étienne หรือ MAS ได้พัฒนาปืนเล็กยาวระบบลูกเลื่อนซึ่งอาศัยประสบการณ์จากการรบในช่วงสงครามโลกครั้งแรก โดยอาศัยคุณลักษณะของอาวุธชาติพันทมิตรต่างๆ คือปีกขัดกลอนคู่ท้ายลูกเลื่อนแบบ SMLE rifle ของอังกฤษ ซึ่งเป็นแบบที่ทนทานต่อสิ่งสกปรกต่างๆได้ดี คันรั้งลูกเลื่อนแบบ Dog leg ของ P14/U.S. M1917 Enfield rifle ซึ่เหมาะสมกับสรีระของคนเมื่อต้องยกปืนขึ้นเล็งและบริหารกลไกปืน การถอดประกอบระบบลูกเลื่อนคล้ายระบบของ Arisaka Type 38,ของญี่ปุ่น ซองกระสุนในบรรจุ5นัดแบบ Gewehr 98 ของเยอรมัน บรรจุด้วยแหนบตับกระสุน5นัด (5-round stripper clips)
ปืนมีชื่อว่า Fusil à répétition 7 mm 5 M. 36 หรือ MAS Modèle 36 หรือ MAS 36
คุณสมบัติทั้งหมดการออกแบบจึงได้ปืนเล็กยาวที่มีชุดไม้พานท้ายและประกับรองลำกล้องแยกชิ้นประกอบโดยมีโครงปืนอยู่ตรงกลางหรือ(two-piece stock and slab-sided receiver.) ซึ่งก็การออกแบบนี้มีมาตั้งแต่ Lebel Model 1886 rifle แล้ว MAS Modèle 36 เป็นปืนระบบลูกเลื่อน(rotating bolt action rifle.) ซึ่งกลายเป็นปืนประเภทปืนเล็กสั้น (short carbine-style rifle) ด้วยคงามยาวลำกล้อง 57.5 ซม. และความยาวรวม 102.0 ซม. น้ำหนักปืนเปล่า 3.7 กก.
MAS Modèle 36 มีชิ้นส่วนหลัก 5ชิ้นสำหรับการถอด/ประกอบขั้นผู้ใช้ โครงปืนเป็นเหล็กกัดขึ้นรูปสี่เหลี่ยมชิ้นเดียว(square-shaped receiver)ซึ่งเป็นซองกระสุนไปในตัว(contained integral magazine.)
มีหอกปลายปืน /spike bayonet, (ดาบปลายปืน)ยาว 17 นิ้ว ที่มีช่องเก็บใต้ลำกล้อง เมื่อใช้งานก็หมุนออกกแล้วกลับด้านหันส่วนด้ามหมุนติดเข้ากับแท่นช่องเก็บ มีแท่งสำหรับรวมปืนอยู่ด้านขวาของปากลำกล้อง แต่ปืนไม่มีคันนิรภัย
ระบบศูนย์ปืนสามารถปรับได้ตั้งแต่ 100 ถึง 1200 เมตร ปรับครั้งละ 100 เมตร ระยะหวังผลคือ 400 เมตร
MAS-36 จริงๆแล้วมีวัตถุประสงค์เป็นปืนที่มีต้นทุนการผลิตต่ำเพื่อใช้งานในกองทัพอาณานิคม หน่วยช่วยรบและหน่วยแนวหลัง เพื่อปูทางไปยั้งปืนแบบกึ่งอัตโนมัติ MAS-38/39. ซึ่งในปี1940 มีการทดสอบปืนเล็กยาวกึ่งอัตโนมัติแบบ MAS-40 แต่หลังฝรั่งเศสถูกยึดครองโดยเยอรมันโครงการจึงถูกพับลงไป และถูกนำมาใช้หลังสงครามสิ้นสุดลงคือ MAS-49
นอกจากกองทัพฝรั่งเศสและกลุ่มรัฐอาณานิคมและคุ้มครองของฝรั่งเศสใช้งานแล้ว ก็ยังมีชาติอื่นๆอีกกว่า 30 ชาติใช้งานในกองทัพ
กองทัพฝรั่งเศสใช้งานตั้งแต่ปี 1939 ถึง 1967 แต่ยังมีบางประเทศยังคงใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน มีรุ่นอื่นอีกคือ
FR F1 และ FR F2 sniper rifles
FR F1 c]t FR F2 sniper rifles ใช้พื้นฐานของ MAS-36 รุ่นมาตรฐาน แต่มีการปรับปรุงเพื่อให้มีความแข็งแรงและแม่นยำมากขึ้นสำหรับพลแม่นปืน ในปี1951 ซึ่งใช้กระสุนขนาด 7.62×51mm NATO
MAS 36 CR39 —
คือ MAS 36 ที่มีลำกล้องสั้นลงและใช้พานท้ายอลูมีเนียมพับได้ สำหรับใช้งานในหน่วยพลร่ม/ขนส่งทางอากาศ
MAS 36 LG48
— MAS 36 ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องยิงลูกระเบิดปากลำกล้องขนาด 48 mm (rifle grenade launcher)
MAS 36/51
—MAS 36 เป็นรุ่นที่ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องยิงลูกระเบิดปากลำกล้องของ NATO ขนาด 22 mm (NATO standard rifle grenade launcher.)
Fusil modèle FR-G2
— เป็น MAS-36 ที่ดัดแปลงขั้นสุด(highly modified)ใช้ลำกล้องคุณภาพสูง (match barrel ) ติดตั้งปลอกลดการสะบัด (harmonic compensator) และ ใช้ระบบศูนย์กล้อง telescopic sight สำหรับพลแม่นปืน
นอกจากรุ่นย่อยที่ใช้ทางทหารแล้วก็ยังมีการนำมาดัดแปลงเป็นปืนสำหรับการกีฬาและสันธนาการ (Sporterized) อีก ซึ่งก็ยังคงมีการใช้งานมาถึงปัจจุบัน
บ้านเราก็นำเข้าได้ในเวอร์ชั่น Sporter
ขอบคุณที่ติดตามและขออภัยหากมีข้อผิดพลาดประการใดๆมา ณ. ที่นี้ครับ
Cr.
http://www.armeetpassion.com/armese.../eclatemas36page2.html
https://modernfirearms.net/.../france-bolt.../mas-36-eng/
https://www.historicalfirearms.info/.../mas-36cr39...
http://armesfrancaises.free.fr/FR%20MAS%2036%20LG%2048.html
#MAS_36_rifle #ป_ปืน