ขอเล่ารายละเอียดชีวิตตั้งแต่เริ่ม
ฉันเกิดมาในครอบครัวชาวสวน หาเช้ากินค่ำ ช่วยแม่ ก๋ง ยาย ทำสวนตั้งแต่จำความได้ ตกสะพาน นิ้วเน่า จมน้ำ หัวทิ่มถังขยะ มะพร้าวทลายตกใส่หัว บาดเจ็บมานับไม่ถ้วน อยากกินขนมเค้กซักก้อน ก็ต้องช่วยแม่ทำงานเป็นเดือนๆ ถึงมีเงินพอที่แม่จะพาไปซื้อ ชีวิตฉันโตมากับ ก๋ง ยาย และแม่ ส่วนพ่อก็ไปทำงานนอกบ้าน ขับรถไปเรื่อย มีแต่เรื่อง ผญ. ให้แม่ต้องเจ็บช้ำใจตลอดมา ติดเหล้า ติดเพื่อน กินทีข้ามวันข้ามคืน พูดไม่ได้ เงินที่หามาไม่เคยพอ เป็นหนี้เป็นสินให้แม่ไปหยิบยืมคนอื่นมา และฉันก็ดิ้นรนจนจบปริญญาตรีได้ แม่ก็รับจ้างทำงาน เก็บของเก่าขาย หาส่งให้ฉัน มีก๋งยาย น้าคอยช่วยส่งค่ากินให้บ้าง ส่วนพ่อหลังๆมาก็ไม่ค่อยช่วยเหลือซักเท่าไหร่ เงินเดือนออกมา พ่อให้แม่นะ แต่เอากลับไปเกินกว่าที่ให้มาซะอีก นั่นคือสิ่งที่ฉันพอรู้มาตลอด และฉันก็ทำงาน part time ไปด้วยและกู้ กยศ. เรียนจนจบ บ้านฉันเก่ามาก มุงด้วยหลังคาจาก ฝนตก น้ำก็รั่ว สิ่งแรกที่คนทำงานส่วนใหญ่เลือกซื้อคือรถ ส่วนฉันเลือกที่จะทำบ้านให้ครอบครัวก่อน อดทนขี่มอเตอร์ไซด์ เช่าหออยู่ตั้งแต่เรียนจบก็ทำงานเลย ใช้เวลาไป 5-6 ปี ฉันก็ปลูกบ้านสำเร็จ
หลังจากฉันปลูกบ้านเสร็จ พ่อก็อยู่กับแม่ที่บ้านหลังนี้ได้ประมาณ 1-2 ปีได้ พ่อเกิดอาการเส้นเลือดในสมองตีบ ดีที่ส่ง รพ. ทัน ทำให้งานพ่อหยุดชะงัก และอยู่บ้านเฉยๆ เมื่อเริ่มดีขึ้นขับรถได้ ทุกๆตี 5 พ่อจะตื่นและออกจากบ้านไป โดยที่ไม่รู้ว่าไปไหน และกลับมาตอนสายๆ จนเริ่มระแคะระคาย เมื่อมีคนเห็นและมาบอกแม่ ผญ. คนหนึ่งที่เคยมีปัญหาชู้สาวกับพ่อเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว กลับมาเปิดร้านขายข้าวแถวๆละแวกบ้านเรา พ่อให้เหตุผลว่าเขาไปขับรถเพื่อรับจ้างพาเขาไปซื้อกับข้าว แต่ไม่นาน ที่บ้านเราก็มีปัญหา พ่อเลือกที่จะทิ้งแม่ ทิ้งเรากับน้องไปอยู่กับ ผญ. คนนั้น เรื่องราวไม่ได้จบสวยซักเท่าไหร่ พ่อแทบจะตัดพ่อตัดลูกเรากับน้องไปเลย กว่าเราจะตั้งสติได้ แม่เราเข้มแข็งมาก โอบกอดเราด้วยความรัก และความเข้มแข็งมาตลอด เรายังติดต่อพ่ออยู่บ้าง แต่ไม่เคยเจอกัน เขาจะชอบพูดอยู่เสมอว่าอยู่คนเดียว ดราม่า เอาความเครียดใส่เราทุกครั้งที่โทรไป หรือไม่ก็เมาเหล้าพ่อถึงจะโทรมา ทั้งๆที่จริงแล้วพ่ออยู่กับ ผญ.คนนั้น เปิดร้านขายข้าว เรารู้มาตลอด พ่อซื้อรถใหม่ ถูกรางวัลมาราวๆครึ่งล้านได้ เราก็ยินดี และไม่เคยไปยุ่งข้องเกี่ยวอะไรกับชีวิตใหม่ของพ่อ
เราเริ่มหันมาสร้างตัวเอง ซื้อบ้าน และซื้อรถ แยกออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเอง เพราะเราอยากเดินและมีชีวิตของตัวเองแยกจากครอบครัว แต่ก็ยังส่งเงินให้ทางแม่ใช้หนี้ค่าที่ดินทุกเดือน แต่ชีวิตเราก็มาสะดุด ตอนแฟนเราไปทำธุรกิจและโดนโกงเงิน เราหมุนเงินหลังชนฝาช่วยเขา และวิบากกรรมก็มาในรูปของชู้ แฟนเราแอบคบกับเพื่อนร่วมงานและตั้งท้อง ทุกอย่างที่สร้างมาด้วยกัน จบลง แต่เราก็เลิกกันด้วยดี และยังเป็นเพื่อนกันได้ กรรมสิทธิ์ในบ้านที่ซื้อร่วมกันเขายกให้เราทั้งหมด ซึ่งเราต้องผ่อนต่อเพียงคนเดียว แต่มันก็พัวพันกับหนี้สินเก่าของแฟนเก่า จนบ้านจะถูกยึด วันนั้นเราได้เจอพ่อครั้งแรกในรอบกี่ปีไม่รู้ พ่อให้เรายืมเงินไปปลดบ้านออกมา 10,000 บาท แล้วก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย มีคุยกันทางโทรศัพท์บ้าง เรา ถูๆไถๆคนเดียวมา 3 ปี ตอนแรกตัดสินใจปล่อยบ้าน แต่เราก็ผ่านมันมาได้ ถึงได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง และได้รับการช่วยเหลือจากแฟนใหม่ ทำให้เรายืนหยัด ลืมตาอ้าปากได้ บวกกับงานเราก็ไปได้ดี ทำให้เงินเพิ่มมากขึ้น เราใช้ชีวิตแบบมีความสุขจริงๆได้ประมาณ 1-2 ปี เท่านั้น
ผ่านมาน่าจะประมาณ 5 ปีเห็นจะได้ จู่ๆเราก็ได้รับสายจากน้องชาย ว่าให้เอาพ่อไปอยู่ด้วย พ่อไม่มีที่อยู่ และพ่อก็เดินทางมาที่บ้านเราตอนเช้ามืด ก็คิดว่าคงถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องดูแล พ่อเราอายุ 58 ปี ยังแข็งแรงดีและใช้ชีวิตได้ปกติ ปัญหาเริ่มเกิดเมื่อพ่อเงินหมด ผญ. คนนั้นก็ทิ้งพ่อ พ่อเทียวไปเทียวมาอยู่หลายเดือนขับรถวันละ 100 กว่าโลเพื่อไปหา ผญ.คนนั้น เงินที่ใช้ตอนนี้ทั้งหมดคือเงินเรา ค่าน้ำมัน ค่ากินอยู่ และต้องใช้หนี้แทนพ่อที่มีหนี้ติดไว้ และมีคนมาตาม เราเริ่มไม่ไหว ค่าใช้จ่ายเยอะมาก ตัดสินใจคืนรถพ่อ เหลือรถเราไว้ใช้ไปทำงาน พ่อบอกว่าเดี๋ยวทำงานแล้วพ่อจะทยอยคืนให้
เรารู้จักคนวงการขับรถที่พ่อพอจะทำได้ค่อนข้างเยอะ จึงติดต่อให้แต่พ่อไม่ทำ พ่ออยู่บ้านเฉยๆ ในขณะที่แม่ ก๋งยาย ทุกวันนี้ยังหานู้น หานี่ทำให้ได้เงินอยู่เลย เงินที่เราต้องให้แม่ทุกเดือนเริ่มไปไม่ถึงแม่เลย เพราะเราต้องใช้เงินไปกับพ่อเดือนๆนึงราวๆ 7-8 พันแทบไม่อยู่ เราเริ่มเหนื่อยมาก และอึดอัดสุดๆ เพราะเราไม่สนิทกับพ่อเลยแม้แต่น้อย พ่อชอบโทรไปหาน้องเราบอกว่าเครียด อยู่เฉยๆเครียด แต่ก็ไม่ทำอะไรนะ จนไม่มีใครอยากคุยกับพ่อ เพราะทุกคนทำงานหาเงินก็เหนื่อยจะแย่แล้ว พ่ออยู่เฉยๆมีเงินใช้ แต่ไม่เคยทำให้พวกเราสบายใจเลย เราให้เงินพ่ออาทิตย์ละ 1,000 บาทเพื่อซื้อกับข้าวของตัวเอง แต่ข้าวสาร อุปกรณ์ครัวทุกอย่างเราซื้อต่างหากไว้ให้หมดแล้ว ตกเย็นแทบจะทุกวันพ่อก็จะไปกินเหล้า เดือนๆนึงจะเดินทางไป ตจว.เพื่อหาเพื่อน 1-2 ครั้ง เงินค่าน้ำมัน ค่าไป เราให้เพิ่มอีกนอกเหนือจากเงินประจำ เพราะเราไม่อยากพูดอะไรเยอะ อะไรที่ให้ได้เราก็ให้ แต่พ่อเริ่มใช้เงินเยอะขึ้น ตอนเช้าเราให้ไว้ 1,000 ตกเย็นกลับมาเหลือ 1-2 ร้อยบาท พ่อเอาเงินไปซื้อลอตเตอรี่และไปกินเหล้าหมด เราเหนื่อยใจมาก
แต่ตอนนี้เรากำลังตั้งครรภ์ ด้วยอายุที่เข้าสู่วัยกลางคนมากแล้ว และเราเองก็อยากมีครอบครัว เราจึงตัดสินใจมีน้อง ปัญหาเกิดตอนที่เราใกล้จะคลอดอยู่ไม่กี่เดือนนี้แล้ว เราต้องการเลี้ยงน้องเองที่บ้านของเรา แต่พ่อเราไม่ถูกกับแม่ แม่จะไม่มาถ้าพ่ออยู่ที่นี่ และพ่อไม่สามารถเลี้ยงดูลูกเราได้ เราเลยพยายามจะหาที่เช่าให้พ่ออยู่ และส่งเสียพ่อเหมือนเดิม แต่เราไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราทำมันถูกต้องหรือไม่ ที่จะให้พ่อออกไปอยู่ข้างนอก แต่เราก็ไม่มีทางเลือก เราทำถูกไหมคะ? เงินที่เราให้พ่อมันน้อยไปหราคะ อยากขอคำแนะนำจากทุกคนค่ะ
ปัญหาครอบครัวจัดการอย่างไรดี?
ฉันเกิดมาในครอบครัวชาวสวน หาเช้ากินค่ำ ช่วยแม่ ก๋ง ยาย ทำสวนตั้งแต่จำความได้ ตกสะพาน นิ้วเน่า จมน้ำ หัวทิ่มถังขยะ มะพร้าวทลายตกใส่หัว บาดเจ็บมานับไม่ถ้วน อยากกินขนมเค้กซักก้อน ก็ต้องช่วยแม่ทำงานเป็นเดือนๆ ถึงมีเงินพอที่แม่จะพาไปซื้อ ชีวิตฉันโตมากับ ก๋ง ยาย และแม่ ส่วนพ่อก็ไปทำงานนอกบ้าน ขับรถไปเรื่อย มีแต่เรื่อง ผญ. ให้แม่ต้องเจ็บช้ำใจตลอดมา ติดเหล้า ติดเพื่อน กินทีข้ามวันข้ามคืน พูดไม่ได้ เงินที่หามาไม่เคยพอ เป็นหนี้เป็นสินให้แม่ไปหยิบยืมคนอื่นมา และฉันก็ดิ้นรนจนจบปริญญาตรีได้ แม่ก็รับจ้างทำงาน เก็บของเก่าขาย หาส่งให้ฉัน มีก๋งยาย น้าคอยช่วยส่งค่ากินให้บ้าง ส่วนพ่อหลังๆมาก็ไม่ค่อยช่วยเหลือซักเท่าไหร่ เงินเดือนออกมา พ่อให้แม่นะ แต่เอากลับไปเกินกว่าที่ให้มาซะอีก นั่นคือสิ่งที่ฉันพอรู้มาตลอด และฉันก็ทำงาน part time ไปด้วยและกู้ กยศ. เรียนจนจบ บ้านฉันเก่ามาก มุงด้วยหลังคาจาก ฝนตก น้ำก็รั่ว สิ่งแรกที่คนทำงานส่วนใหญ่เลือกซื้อคือรถ ส่วนฉันเลือกที่จะทำบ้านให้ครอบครัวก่อน อดทนขี่มอเตอร์ไซด์ เช่าหออยู่ตั้งแต่เรียนจบก็ทำงานเลย ใช้เวลาไป 5-6 ปี ฉันก็ปลูกบ้านสำเร็จ
หลังจากฉันปลูกบ้านเสร็จ พ่อก็อยู่กับแม่ที่บ้านหลังนี้ได้ประมาณ 1-2 ปีได้ พ่อเกิดอาการเส้นเลือดในสมองตีบ ดีที่ส่ง รพ. ทัน ทำให้งานพ่อหยุดชะงัก และอยู่บ้านเฉยๆ เมื่อเริ่มดีขึ้นขับรถได้ ทุกๆตี 5 พ่อจะตื่นและออกจากบ้านไป โดยที่ไม่รู้ว่าไปไหน และกลับมาตอนสายๆ จนเริ่มระแคะระคาย เมื่อมีคนเห็นและมาบอกแม่ ผญ. คนหนึ่งที่เคยมีปัญหาชู้สาวกับพ่อเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว กลับมาเปิดร้านขายข้าวแถวๆละแวกบ้านเรา พ่อให้เหตุผลว่าเขาไปขับรถเพื่อรับจ้างพาเขาไปซื้อกับข้าว แต่ไม่นาน ที่บ้านเราก็มีปัญหา พ่อเลือกที่จะทิ้งแม่ ทิ้งเรากับน้องไปอยู่กับ ผญ. คนนั้น เรื่องราวไม่ได้จบสวยซักเท่าไหร่ พ่อแทบจะตัดพ่อตัดลูกเรากับน้องไปเลย กว่าเราจะตั้งสติได้ แม่เราเข้มแข็งมาก โอบกอดเราด้วยความรัก และความเข้มแข็งมาตลอด เรายังติดต่อพ่ออยู่บ้าง แต่ไม่เคยเจอกัน เขาจะชอบพูดอยู่เสมอว่าอยู่คนเดียว ดราม่า เอาความเครียดใส่เราทุกครั้งที่โทรไป หรือไม่ก็เมาเหล้าพ่อถึงจะโทรมา ทั้งๆที่จริงแล้วพ่ออยู่กับ ผญ.คนนั้น เปิดร้านขายข้าว เรารู้มาตลอด พ่อซื้อรถใหม่ ถูกรางวัลมาราวๆครึ่งล้านได้ เราก็ยินดี และไม่เคยไปยุ่งข้องเกี่ยวอะไรกับชีวิตใหม่ของพ่อ
เราเริ่มหันมาสร้างตัวเอง ซื้อบ้าน และซื้อรถ แยกออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเอง เพราะเราอยากเดินและมีชีวิตของตัวเองแยกจากครอบครัว แต่ก็ยังส่งเงินให้ทางแม่ใช้หนี้ค่าที่ดินทุกเดือน แต่ชีวิตเราก็มาสะดุด ตอนแฟนเราไปทำธุรกิจและโดนโกงเงิน เราหมุนเงินหลังชนฝาช่วยเขา และวิบากกรรมก็มาในรูปของชู้ แฟนเราแอบคบกับเพื่อนร่วมงานและตั้งท้อง ทุกอย่างที่สร้างมาด้วยกัน จบลง แต่เราก็เลิกกันด้วยดี และยังเป็นเพื่อนกันได้ กรรมสิทธิ์ในบ้านที่ซื้อร่วมกันเขายกให้เราทั้งหมด ซึ่งเราต้องผ่อนต่อเพียงคนเดียว แต่มันก็พัวพันกับหนี้สินเก่าของแฟนเก่า จนบ้านจะถูกยึด วันนั้นเราได้เจอพ่อครั้งแรกในรอบกี่ปีไม่รู้ พ่อให้เรายืมเงินไปปลดบ้านออกมา 10,000 บาท แล้วก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย มีคุยกันทางโทรศัพท์บ้าง เรา ถูๆไถๆคนเดียวมา 3 ปี ตอนแรกตัดสินใจปล่อยบ้าน แต่เราก็ผ่านมันมาได้ ถึงได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง และได้รับการช่วยเหลือจากแฟนใหม่ ทำให้เรายืนหยัด ลืมตาอ้าปากได้ บวกกับงานเราก็ไปได้ดี ทำให้เงินเพิ่มมากขึ้น เราใช้ชีวิตแบบมีความสุขจริงๆได้ประมาณ 1-2 ปี เท่านั้น
ผ่านมาน่าจะประมาณ 5 ปีเห็นจะได้ จู่ๆเราก็ได้รับสายจากน้องชาย ว่าให้เอาพ่อไปอยู่ด้วย พ่อไม่มีที่อยู่ และพ่อก็เดินทางมาที่บ้านเราตอนเช้ามืด ก็คิดว่าคงถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องดูแล พ่อเราอายุ 58 ปี ยังแข็งแรงดีและใช้ชีวิตได้ปกติ ปัญหาเริ่มเกิดเมื่อพ่อเงินหมด ผญ. คนนั้นก็ทิ้งพ่อ พ่อเทียวไปเทียวมาอยู่หลายเดือนขับรถวันละ 100 กว่าโลเพื่อไปหา ผญ.คนนั้น เงินที่ใช้ตอนนี้ทั้งหมดคือเงินเรา ค่าน้ำมัน ค่ากินอยู่ และต้องใช้หนี้แทนพ่อที่มีหนี้ติดไว้ และมีคนมาตาม เราเริ่มไม่ไหว ค่าใช้จ่ายเยอะมาก ตัดสินใจคืนรถพ่อ เหลือรถเราไว้ใช้ไปทำงาน พ่อบอกว่าเดี๋ยวทำงานแล้วพ่อจะทยอยคืนให้
เรารู้จักคนวงการขับรถที่พ่อพอจะทำได้ค่อนข้างเยอะ จึงติดต่อให้แต่พ่อไม่ทำ พ่ออยู่บ้านเฉยๆ ในขณะที่แม่ ก๋งยาย ทุกวันนี้ยังหานู้น หานี่ทำให้ได้เงินอยู่เลย เงินที่เราต้องให้แม่ทุกเดือนเริ่มไปไม่ถึงแม่เลย เพราะเราต้องใช้เงินไปกับพ่อเดือนๆนึงราวๆ 7-8 พันแทบไม่อยู่ เราเริ่มเหนื่อยมาก และอึดอัดสุดๆ เพราะเราไม่สนิทกับพ่อเลยแม้แต่น้อย พ่อชอบโทรไปหาน้องเราบอกว่าเครียด อยู่เฉยๆเครียด แต่ก็ไม่ทำอะไรนะ จนไม่มีใครอยากคุยกับพ่อ เพราะทุกคนทำงานหาเงินก็เหนื่อยจะแย่แล้ว พ่ออยู่เฉยๆมีเงินใช้ แต่ไม่เคยทำให้พวกเราสบายใจเลย เราให้เงินพ่ออาทิตย์ละ 1,000 บาทเพื่อซื้อกับข้าวของตัวเอง แต่ข้าวสาร อุปกรณ์ครัวทุกอย่างเราซื้อต่างหากไว้ให้หมดแล้ว ตกเย็นแทบจะทุกวันพ่อก็จะไปกินเหล้า เดือนๆนึงจะเดินทางไป ตจว.เพื่อหาเพื่อน 1-2 ครั้ง เงินค่าน้ำมัน ค่าไป เราให้เพิ่มอีกนอกเหนือจากเงินประจำ เพราะเราไม่อยากพูดอะไรเยอะ อะไรที่ให้ได้เราก็ให้ แต่พ่อเริ่มใช้เงินเยอะขึ้น ตอนเช้าเราให้ไว้ 1,000 ตกเย็นกลับมาเหลือ 1-2 ร้อยบาท พ่อเอาเงินไปซื้อลอตเตอรี่และไปกินเหล้าหมด เราเหนื่อยใจมาก
แต่ตอนนี้เรากำลังตั้งครรภ์ ด้วยอายุที่เข้าสู่วัยกลางคนมากแล้ว และเราเองก็อยากมีครอบครัว เราจึงตัดสินใจมีน้อง ปัญหาเกิดตอนที่เราใกล้จะคลอดอยู่ไม่กี่เดือนนี้แล้ว เราต้องการเลี้ยงน้องเองที่บ้านของเรา แต่พ่อเราไม่ถูกกับแม่ แม่จะไม่มาถ้าพ่ออยู่ที่นี่ และพ่อไม่สามารถเลี้ยงดูลูกเราได้ เราเลยพยายามจะหาที่เช่าให้พ่ออยู่ และส่งเสียพ่อเหมือนเดิม แต่เราไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราทำมันถูกต้องหรือไม่ ที่จะให้พ่อออกไปอยู่ข้างนอก แต่เราก็ไม่มีทางเลือก เราทำถูกไหมคะ? เงินที่เราให้พ่อมันน้อยไปหราคะ อยากขอคำแนะนำจากทุกคนค่ะ