ท่านหยั่งเห็นบุคคลโดยสัจฉิกัตถปรมัตถะหรือ

ส.  พระผู้มีพระภาคเจ้า     มีปรกติตรัสคำจริง   ตรัสสมกาล    
ตรัสเรื่องที่เป็นจริง  ตรัสถูกต้อง   ตรัสไม่ผิด   ตรัสไม่คลาดเคลื่อนมิใช่   หรือ  ? 
                       ป.   ถูกแล้ว. 
๑.  องฺ.  เอก.  ๒๐/๑๓๙. 
                       ส.   พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า     ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา  ดังนี้  เป็นสูตรมีอยู่จริง  มิใช่  หรือ  ? 
                       ป.   ถูกแล้ว. 
                       ส.   ถ้าอย่างนั้น   ก็ไม่พึงกล่าวว่า  หยั่งเห็นบุคคลได้
                             โดยสัจฉิกัตถปรมัตถะ  น่ะสิ
           [๑๘๔]  ส.   ท่านหยั่งเห็นบุคคลได้โดยสัจฉิกัตถปรมัตถ์หรือ ? 
                       ป.   ถูกแล้ว. 
                       ส.   พระผู้มีพระภาคเจ้า    มีปกติตรัสคำจริง   ตรัสสมกาล   
ตรัสเรื่องที่เป็นจริง   ตรัสถูกต้อง   ตรัสไม่ผิด   ตรัสไม่คลาดเคลื่อน  มิใช่หรือ ? 
                       ป.   ถูกแล้ว. 
                       ส.   พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า   อริยสาวกไม่สงสัย  ไม่เคลือบแคลงว่า     เมื่อบังเกิด     ทุกข์เท่านั้นบังเกิดขึ้น
เมื่อดับ   ทุกข์เท่านั้นดับไป   ในข้อนี้อริยสาวกนั้นหยั่งรู้ได้โดยไม่
ต้องอาศัยผู้อื่นทีเดียว    เพียงเท่านี้แลกัจจานะ    เป็นสัมมาทิฏฐิ
ดังนี้๑   เป็นสูตรมีอยู่จริงมิใช่  หรือ  ? 
๑.  สํ.นิ..  ๑๖/๔๓.   
                         ป.  ถูกแล้ว. 
                       ส.  ถ้าอย่างนั้น  ก็ไม่พึงกล่าวว่า   หยั่งเห็นบุคคลได้
                             โดยสัจฉิกัตถปรมัตถะ  น่ะสิ
           [๑๘๕]  ส.  ท่านหยั่งเห็นบุคคลได้โดยสัจฉิกัตถปรมัตถะหรือ ? 
                       ป.  ถูกแล้ว. 
                       ส.  พระวชิราภิกษุณีได้กล่าวกะมารดาผู้มีบาปว่าดังนี้
ดูก่อนมาร    ท่านเชื่อว่าเป็นสัตว์หรือหนอ  นั่นเป็นความเห็นของ
ท่านหรือหนอ  นี้เป็นกลุ่มสังขารล้วน ๆ  ในกลุ่มสังขาร ขันธ์นี้จะค้นหา
สัตว์ไม่ได้เลย    เพราะคุมส่วนทั้งหลายเข้าด้วยกัน      เสียงเรียกว่ารถจึงมีได้
แม้ฉันใด  เมื่อขันธ์ทั้งหลายยังมีอยู่   สมมติว่าสัตว์ก็มีได้ฉันนั้น. 
ความจริงทุกข์เท่านั้นเกิดขึ้น  ทุกข์เท่านั้นตั้งอยู่  และเสื่อมสิ้นไป
นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิด  นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ   ดังนี้๑
เป็นสูตรมีอยู่จริง   มิใช่หรือ ? 
                       ป.  ถูกแล้ว. 
                       ส.  ถ้าอย่างนั้น   ก็ไม่พึงกล่าวว่า  หยั่งเห็นบุคคลได้
                             โดยสัจฉิกัตถปรมัตถะ   น่ะสิ
           [๑๘๖]  ส.  ท่านหยั่งเห็นบุคคลโดยสัจฉิกัตถปรมัตถะหรือ ? 
                       ป.  ถูกแล้ว. 
๑. สํ.ส. ๑๕/๕๕๔. 

พระผู้มีพระเจ้าได้ตรัสว่า:-
เมื่อใด บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า “ธรรมทั้งปวง เป็นอนัตตา(สพฺเพ  ธมฺมา  อนตฺตาติ)” ; 
เมื่อนั้น เขาย่อมเบื่อหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ตนหลง; 
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมหมดจด. 

มีใคร...พิจารณาเห็นธรรมทั้งปวง เป็นอนัตตา อย่างไร ?
และถึงจะเห็นพระนิพพานได้.

.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่