"ขอขอบคุณเพจ ป ปืนอย่างสูงครับ"
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/
หลังสงครามโลกครั้งที่1 จบลงฝรั่งเศสได้มีความต้องการปืนกลเบาแบบใหม่มาแทนที่ปืนกลแบบ Fusil-mitrailleur mle 1915 CSRG light machine rifle หรือปืนกลแบบ Chauchat
ในช่วงปี 1920 ได้มีการนำเสนอแบบปืนกลเบาจากโรงงานต่างๆของฝรั่งเศส แต่กองทัพผฝั่งเศสได้เลือกพิจารณา ปืนกลเบาจากโรงงาน Manufacture d'Armes de St. Etienne -หรือ MAS ซึ่งได้เสนอแบบงานสำเนาของ M1918 Browning Automatic Rifle (BAR) แต่สุดท้ายคณะกรรมธิการได้เลือกแบบของโรงงาน Manufacture d'Armes de Châtellerault, หรือ MAC ซึ่งออกแบบโดย Lt col. Jean Frédéric Jules Reibel ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจาก Chief Armorer Chosse. ซึ่งก็ได้ชื่อว่า Fusil-mitrailleur Modèle 1924 (rifle machine gun, model of 1924) หรือ FM 24 ในปี1942
ย้อนไปในปี1920 Reibel ออกแบบปืนกลเบาโดยใช้หลักการทำงานเหมือนปืนกลแบบ M1918 Browning Automatic Rifle (BAR) เช่นกัน แต่มีการบรรจุซองกระสุนด้านบน กลไกทำงานของปืนใช้ระบบขัดกลอนแบบ Bolt-link ซึ่งใช้ข้อต่อในการควบคุมการขัดกลอนของลูกเลื่อนซึ่งจะยกตัวขัดกลอนกับโครงปืน บริหารกลไกด้วยระบบแก๊สลูกสูบช่วงยาว ซองกระสุนบรรจุ 25 นัด ใช้กระสุนขนาด 7.5×54mm French
ระบบควบคุมการยิงในระบบกึ่งอัตโนมัติ และ อัตโนมัติ ใช้ระบบ 2ไก โดยไกหน้าเป็นระบบกึ่งอัตโนมัติ ไกหลังระบบอัตโนมัติ ยิงในระบบพร้อมยิงขณะลูกเลื่อนเปิด (fire from open bolt) ซึ่งจะแขวนลูกเลื่อนเมื่อยิงหมดซองกระสุน(bolt hold-open)
พานท้ายแบบ in-line stock ด้ามปืนแบบ pistol grip มีขาทรายแบบพับได้ มีแผ่นปิดกันฝุ่นช่องใส่ซองกระสุน ปืนมีอัตราการยิงอยู่ที่ 450 นัดต่อนาที
โดยโรงงาน Châtellerault ได้ส่งต้อนแบบ คือ MAC 1923 prototype เข้าทดสอบร่วมกับรวมถึงผลิตใช้งาน FM MAS 1922, Hotchkiss Model 1922, Lewis Mark I และ Browning BAR M1918. ซึ่งต้นแบบของ MACส่งมอบในช่วงต้นปี1942 ใช้กระสุนขนาด 7.5mm 1924C
จากการทดสอบพบว่าปืนสามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดีเยี่ยม มีความแม่นยำเชื่อถือได้ ซึ่งอยู่ในเกฑณ์เดียวกับปืนแบบ Browning Automatic Rifle (BAR), และสามารถถอดประกอบทำความสะอาดง่ายเหมือน Czech ZB vz. 26 /Bren gun. ในคู่มือใช้งานของปืนมีการระบุไว้ว่าเมื่อทำการยิงต่อเนื่อง 100-125 นัด หรือ 4-5 ซอง ให้ทำการพักการยิง10-15 นาที เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้ยิง
มีการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น มีการเพิ่มขาตั้ง(mono pod) ใต้พานท้ายและสามารถติดตั้งบนยานรบต่างๆได้ มีจุดติดตั้งสายสะพายเพื่อให้สามารถเคลื่อนที่ยิงในระดับเอวได้ เปลี่ยนมาใช้กระสุนขนาด 7.5×54mm Frenchซึ่งมาจากปัญหาของกระสุนแบบ 7.5mm 1924C ซึ่งมีชื่อว่า “Fusil-mitrailleur modèle 1924 modifié 1929” หรือ “FM 24/29 light machine gun” หรือ MAC 24/29
เดิม FM24 มีการผลิตจำนวน 45,530 กระบอก ก็มีการนำมาดัดแปลงใช้กระสุนขนาด 7.5×54mm โดยรวมีการผลิต FM 24/29 ตามคำสั่งผลิตของกองทัพฝรั่งเศส จำนวน 187,412 กระบอก เริ่มผลิตในปี 1930 แต่มีการผลิตจนถึงยุค1960 ซึ่งรวมรุ่นย่อยและมากถึง 232,942 กระบอก
มีรุ่น Model 1924/1929D machine gun หรือ FM 24/29D, มีลำกล้องยาวใช้ยิงกระสุนแบบ 7.5mm 1933D ซึ่งมีใช้งานอยู่จำนวนหนึ่งและถูกแทนที่ด้วยปืนกลแบบ Reibel machine gun. (M1931) ส่วนหนึ่งถูกนำไปใช้โดยกองทัพเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่2 และตั้งชื่อว่า Leichtes MG 116(f).
รุ่น M1931 หรือ Reibel machine gun. หรือ MAC Modèle 1931 ซึ่งมีการใช้ลำกล้องหนา และใช้ซองกระสุนขนาด 150 นัด แบบก้นหอย ซึ่งใช้ติดตั้งบนรถถังและป้อมปืนในแนว Maginot Line. ซึ่งมีชื่อเรียกว่า JM Reibel(Jumelage de mitrailleuses Reibel) ซึ่งเป็นปืนกลแท่นคู่ (Reibel twin-mounted machine guns) ,มีการนำมาติดตั้งบนรถจี๊บในช่วงสงครามอินโดจีน-เวียดนาม
FM 24/29 มีการใช้งานแบบเป็นทางการมีจนถึงช่วงสงครามเวียดนาม-เขมร ในปี 1989 และมีการนำไปใช้งานในกว่า 17 ประเทศทั่งโลก
ขอบคุณที่ติดตามและขออภัยหากมีข้อผิดพลาดประการใดๆ มา ณ. ที่นี้ครับ
Cr.
https://en.wikipedia.org/wiki/FM_24/29_light_machine_gun
https://guns.fandom.com/wiki/FM_24/29
#FM24_29 #ป_ปืน
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 765 FM 24/29 light machine gun
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/
หลังสงครามโลกครั้งที่1 จบลงฝรั่งเศสได้มีความต้องการปืนกลเบาแบบใหม่มาแทนที่ปืนกลแบบ Fusil-mitrailleur mle 1915 CSRG light machine rifle หรือปืนกลแบบ Chauchat
ในช่วงปี 1920 ได้มีการนำเสนอแบบปืนกลเบาจากโรงงานต่างๆของฝรั่งเศส แต่กองทัพผฝั่งเศสได้เลือกพิจารณา ปืนกลเบาจากโรงงาน Manufacture d'Armes de St. Etienne -หรือ MAS ซึ่งได้เสนอแบบงานสำเนาของ M1918 Browning Automatic Rifle (BAR) แต่สุดท้ายคณะกรรมธิการได้เลือกแบบของโรงงาน Manufacture d'Armes de Châtellerault, หรือ MAC ซึ่งออกแบบโดย Lt col. Jean Frédéric Jules Reibel ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจาก Chief Armorer Chosse. ซึ่งก็ได้ชื่อว่า Fusil-mitrailleur Modèle 1924 (rifle machine gun, model of 1924) หรือ FM 24 ในปี1942
ย้อนไปในปี1920 Reibel ออกแบบปืนกลเบาโดยใช้หลักการทำงานเหมือนปืนกลแบบ M1918 Browning Automatic Rifle (BAR) เช่นกัน แต่มีการบรรจุซองกระสุนด้านบน กลไกทำงานของปืนใช้ระบบขัดกลอนแบบ Bolt-link ซึ่งใช้ข้อต่อในการควบคุมการขัดกลอนของลูกเลื่อนซึ่งจะยกตัวขัดกลอนกับโครงปืน บริหารกลไกด้วยระบบแก๊สลูกสูบช่วงยาว ซองกระสุนบรรจุ 25 นัด ใช้กระสุนขนาด 7.5×54mm French
ระบบควบคุมการยิงในระบบกึ่งอัตโนมัติ และ อัตโนมัติ ใช้ระบบ 2ไก โดยไกหน้าเป็นระบบกึ่งอัตโนมัติ ไกหลังระบบอัตโนมัติ ยิงในระบบพร้อมยิงขณะลูกเลื่อนเปิด (fire from open bolt) ซึ่งจะแขวนลูกเลื่อนเมื่อยิงหมดซองกระสุน(bolt hold-open)
พานท้ายแบบ in-line stock ด้ามปืนแบบ pistol grip มีขาทรายแบบพับได้ มีแผ่นปิดกันฝุ่นช่องใส่ซองกระสุน ปืนมีอัตราการยิงอยู่ที่ 450 นัดต่อนาที
โดยโรงงาน Châtellerault ได้ส่งต้อนแบบ คือ MAC 1923 prototype เข้าทดสอบร่วมกับรวมถึงผลิตใช้งาน FM MAS 1922, Hotchkiss Model 1922, Lewis Mark I และ Browning BAR M1918. ซึ่งต้นแบบของ MACส่งมอบในช่วงต้นปี1942 ใช้กระสุนขนาด 7.5mm 1924C
จากการทดสอบพบว่าปืนสามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดีเยี่ยม มีความแม่นยำเชื่อถือได้ ซึ่งอยู่ในเกฑณ์เดียวกับปืนแบบ Browning Automatic Rifle (BAR), และสามารถถอดประกอบทำความสะอาดง่ายเหมือน Czech ZB vz. 26 /Bren gun. ในคู่มือใช้งานของปืนมีการระบุไว้ว่าเมื่อทำการยิงต่อเนื่อง 100-125 นัด หรือ 4-5 ซอง ให้ทำการพักการยิง10-15 นาที เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้ยิง
มีการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น มีการเพิ่มขาตั้ง(mono pod) ใต้พานท้ายและสามารถติดตั้งบนยานรบต่างๆได้ มีจุดติดตั้งสายสะพายเพื่อให้สามารถเคลื่อนที่ยิงในระดับเอวได้ เปลี่ยนมาใช้กระสุนขนาด 7.5×54mm Frenchซึ่งมาจากปัญหาของกระสุนแบบ 7.5mm 1924C ซึ่งมีชื่อว่า “Fusil-mitrailleur modèle 1924 modifié 1929” หรือ “FM 24/29 light machine gun” หรือ MAC 24/29
เดิม FM24 มีการผลิตจำนวน 45,530 กระบอก ก็มีการนำมาดัดแปลงใช้กระสุนขนาด 7.5×54mm โดยรวมีการผลิต FM 24/29 ตามคำสั่งผลิตของกองทัพฝรั่งเศส จำนวน 187,412 กระบอก เริ่มผลิตในปี 1930 แต่มีการผลิตจนถึงยุค1960 ซึ่งรวมรุ่นย่อยและมากถึง 232,942 กระบอก
มีรุ่น Model 1924/1929D machine gun หรือ FM 24/29D, มีลำกล้องยาวใช้ยิงกระสุนแบบ 7.5mm 1933D ซึ่งมีใช้งานอยู่จำนวนหนึ่งและถูกแทนที่ด้วยปืนกลแบบ Reibel machine gun. (M1931) ส่วนหนึ่งถูกนำไปใช้โดยกองทัพเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่2 และตั้งชื่อว่า Leichtes MG 116(f).
รุ่น M1931 หรือ Reibel machine gun. หรือ MAC Modèle 1931 ซึ่งมีการใช้ลำกล้องหนา และใช้ซองกระสุนขนาด 150 นัด แบบก้นหอย ซึ่งใช้ติดตั้งบนรถถังและป้อมปืนในแนว Maginot Line. ซึ่งมีชื่อเรียกว่า JM Reibel(Jumelage de mitrailleuses Reibel) ซึ่งเป็นปืนกลแท่นคู่ (Reibel twin-mounted machine guns) ,มีการนำมาติดตั้งบนรถจี๊บในช่วงสงครามอินโดจีน-เวียดนาม
FM 24/29 มีการใช้งานแบบเป็นทางการมีจนถึงช่วงสงครามเวียดนาม-เขมร ในปี 1989 และมีการนำไปใช้งานในกว่า 17 ประเทศทั่งโลก
ขอบคุณที่ติดตามและขออภัยหากมีข้อผิดพลาดประการใดๆ มา ณ. ที่นี้ครับ
Cr.
https://en.wikipedia.org/wiki/FM_24/29_light_machine_gun
https://guns.fandom.com/wiki/FM_24/29
#FM24_29 #ป_ปืน